คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
อ่านระเบียบการรับสมัครให้เรียบร้อย แล้วก็สมัครไปให้ถูกต้องตามขั้นตอน
จะสมัครแบบไหน นักศึกษา Pre-degree หรือ นักศึกษา ป.ตรี
เรื่องการลงทะเบียนเรียน มีข้อแนะนำดังนี้
การเรียน นิติศาสตร์ ม.ราม ให้จบโดยใช้เวลาน้อยที่สุด
- หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต ม.รามคำแหง มีจำนวนหน่วยกิตตลอดหลักสูตรทั้งสิ้น 140 หน่วยกิต
http://www.ru.ac.th/th/center_study_plan/11/1453264194_04_%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C_59.pdf
การเรียนให้จบเร็วที่สุด คือ การลงเรียนเทอม (1, 2) ละ 24 หน่วยกิต + เทอมซัมเมอร์ 12 หน่วยกิต
แล้วสอบให้ผ่านให้หมด
ถ้าทำได้จริง 2 ปีครึ่ง ก็เรียนจบได้ครับ (กรณีไม่เทียบโอน)
1 ปีการศึกษา (2 เทอม + ซัมเมอร์ 1 เทอม จะได้ 60 หน่วยกิต)
2 ปีการศึกษา เก็บได้ 120 หน่วยกิต
ปี 3 เทอม 1 ลงเต็ม 24 หน่วยกิต ก็เกิน 140 หน่วยกิตตามหลักสูตรแล้ว
ถ้าทำได้ก็จบ 2 ปีครึ่งครับ ไม่ต้องรอถึง 3 - 4 ปี
ลำดับการลงวิชาเรียน
ลองดูแผนการเรียนของหลักสูตรครับ ตามลิงค์นี้
http://www.ru.ac.th/th/center_study_plan/10/1425007572_04_Law_58.pdf
จะเห็นว่ามีแผนการลงวิชาเรียนไว้แล้ว ในหน้าที่ 2 - 3 ของไฟล์ คุณก็ลงไปตามนั้นก็ได้ครับ
แต่ถ้าอยากจบเร็วหน่อย ก็เอาวิชาของเทอมถัดๆไป
มาลงในเทอมที่น้องเรียน ให้เต็ม 24 หน่วยกิตสำหรับเทอมปกติ (เทอม 1, เทอม 2)
และลงได้ 12 หน่วยกิต สำหรับซัมเมอร์
หรือเฉพาะเทอมสุดท้ายที่ขอจบ (เทอม1, 2) จะลงได้เต็มที่ 30 หน่วยกิต
และเทอมฤดูร้อนเทอมสุดท้ายที่ขอจบจะลงได้ 18 หน่วยกิต ครับ
(เทอมปกติ คือ เทอมต้น กับ เทอมปลาย จะลงได้มากสุด 24 หน่วยกิต เทอมซัมเมอร์ปกติจะลงได้มากสุด 12 หน่วยกิตครับ
สำหรับวิชาพื้นฐาน (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทย์ ฯลฯ) ก็ลงไล่ไปตามแผนการเรียนก็ได้
สำหรับวิชากฎหมาย (LAW ต่างๆ) แนะนำว่าควรลงเรียงตามรหัสวิชาไปครับ จากน้อยไปมาก
เช่น LAW1001 > LAW1002 > LAW1003 .... ไปจนครบหน่วยกิตในแต่ละเทอมครับ
เพราะมหาวิทยาลัย จะเรียงลำดับรหัสวิชาตามเนื้อหามาอยู่แล้ว จะได้เรียนต่อเนื่องกันไปครับ
แต่เคล็ดลับการลงทะเบียน คือ
เวลาเลือกรายวิชาลงทะเบียน ต้องดูวันสอบเป็นหลักครับ อย่าให้วันสอบติดกันมาก
ม.ราม จะประกาศวันสอบออกมาก่อนวันลงทะเบียนครับ
วิธีคือ เราเอารายวิชาที่ควรจะลงในเทอมนั้นๆ มาลงรายการไว้
แล้วมาลงรายละเอียดของวันสอบในรายวิชาที่ควรจะลงนั้น
จากนั้นเอามาจัดตารางที่จะลงทะเบียน โดยอิงวันสอบเป็นหลัก
(วันเรียนไม่ต้องไปดูเลยครับ เพราะเราจะเข้าเรียนหรือไม่เรียนก็ได้)
เช่น วิชา LAW1001 สอบวันที่ 1/6/58
LAW1002 สอบวันที่ 2/6/58
LAW1003 สอบวันที่ 3/6/58
LAW1004 สอบวันที่ 4/6/58
LAW1005 สอบวันที่ 5/6/58
อาจจะเลือกลงแค่ LAW1001, LAW1002, LAW1004, LAW1005 ก็ได้
ข้ามวิชา LAW1003 เก็บไว้ไปลงเทอมถัดๆไปก็ได้ เพราะเทอมนี้สอบติดกันเกิน จะทบทวนไม่ทัน เป็นต้น
เคล็ดอีกอย่างนึงคือ ลงไปให้เต็ม 24 หน่วยกิตเลยครับ ไม่ต้องกลัวจะหนักเกินไป
เพราะ ม.ราม มีสอบซ่อมได้ คือถ้าเราสอบตก หรือขาดสอบ
สามารถลงทะเบียนวิชาที่สอบตกหรือขาดสอบนั้นได้อีกทีในรอบสอบซ่อมของเทอมนั้นๆ
ถ้าสอบผ่านก็ได้เกรดตามที่เราผ่าน เกรดไปรวมกับเทอมปกติเลย
ถ้าสอบไม่ผ่านก็ไม่ติด F จะถือว่าเราไม่ได้ลงทะเบียนเรียนวิชานั้นเลยครับ เกรดรวมไม่เสีย
สมมุติว่าลง 10 วิชา เราก็แบ่งเลยว่า สอบแบบปกติ 5 วิชา ไปสอบซ่อม 5 วิชา
ถ้าแบบนี้ก็จะสอบไม่หนักมากครับ มีเวลาทบทวนเยอะ
แต่อย่าลืมว่าถ้าเราไม่เข้าสอบปกติ ไปสอบซ่อมครั้งเดียวเลย แล้วพลาดวิชาที่เราสอบซ่อม
จะไม่มีโอกาสแก้ตัวแล้ว ต้องไปลงเรียนใหม่เทอมหน้าสถานเดียว
ฉะนั้นควรสอบในช่วงปกติไปก่อน หากไม่ไหวจริงๆค่อยลงสอบซ่อมครับ
เพราะว่าถ้าเกิดวันสอบซ่อมติดธุระอะไรทำให้สอบไม่ได้ หรือไม่ได้ทบทวนอ่านหนังสือเพียงพอ
เราจะเสียโอกาสเก็บรายวิชานั้นไปเลย ต้องไปลงเทอมถัดๆไป
จึงควรพยายามสอบแบบปกติให้ได้ก่อน ถ้าจำเป็นถึงต้องขาดสอบแล้วค่อยไปสอบซ่อมเอา
และข้อควรระวังคือ วิชาที่สอบซ่อมจะไม่สามารถมีเวลาสอบทับซ้อนกันได้
หากเวลาสอบทับซ้อนกันต้องเลือกสอบได้เพียงวิชาเดียวครับ
ที่สำคัญจริงๆ นอกจากวิธีการลงทะเบียนเรียนแล้ว
คือการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบครับ
เพราะแม้จะลงตามแผนที่ว่าจริงๆ คืออัดเต็มที่เลย
แต่ถ้าสอบไม่ผ่าน การลงทะเบียนก็ไม่มีความหมายครับ
หนังสือกฎหมายที่น่าอ่านปูพื้นฐานในเบื้องต้นก่อนเรียน ขอแนะนำ
1. หลักกฎหมายมหาชน และ หลักกฎหมายเอกชน
- เพราะเป็นความรู้เกี่ยวกับกฎหมายคร่าวๆ กว้างๆ
เป็นเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับหลักการทั่วไปทางกฎหมาย ไม่เน้นตัวบทกฎหมาย
2. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย
- เนื้อหาจะเริ่มกล่าวถึงหลักกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับตัวบทบัญญัติเป็นเบื้องต้น
แต่ไม่ลงลึกถึงคำอธิบายตัวบทและคำพิพากษาศาลฎีกาครับ
ส่วนหนังสือที่จำเป็นในการเรียนกฎหมายหลักๆ มี 3 ประเภท คือ
1. ตัวบทกฎหมาย หรือ ประมวลกฎหมายต่างๆ เช่น อาญา แพ่งและพาณิชย์ ที่ดิน รัษฎากร พ.ร.บ. ต่างๆ
2. คำอธิบายตัวบทกฎหมายและเนื้อหาคำบรรยายวิชาการ รวมไปถึงชีทสรุปต่างๆด้วย จะเป็นการอธิบายขยายความตัวบทกฎหมายพร้อมยกตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาประกอบ
3. ตัวอย่างข้อสอบ ตัวอย่างคำถาม-ตอบ และ ข้อสอบเก่า เอาไว้ใช้สำหรับดูเป็นแนวทางการเขียนตอบวิชากฎหมาย และ ขอบเขตเบื้องต้นที่มักออกสอบ
ส่วนถ้าจะอ่านเพื่อสอบ ก็ไปดูก่อนว่าลงวิชาอะไรบ้าง แล้วค่อยไปซื้อหนังสือตรงตามหัวข้อวิชานั้นๆมาอ่านครับ
จะสมัครแบบไหน นักศึกษา Pre-degree หรือ นักศึกษา ป.ตรี
เรื่องการลงทะเบียนเรียน มีข้อแนะนำดังนี้
การเรียน นิติศาสตร์ ม.ราม ให้จบโดยใช้เวลาน้อยที่สุด
- หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต ม.รามคำแหง มีจำนวนหน่วยกิตตลอดหลักสูตรทั้งสิ้น 140 หน่วยกิต
http://www.ru.ac.th/th/center_study_plan/11/1453264194_04_%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C_59.pdf
การเรียนให้จบเร็วที่สุด คือ การลงเรียนเทอม (1, 2) ละ 24 หน่วยกิต + เทอมซัมเมอร์ 12 หน่วยกิต
แล้วสอบให้ผ่านให้หมด
ถ้าทำได้จริง 2 ปีครึ่ง ก็เรียนจบได้ครับ (กรณีไม่เทียบโอน)
1 ปีการศึกษา (2 เทอม + ซัมเมอร์ 1 เทอม จะได้ 60 หน่วยกิต)
2 ปีการศึกษา เก็บได้ 120 หน่วยกิต
ปี 3 เทอม 1 ลงเต็ม 24 หน่วยกิต ก็เกิน 140 หน่วยกิตตามหลักสูตรแล้ว
ถ้าทำได้ก็จบ 2 ปีครึ่งครับ ไม่ต้องรอถึง 3 - 4 ปี
ลำดับการลงวิชาเรียน
ลองดูแผนการเรียนของหลักสูตรครับ ตามลิงค์นี้
http://www.ru.ac.th/th/center_study_plan/10/1425007572_04_Law_58.pdf
จะเห็นว่ามีแผนการลงวิชาเรียนไว้แล้ว ในหน้าที่ 2 - 3 ของไฟล์ คุณก็ลงไปตามนั้นก็ได้ครับ
แต่ถ้าอยากจบเร็วหน่อย ก็เอาวิชาของเทอมถัดๆไป
มาลงในเทอมที่น้องเรียน ให้เต็ม 24 หน่วยกิตสำหรับเทอมปกติ (เทอม 1, เทอม 2)
และลงได้ 12 หน่วยกิต สำหรับซัมเมอร์
หรือเฉพาะเทอมสุดท้ายที่ขอจบ (เทอม1, 2) จะลงได้เต็มที่ 30 หน่วยกิต
และเทอมฤดูร้อนเทอมสุดท้ายที่ขอจบจะลงได้ 18 หน่วยกิต ครับ
(เทอมปกติ คือ เทอมต้น กับ เทอมปลาย จะลงได้มากสุด 24 หน่วยกิต เทอมซัมเมอร์ปกติจะลงได้มากสุด 12 หน่วยกิตครับ
สำหรับวิชาพื้นฐาน (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทย์ ฯลฯ) ก็ลงไล่ไปตามแผนการเรียนก็ได้
สำหรับวิชากฎหมาย (LAW ต่างๆ) แนะนำว่าควรลงเรียงตามรหัสวิชาไปครับ จากน้อยไปมาก
เช่น LAW1001 > LAW1002 > LAW1003 .... ไปจนครบหน่วยกิตในแต่ละเทอมครับ
เพราะมหาวิทยาลัย จะเรียงลำดับรหัสวิชาตามเนื้อหามาอยู่แล้ว จะได้เรียนต่อเนื่องกันไปครับ
แต่เคล็ดลับการลงทะเบียน คือ
เวลาเลือกรายวิชาลงทะเบียน ต้องดูวันสอบเป็นหลักครับ อย่าให้วันสอบติดกันมาก
ม.ราม จะประกาศวันสอบออกมาก่อนวันลงทะเบียนครับ
วิธีคือ เราเอารายวิชาที่ควรจะลงในเทอมนั้นๆ มาลงรายการไว้
แล้วมาลงรายละเอียดของวันสอบในรายวิชาที่ควรจะลงนั้น
จากนั้นเอามาจัดตารางที่จะลงทะเบียน โดยอิงวันสอบเป็นหลัก
(วันเรียนไม่ต้องไปดูเลยครับ เพราะเราจะเข้าเรียนหรือไม่เรียนก็ได้)
เช่น วิชา LAW1001 สอบวันที่ 1/6/58
LAW1002 สอบวันที่ 2/6/58
LAW1003 สอบวันที่ 3/6/58
LAW1004 สอบวันที่ 4/6/58
LAW1005 สอบวันที่ 5/6/58
อาจจะเลือกลงแค่ LAW1001, LAW1002, LAW1004, LAW1005 ก็ได้
ข้ามวิชา LAW1003 เก็บไว้ไปลงเทอมถัดๆไปก็ได้ เพราะเทอมนี้สอบติดกันเกิน จะทบทวนไม่ทัน เป็นต้น
เคล็ดอีกอย่างนึงคือ ลงไปให้เต็ม 24 หน่วยกิตเลยครับ ไม่ต้องกลัวจะหนักเกินไป
เพราะ ม.ราม มีสอบซ่อมได้ คือถ้าเราสอบตก หรือขาดสอบ
สามารถลงทะเบียนวิชาที่สอบตกหรือขาดสอบนั้นได้อีกทีในรอบสอบซ่อมของเทอมนั้นๆ
ถ้าสอบผ่านก็ได้เกรดตามที่เราผ่าน เกรดไปรวมกับเทอมปกติเลย
ถ้าสอบไม่ผ่านก็ไม่ติด F จะถือว่าเราไม่ได้ลงทะเบียนเรียนวิชานั้นเลยครับ เกรดรวมไม่เสีย
สมมุติว่าลง 10 วิชา เราก็แบ่งเลยว่า สอบแบบปกติ 5 วิชา ไปสอบซ่อม 5 วิชา
ถ้าแบบนี้ก็จะสอบไม่หนักมากครับ มีเวลาทบทวนเยอะ
แต่อย่าลืมว่าถ้าเราไม่เข้าสอบปกติ ไปสอบซ่อมครั้งเดียวเลย แล้วพลาดวิชาที่เราสอบซ่อม
จะไม่มีโอกาสแก้ตัวแล้ว ต้องไปลงเรียนใหม่เทอมหน้าสถานเดียว
ฉะนั้นควรสอบในช่วงปกติไปก่อน หากไม่ไหวจริงๆค่อยลงสอบซ่อมครับ
เพราะว่าถ้าเกิดวันสอบซ่อมติดธุระอะไรทำให้สอบไม่ได้ หรือไม่ได้ทบทวนอ่านหนังสือเพียงพอ
เราจะเสียโอกาสเก็บรายวิชานั้นไปเลย ต้องไปลงเทอมถัดๆไป
จึงควรพยายามสอบแบบปกติให้ได้ก่อน ถ้าจำเป็นถึงต้องขาดสอบแล้วค่อยไปสอบซ่อมเอา
และข้อควรระวังคือ วิชาที่สอบซ่อมจะไม่สามารถมีเวลาสอบทับซ้อนกันได้
หากเวลาสอบทับซ้อนกันต้องเลือกสอบได้เพียงวิชาเดียวครับ
ที่สำคัญจริงๆ นอกจากวิธีการลงทะเบียนเรียนแล้ว
คือการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบครับ
เพราะแม้จะลงตามแผนที่ว่าจริงๆ คืออัดเต็มที่เลย
แต่ถ้าสอบไม่ผ่าน การลงทะเบียนก็ไม่มีความหมายครับ
หนังสือกฎหมายที่น่าอ่านปูพื้นฐานในเบื้องต้นก่อนเรียน ขอแนะนำ
1. หลักกฎหมายมหาชน และ หลักกฎหมายเอกชน
- เพราะเป็นความรู้เกี่ยวกับกฎหมายคร่าวๆ กว้างๆ
เป็นเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับหลักการทั่วไปทางกฎหมาย ไม่เน้นตัวบทกฎหมาย
2. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย
- เนื้อหาจะเริ่มกล่าวถึงหลักกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับตัวบทบัญญัติเป็นเบื้องต้น
แต่ไม่ลงลึกถึงคำอธิบายตัวบทและคำพิพากษาศาลฎีกาครับ
ส่วนหนังสือที่จำเป็นในการเรียนกฎหมายหลักๆ มี 3 ประเภท คือ
1. ตัวบทกฎหมาย หรือ ประมวลกฎหมายต่างๆ เช่น อาญา แพ่งและพาณิชย์ ที่ดิน รัษฎากร พ.ร.บ. ต่างๆ
2. คำอธิบายตัวบทกฎหมายและเนื้อหาคำบรรยายวิชาการ รวมไปถึงชีทสรุปต่างๆด้วย จะเป็นการอธิบายขยายความตัวบทกฎหมายพร้อมยกตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาประกอบ
3. ตัวอย่างข้อสอบ ตัวอย่างคำถาม-ตอบ และ ข้อสอบเก่า เอาไว้ใช้สำหรับดูเป็นแนวทางการเขียนตอบวิชากฎหมาย และ ขอบเขตเบื้องต้นที่มักออกสอบ
ส่วนถ้าจะอ่านเพื่อสอบ ก็ไปดูก่อนว่าลงวิชาอะไรบ้าง แล้วค่อยไปซื้อหนังสือตรงตามหัวข้อวิชานั้นๆมาอ่านครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากเรียน นิติศาสตร์รามคำแหง ควรเตรียมตัวอย่างไรดีครับ