(แปล) Kono Subarashii Sekai ni Bakuen wo! - บทแรก ครึ่งหลัง
ต่อจาก
คราวที่แล้ว มาครึ่งหลังครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
7
“รู้รึเปล่า เมื่อ 7 ปีก่อนหน้านี้น่ะ ตอนที่พวกเรายังเล็กๆ กันอยู่ ผนึกที่ใช้กักขังเทพมารได้ถูกปลดออกล่ะ ก็ที่บริเวณหน้าสุสานเทพมารน่ะ มีหลุมขนาดใหญ่อยู่ใช่มั้ยล่ะ? นั่นน่ะ ว่ากันว่าเป็นร่องรอยของพลังที่ผู้ใช้เวทมนตร์ที่ผ่านทางมาทำการลงผนึกเทพมารใหม่อีกครั้งน่ะ”
พอกลับมาถึงห้อง พวกเพื่อนๆ ต่างก็เอาแต่พูดกันถึงเรื่องนั้น
ที่ชนบทแบบนี้ ข่าวลือน่าสงสัยแบบนั้นน่ะเพียงพอที่จะใช้เป็นเรื่องพูดคุยกันไปทั่วได้แล้ว
ถึงจะจำเรื่องตอนยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ ไม่ค่อยได้ก็จริง แต่ผู้ใช้เวทมนตร์ที่ผ่านทางมานั่น เข้าใจว่าน่าจะเป็นผู้ที่สวมฮู้ดที่ช่วยชั้นเอาไว้นั่นแหละ
และเพราะพวกครูเอาแต่ยุ่งกับการตรวจสอบเรื่องเทพมาร วันนี้ก็เลยเรียนกันเพียงเท่านี้ สามารถกลับบ้านกันได้เลย
พวกเด็กที่บ้านอยู่ใกล้กันต่างก็พากันเดินกลับบ้านด้วยกัน เหลือแค่ชั้นกับยุนยุนเหลืออยู่ในห้องเรียน
บ้านของชั้นตั้งอยู่ที่สุดขอบของหมู่บ้านโคมะ ก็เลยไม่มีเพื่อนที่บ้านใกล้กันเลย
พวกคนอื่นนอกจากพวกที่บ้านใกล้กันนั้น ก็จะไปรวมกลุ่มกัน ชักชวนกันประมาณว่า ‘น่าอร่อยจังเลยเนอะ น่าอร่อยจังเลยน้า’ แล้วก็พากันไปเตร็ดเตร่หาอะไรกินกันระหว่างทางกลับ
ยังไงก็คงต้องกลับคนเดียวอยู่แล้วนี่นะ ชั้นเลยลุกขึ้นจากที่นั่ง
“อ๊ะ................”
ยุนยุนที่ยังคงอยู่ในห้องเหมือนกัน ส่งเสียงออกมาพร้อมยื่นมือทำท่าเหมือนจะเรียกให้หยุด
“อะไรเหรอ?”
“เอ๊ะ! อะ เปล่า คือว่า.......... รู้สึกว่าบ้านของเมกุมินจะอยู่ระหว่างทางกลับพอดี กะ ก็เลย........”
บ้านของยุนยุน หรือก็คือบ้านของหัวหน้าเผ่าโคมะนั้น ตั้งอยู่ตรงกลางหมู่บ้านพอดี
แล้วถ้าจะไปทางที่ผ่านบ้านของชั้น ยังไงก็ต้องเดินอ้อมอยู่ดี..........
“…….จะกลับด้วยกันรึเปล่าล่ะ?”
“ได้เหรอ!? อ๊ะ แต่ว่าพวกเราเป็นคู่แข่งกัน จะมาสนิทสนมกันแบบนี้มันก็.........!”
หลังจากยิ้มส่งให้ยุนยุนที่พูดเรื่องน่ารำคาญนั่นออกมา ชั้นก็ออกจากห้องแล้วก็รีบเดินไปอย่างรวดเร็ว จนยุนยุนรีบร้อนตามออกมาด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้
“รอก่อนซี่! วะ ไว้พรุ่งนี้! ไว้พรุ่งนี้ค่อยกลับไปเป็นคู่แข่งก็ได้!”
――พอลากยุนยุนออกมาข้างนอกแล้ว ถึงเห็นว่าบนท้องฟ้ายังมีกลุ่มเมฆหลงเหลืออยู่
แค่เพื่อที่จะแสดงให้พวกเราเห็น ครูถึงกับทำให้สภาพอากาศแปรปรวน
เพื่อแค่ช่วงเวลานั้นเท่านั้น ถึงกับยอมเผาเครื่องรางราคาแพงโดยไม่มีท่าทีเสียดายเลย สมแล้วที่เป็นชนเผ่าโคมะระดับหัวแถว
ถึงจะเป็นครูจะเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ในหลายๆ เรื่อง แต่ตรงจุดนั้นนี่ต้องขอยอมรับเลยจริงๆ
ระหว่างที่เดินไปตามทางกลับบ้าน ยุนยุนที่เดินตามมา ก็ส่งเสียงเรียกอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“นะ นี่ เมกุมิน พอมีเวลารึเปล่า? คือว่า ถ้าพอมีเวลาละก็........”
ยุนยุนพูดชวนให้ไปกินขนมที่ไหนกันก่อนมั้ย
แถมบอกว่าจะเลี้ยงด้วย
“ได้แน่นอนอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลที่ชั้นจะต้องปฏิเสธ ว่าแต่นี่เนื่องในโอกาสอะไรงั้นเหรอ?”
“เอ๊ะ! เปล่าๆ ก็แค่รู้สึกหิวขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้นน่ะ........”
ยุนยุนพูดด้วยท่าทางอายจนทำอะไรแทบไม่ถูก
“ก็นะ วัยกำลังโตจะเป็นแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้นี่นะ แต่ว่า เป็นเด็กผู้หญิงไม่คิดว่าแบบนั้นมันตะกละไปหน่อยเหรอ?”
“เดี๋ยวสิ! เมกุมินพูดแบบนั้นได้เหรอ!? ก็ข้าวเที่ยงส่วนใหญ่ของชั้นโดนเมกุมินกินไปจนแทบไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนะ! ละ แล้วก็…………”
จู่ๆ ยุนยุนก็พูดเสียงเบาลง
“กะ การได้ไปซื้ออะไรกิน เตร็ดเตร่ด้วยกันกับเพื่อนน่ะ.......คือ........มันดูน่าสนุกดีนิดหน่อยด้วย.......น่ะ......”
“เอ๊ะ? เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?”
เป็นเพราะยุนยุนพูดอุบอิบจนแทบไม่ได้ยิน ชั้นเลยหันหลังมาถามเพื่อให้พูดให้ฟังอีกครั้ง
ยุนยุนหน้าแดงพูดปฏิเสธออกมาว่าไม่มีอะไร เลยทำให้ชั้นต้องตื๊อถามอยู่หลายครั้งเลยว่าตกลงเมื่อกี้พูดว่าอะไรกันแน่
8
“ยินดีต้อนรับ สู่ร้านน้ำชาอันดับหนึ่งของเผ่าโคมะ! ลูกสาวบ้านคุณเฮียะซาบุโร่ เมกุมินไม่ใช่เหรอน่ะ ชั้นได้ยินมานะว่าที่โรงเรียนเธอตั้งใจน่าดูเลยนี่นา ที่ว่ากันว่าเป็นอัจฉริยะอันดับ 1 ของเผ่าโคมะ มากินข้าวอะไรนอกบ้านแบบนี้แปลกดีนะเนี่ย จะรับอะไรดีล่ะ?”
“ขอของที่แคลอรี่สูงและอิ่มท้องค่ะ”
“เมกุมิน สั่งอะไรดูไม่สมเป็นเด็กผู้หญิงเลยนะ! เอ่อ ขอเป็นเมนูแนะนำของเจ้าของร้านค่ะ”
ชั้นกับยุนยุนมาที่ร้านน้ำชาเพียงแห่งเดียวของหมู่บ้าน ร้านเทราสุ
เจ้าของร้านที่ดูเหมือนจะรู้จักคุณพ่อ ยื่นเมนูมาให้
“เมนูแนะนำสินะ สำหรับวันนี้ก็คือ ‘สตูที่ได้รับประทานพรมาจากเทพแห่งความมืด’ นอกจากนั้นก็มี ‘สปาเกตตี้เผ็ดร้อนดั่งลมหายใจมังกรลาวา’ ล่ะนะ”
“ขอสปาเกตตี้เผ็ดค่ะ”
“ชั้นขอเอาที่อยู่ในเมนูนี้ ‘แซนด์วิชเนื้อลูกแกะที่เอาไว้สังเวยให้ซาตาน’ ค่ะ”
“โอเค สปาเกตตี้เผ็ดร้อนดั่งลมหายใจมังกรลาวา กับ แซนด์วิชเนื้อลูกแกะที่เอาไว้สังเวยให้ซาตาน สินะ! รอซักครู่นะ!”
“ขอเป็นสปาเกตตี้เผ็ดเฉยๆ ค่ะ!”
ระหว่างที่ยุนยุนที่ไม่รู้ทำไมต้องพูดแก้ชื่อเมนูจนหน้าแดงขนาดนั้นอยู่ ชั้นก็จิบน้ำผลไม้ที่นำมาเสิร์ฟต้อนรับ
“นี่ เมกุมิน เมกุมิน คือว่า อาจจะปุบปับไปหน่อย แต่ขอถามหน่อยได้รึเปล่า?”
“อะไรงั้นเหรอ? ยังไงก็อุตส่าห์เลี้ยงข้าว ถามอะไรมาก็จะตอบให้แหละ หรือว่าจะถามเรื่องจุดอ่อนของชั้นงั้นเหรอ? จุดอ่อนในตอนนี้ก็คืออาหารที่มีรสหวาน เพราะงั้นของหวานหลังอาหารก็คือจุดอ่อนนั่นแหละนะ”
“ไม่ได้จะถามเรื่องแบบนั้นซักหน่อย! แล้ว นั่นมันเป็นจุดอ่อนตรงไหนกันล่ะน่ะ เห็นกินอย่างเอร็ดอร่อยทุกทีเลยไม่ใช่เหรอ!”
“ก็ของหวานเป็นศัตรูของเด็กผู้หญิงไม่ใช่เหรอ งั้น ที่อยากถามคืออะไรกันล่ะ?”
พอโดนถามกลับไปแบบนั้น เมกุมินก็เลยทำตัวกระมิดกระเมียดขึ้นมาทันที
ไม่รู้ทำไมพอมองดูแม่นี่แบบนี้แล้ว เหมือนความ S ในตัวจะลืมตาตื่นขึ้นมาเลยแฮะ
“นี่ เมกุมิน เมกุมินน่ะ มีผู้ชายที่ชอบอยู่รึเปล่า?”
“ยุนยุนกำลังมีความรักเหรอ!”
ชั้นลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น จนยุนยุนต้องรีบพูดออกมาด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้
“มะ ไม่ใช่ซักหน่อย! ก็ เวลาพูดคุยกับเพื่อนผู้หญิงน่ะ ปกติเขาก็พูดคุยเรื่องความรักกันไม่ใช่เหรอ!? ก็แค่อยากลองดูบ้างเท่านั้นเองน่ะ! ไม่ใช่ว่า มีคนที่ชอบอยู่แล้วซักหน่อย!”
พอได้ยินแบบนั้นชั้นก็ใจเย็นลง แล้วก็นั่งลงไปกับที่
“จะว่ายังไงดีนะ ในเผ่าโคมะนี่ ยุนยุนเป็นคนที่แปลกจริงๆ นะ ได้ยินมาน่ะ ว่าตอนวิชาพละ ที่ให้โพสท่าเท่ๆ กันนั้น ก็มัวแต่อายซะจนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำยังไงดีเลยใช่มั้ยล่ะ”
“ชะ ชั้นเป็นคนที่แปลกจริงๆ ด้วยงั้นเหรอ!? ทั้งที่ชั้น คิดมาตั้งแต่ยังเด็กนะว่าคนในหมู่บ้านนี้น่ะ มีแต่คนแปลกๆ ทั้งนั้นเลย…….”
ยุนยุนผู้แปลกประหลาด ออกอาการซึมกะทือพอได้ยินที่ชั้นพูด
ที่เธอพูดมานั้น เหมือนจะบอกว่าตัวเองรู้สึกเป็นคนแปลกปลอมเวลาอยู่ในห้องเรียนเลย
“แล้ว ชายที่ยุนยุนชอบ ต้องเป็นคนแบบไหนงั้นเหรอ?”
“เอ๊ะ!?”
พอได้ยินที่ชั้นถาม ยุนยุนก็หน้าแดงแถมทำตาเลิ่กลั่ก
“ก็จะทำนั่นกันไม่ใช่เหรอ? ที่ว่าพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับความรักกันน่ะ สำหรับชั้นแล้วน่ะนะ ต้องชาญฉลาด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการหนี้สิน ไม่จำเป็นต้องดูแลกันมากก็ได้ ขอให้ไม่นอกใจกันก็พอ ต้องไม่เป็นคนที่แค่พยายามไปวันๆ แต่เล็งเป้าหมายที่สูงขึ้นไปอยู่ตลอดเวลา เป็นคนดีที่จริงจังและจริงใจแบบนั้นแหละ”
“คนที่จริงจังและจริงใจ งั้นเหรอ แต่อย่างเมกุมิน ที่ทั้งใจดีแล้วก็เก่งเรื่องดูแลคนอื่นน่ะ กลัวแต่จะไปเจอคนประเภทที่ตรงข้ามกับแบบนั้น ไปเจอกับพวกไม่เอาอ่าวเอาน่ะสิ......เจ็บนะ เจ็บ! ละ ล้อเล่นต่างหากล่ะ! ……….สำหรับชั้น ก็ เป็นคนเงียบๆ ให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่ เวลาที่ชั้นพูดคุยเรื่องที่ได้พบเจอในแต่ละวัน ก็จะคอยตอบรับ อืมๆ อยู่ข้างๆ เป็นคนที่ใจดี.........”
――ช่วงบ่ายอ่อนๆ ของวันนั้น
ชั้นกับคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นคู่แข่งของชั้น ก็พากันเดินกลับบ้านพร้อมกับพูดคุยกันไปเรื่อยไม่หยุด
9
“กลับมาแล้ว”
“ยินดีต้อนรับกลับค่ะพี่!”
พอกลับถึงบ้าน ก็ได้ยินเสียงอันร่าเริง พร้อมเสียงฝีเท้าเตาะแตะเข้ามาหา
ที่ออกมารับชั้นก็คือ น้องสาวที่พึ่งจะอายุครบ 5 ขวบ โคเม็คโกะ
โคเม็คโกะสวมผ้าคลุมที่รับช่วงต่อไปจากชั้น ปลายผ้าส่วนที่ยังใหญ่เกินตัวนั้นเปื้อนโคลนเต็มไปหมด
“อาาา........ปลายผ้าคลุมเลอะไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอเนี่ย บอกให้อยู่ดูแลบ้านไม่ใช่เหรอ นี่ออกไปเล่นนอกบ้านมาอีกแล้วใช่รึเปล่า?”
“อื้ม! พอไล่พี่ชายที่ส่งหนังสือพิมพ์ไปได้แล้ว จากนั้นก็เลยออกไปเล่น!”
“โฮ่ วันนี้ก็ชนะอีกแล้วงั้นรึ สมแล้วที่เป็นน้องสาวของชั้น”
“อื้ม! พอพูดไปว่า ‘ไม่อยากกินอาหารแข็งๆ เป็นวันที่ 3 อีกแล้ว’ ก็เลยได้ตั๋วแลกมื้ออาหารมาด้วย!”
โคเม็คโกะ พูดอย่างภาคภูมิใจพร้อมโชว์ของจากการต่อสู้ให้ดู
พอชั้นลูบหัวโคเม็คโกะ น้องสาวคนเก่งแล้ว เธอก็ดูเหมือนจะรู้สึกตัวถึงอะไรบางอย่าง
“มีกลิ่นหอมมาจากตัวพี่ด้วย”
“โอ๊ะๆ สมแล้วที่เป็นน้องสาวของชั้น ของฝากไงล่ะ แซนด์วิชเนื้อลูกแกะที่เอาไว้สังเวยให้ซาตาน! เอาล่ะ เอาไปกินซะให้ท้องแตกได้เลย!”
“สุดยอด! ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นจอมมารเลย! งั้น ข้าวเย็นที่จับมาได้วันนี้ ค่อยเอาไว้ไปทำเป็นข้าวเช้าพรุ่งนี้แทนละกันนะ!”
โคเม็คโกะที่รับแซนด์วิชไปอย่างดีอกดีใจ จู่ๆ ก็พูดแบบนั้นออกมา
………..ข้าวเย็นที่จับมาได้
ก่อนหน้านี้ จำได้ว่าโคเม็คโกะจับจักจั่นมาเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วก็พูดมาว่าเอาไปทำคาราอาเกะกันเถอะ ชักรู้สึกไม่ดีเลยแฮะ
“โคเม็คโกะ ข้าวเย็นที่ว่าคืออะไรงั้นเหรอ? ไปจับอะไรมาได้งั้นเหรอ?”
“จะดูมั้ย? สัตว์ร้ายนิฬกาลที่ต่อสู้แลกชีวิตจนโค่นล้มมันมาได้!”
พอพูดคำที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจออกมาให้ฟัง โคเม็คโกะก็วิ่งเข้าไปในบ้าน
ขออย่าให้เป็นพวกแมลงเลยนะ
ขออย่าให้เป็นพวกแมลงเลยนะ!
ขณะที่สวดอ้อนวอนรออยู่นั้น ในที่สุด สิ่งที่โคเม็คโกะอุ้มมาก็คือ.......
“เมี้ยว.......”
นี่มันยังไงกันเนี่ย ที่เห็นอยู่ก็คือลูกแมวสีดำที่ดูท่าทางอ่อนระโหยโรยแรงมาก
“…….คราวนี้ก็จับของใหญ่ได้อีกแล้วนะเนี่ย”
“อืม หนูพยายามมากเลยนะ! ตอนแรกมันก็ขัดขืนอยู่เหมือนกัน แต่พอกัดเข้าให้ก็ทำตัวสงบเสงี่ยมเลยล่ะ” [Note: ในรูปข้างบนมีรอยกัดให้เห็นด้วย]
“ชัยชนะเป็นเรื่องที่น่ายินดีก็จริงอยู่ แต่ไม่ว่าอะไรก็กัดไปหมดแบบนั้นนะ มันไม่ดีนะ รู้มั้ย?”
ชั้นรับแมวดำตัวน้อยมาจากโคเม็คโกะ ที่พยักหน้าตอบรับให้กับคำพูดของชั้น
เจ้าแมวดำที่อยู่ในมือของชั้น ดวงตาหวาดกลัว ทำท่าทำทางพยายามจะซุกหน้าลงมาที่อกของชั้น
ทางโคเม็คโกะที่รับเอาแซนด์วิชไปก็เริ่มกินทันที แต่พอสบตากับชั้นแล้ว เธอก็ยื่นแซนด์วิชที่กัดกินไปแล้วนั้นมาให้
“........กินมั้ย?”
“ชั้นอิ่มมากแล้วล่ะ โคเม็คโกะกินให้หมดเลยก็ได้ แล้วก็ เจ้าตัวขนดกนี่ เอาไว้ที่ชั้นได้รีเปล่า?”
“อื้ม!”
แล้วโคเม็คโกะก็เริ่มกินแซนด์วิชอย่างมีความสุข
――พอพามาที่ห้องของตัวเองแล้ว ชั้นก็มองดูเจ้าแมวที่ขลุกตัวอยู่บนฟูกของชั้นอย่างไม่แคร์สื่อ
“เอาล่ะ จะทำยังไงกับเจ้านี่ดีนะ”
เจ้าตัวหน้าด้านนี่
เจ้าหนูนี่อาจจะเจ๋งกว่าที่คิดไว้ก็ได้
แต่ว่า ถ้าจะหลีกเลี่ยงไม่ให้มันกลายเป็นอาหารเช้าอย่างที่โคเม็คโกะต้องการ ยังไงก็คงเก็บเจ้านี่ไว้ที่บ้านไม่ได้แน่ๆ
แต่ถ้าปล่อยกลับไปข้างนอก ก็คงไม่วายโดนโคเม็คโกะไปเจอแล้วจับมาอีก แล้วก็คงได้ลงหม้อแน่นอน
ถ้าเป็นแบบนั้น――
(แปล) Kono Subarashii Sekai ni Bakuen wo! - บทแรก ครึ่งหลัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้