เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเราเองนะคะ แต่เป็นเรื่องที่ไปประสบพบเจอมาของคนใกล้ตัว
ทุกวันนี้ น้องเขาชีวิตเริ่มต้นใหม่แล้ว แต่คิดว่าเรื่องของน้องเขาน่าจะสอนคนได้
ขออภัยที่เอามาเล่า จะพยายามไม่เอ่ยถึง จนสาวถึงเจ้าตัวให้มากที่สุด
อ่านโดยคิดเสียว่าเป็นนิทานบุคคลที่ 3 ที่ส่งต่อกันมานะคะ
----------------------------------------------------------------
กาลครั้งหนึ่งไม่นานมาก
ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีนักศึกษาชายปีหนึ่งหน้าตาดี(ขอเรียกว่าน้องเอ) เป็นที่รักของเพื่อนและอาจารย์ เป็นนักกิจกรรมตัวยงของมหาวิทยาลัย พร้อมกับกิตติศัพท์ความเจ้าชู้ ความที่เป็นคนหล่อเลือกได้ จึงจีบหญิง และมีแฟนพร้อมกัน 3-4 คน
ความที่เอเป็นคนทำอะไรต้องเต็มที่ กับแฟนทุกคนก็เต็มที่ คบไปคบมา หนึ่งในแฟนของเอ (ขอเรียกว่าน้องบี) น้องบีก็ท้องขึ้นมา
เมื่อบีท้อง และบีไม่ได้มีใครนอกจากเอ เอจึงรับเป็นพ่อเด็กเลิกกับแฟนทุกคน เหลือแค่บีคนเดียว ทั้งสองคนช่วยกันทำมาหากินเพื่อเลี้ยงลูกแม่ของเอ และญาติๆ นับบีเป็นลูกสาวอีกคน เอสัญญาว่าจะมีแค่บีคนเดียว จะช่วยกันทำงานสร้างฐานะ สักวันจะแต่งงานกันให้เรียบร้อย
เรื่องน่าจะแฮปปี้เอนดิ้ง แต่เปล่าเลย
ต่อมาบีได้มาเรียนมหาลัยและได้งานทำที่กรุงเทพฯ บีเช่าห้องอยู่ โดยที่ลูก บีฝากแม่ตัวเองเลี้ยง เพราะครอบครัวเอทำงานประจำกันทุกคน และเอยังต้องไปเรียน เวลามีวันหยุดยาวเอจะมากรุงเทพฯ มาพักห้องบี หาซื้อของไปขายแถวบ้านหารายได้เพิ่ม จนเรียนจบเอพยายามมาหางานทำที่กรุงเทพฯ อยู่เสมอ เพราะอยากอยู่กับบี และอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากพ่อไม่สบายต้องใช้เงินค่ารักษาเยอะ จนเอได้งานทำที่กรุงเทพฯ จากป้าเอที่รักเอเหมือนลูกแนะนำให้เป็นบริษัทที่มีที่พักใกล้ที่ทำงาน เอก็ไปย้ายไปอยู่ โดยที่บีไปหา คนที่ทำงานบางคนที่รู้ว่าบีเป็นแฟนเอ แต่ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ ทั้งสองคนมีลูกกัน
หลังเอเข้าทำงานได้ระยะหนึ่ง เอได้เจอน้องฝึกงาน (ขอเรียกว่าน้องซี) ซีเป็นคนน่ารัก ผู้ชายในที่ทำงานก็ชอบหยอกชอบแกล้ง เอก็แสดงอาการจีบจนออกนอกหน้า ซึ่งน้องซีก็ปล่อยให้จีบเพราะไม่รู้เรื่องบี แต่คนรู้เรื่องบีก็มีเตือนๆ เอเสมอ ซึ่งเอบอกว่า แค่เล่นๆ น้องน่ารัก
เอจีบซีมากขึ้น จนเรื่องรู้ถึงบี แน่นอนว่าบีเริ่มแสดงตัว พร้อมทั้งปรึกษา ครอบครัวเอ ป้าของเอ (คนที่ช่วยเรื่องงาน) จะช่วยพูดให้
แต่สิ่งที่บีไม่รู้คือป้าของเอทำตรงข้าม ป้าของเอยุให้หลานเลิกกับบี มาจีบซีที่ฐานะดีกว่ามากแทน
บีจึงเข้าไปพูดกับซี แนะนำว่าตัวเองเป็นอะไรกัน ครอบครัวของซีจึงเรียกเอมาถาม เอยอมรับเรื่องบี แต่บอกว่าเลิกกันแล้ว บีไม่ยอมเลิก
เอบอกทุกคนที่บริษัท และครอบครัวซี ว่าลูกที่บีอ้าง แท้จริงเป็นลูกใครก็ไม่รู้ บีท้องขึ้นมาหาพ่อเด็กไม่ได้ เอสงสารเลยรับเป็นลูก เพื่อให้บีไม่ต้องทำแท้ง
ทุกคนที่บริษัทเชื่อเอ เพราะฉากที่เอแสดงอยู่เสมอ บีจึงกลายสถานะเป็นแฟนเก่าที่มาตามราวีไม่เลิก เอกลายเป็นผู้ชายน่าสงสาร ครอบครัวซีไม่ยอมให้คบกัน แต่ยังยอมให้ลูกฝึกงานต่อที่เดิม เพราะเอรับปากว่าจะเป็นแค่เพื่อนร่วมงานไม่จีบแล้ว
แต่เอขอเลิกบี ถึงไม่ได้จีบซี ตอนนี้เอก็มีโอกาสเจอคนอีกมาก ป้าเอหวังว่าหลานจะได้เจอคนดีมีฐานะกว่าบี เอบอกค่าเลี้ยงดูลูกจะส่งให้ถ้าบีเก็บตัวเงียบๆ ไม่มายุ่งกับเออีก เพื่อนเอที่ต่างจังหวัด ก็แนะนำแต่ให้เลิกกัน ไม่มีใครช่วยประสานรอยร้าว
น้องบีถึงจะเสียใจหลายเดือน ตอนนี้น้องก็ได้แต่ปลง พูดอะไรไปคนก็มองบีเป็นนางมารร้าย น้องคิดว่าคงหมดเวรหมดกรรมกับผู้ชายคนนี้แล้ว เขามาอาศัยบีหลายอย่าง บีส่งเอไปถึงฝั่งเพราะคิดว่าจะสร้างอนาคตร่วมกัน คำสัญญาทุกอย่างที่เอให้เป็นแค่ลมปาก ทุกวันนี้บี มองแต่เรื่องลูก กับแม่ตัวเอง ตั้งใจเรียนตั้งใจทำงาน
ส่วนเอทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตต่อไป ฉากหน้าทุกคนเห็นว่าเอเป็นคนดี รักครอบครัว มาทำงานกรุงเทพฯ เพราะพ่อไม่สบายต้องใช้เงินรักษาตัว และส่งน้องเรียนหนังสือ
----------------------------------------------------------------/จบ
ตอนที่รู้เรื่องนี้ เรารู้จากญาติน้องซี ครอบครัวน้องไม่เอา ผู้ชายแบบนี้ พอฝึกงานจบจะตัดให้ขาด ทุกวันนี้น้องทำงานคนละฝ่าย แต่ยังต้องเจอเอเสมอ ผู้ชายยังพยายามหยอด พยายามตื้อ น้องบอกพยายามระวังไม่อยู่ ไม่ไปไหนกับเอสองต่อสอง
และรู้เรื่องบีจากเพื่อนซึ่งเป็นเพื่อนบี (โลกบางครั้งก็กลมเกิน บวกกับความเผือกของเรา) ทุกวันนี้บีมีความสุขดี เหมือนปลงได้ แต่ยังตัดใจไม่ขาด คงต้องใช้เวลาเพราะเอเป็นรักแรก
รักในวัยเรียน รักในวัยรุ่น อยากให้ค่อยๆ รัก ค่อยๆ คิด อย่าชิงสุกก่อนห่าม
เพราะขนาดคนรักกัน แต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน ยังนอกใจกันได้ นับประสาอะไร ถ้าเป็นแค่แฟน
หวังว่าเรื่องนี้จะสอนใจคนได้บ้างนะคะ
อุทาหรณ์สอนใจ รักในวัยเรียน "อย่าเชื่อคำสัญญาผู้ชายเจ้าชู้"
ทุกวันนี้ น้องเขาชีวิตเริ่มต้นใหม่แล้ว แต่คิดว่าเรื่องของน้องเขาน่าจะสอนคนได้
ขออภัยที่เอามาเล่า จะพยายามไม่เอ่ยถึง จนสาวถึงเจ้าตัวให้มากที่สุด
อ่านโดยคิดเสียว่าเป็นนิทานบุคคลที่ 3 ที่ส่งต่อกันมานะคะ
----------------------------------------------------------------
กาลครั้งหนึ่งไม่นานมาก
ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีนักศึกษาชายปีหนึ่งหน้าตาดี(ขอเรียกว่าน้องเอ) เป็นที่รักของเพื่อนและอาจารย์ เป็นนักกิจกรรมตัวยงของมหาวิทยาลัย พร้อมกับกิตติศัพท์ความเจ้าชู้ ความที่เป็นคนหล่อเลือกได้ จึงจีบหญิง และมีแฟนพร้อมกัน 3-4 คน
ความที่เอเป็นคนทำอะไรต้องเต็มที่ กับแฟนทุกคนก็เต็มที่ คบไปคบมา หนึ่งในแฟนของเอ (ขอเรียกว่าน้องบี) น้องบีก็ท้องขึ้นมา
เมื่อบีท้อง และบีไม่ได้มีใครนอกจากเอ เอจึงรับเป็นพ่อเด็กเลิกกับแฟนทุกคน เหลือแค่บีคนเดียว ทั้งสองคนช่วยกันทำมาหากินเพื่อเลี้ยงลูกแม่ของเอ และญาติๆ นับบีเป็นลูกสาวอีกคน เอสัญญาว่าจะมีแค่บีคนเดียว จะช่วยกันทำงานสร้างฐานะ สักวันจะแต่งงานกันให้เรียบร้อย
เรื่องน่าจะแฮปปี้เอนดิ้ง แต่เปล่าเลย
ต่อมาบีได้มาเรียนมหาลัยและได้งานทำที่กรุงเทพฯ บีเช่าห้องอยู่ โดยที่ลูก บีฝากแม่ตัวเองเลี้ยง เพราะครอบครัวเอทำงานประจำกันทุกคน และเอยังต้องไปเรียน เวลามีวันหยุดยาวเอจะมากรุงเทพฯ มาพักห้องบี หาซื้อของไปขายแถวบ้านหารายได้เพิ่ม จนเรียนจบเอพยายามมาหางานทำที่กรุงเทพฯ อยู่เสมอ เพราะอยากอยู่กับบี และอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากพ่อไม่สบายต้องใช้เงินค่ารักษาเยอะ จนเอได้งานทำที่กรุงเทพฯ จากป้าเอที่รักเอเหมือนลูกแนะนำให้เป็นบริษัทที่มีที่พักใกล้ที่ทำงาน เอก็ไปย้ายไปอยู่ โดยที่บีไปหา คนที่ทำงานบางคนที่รู้ว่าบีเป็นแฟนเอ แต่ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ ทั้งสองคนมีลูกกัน
หลังเอเข้าทำงานได้ระยะหนึ่ง เอได้เจอน้องฝึกงาน (ขอเรียกว่าน้องซี) ซีเป็นคนน่ารัก ผู้ชายในที่ทำงานก็ชอบหยอกชอบแกล้ง เอก็แสดงอาการจีบจนออกนอกหน้า ซึ่งน้องซีก็ปล่อยให้จีบเพราะไม่รู้เรื่องบี แต่คนรู้เรื่องบีก็มีเตือนๆ เอเสมอ ซึ่งเอบอกว่า แค่เล่นๆ น้องน่ารัก
เอจีบซีมากขึ้น จนเรื่องรู้ถึงบี แน่นอนว่าบีเริ่มแสดงตัว พร้อมทั้งปรึกษา ครอบครัวเอ ป้าของเอ (คนที่ช่วยเรื่องงาน) จะช่วยพูดให้
แต่สิ่งที่บีไม่รู้คือป้าของเอทำตรงข้าม ป้าของเอยุให้หลานเลิกกับบี มาจีบซีที่ฐานะดีกว่ามากแทน
บีจึงเข้าไปพูดกับซี แนะนำว่าตัวเองเป็นอะไรกัน ครอบครัวของซีจึงเรียกเอมาถาม เอยอมรับเรื่องบี แต่บอกว่าเลิกกันแล้ว บีไม่ยอมเลิก
เอบอกทุกคนที่บริษัท และครอบครัวซี ว่าลูกที่บีอ้าง แท้จริงเป็นลูกใครก็ไม่รู้ บีท้องขึ้นมาหาพ่อเด็กไม่ได้ เอสงสารเลยรับเป็นลูก เพื่อให้บีไม่ต้องทำแท้ง
ทุกคนที่บริษัทเชื่อเอ เพราะฉากที่เอแสดงอยู่เสมอ บีจึงกลายสถานะเป็นแฟนเก่าที่มาตามราวีไม่เลิก เอกลายเป็นผู้ชายน่าสงสาร ครอบครัวซีไม่ยอมให้คบกัน แต่ยังยอมให้ลูกฝึกงานต่อที่เดิม เพราะเอรับปากว่าจะเป็นแค่เพื่อนร่วมงานไม่จีบแล้ว
แต่เอขอเลิกบี ถึงไม่ได้จีบซี ตอนนี้เอก็มีโอกาสเจอคนอีกมาก ป้าเอหวังว่าหลานจะได้เจอคนดีมีฐานะกว่าบี เอบอกค่าเลี้ยงดูลูกจะส่งให้ถ้าบีเก็บตัวเงียบๆ ไม่มายุ่งกับเออีก เพื่อนเอที่ต่างจังหวัด ก็แนะนำแต่ให้เลิกกัน ไม่มีใครช่วยประสานรอยร้าว
น้องบีถึงจะเสียใจหลายเดือน ตอนนี้น้องก็ได้แต่ปลง พูดอะไรไปคนก็มองบีเป็นนางมารร้าย น้องคิดว่าคงหมดเวรหมดกรรมกับผู้ชายคนนี้แล้ว เขามาอาศัยบีหลายอย่าง บีส่งเอไปถึงฝั่งเพราะคิดว่าจะสร้างอนาคตร่วมกัน คำสัญญาทุกอย่างที่เอให้เป็นแค่ลมปาก ทุกวันนี้บี มองแต่เรื่องลูก กับแม่ตัวเอง ตั้งใจเรียนตั้งใจทำงาน
ส่วนเอทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตต่อไป ฉากหน้าทุกคนเห็นว่าเอเป็นคนดี รักครอบครัว มาทำงานกรุงเทพฯ เพราะพ่อไม่สบายต้องใช้เงินรักษาตัว และส่งน้องเรียนหนังสือ
----------------------------------------------------------------/จบ
ตอนที่รู้เรื่องนี้ เรารู้จากญาติน้องซี ครอบครัวน้องไม่เอา ผู้ชายแบบนี้ พอฝึกงานจบจะตัดให้ขาด ทุกวันนี้น้องทำงานคนละฝ่าย แต่ยังต้องเจอเอเสมอ ผู้ชายยังพยายามหยอด พยายามตื้อ น้องบอกพยายามระวังไม่อยู่ ไม่ไปไหนกับเอสองต่อสอง
และรู้เรื่องบีจากเพื่อนซึ่งเป็นเพื่อนบี (โลกบางครั้งก็กลมเกิน บวกกับความเผือกของเรา) ทุกวันนี้บีมีความสุขดี เหมือนปลงได้ แต่ยังตัดใจไม่ขาด คงต้องใช้เวลาเพราะเอเป็นรักแรก
รักในวัยเรียน รักในวัยรุ่น อยากให้ค่อยๆ รัก ค่อยๆ คิด อย่าชิงสุกก่อนห่าม
เพราะขนาดคนรักกัน แต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน ยังนอกใจกันได้ นับประสาอะไร ถ้าเป็นแค่แฟน
หวังว่าเรื่องนี้จะสอนใจคนได้บ้างนะคะ