ตอนนี้เดินเรื่องไวมากกก แบบแทบหายใจไม่ทัน ทีแรกว่าจะรอสองตอนค่อยตั้งกระทู้ทีเดียว
แต่อดใจไม่ไหวละ ขอซะหน่อยเหอะ (ใครไมม่อยากอ่านยาวๆก็ไปคอมเม้นต์ที่ 4 ได้ครับ
สรุปไว้ให้อยู่)
ทางแยก...การเสียสละเพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่
หลังจากซัมบงตัดสินใจที่จะเผาทะเบียนที่ดินของโครยอเพื่อมาเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่อีกครั้ง
ใจของบังวอนที่เคยออกห่างและคิดหันหลังให้ซัมบงก็กลับมาสับสนมากอีกครั้ง ใจนึงก็ยังรักและชื่นชม
ในตัวซัมบงอยู่เสมอ อีกใจหนึ่งก็ต้องคิดถึงความฝันของตัวเอง ฝันที่ต้องการทำให้ประชาชนยิ้มได้
ความกลัวเข้ากัดกินจิตใจของบังวอนว่าอาจจะไม่มีที่ยืนในประเทศใหม่ที่จะร่วมช่วยกันสร้างกับซัมบง
บนทางที่โดดเดี่ยวและไม่รู้ว่าจะมีคนเข้าใจหรือไม่ บังวอนจะตัดสินใจอย่างไร...
ชองมงจูก็ต้องเผชิญกับการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ เขากำลังตัดสินใจจะทิ้งสหายผู้เป็นที่รัก เพื่อความรักต่อ
โครยอที่ยิ่งใหญ่กว่า
อีซองกเยใคร่ครวญถึงชีวิตที่ต้องสูญเสียไปเพราะตนกับแผนการปฏิวัติครั้งนี้ กี่คนแล้วที่ต้องตายในสนามรบ
กี่คนที่ต้องถูกเนรเทศและตายไปในที่สุด และต่อไปนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าสงครามเลือดนี้จะหยุดลง อีซองกเยผู้เสียน้ำตา
ให้กับเรื่องเล็กๆน้อยๆของประชาชนมีทีท่าลำบากใจไม่น้อย
บุนอีได้เจอกับแม่เสียที ยอนยางได้มาพบบุนอี ไม่ได้มาเพื่อจะรื้อฟื้นความหลัง หรือแสดงความคิดถึงลูกที่
จากกันไปแสนนาน แต่มาเพื่อตอกมีดเข้ากลางแผลในใจของบุนอีอีกครั้งหนึ่ง "อย่าได้ตามหาแม่อีก" เป็นสิ่งที่แม่กับลูกที่ไหน
ก็ไม่พูดกัน แต่ยอนฮยางที่มีภาระหน้าที่มากมาย มีภาระผูกพันธ์กับมูมยองที่เคยให้ทุกสิ่งทุกอย่างในวันที่ยอนยางไม่มีที่
ซุกหัวนอนและไม่มีอะไรจะกิน ไม่คิดว่ายอนยางจะเสียใจที่เลือกเข้ามาทำหน้าที่ให้องค์กรนี้ แม้ใจจริงแล้วจะคิดถึงลูกมาก
แค่ไหนก็ตาม ยอนยางแอบหวังลึกๆว่าบุนอีจะเลือกที่จะใช้ชีวิตธรรมดาๆได้ ไม่ต้องคิดถึงโลกให้มากนัก แค่คิดถึงตัวเองและ
คนรอบข้าง แต่ยอนยางรู้ดีว่าลูกสาวจะสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้แม้จะต้องเอาชีวิตเข้าแลกก็ตาม และรู้ดีว่าตนในฐานะศัตรู
ไม่มีสิทธิ์ไปห้าม จึงขอให้บุนอีจงตั้งมั่นเพื่อจะเปลี่ยนโลกให้ได้แม้จะต้องทิ้งคนที่รักก็ตาม โชคชะตาเส้นขนานของสองแม่ลูก
จะเป็นยังไงต่อไป...
มินดากยองให้คำมั่นกับบังวอนว่า นางเป็นคนเดียวที่จะอยู่ฝ่ายเดียวกับบังวอนเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม โดย
ไม่สนว่าบังวอนจะรู้สึกกับนางเช่นไร บนทางที่แสนโดดเดียวของบังวอนอย่างน้อยก็จะมีผู้ร่วมคิดร่วมอุดมการณ์แล้ว มินดากยอง
ดูแข็งกร้าวและดุดันขึ้นมากใน Episode นี้ และบังวอนได้เปิดเผยแผนการทั้งหมดว่าเขากำลังหลอกทุกคน และจะหันหลังให้
ซัมบงถ้าไม่มีทางเลือก บังวอนที่ยังไม่รู้ถึงเจตนาซ่อนเร้นของชองมงจู บอกกับดากยองว่าผู้ที่จะมีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรใหม่
คือตระกูลชอง (ชองมงจู, ชองโดจอน)
โอ๊ยยย นี่มันละครหรือรถไฟชินคันเซ็น (ชวนคุยหกมังกรบิน ตอนที่ 33 spoiled มาก)
แต่อดใจไม่ไหวละ ขอซะหน่อยเหอะ (ใครไมม่อยากอ่านยาวๆก็ไปคอมเม้นต์ที่ 4 ได้ครับ
สรุปไว้ให้อยู่)
ทางแยก...การเสียสละเพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่
หลังจากซัมบงตัดสินใจที่จะเผาทะเบียนที่ดินของโครยอเพื่อมาเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่อีกครั้ง
ใจของบังวอนที่เคยออกห่างและคิดหันหลังให้ซัมบงก็กลับมาสับสนมากอีกครั้ง ใจนึงก็ยังรักและชื่นชม
ในตัวซัมบงอยู่เสมอ อีกใจหนึ่งก็ต้องคิดถึงความฝันของตัวเอง ฝันที่ต้องการทำให้ประชาชนยิ้มได้
ความกลัวเข้ากัดกินจิตใจของบังวอนว่าอาจจะไม่มีที่ยืนในประเทศใหม่ที่จะร่วมช่วยกันสร้างกับซัมบง
บนทางที่โดดเดี่ยวและไม่รู้ว่าจะมีคนเข้าใจหรือไม่ บังวอนจะตัดสินใจอย่างไร...
ชองมงจูก็ต้องเผชิญกับการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ เขากำลังตัดสินใจจะทิ้งสหายผู้เป็นที่รัก เพื่อความรักต่อ
โครยอที่ยิ่งใหญ่กว่า
อีซองกเยใคร่ครวญถึงชีวิตที่ต้องสูญเสียไปเพราะตนกับแผนการปฏิวัติครั้งนี้ กี่คนแล้วที่ต้องตายในสนามรบ
กี่คนที่ต้องถูกเนรเทศและตายไปในที่สุด และต่อไปนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าสงครามเลือดนี้จะหยุดลง อีซองกเยผู้เสียน้ำตา
ให้กับเรื่องเล็กๆน้อยๆของประชาชนมีทีท่าลำบากใจไม่น้อย
บุนอีได้เจอกับแม่เสียที ยอนยางได้มาพบบุนอี ไม่ได้มาเพื่อจะรื้อฟื้นความหลัง หรือแสดงความคิดถึงลูกที่
จากกันไปแสนนาน แต่มาเพื่อตอกมีดเข้ากลางแผลในใจของบุนอีอีกครั้งหนึ่ง "อย่าได้ตามหาแม่อีก" เป็นสิ่งที่แม่กับลูกที่ไหน
ก็ไม่พูดกัน แต่ยอนฮยางที่มีภาระหน้าที่มากมาย มีภาระผูกพันธ์กับมูมยองที่เคยให้ทุกสิ่งทุกอย่างในวันที่ยอนยางไม่มีที่
ซุกหัวนอนและไม่มีอะไรจะกิน ไม่คิดว่ายอนยางจะเสียใจที่เลือกเข้ามาทำหน้าที่ให้องค์กรนี้ แม้ใจจริงแล้วจะคิดถึงลูกมาก
แค่ไหนก็ตาม ยอนยางแอบหวังลึกๆว่าบุนอีจะเลือกที่จะใช้ชีวิตธรรมดาๆได้ ไม่ต้องคิดถึงโลกให้มากนัก แค่คิดถึงตัวเองและ
คนรอบข้าง แต่ยอนยางรู้ดีว่าลูกสาวจะสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้แม้จะต้องเอาชีวิตเข้าแลกก็ตาม และรู้ดีว่าตนในฐานะศัตรู
ไม่มีสิทธิ์ไปห้าม จึงขอให้บุนอีจงตั้งมั่นเพื่อจะเปลี่ยนโลกให้ได้แม้จะต้องทิ้งคนที่รักก็ตาม โชคชะตาเส้นขนานของสองแม่ลูก
จะเป็นยังไงต่อไป...
มินดากยองให้คำมั่นกับบังวอนว่า นางเป็นคนเดียวที่จะอยู่ฝ่ายเดียวกับบังวอนเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม โดย
ไม่สนว่าบังวอนจะรู้สึกกับนางเช่นไร บนทางที่แสนโดดเดียวของบังวอนอย่างน้อยก็จะมีผู้ร่วมคิดร่วมอุดมการณ์แล้ว มินดากยอง
ดูแข็งกร้าวและดุดันขึ้นมากใน Episode นี้ และบังวอนได้เปิดเผยแผนการทั้งหมดว่าเขากำลังหลอกทุกคน และจะหันหลังให้
ซัมบงถ้าไม่มีทางเลือก บังวอนที่ยังไม่รู้ถึงเจตนาซ่อนเร้นของชองมงจู บอกกับดากยองว่าผู้ที่จะมีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรใหม่
คือตระกูลชอง (ชองมงจู, ชองโดจอน)