สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่านี้เป็นการเขียนกระทู้รีวิวครั้งแรก ผิดพลาดประการใดต้องขอโทษด้วยค่ะ
วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์เที่ยวช่วงก่อนสอบค่ะ จขกท.และเพื่อนว่างกันก่อนที่จะมีสอบเลยตกลงกันว่าจะไปช่วงนี้แหล่ะ จขกท.บอกก่อนเลยว่าตัวเองเป็นคนเมืองกาญจน์ ทุกคนคงรู้ว่ามีแพเยอะมาก แต่จขกท.ไม่เคยไปเลยสักครั้ง คราวนี้เลยวางแผนกับเพื่อนว่าจะไปเที่ยวแพกัน
***** รูปถ่ายจากกล้องไอโฟน 6 และกล้อง ฟูจิ Xa2 ไม่ได้แต่งรูป ขออภัยหากรูปใหญ่เกินไป *****
เริ่มแรกเลยเราก็ต้องมาหาที่พักกันก่อนด้วยความที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด เลยอยากได้แพที่มีความสะดวก ปลอดภัย ก็เข้ากูเกิ้ลเลยค่ะว่ามีแพอะไรที่น่าสนใจบ้าง เห็นหลายแพแต่ต้องมาสะดุดตากับ
แพบุญเติน ค่ะด้วยสโลแกน “ดาวทั้งฟ้าฉันจะหามาให้เธอ” เลยบอกเพื่อนค่ะว่าสนใจแพนี้อยากรู้ว่าจะหาดาวไห้ได้จริงมั้ย?? เพื่อนเลยตกลงให้ จขกท.เป็นคนดำเนินการทั้งหมดค่ะ เลยติดต่อไปยังเจ้าของแพได้ความมาว่างวันที่ธรรมดา จขกท.เลยตกลงจองและโอนเงินมัดจำค่ะ หลังจากนั้นก็นัดวันเดินทางกับเพื่อน
(นี่เป็นรูปที่เราเจอในเพจแล้วชอบแพนี้กัน ภาพจาก Fanpage : Buntern Thongphaphum )
ข้ามมายังวันเดินทางเลยนะค่ะ ออกเดินทางกันวันที่ 22 ตุลาคม 2558
เนื่องจากจขกท.และเพื่อนกลุ่มนึงอยู่มหาลัยชื่อดังย่านบางแสนส่วนอีกกลุ่มอยู่มหาลัยชื่อดังย่านบางเขน จึงต้องมีการนัดรวมตัวกันที่อนุเสาวรีย์เวลา 9 โมงเช้า จขกท.มาถึงก่อนเวลานัดเลยหาอะไรรองท้องค่ะในขณะที่กินก็โทรเร่งเพื่อน มีคุณนายสายเสมออยู่นางนึงค่ะ นางมึนๆหน่อย พอเจอกันก็พากันไปซื้อตั๋ว กรุงเทพ-กาญจนบุรี ใช้เวลาจากรุงเทพประมานสองชม.ระหว่างนี้ก็หลับสิค่ะรออะไร ^^ และแล้วก็ถึงสถานีขนส่งกาญจนบุรีค่ะ ต้องต่อรถค่ะเนื่องจากแพที่เราจะไปอยู่อำเภอทองผาภูมิ แต่แต่แต่!!! มีผู้ใหญ่ใจดีจะพาเราไปค่ะ ตามที่บอกข้างต้นว่าจขกท.เป็นคนเมืองกาญจน์ ทริปนี้เลยมีพ่อพาเที่ยวค่ะ มาดูกันค่ะว่าจขกท.และผองเพื่อนจะไปที่ไหนกันบ้าง
❥ สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
❥สะพานข้ามแม่น้ำแคว
(ภาพรวมก็มา)
พอเราถ่ายรูปกันมาพอสมควร ก็ได้เวลาเดินทางไปยังที่พักของเราแล้วค่ะ ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองประมานสองชั่วโมงก่อนข้าไปยังแพเราก็แวะซื้อเสบียงกันค่ะ พอไปถึงแพก็เย็นมากแล้วตามปกติจะเข้าะักได้ตอนบ่ายสองโมงแต่วันนั้นเราเป็นช้ากัน พี่เจ้าของแพเลยบอกให้รีบๆขึ้นมาที่แพค่ะเพราะพี่เจ้าของแพกลัวว่าพวกเราจะไม่ได้เก็บภาพวิวสวยๆขณะที่ลากแพจ้า พอพวกเราได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งกันแบบไม่กลัวตกน้ำเลยจ้า เข้ามาบนแพแล้วจะเจอห้องนอนทั้งหมดสามห้อง ห้องน้ำสามห้อง ห้องครัวหนึ่งห้อง และพื้นที่เอนกประสงค์ทั้งหน้าแพแลหลังแพค่ะ มีชิงช้าไว้นั่งชมวิวสองฝั่ง เป็นแพที่ค่อนข้างใหม่ บรรยากาศสงบ แค่มีกีต้าร์สักตัวก็พอแล้ว... จากนั้นน้าคนที่ลากแพก็จะพาพวกเราไปยังจุดผูกแพค่ะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ตอนนี้ที่แพก็จะมีอาหารเย็นให้ ก็กินไปในระหว่างที่ลากแพ
(ในที่สุดเราก็เจอป้ายบอกทางลงท่าแพแล้ว ไม่รอช้าพ่อรีบเลี้ยวเลยคะ)
(พระอาทิตย์กำลังตก แสงกำลังสวยเลยค่ะ ระหว่างทางไปจุดผูกแพ)
ที่นอนคืนนี้ค่ะ เนื่องจากเพื่อนทำห้องเละกันแล้ว เลยได้ภาพดีดีแค่ภาพเดียวนอกนั้นนำภาพมาจาก เพจ บุญเติน
(สภาพ 9/10)
(บรรยากาศ 10/10)
(ภาพจาก Fanpage : Buntern Thongphaphum)
อาหารเย็นที่ทางแพจัดไว้ให้
(รสชาติอาหาร 8/10)
ลืมบอกไปค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกบนแพที่มีให้ จะมีน้ำเปล่า น้ำแข็ง โซดา กาแฟ โอวัลติน ขนมปังกรอบ เสื้อชูชีพ มีไฟฟ้าจากโซลาเซลล์ ลำโพงสำหรับเปิดเพลงฟัง สิ่งที่ไม่มีให้คือ ห้องนอนจะเปิดพัดลมนะค่ะเป็นแพรักธรรมชาติ และผ้าเช็ดตัวต้องเตรียมมาค่ะ
(บริการ 9/10)
พอกินกันอิ่มแล้วก็แยกย้ายหามุมของตัวเองกันค่ะ บางคนถ่ายรูป ฟังเพลง นั่งชิว จากนั้นเราก็มานั่งรับลมกันที่ชิงช้าอากาศกำลังสบาย พอเวลาฟ้าเริ่มมืดแล้วเราก็ค้นพบว่าแพนี้หาดาวมาให้เราได้จริงๆ ลองนึกภาพตาม อากาศเย็นสบาย ดาวเต็มฟ้า ธรรมชาติโอบล้อมเราไว้ สายน้ำเย็น จะมีโอกาสไหนอีกที่จะหาได้คิดไม่ผิดเลยที่มา #ดาวทั้งฟ้าฉันจะหามาให้เธอ จากนั้นเราก็เริ่มแยกย้ายกันไปอาบน้ำนอน ที่นี้บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว แต่คืนนั้นพวกเราไม่เหงากันเลยเพราะมีแพแถวนั้นร้องเพลงกันทั้งคืน สนุกไปอีกแบบ
เช้าวันใหม่พวกเราทุกคนถูกปลุกด้วยเสียงของคุณนายสายเสมอเรียกให้ไปดูพระอาทิตขึ้น พวกเราก็ลุกกันมาแต่ปรากฏว่าพระอาทิตย์ขึ้นไปแล้วทางด้านหลังแพ ทุกคนต่างโวยวายกับคุณนายที่ปลุก แต่การตื่นเช้าวันนี้ก็ทำให้เราได้เห็นวิวชัดเจนขึ้นเนื่องจากเมื่อวานเราถึงกันตอนตะวันลับฟ้าไปแล้ว พวกเราไม่รอช้า จขกท.รีบไปต้มน้ำร้อน ใส่โอวัลตินแล้วแจกจ่ายให้เพื่อนเผื่อรองท้องก่อนข้าวเช้าจะมาส่ง เมื่อรองท้องกันแล้วเพื่อนอยากเล่นน้ำก็เลยเล่นกันทั้งชุดนอน..... กิจกรรมที่แพก็มีเล่นน้ำ กับ พายเรือคายักค่ะ แล้วแต่ว่าใครอยากทำอะไร แต่พี่เจ้าของแพจะเป็นห่วงมากเรื่องเสื้อชูชีพ บอกให้ใส่ตลอดเพื่อความปลอดภัย น้ำที่นี้เป็นน้ำจืดจากเขื่อนน้ำจึงนิ่งไม่มีคลื่นไม่อันตราย และน้ำใสมาก ใสจนตอนแรกเพื่อนของ จขกท.ไม่กล้าลงเล่นแต่ หลังจากนั้นเพื่อนเป็นยังไงหน่ะหรอ?? ต้องตามไปดูจ้า
(วิวยามเช้ากับโอวัลตินอุ่นๆ)
(พายเรือคายัค)
(Run Way)

(เป็นอยางที่เห็น... ตีลังกาม้วนหน้า)
(ภาพที่ดีที่สุดหลังจากพยายามทำรูปดาวอยู่นาน)
ประมาณ 8 โมงเช้า พี่เขาก็เอาอาหารเช้ามาส่งค่ะ เป็นข้าวต้มปลาคัง (ไม่ได้ถ่ายรูปมานะค่ะเนื่องจากความหิวในตอนนั้นมีมากกว่า)
พวกเราก็เล่นน้ำกันต่ออีก จนประมาณเก้าโมงกว่าก็เลิกเล่นขึ้นมาอาบน้ำกินข้าว รอเจ้าของมาลากแพกลับเข้าฝั่ง ตอนนี้ก็ได้รูปไว้ลงเป็นเดือนกันแล้วแต่ละคน พอสิบโมงกว่าเจ้าของแพกับน้าคนลากก็มาลากแพเข้าฝั่งระหว่างทางได้รูปมาอีกหลายรูป
พอแพกลับถึงฝั่งก็ไปขึ้นรถจ้า พ่อมารอรับแล้ว
บ๊าย....บาย แพบุญเติน แล้วเจอกันใหม่ ดาวทั้งฟ้าฉันจะหามาให้เธอ
# แพบุญเติน
❥สะพาญมอญ สะพานไม้แห่งศรัทธา อำเภอสังขละบุรี
หลังจากที่ลงจากแพพ่อก็พาไปกินข้าวกลางวัน(ส้มตำร้านประจำ) แล้วจากนั้นเดินทางต่อไปยังอำเภอสังขละบุรี เราแวะกันที่ สะพานมอญ วัดวังวิเวการาม ด่านเจดีย์สามองค์
(เพื่อนแอบไปถ่ายรูปกับเด็กน้อยชาวมอญ)
❥อุทยานแห่งชาติป้อมปี่
ที่นี้เป็นอุทยานอนุรักษ์มีพื้นที่ไว้ให้นักท่องเที่ยวกางเต้นท์พักพิงกลับธรรมชาติ จขกท.และเพื่อนเลยแวะถ่ายรูปกับวิวธรรมชาติสวยๆ
จากนั้นกลับไปนอนที่บ้าน จขกท. ต่ออีกหนึ่งคืน จบแล้วการท่องเที่ยวก่อนสอบ
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าอาหารตอนเช้าคนละ 60 บาท
ค่าเดินทางไปกรุงเทพ – กาญจนบุรีคนละ 115 บาท
ค่าเดินทางกลับกาญจนบุรี – กรุงเทพ คนละ 115 บาท
ค่าที่พักคนละ 1,500 บาท
(*ราคาค่าที่พักคิดเป็น 6 ท่านแรก 9,000 ท่านต่อไปท่านละ800* )
ค่าของอื่นๆคนละ 200 บาท
รวมทั้งหมด คนละประมาณ 2,000 บาท
------------ค่าการเดินทางอื่นๆผู้สนับสนุนหลักเป็นคนออกให้------------
ช่องทางการติดต่อที่พัก
Fanpage :
https://th-th.facebook.com/BunternThongphaphum
ID Line : buntern
เบอร์โทร : 095-5097997
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้นี้ค่ะ
❥แก้ไขเพิ่มเติมนะค่ะ
ที่บอกว่าเป็นแพอินดี้ เหตุผลอีกอย่างเลยก็คือ "เจ้าของแพค่ะ" ที่แพนี้พี่เจ้าของจะมีกฎการใช้แพอยู่ค่ะ เจ้าของแพค่อนข้างจะอินดี้

(ภาพจาก Fanpage : Buntern Thongphaphum)
ตามนี้เลยค่ะ กระทู้นี้อาจจะไปไม่ถูกใจใครเข้า ที่ทำกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อจะรีวิวที่พัก ซึ่งจขกท.คิดว่าน่าสนใจเท่านั้นค่ะ ^^
[CR] ❥ทิ้งตัวลงนอน ณ แพอินดี้ที่ฮิปสเตอร์ต้องห้ามพลาด @ แพบุญเติน กาญจนบุรี
วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์เที่ยวช่วงก่อนสอบค่ะ จขกท.และเพื่อนว่างกันก่อนที่จะมีสอบเลยตกลงกันว่าจะไปช่วงนี้แหล่ะ จขกท.บอกก่อนเลยว่าตัวเองเป็นคนเมืองกาญจน์ ทุกคนคงรู้ว่ามีแพเยอะมาก แต่จขกท.ไม่เคยไปเลยสักครั้ง คราวนี้เลยวางแผนกับเพื่อนว่าจะไปเที่ยวแพกัน
เริ่มแรกเลยเราก็ต้องมาหาที่พักกันก่อนด้วยความที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด เลยอยากได้แพที่มีความสะดวก ปลอดภัย ก็เข้ากูเกิ้ลเลยค่ะว่ามีแพอะไรที่น่าสนใจบ้าง เห็นหลายแพแต่ต้องมาสะดุดตากับ แพบุญเติน ค่ะด้วยสโลแกน “ดาวทั้งฟ้าฉันจะหามาให้เธอ” เลยบอกเพื่อนค่ะว่าสนใจแพนี้อยากรู้ว่าจะหาดาวไห้ได้จริงมั้ย?? เพื่อนเลยตกลงให้ จขกท.เป็นคนดำเนินการทั้งหมดค่ะ เลยติดต่อไปยังเจ้าของแพได้ความมาว่างวันที่ธรรมดา จขกท.เลยตกลงจองและโอนเงินมัดจำค่ะ หลังจากนั้นก็นัดวันเดินทางกับเพื่อน
ข้ามมายังวันเดินทางเลยนะค่ะ ออกเดินทางกันวันที่ 22 ตุลาคม 2558
เนื่องจากจขกท.และเพื่อนกลุ่มนึงอยู่มหาลัยชื่อดังย่านบางแสนส่วนอีกกลุ่มอยู่มหาลัยชื่อดังย่านบางเขน จึงต้องมีการนัดรวมตัวกันที่อนุเสาวรีย์เวลา 9 โมงเช้า จขกท.มาถึงก่อนเวลานัดเลยหาอะไรรองท้องค่ะในขณะที่กินก็โทรเร่งเพื่อน มีคุณนายสายเสมออยู่นางนึงค่ะ นางมึนๆหน่อย พอเจอกันก็พากันไปซื้อตั๋ว กรุงเทพ-กาญจนบุรี ใช้เวลาจากรุงเทพประมานสองชม.ระหว่างนี้ก็หลับสิค่ะรออะไร ^^ และแล้วก็ถึงสถานีขนส่งกาญจนบุรีค่ะ ต้องต่อรถค่ะเนื่องจากแพที่เราจะไปอยู่อำเภอทองผาภูมิ แต่แต่แต่!!! มีผู้ใหญ่ใจดีจะพาเราไปค่ะ ตามที่บอกข้างต้นว่าจขกท.เป็นคนเมืองกาญจน์ ทริปนี้เลยมีพ่อพาเที่ยวค่ะ มาดูกันค่ะว่าจขกท.และผองเพื่อนจะไปที่ไหนกันบ้าง
❥ สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
❥สะพานข้ามแม่น้ำแคว
พอเราถ่ายรูปกันมาพอสมควร ก็ได้เวลาเดินทางไปยังที่พักของเราแล้วค่ะ ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองประมานสองชั่วโมงก่อนข้าไปยังแพเราก็แวะซื้อเสบียงกันค่ะ พอไปถึงแพก็เย็นมากแล้วตามปกติจะเข้าะักได้ตอนบ่ายสองโมงแต่วันนั้นเราเป็นช้ากัน พี่เจ้าของแพเลยบอกให้รีบๆขึ้นมาที่แพค่ะเพราะพี่เจ้าของแพกลัวว่าพวกเราจะไม่ได้เก็บภาพวิวสวยๆขณะที่ลากแพจ้า พอพวกเราได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งกันแบบไม่กลัวตกน้ำเลยจ้า เข้ามาบนแพแล้วจะเจอห้องนอนทั้งหมดสามห้อง ห้องน้ำสามห้อง ห้องครัวหนึ่งห้อง และพื้นที่เอนกประสงค์ทั้งหน้าแพแลหลังแพค่ะ มีชิงช้าไว้นั่งชมวิวสองฝั่ง เป็นแพที่ค่อนข้างใหม่ บรรยากาศสงบ แค่มีกีต้าร์สักตัวก็พอแล้ว... จากนั้นน้าคนที่ลากแพก็จะพาพวกเราไปยังจุดผูกแพค่ะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ตอนนี้ที่แพก็จะมีอาหารเย็นให้ ก็กินไปในระหว่างที่ลากแพ
ลืมบอกไปค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกบนแพที่มีให้ จะมีน้ำเปล่า น้ำแข็ง โซดา กาแฟ โอวัลติน ขนมปังกรอบ เสื้อชูชีพ มีไฟฟ้าจากโซลาเซลล์ ลำโพงสำหรับเปิดเพลงฟัง สิ่งที่ไม่มีให้คือ ห้องนอนจะเปิดพัดลมนะค่ะเป็นแพรักธรรมชาติ และผ้าเช็ดตัวต้องเตรียมมาค่ะ
พอกินกันอิ่มแล้วก็แยกย้ายหามุมของตัวเองกันค่ะ บางคนถ่ายรูป ฟังเพลง นั่งชิว จากนั้นเราก็มานั่งรับลมกันที่ชิงช้าอากาศกำลังสบาย พอเวลาฟ้าเริ่มมืดแล้วเราก็ค้นพบว่าแพนี้หาดาวมาให้เราได้จริงๆ ลองนึกภาพตาม อากาศเย็นสบาย ดาวเต็มฟ้า ธรรมชาติโอบล้อมเราไว้ สายน้ำเย็น จะมีโอกาสไหนอีกที่จะหาได้คิดไม่ผิดเลยที่มา #ดาวทั้งฟ้าฉันจะหามาให้เธอ จากนั้นเราก็เริ่มแยกย้ายกันไปอาบน้ำนอน ที่นี้บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว แต่คืนนั้นพวกเราไม่เหงากันเลยเพราะมีแพแถวนั้นร้องเพลงกันทั้งคืน สนุกไปอีกแบบ
เช้าวันใหม่พวกเราทุกคนถูกปลุกด้วยเสียงของคุณนายสายเสมอเรียกให้ไปดูพระอาทิตขึ้น พวกเราก็ลุกกันมาแต่ปรากฏว่าพระอาทิตย์ขึ้นไปแล้วทางด้านหลังแพ ทุกคนต่างโวยวายกับคุณนายที่ปลุก แต่การตื่นเช้าวันนี้ก็ทำให้เราได้เห็นวิวชัดเจนขึ้นเนื่องจากเมื่อวานเราถึงกันตอนตะวันลับฟ้าไปแล้ว พวกเราไม่รอช้า จขกท.รีบไปต้มน้ำร้อน ใส่โอวัลตินแล้วแจกจ่ายให้เพื่อนเผื่อรองท้องก่อนข้าวเช้าจะมาส่ง เมื่อรองท้องกันแล้วเพื่อนอยากเล่นน้ำก็เลยเล่นกันทั้งชุดนอน..... กิจกรรมที่แพก็มีเล่นน้ำ กับ พายเรือคายักค่ะ แล้วแต่ว่าใครอยากทำอะไร แต่พี่เจ้าของแพจะเป็นห่วงมากเรื่องเสื้อชูชีพ บอกให้ใส่ตลอดเพื่อความปลอดภัย น้ำที่นี้เป็นน้ำจืดจากเขื่อนน้ำจึงนิ่งไม่มีคลื่นไม่อันตราย และน้ำใสมาก ใสจนตอนแรกเพื่อนของ จขกท.ไม่กล้าลงเล่นแต่ หลังจากนั้นเพื่อนเป็นยังไงหน่ะหรอ?? ต้องตามไปดูจ้า
(เป็นอยางที่เห็น... ตีลังกาม้วนหน้า)
ประมาณ 8 โมงเช้า พี่เขาก็เอาอาหารเช้ามาส่งค่ะ เป็นข้าวต้มปลาคัง (ไม่ได้ถ่ายรูปมานะค่ะเนื่องจากความหิวในตอนนั้นมีมากกว่า)
พวกเราก็เล่นน้ำกันต่ออีก จนประมาณเก้าโมงกว่าก็เลิกเล่นขึ้นมาอาบน้ำกินข้าว รอเจ้าของมาลากแพกลับเข้าฝั่ง ตอนนี้ก็ได้รูปไว้ลงเป็นเดือนกันแล้วแต่ละคน พอสิบโมงกว่าเจ้าของแพกับน้าคนลากก็มาลากแพเข้าฝั่งระหว่างทางได้รูปมาอีกหลายรูป
บ๊าย....บาย แพบุญเติน แล้วเจอกันใหม่ ดาวทั้งฟ้าฉันจะหามาให้เธอ
# แพบุญเติน
❥สะพาญมอญ สะพานไม้แห่งศรัทธา อำเภอสังขละบุรี
หลังจากที่ลงจากแพพ่อก็พาไปกินข้าวกลางวัน(ส้มตำร้านประจำ) แล้วจากนั้นเดินทางต่อไปยังอำเภอสังขละบุรี เราแวะกันที่ สะพานมอญ วัดวังวิเวการาม ด่านเจดีย์สามองค์
❥อุทยานแห่งชาติป้อมปี่
ที่นี้เป็นอุทยานอนุรักษ์มีพื้นที่ไว้ให้นักท่องเที่ยวกางเต้นท์พักพิงกลับธรรมชาติ จขกท.และเพื่อนเลยแวะถ่ายรูปกับวิวธรรมชาติสวยๆ
ค่าอาหารตอนเช้าคนละ 60 บาท
ค่าเดินทางไปกรุงเทพ – กาญจนบุรีคนละ 115 บาท
ค่าเดินทางกลับกาญจนบุรี – กรุงเทพ คนละ 115 บาท
ค่าที่พักคนละ 1,500 บาท
(*ราคาค่าที่พักคิดเป็น 6 ท่านแรก 9,000 ท่านต่อไปท่านละ800* )
ค่าของอื่นๆคนละ 200 บาท
รวมทั้งหมด คนละประมาณ 2,000 บาท
------------ค่าการเดินทางอื่นๆผู้สนับสนุนหลักเป็นคนออกให้------------
ช่องทางการติดต่อที่พัก
Fanpage : https://th-th.facebook.com/BunternThongphaphum
ID Line : buntern
เบอร์โทร : 095-5097997
❥แก้ไขเพิ่มเติมนะค่ะ
ที่บอกว่าเป็นแพอินดี้ เหตุผลอีกอย่างเลยก็คือ "เจ้าของแพค่ะ" ที่แพนี้พี่เจ้าของจะมีกฎการใช้แพอยู่ค่ะ เจ้าของแพค่อนข้างจะอินดี้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น