เพราะชื่อของลูกแปลว่า ... ดวงอาทิตย์
ลูกจึงควรต้องทำตัวให้เหมือนกับ ... ดวงอาทิตย์
เมืองกาสิก เมืองแห่งขุนเขาสลับซับซ้อน ผืนดินบนภูเขา อากาศที่หนาวเย็นตลอดปี ส่งผลลบแก่การทำการเกษตร หากก็มีสิ่งที่มาทดแทน คือ แร่ธาตุมีค่า เหมืองเพชร และ อัญมณีอื่น ๆ มากมายเหลือคณาจนเป็นสินค้าส่งออก ในฐานะเจ้าหลวง ... ในฐานะดวงตะวันแห่งกาสิก เจ้าหลวงรังสิมันต์รู้องค์เองดีกว่า ภาระหน้าที่ของขัตติยะจะต้องทำฉันใด เวลานี้สิ่งที่กาสิกต้องการคือเส้นทางออกทางทะเล และ สิ่งนั้นมีอยู่ในเมืองทานตะ เป็นที่มาของงานอภิเษกสมรสลือลั่นระหว่างเจ้าหลวงหนุ่มแห่งกาสิกผู้ลึกลับ และ เจ้าหญิงมณิสราเทวี พระธิดาองค์เดียวแห่งเจ้าหลวงทานตะ
ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น เจ้าหลวงแห่งกาสิกเป็นเช่นไร มีเพียงเสียงเล่าลือลอยมาตามลมว่า คนกาสิกเป็นคนภูเขา ตัวสูงใหญ่ และ นิสัยดุร้าย โปรดปรานเรื่องรบพุ่งเป็นที่หนึ่ง ยิ่งเจ้าหลวงแห่งกาสิกนั้นยิ่งแล้วใหญ่ ว่ากันว่า ... หากมิพอใจใครก็จะลงเอยด้วยการตัดมือบ้าง ตัดลิ้นบ้าง ตัดคอบ้าง ประกอบกับกฎในกาสิกนั้นเข้มงวดยิ่งกว่าเข้มงวด ภูมิประเทศที่เป็นภูเขานั้นยิ่งทำให้ยากจะเข้าถึง "ความที่แท้จริง" เกี่ยวกับเจ้าหลวงแห่งกาสิก และ เกี่ยวกับคนกาสิก จึงเร้นเงาหลังขุนเขาตระหง่าน กำแพงธรรมชาติที่ทำให้กาสิกเป็นดังถิ่นลับแล
ความที่แพร่กระจายออกไปจึงเป็นการแต่งแต้มจินตนาการในสิ่งตนมองไม่เห็นกระนั้น
จากภาพของเจ้าหลวงผู้โหดร้ายทารุณฆ่าคนไม่กระพริบตา และ ป่าเถื่อนไร้ความศิวิไลซ์อย่างเขาลือนั้น กลับกลายเป็นภาพของขัตติยราชนามรังสิมันต์ ผู้มีวรองค์สูงใหญ่ และ หนาราวกำแพง ในชุดกำมะหยี่สีดำขลิบทอง ใบหน้าคมคายได้รูป ผิวสะอ้านขาวจัดเช่นคนเมืองหนาว พระขนงพาดยาวเหนือดวงตาดำจัดราวถ่านแพรวพราย ริมฝีปากสีจัดยกขอบนิด ๆ บ่งให้รู้ว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ ที่กำลังนั่งโต๊ะเจรจาว่า ... จะทำอย่างไรให้ชาวกาสิกได้อยู่ดีกินดี และ สิ่งเหล่านั้นต้องได้อย่างไว ต้องได้อย่างเร็ว มิเช่นนั้นขุนน้ำขุนนางที่นั่งร่วมโต๊ะจะได้เสียมือเสียลิ้นกันซะมั่ง
แต่ทุกคนก็รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นคำติดปากเมื่อสิ่งที่ปรารถนาไม่ได้อย่างใจ
และสิ่งที่ปรารถนานั้นก็หาใช่สิ่งใดที่ต้องกระทำเพื่อความสบายของตนเอง
แต่เพื่อกาสิก .... กาสิก ... และ กาสิกเท่านั้น
มือ แขน ขา แม้แต่ลิ้น ที่ว่าจะตัดให้สะบั้น
หลายครั้งเช่นกัน ... ที่หมายถึง
มือ แขน ขา ลิ้น ขององค์เอง
ด้วยความเจ็บใจ ด้วยความละอาย
ที่ดูแลราษฎร ดูแลบ้านเมืองได้ไม่ดีพอ
สุดท้ายก็ทรงยอม ... ยอมแม้กระทั่งฝืนใจเรื่องการเยือนกาสิกอย่างเป็นทางการของเจ้าฟ้าหญิงมณิสรา ถึงแม้ยามทำงานเจ้าหลวงจะอยู่ในโลกแห่งเหตุผลและเหลี่ยมคู จะอยู่ในฐานะเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินผู้เด็ดขาดเด็ดเดี่ยวและมั่นคง ดวงตายามจริงจัง ทั้งกร้าวกร้านและคมกริบ สมกับเป็นผู้ครองแคว้นกาสิกอันมั่งคั่ง หากส่วนลึกในจิตใจก็ยังจำได้ดีถึงสายสัมพันธ์ของครอบครัวอบอุ่น ยังมีกล่องแห่งความทรงจำของรังสิมันต์น้อยที่ว่า พ่อรักแม่ เหลือเกิน และองค์เองก็อยากมีชีวิตรักเช่นนั้นเฉกเดียวกัน
เจ้าหลวงไม่เพียงแต่อยากเป็นแสงฉานให้ปวงประชาแต่ปรารถนาจะเป็นดวงตะวันอบอุ่นให้คนที่พึงใจด้วยอีกประการหนึ่ง ภายนอกอาจจะดูแข็งกระด้างและโหดร้ายดังข่าวลือแปรให้เป็น ดูแล้วช่างหนาวเย็นเหมือนตำหนักเหมันตาลัย หากเมื่อรู้จักแล้วคบหากันนานเข้าเงาของชายหนุ่มที่อ่อนไหวและอ่อนหวานก็เข้ามาประทับ ตัวตนของรังสิมันต์ก็เช่นเดียวกันกับ "อิสินธร" พระราชวังฤดูร้อน สถานที่ที่เจ้าหลวงเรียกว่า "บ้าน"
กับคนที่รักและพึงใจ เจ้าหลวงผู้ยิ่งใหญ่ก็มีวันเวลาทำกิริยาออดอ้อนเอาแต่ใจ มีด้านที่โปรดปรานในเสียงดนตรี บทกวี และ สิ่งละเอียดอ่อนต่าง ๆ อันได้รับการถ่ายทอดจากพระมารดา กับดอกกล้วยไม้ "หัวใจทรรศิกา" หรือ กวีแว่วหวานและสายพิณที่ขาดสะบั้น เมื่อเอ่ยคำมั่นว่าสายพิณที่ขาดจะคงอยู่แบบนั้นจนกว่า "ฝ่าบาท" จะกลับมา จะอยู่ "รอ" ฝ่าบาทพระองค์เดียว นิรันดรนั้นนานนัก แต่รักนี้นานกว่านั้น
นับเป็นผู้ชายที่กล้าหาญ
ไว้ศักดิ์และสิทธิแห่งเลือดขัตติยะ
ทำ ... เพื่อปวงประชา รู้ว่าหน้าที่คืออะไร
แต่ก็กล้าพอที่จะทำตามหัวใจรักของตัวเอง
รู้ทั้งรู้ว่าการสมดุลย์ทั้งสองสิ่งนั้นคือทางลำบาก
คือสิ่งที่ยาก แต่ก็ไม่ได้เลือกทางง่ายโดยการเษกสมรสให้จบ ๆ
เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ เพื่อทำร้ายใจของคนอื่น
ก็สมแล้วกับชื่อรังสิมันตรัตน์
บุรุษผู้เป็นแสงฉานแห่งกาสิก
และ "รังสิ" บุรุษผู้เป็นดวงตะวันของทรรศิกา
ดั่งดวงหฤทัย : รังสิมันตรัตน์ .... แสงฉานแห่งกาสิก
ลูกจึงควรต้องทำตัวให้เหมือนกับ ... ดวงอาทิตย์
เมืองกาสิก เมืองแห่งขุนเขาสลับซับซ้อน ผืนดินบนภูเขา อากาศที่หนาวเย็นตลอดปี ส่งผลลบแก่การทำการเกษตร หากก็มีสิ่งที่มาทดแทน คือ แร่ธาตุมีค่า เหมืองเพชร และ อัญมณีอื่น ๆ มากมายเหลือคณาจนเป็นสินค้าส่งออก ในฐานะเจ้าหลวง ... ในฐานะดวงตะวันแห่งกาสิก เจ้าหลวงรังสิมันต์รู้องค์เองดีกว่า ภาระหน้าที่ของขัตติยะจะต้องทำฉันใด เวลานี้สิ่งที่กาสิกต้องการคือเส้นทางออกทางทะเล และ สิ่งนั้นมีอยู่ในเมืองทานตะ เป็นที่มาของงานอภิเษกสมรสลือลั่นระหว่างเจ้าหลวงหนุ่มแห่งกาสิกผู้ลึกลับ และ เจ้าหญิงมณิสราเทวี พระธิดาองค์เดียวแห่งเจ้าหลวงทานตะ
ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น เจ้าหลวงแห่งกาสิกเป็นเช่นไร มีเพียงเสียงเล่าลือลอยมาตามลมว่า คนกาสิกเป็นคนภูเขา ตัวสูงใหญ่ และ นิสัยดุร้าย โปรดปรานเรื่องรบพุ่งเป็นที่หนึ่ง ยิ่งเจ้าหลวงแห่งกาสิกนั้นยิ่งแล้วใหญ่ ว่ากันว่า ... หากมิพอใจใครก็จะลงเอยด้วยการตัดมือบ้าง ตัดลิ้นบ้าง ตัดคอบ้าง ประกอบกับกฎในกาสิกนั้นเข้มงวดยิ่งกว่าเข้มงวด ภูมิประเทศที่เป็นภูเขานั้นยิ่งทำให้ยากจะเข้าถึง "ความที่แท้จริง" เกี่ยวกับเจ้าหลวงแห่งกาสิก และ เกี่ยวกับคนกาสิก จึงเร้นเงาหลังขุนเขาตระหง่าน กำแพงธรรมชาติที่ทำให้กาสิกเป็นดังถิ่นลับแล
จากภาพของเจ้าหลวงผู้โหดร้ายทารุณฆ่าคนไม่กระพริบตา และ ป่าเถื่อนไร้ความศิวิไลซ์อย่างเขาลือนั้น กลับกลายเป็นภาพของขัตติยราชนามรังสิมันต์ ผู้มีวรองค์สูงใหญ่ และ หนาราวกำแพง ในชุดกำมะหยี่สีดำขลิบทอง ใบหน้าคมคายได้รูป ผิวสะอ้านขาวจัดเช่นคนเมืองหนาว พระขนงพาดยาวเหนือดวงตาดำจัดราวถ่านแพรวพราย ริมฝีปากสีจัดยกขอบนิด ๆ บ่งให้รู้ว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ ที่กำลังนั่งโต๊ะเจรจาว่า ... จะทำอย่างไรให้ชาวกาสิกได้อยู่ดีกินดี และ สิ่งเหล่านั้นต้องได้อย่างไว ต้องได้อย่างเร็ว มิเช่นนั้นขุนน้ำขุนนางที่นั่งร่วมโต๊ะจะได้เสียมือเสียลิ้นกันซะมั่ง
และสิ่งที่ปรารถนานั้นก็หาใช่สิ่งใดที่ต้องกระทำเพื่อความสบายของตนเอง
แต่เพื่อกาสิก .... กาสิก ... และ กาสิกเท่านั้น
หลายครั้งเช่นกัน ... ที่หมายถึง
มือ แขน ขา ลิ้น ขององค์เอง
ด้วยความเจ็บใจ ด้วยความละอาย
ที่ดูแลราษฎร ดูแลบ้านเมืองได้ไม่ดีพอ
สุดท้ายก็ทรงยอม ... ยอมแม้กระทั่งฝืนใจเรื่องการเยือนกาสิกอย่างเป็นทางการของเจ้าฟ้าหญิงมณิสรา ถึงแม้ยามทำงานเจ้าหลวงจะอยู่ในโลกแห่งเหตุผลและเหลี่ยมคู จะอยู่ในฐานะเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินผู้เด็ดขาดเด็ดเดี่ยวและมั่นคง ดวงตายามจริงจัง ทั้งกร้าวกร้านและคมกริบ สมกับเป็นผู้ครองแคว้นกาสิกอันมั่งคั่ง หากส่วนลึกในจิตใจก็ยังจำได้ดีถึงสายสัมพันธ์ของครอบครัวอบอุ่น ยังมีกล่องแห่งความทรงจำของรังสิมันต์น้อยที่ว่า พ่อรักแม่ เหลือเกิน และองค์เองก็อยากมีชีวิตรักเช่นนั้นเฉกเดียวกัน
เจ้าหลวงไม่เพียงแต่อยากเป็นแสงฉานให้ปวงประชาแต่ปรารถนาจะเป็นดวงตะวันอบอุ่นให้คนที่พึงใจด้วยอีกประการหนึ่ง ภายนอกอาจจะดูแข็งกระด้างและโหดร้ายดังข่าวลือแปรให้เป็น ดูแล้วช่างหนาวเย็นเหมือนตำหนักเหมันตาลัย หากเมื่อรู้จักแล้วคบหากันนานเข้าเงาของชายหนุ่มที่อ่อนไหวและอ่อนหวานก็เข้ามาประทับ ตัวตนของรังสิมันต์ก็เช่นเดียวกันกับ "อิสินธร" พระราชวังฤดูร้อน สถานที่ที่เจ้าหลวงเรียกว่า "บ้าน"
กับคนที่รักและพึงใจ เจ้าหลวงผู้ยิ่งใหญ่ก็มีวันเวลาทำกิริยาออดอ้อนเอาแต่ใจ มีด้านที่โปรดปรานในเสียงดนตรี บทกวี และ สิ่งละเอียดอ่อนต่าง ๆ อันได้รับการถ่ายทอดจากพระมารดา กับดอกกล้วยไม้ "หัวใจทรรศิกา" หรือ กวีแว่วหวานและสายพิณที่ขาดสะบั้น เมื่อเอ่ยคำมั่นว่าสายพิณที่ขาดจะคงอยู่แบบนั้นจนกว่า "ฝ่าบาท" จะกลับมา จะอยู่ "รอ" ฝ่าบาทพระองค์เดียว นิรันดรนั้นนานนัก แต่รักนี้นานกว่านั้น
ไว้ศักดิ์และสิทธิแห่งเลือดขัตติยะ
ทำ ... เพื่อปวงประชา รู้ว่าหน้าที่คืออะไร
แต่ก็กล้าพอที่จะทำตามหัวใจรักของตัวเอง
คือสิ่งที่ยาก แต่ก็ไม่ได้เลือกทางง่ายโดยการเษกสมรสให้จบ ๆ
เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ เพื่อทำร้ายใจของคนอื่น
บุรุษผู้เป็นแสงฉานแห่งกาสิก
และ "รังสิ" บุรุษผู้เป็นดวงตะวันของทรรศิกา