สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากจะมาเล่ามาแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวของเราค่ะ
ว่ากันตรงๆนี่ก็เป็นกระทู้ท่องเที่ยวกระทู้แรกของเราเลยค่ะ
สำนวนภาษาของเราอาจจะไม่สละสลวยมากเท่าไหร่
แต่อยากแบ่งปันประสบการณ์นี้ให้ทุกคนได้อ่านจริงๆค่ะ ;)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราจะเล่าไปเรื่อยๆนะคะ เอาเป็นว่า...อ่านกันชิวๆละกันนะคะ 55555
ส่วนรูปภาพประกอบจะเป็นรูปที่เราถ่ายเองค่ะ
ซึ่งความสวยงามก็เป็นไปตามอัตภาพ 55555
พยายามศึกษาการถ่ายภาพอยู่เหมือนกันค่ะ
ก็จะพยายามพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นเรื่อยค่ะ 
FOR THE FIRST TIME IN " แดนจิงโจ้ "
ประสบการณ์การเยือนแดนจิงโจ้ครั้งแรก ณ MELBOURNE ;)
DAY 1
ณ สุวรรณภูมิ
จากกรุงเทพสู่เมลเบิร์น ออกจากเมืองไทยช่วงเที่ยงคืนค่ะ
เราก็เป็นพวกนอนดึกอยู่แล้ว ดังนั้นมาสนามบินตอนนี้คือตาสว่างสุดๆ
แต่ยิ่งตื่นนานก็ยิ่งหิวค่ะ Duty Free จึงไม่ได้ตังค์เราไปเลย
เพราะเราเอาไปซื้อของกิน 5555
ตอนนั้นร้านอื่นคนเยอะมาก สตาร์บัคคิวสั้นสุดแล้ว
แถมสลัดคือไม่ต้องรอนานและรองท้องกำลังดี
จะได้ขึ้นไปทานอาหารบนเครื่องต่อได้ด้วย
พอใกล้เวลาก็ต้องไปรอแถวๆ gate ซึ่งของเราคือ C8
รู้สึกเหมือนเดินไกลๆ อาจจะเพราะเริ่มๆง่วงแล้ว
พอถึงก็เจอคิวยาวก็ตื่นขึ้นมาหน่อย คือเขามีตรวจของอีกรอบ เราก็ตามๆเขาไปนะ
On board
คราวนี้ไปกับการบินไทยค่ะ TG465 ดีใจทุกครั้งที่มีจอส่วนตัว
คือมีครั้งนึงไปอเมริกากับสายการบินนึงแล้วได้นั่งเครื่องที่ไม่มีจอส่วนตัวให้
สิบกว่าชั่วโมงนั้นเหมือนถูกทรมานทั้งเป็น นอนจนหน้าบวมก็ยังไม่ถึงสักที
กว่าเครื่องจะขึ้นจริงๆก็เกือบตี1แล้ว ข้างนอกมืดมาก แต่แสงไฟก็ดูสวยดี
สักพักลูกเรือก็เอาบัตรขาเข้ากับฟอร์มอีโบล่ามาให้กรอก
ข้อมูลที่กรอกก็ไม่ได้ยุ่งยากมาก ก็กรอกไปตามปกติ
ปากกาที่เอาไปหัวใหญ่มาก กรอกทีแทบล้นช่อง
สำคัญแทบที่สุดในไฟลท์คืออาหาร ไม่รู้ทำไมแต่เราชอบทานอาหารของสายการบินนะ
บางอย่างบางคนว่าไม่อร่อยเรานี่ก็กินหมด (เว้นแต่จะไม่ชอบจริงๆ)
อันนี้เป็นมื้อแรกค่ะ อร่อยดี ชอบเวลาอาหารมาร้อนๆด้วย
หลับไปแป๊บเดียวก็จะถึงแล้ว เมื่อกี้ยังมืดๆอยู๋เลย
ตอนนี้ก็มื้อที่สอง เติมพลังก่อนออกไปตะลอนในเมลเบิร์นวันแรก
Hello Australia!
ถึงเมลเบิร์นแล้วค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องไปด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อน
ปล.มีการเอา Duty Free มาดักกันตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าประเทศดีเลยนะคะ
เดินผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาจะมี Official Visitor Guide แจกฟรี
เอามาสักเล่มก็ดีนะคะ ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ได้อ่านมันก็ตาม ก็เก็บเป็นของที่ระลึกได้
บางทีมันก็ช่วยได้นะคะ โดยเฉพาะเวลาไม่รู้จะไปไหนต่อเพราะไปตามที่วางแผนมาหมดแล้ว
จะเข้าไปในตัวเมืองยังไงดี? => เขามีบริการรถบัสจากสนามบินเข้าไปในตัวเมืองค่ะ
เราก็หาๆมาก็เจออันนี้ คือ Skybus ค่ะ หาเจอง่ายค่ะ ไม่ยากเลย
ออกจากสนามบินเดินเลยมานิดหน่อยก็เจอค่ะ
พนักงานก็ใจดี เราก็ถามเขาหลายอย่างมาก เขาก็คงเข้าใจเลยใจเย็นสุดๆ
อันนี้ตั๋วค่ะ (รูปไม่โฟกัสเอาซะเลย)
บนรถบัสมี wifi ให้ใช้ด้วย
ส่วนนี่ก็เป็นบรรยากาศบนรถบัสค่ะ
ลุงข้างหน้าทางขวามือเหมือนจะหลับ เห็นคอพับไปพับมาตลอดทางเลย
นั่งรถไปสักพักก็ต้องลงไปเปลี่ยนรถค่ะ เขาจะขับไปจอดที่สถานีรถบัส
ให้ความรู้สึกคล้ายๆหมอชิตอะไรประมาณนี้
ลงไปเราก็ไปติดต่อไปแจ้งว่าเราจะไปโรงแรมหรือที่พักของเราต่อ
พอแจ้งเสร็จก็รออยู่แถวๆนั้นค่ะ
เดี๋ยวเขาก็จะแบ่งๆกันไปว่ารถแต่ละคันจะไปแถวบริเวณไหนบ้าง
คนขับจะประกาศชื่อที่พักของเรา เราก็ไปตามคนขับคนนั้นเลย
แถวนั้นก็มีตู้ฝากของด้วย ซึ่งก็เห็นมีคนไปฝากหลายคนอยู่
แล้วก็มีตู้กดน้ำให้ซื้อน้ำมาดื่มแก้กระหายกันด้วย
ถึงที่พักแล้วจ้า
ที่พักเราคือ City Edge® on Elizabeth Apartment Hotel ออกแนวเป็นอพาร์ทเมนท์ให้เช่าค่ะ
ห้องพักสะอาดดีค่ะ สะดวกแล้วก็กว้างขวางใช้ได้เลย
มีแม่บ้านมาทำความสะอาดก่อนเช็คอิน
แล้วก็รู้สึกว่าตามปกติเขาบอกว่าแม่บ้านจะมาอาทิตย์ละครั้ง
มีครัว มีห้องนั่งเล่น 2ห้องนอน 1ห้องน้ำ มีเครื่องอบผ้าด้วย
แนะนำให้เช็คอุปกรณ์ต่างๆด้วยนะคะ ตอนเราไปเครื่องอบผ้าไม่ทำงาน
Let's go!!
ตอนไปอากาศค่อนข้างเย็นก็เลยเดินไปได้เรื่อยๆ
แต่ถ้าไม่อยากเดินไกลก็มีรถรางแล่นไปรอบๆเมือง
ที่แรกที่เราไป คือ
Melbourne City Town Hall ค่ะ
แถวๆนั้นจะมีบริษัทเหมือน Local tour อ่ะค่ะ ชื่อ
Halftix
จริงๆก็มีความผสมผสานกับการเป็น Thai Ticket Major ด้วย
เพราะขายทัวร์พวกทริปต่างๆด้วย ขายตั๋วหลายอย่างมากด้วย
ตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวบ้าง ตั๋วชมพวกคอนสิร์ตต่างๆด้วยไรงี้
ซึ่งที่นี่เขาก็จะให้ราคาที่ค่อนข้างดี ไม่แพงเท่าไหร่ค่ะ
ตอนรอซื้อตั๋วถ้าเบื่อๆก็เดินดูรอบๆก็ได้นะคะ
บางทีมันก็มีโปสเตอร์เทศกาลอะไรน่าสนใจๆมาโปรโมทด้วย
แล้วข้างในก็มีเหมือนเป็นส่วนนิทรรศการเกี่ยวกับตำรวจของที่นี่
แต่เราไม่รู้นะคะว่าเป็นนิทรรศการชั่วคราวหรือถาวร
ถ้าเป็นแบบถาวรก็ไปเดินๆดูได้นะคะ น่าสนใจดี
ตอนนี้ขออัพแค่นี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อค่ะ 
FOR THE FIRST TIME IN " แดนจิงโจ้ " (ฉบับเล่าไปเรื่อยแปะรูปไปเรื่อย)
ว่ากันตรงๆนี่ก็เป็นกระทู้ท่องเที่ยวกระทู้แรกของเราเลยค่ะ
สำนวนภาษาของเราอาจจะไม่สละสลวยมากเท่าไหร่
แต่อยากแบ่งปันประสบการณ์นี้ให้ทุกคนได้อ่านจริงๆค่ะ ;)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
FOR THE FIRST TIME IN " แดนจิงโจ้ "
ประสบการณ์การเยือนแดนจิงโจ้ครั้งแรก ณ MELBOURNE ;)
DAY 1
ณ สุวรรณภูมิ
จากกรุงเทพสู่เมลเบิร์น ออกจากเมืองไทยช่วงเที่ยงคืนค่ะ
เราก็เป็นพวกนอนดึกอยู่แล้ว ดังนั้นมาสนามบินตอนนี้คือตาสว่างสุดๆ
แต่ยิ่งตื่นนานก็ยิ่งหิวค่ะ Duty Free จึงไม่ได้ตังค์เราไปเลย
เพราะเราเอาไปซื้อของกิน 5555
ตอนนั้นร้านอื่นคนเยอะมาก สตาร์บัคคิวสั้นสุดแล้ว
แถมสลัดคือไม่ต้องรอนานและรองท้องกำลังดี
จะได้ขึ้นไปทานอาหารบนเครื่องต่อได้ด้วย
พอใกล้เวลาก็ต้องไปรอแถวๆ gate ซึ่งของเราคือ C8
รู้สึกเหมือนเดินไกลๆ อาจจะเพราะเริ่มๆง่วงแล้ว
พอถึงก็เจอคิวยาวก็ตื่นขึ้นมาหน่อย คือเขามีตรวจของอีกรอบ เราก็ตามๆเขาไปนะ
On board
คราวนี้ไปกับการบินไทยค่ะ TG465 ดีใจทุกครั้งที่มีจอส่วนตัว
คือมีครั้งนึงไปอเมริกากับสายการบินนึงแล้วได้นั่งเครื่องที่ไม่มีจอส่วนตัวให้
สิบกว่าชั่วโมงนั้นเหมือนถูกทรมานทั้งเป็น นอนจนหน้าบวมก็ยังไม่ถึงสักที
กว่าเครื่องจะขึ้นจริงๆก็เกือบตี1แล้ว ข้างนอกมืดมาก แต่แสงไฟก็ดูสวยดี
สักพักลูกเรือก็เอาบัตรขาเข้ากับฟอร์มอีโบล่ามาให้กรอก
ข้อมูลที่กรอกก็ไม่ได้ยุ่งยากมาก ก็กรอกไปตามปกติ
ปากกาที่เอาไปหัวใหญ่มาก กรอกทีแทบล้นช่อง
สำคัญแทบที่สุดในไฟลท์คืออาหาร ไม่รู้ทำไมแต่เราชอบทานอาหารของสายการบินนะ
บางอย่างบางคนว่าไม่อร่อยเรานี่ก็กินหมด (เว้นแต่จะไม่ชอบจริงๆ)
อันนี้เป็นมื้อแรกค่ะ อร่อยดี ชอบเวลาอาหารมาร้อนๆด้วย
หลับไปแป๊บเดียวก็จะถึงแล้ว เมื่อกี้ยังมืดๆอยู๋เลย
ตอนนี้ก็มื้อที่สอง เติมพลังก่อนออกไปตะลอนในเมลเบิร์นวันแรก
Hello Australia!
ถึงเมลเบิร์นแล้วค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องไปด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อน
ปล.มีการเอา Duty Free มาดักกันตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าประเทศดีเลยนะคะ
เดินผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาจะมี Official Visitor Guide แจกฟรี
เอามาสักเล่มก็ดีนะคะ ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ได้อ่านมันก็ตาม ก็เก็บเป็นของที่ระลึกได้
บางทีมันก็ช่วยได้นะคะ โดยเฉพาะเวลาไม่รู้จะไปไหนต่อเพราะไปตามที่วางแผนมาหมดแล้ว
จะเข้าไปในตัวเมืองยังไงดี? => เขามีบริการรถบัสจากสนามบินเข้าไปในตัวเมืองค่ะ
เราก็หาๆมาก็เจออันนี้ คือ Skybus ค่ะ หาเจอง่ายค่ะ ไม่ยากเลย
ออกจากสนามบินเดินเลยมานิดหน่อยก็เจอค่ะ
พนักงานก็ใจดี เราก็ถามเขาหลายอย่างมาก เขาก็คงเข้าใจเลยใจเย็นสุดๆ
อันนี้ตั๋วค่ะ (รูปไม่โฟกัสเอาซะเลย)
บนรถบัสมี wifi ให้ใช้ด้วย
ส่วนนี่ก็เป็นบรรยากาศบนรถบัสค่ะ
ลุงข้างหน้าทางขวามือเหมือนจะหลับ เห็นคอพับไปพับมาตลอดทางเลย
นั่งรถไปสักพักก็ต้องลงไปเปลี่ยนรถค่ะ เขาจะขับไปจอดที่สถานีรถบัส
ให้ความรู้สึกคล้ายๆหมอชิตอะไรประมาณนี้
ลงไปเราก็ไปติดต่อไปแจ้งว่าเราจะไปโรงแรมหรือที่พักของเราต่อ
พอแจ้งเสร็จก็รออยู่แถวๆนั้นค่ะ
เดี๋ยวเขาก็จะแบ่งๆกันไปว่ารถแต่ละคันจะไปแถวบริเวณไหนบ้าง
คนขับจะประกาศชื่อที่พักของเรา เราก็ไปตามคนขับคนนั้นเลย
แถวนั้นก็มีตู้ฝากของด้วย ซึ่งก็เห็นมีคนไปฝากหลายคนอยู่
แล้วก็มีตู้กดน้ำให้ซื้อน้ำมาดื่มแก้กระหายกันด้วย
ถึงที่พักแล้วจ้า
ที่พักเราคือ City Edge® on Elizabeth Apartment Hotel ออกแนวเป็นอพาร์ทเมนท์ให้เช่าค่ะ
ห้องพักสะอาดดีค่ะ สะดวกแล้วก็กว้างขวางใช้ได้เลย
มีแม่บ้านมาทำความสะอาดก่อนเช็คอิน
แล้วก็รู้สึกว่าตามปกติเขาบอกว่าแม่บ้านจะมาอาทิตย์ละครั้ง
มีครัว มีห้องนั่งเล่น 2ห้องนอน 1ห้องน้ำ มีเครื่องอบผ้าด้วย
แนะนำให้เช็คอุปกรณ์ต่างๆด้วยนะคะ ตอนเราไปเครื่องอบผ้าไม่ทำงาน
Let's go!!
ตอนไปอากาศค่อนข้างเย็นก็เลยเดินไปได้เรื่อยๆ
แต่ถ้าไม่อยากเดินไกลก็มีรถรางแล่นไปรอบๆเมือง
ที่แรกที่เราไป คือ Melbourne City Town Hall ค่ะ
แถวๆนั้นจะมีบริษัทเหมือน Local tour อ่ะค่ะ ชื่อ Halftix
จริงๆก็มีความผสมผสานกับการเป็น Thai Ticket Major ด้วย
เพราะขายทัวร์พวกทริปต่างๆด้วย ขายตั๋วหลายอย่างมากด้วย
ตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวบ้าง ตั๋วชมพวกคอนสิร์ตต่างๆด้วยไรงี้
ซึ่งที่นี่เขาก็จะให้ราคาที่ค่อนข้างดี ไม่แพงเท่าไหร่ค่ะ
ตอนรอซื้อตั๋วถ้าเบื่อๆก็เดินดูรอบๆก็ได้นะคะ
บางทีมันก็มีโปสเตอร์เทศกาลอะไรน่าสนใจๆมาโปรโมทด้วย
แล้วข้างในก็มีเหมือนเป็นส่วนนิทรรศการเกี่ยวกับตำรวจของที่นี่
แต่เราไม่รู้นะคะว่าเป็นนิทรรศการชั่วคราวหรือถาวร
ถ้าเป็นแบบถาวรก็ไปเดินๆดูได้นะคะ น่าสนใจดี
ตอนนี้ขออัพแค่นี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อค่ะ
***อ่านต่อ DAY 1 @ ความเห็นที่ 3 นะคะ
***อ่าน DAY 2 @ ความเห็นที่ 4 นะคะ
***อ่าน DAY 3 @ ความเห็นที่ 6 นะคะ