สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ



แนะนำอย่างน่ารัก แต่เนื้อหาที่จะมาบอกเล่าให้สังคมรับรู้ต่อไปนี้ ค่อนข้างเครียดดค่ะเศร้า




เราอาศัยอยู่ในชุมชน ต.ท่าทราย หมู่ 2 อ.เมือง จ.สมุทรสาคร อยู่ด้านหลังนิคมอุตสาหกรรม ซอยนิคมอุตสาหกรรม 15 เนื่องจากเป็นชุมชนใกล้นิคมอุตสาหกรรม ก็จะมีหอพักนับสิบเรียงรายสลับปะปนกับบ้านชาวบ้านท้องถิ่น ส่วนใหญ่จะมีแต่หอพัก มีแต่คนที่ทำงานในโรงงานเป็นหมื่นๆคนอาศัยที่นี่ น่าจะเป็นเขตที่อยู่อาศัย เมื่อไม่นานมานี้ ใกล้ๆบริเวณที่เราพักมีร้านอาหารชื่อ "ร้านต้มยำตำทะเล" มาเปิดบริการขายทั้งอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเล่นดนตรีสด ร้องคาราโอเกะ ลูกค้าที่มาไม่เยอะมาก แล้วแต่บางวันมี 5-6 คน บางวัน 10 คน บางวันจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ แต่แค่มีลูกค้าเครื่องขยายเสียงถูกเปิดเสียงก็ดังแล้ว
ปัญหาคือ ร้านนี้เป็นร้านเปิดโล่ง ไร้กำแพงกั้นเสียง ดังนั้นยามวิกาลซึ่งปกติแล้วจะเป็นเวลาเงียบสงบ ก็จะมีเสียงดนตรี คนโหวกเหวก โห่ร้อง ร้องเพลงดังระงม ยามวิกาลเสียงมันจะชัดเจนมากแม้เราจะปิดประตูห้องพัก ซึ่งบางทีอากาศร้อนๆก็อยากนอนเปิดประตูบ้าง หรืออยากระบายอากาศบ้าง แต่การเปิดประตูคือการต้องยอมรับเสียงอันไม่พึงประสงค์เข้ามาในห้องนอนอย่างชัดแจ๋วซึ่งมันดังมาก ขนาดปิดประตูแล้วยังฟังชัด ทำงานมาเหนื่อยๆ ต้องการพักผ่อนก็ทำไม่ได้ เสียงมันดังมากจริงๆ ตื้อสมองเลย ร้านอาหารร้านนี้มีเวลาเปิดปิดไม่แน่นอน วันไหนมีเล่นดนตรีสด ทำเอาคนระแวกนั้นฝันร้ายมากๆ นอนไม่ได้จนกว่าร้านจะปิด ซึ่งบอกเวลาไม่ได้ !!! ตึก ตึก ตึกๆๆๆๆๆๆ เสียงคนกรี๊ด โห่ร้องระงม เสียงตึกๆๆๆ จนกว่าร้านจะปิด
ที่ผ่านมาทราบว่ามีคนโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ ผลคือ ตำรวจแค่มาจับลูกค้าที่มาใช้บริการในร้าน และยิ่งไปกว่านั้น ตำรวจกลับเอาเบอร์ที่คนโทรไปแจ้งไปให้เจ้าของร้านโทรมาข่มขู่คนที่แจ้ง และมีกระทั่งตำรวจเอาเบอร์มาตามหาตัวตนของคนที่แจ้งอ้างว่า”จะมาเคลียร์เป็นคนๆไป” ได้ยินว่ามีคนแจ้งไปที่ศูนย์ดำรงธรรม ทางศูนย์ยังคงติดตามการแก้ปัญหา จนทางร้านเคยได้มีการเรียกที่ผู้ที่อาศัยอยู่โดยรอบร้านซึ่งห่างจากตัวร้านไม่ถึง 100 เมตรนับพันคนเพราะเป็นอพาร์ทเม้นท์ เพื่อมาปรับความเข้าใจ เรื่องนี้ทราบมาจากเจ้าของอพาร์ทเม้นต์ที่เราอาศัยอยู่ ตอนเราเข้าไปแจ้งเรื่องร้านนี้เสียงดัง เราเหนื่อย แต่เราพักผ่อนไม่ได้เลย ทางเจ้าของก็แจ้งมาว่าได้เคยพยายามร้องขอกับทางร้านไปแล้ว มิหนำซ้ำเขาเล่าว่ายังได้รับการเชิญจากคนที่ร้านนั้น อ้างตัวว่าเป็นตำรวจให้ไปพูดคุยเจรจา หรือเขาใช้คำว่า "เคลียร์" กลายเป็นว่าพอไปถึงกลับมีแต่เจ้าของอพารทเม้นต์กับลูกแค่ 2 คน นั่งท่ามกลางหนุ่มฉกรรจ์ 5-6 คน(เหมือนโดนหลอกไป) ซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นตำรวจ เป็นเจ้าหน้าที่ศาล เจ้าหน้าที่ทหารศูนย์ดำรงธรรม คนไปคุยเล่าว่า เขาทั้งหมดอ้างตัวว่าได้ร่วมหุ้นการเปิดร้านเพื่อเป็นร้านนั่งกินกันเป็น "ครอบครัว" เอาไว้สังสรรค์เพราะอยากมีร้านนั่งกินสังสรรค์กันในพวกพ้อง แต่ไม่มีเงินกั้นกำแพงให้มิดชิดเป็นห้องร้องเพลง ขอเปิดร้านโดยจะหันลำโพงไปฝั่งด้านอื่นเพื่อลดเสียง และไม่อยากมีปัญหา มาขอเป็นเพื่อน ขอทำมาหากิน โดย "ตำรวจ"ให้ข้อเสนอว่า "หากใครโดนใบสั่งเอามาให้ที่ร้านเลยเดี๋ยวเคลียร์ให้" คนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลก็อ้างว่า "ประเทศไทยไม่มีกฎหมายห้ามใช้เสียง ต้องทำห้องกั้นเสียง มันเสียหายมากไหมกับผลกระทบนี้" ( พรบ สาธารณสุข คงไม่เคยอ่าน) คนที่เป็นทหารก็อ้างว่านั่งทำงานที่ศูนย์ดำรงธรรม บอกรู้หมดใครเคลื่อนไหวยังไง ใครแจ้ง (ขู่ๆกันเข้าไป) อืมมมม หวาดหวั่นแทนคนที่ไปคุยกับกลุ่มคนพวกนี้เลย เจอแบบนี้ ทั้งพยายามจะติดสินบน ทั้งขู่อยู่กลายๆ เฮ้ออออออ นับตั้งแต่วันนั้นมันยังคงเหมือนเดิม นี่กลางเดือน กพ จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่กลางชุมชนด้วย ไม่สนใจคนเดือดร้อน แถมไม่ได้แก้ปัญหาอย่างที่พูด โดยรอบร้านมีหอพักอยู่หลายหอพัก มีแต่คนเอือมระอา แต่ไม่กล้าพูด
ฝั่งอบต.ท่าทราย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 เพิกเฉย ไม่มีใครจัดการอะไรเลย เราต้องทนกับมลพิษทางเสียง คำว่า สุขภาพจิตที่เสียไป มันวัดกันด้วยเหรอ คนเราทำอะไรไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม ละเมิดสิทธิของคนอื่นหรือไม่ โดยเฉพาะทั้งหมดคือ คนที่อ้างว่าตัวเองเป็น "ข้าราชการ" ประชาชนต้องกลัว ข้าราชการมีอำนาจมีตำแหน่งหน้าที่เลยทำอะไรก็ได้ เดือดร้อนก็เป็นเรื่องของคนอื่น ข้าราชการก่อความเดือดร้อน เป็นหน้าที่ของประชาชนอดทนต้องยอมรับให้ได้... (ที่จริง เราก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาเป็นข้าราชการตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ หรือต้องการแค่จะพูดขู่ให้กลัว) ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน ยังมีบ่อนไฮโล ที่ตอนนี้ว่ากันว่ากลายเป็นโต๊ะพนันบอล ในที่โล่งแจ้ง เปิดทั้งกลางวันกลางคืน กลางชุมชนห่างจากโรงเรียนเด็กเล็กและชั้นประถมไม่เกิน 200 เมตร ขนาดมองจากกูเกิ้ลเอิร์ธยังมองเห็น แต่ตำรวจไทยทำไมมองไม่เห็น ? ทหารก็รู้เห็น? ...หมดที่พึ่ง อยากร้องกับท่านนายกโดยตรง แต่ก็ยากที่จะเข้าถึง แถมหน่วยงานที่เราคิดว่าน่าจะช่วยเป็นหูเป็นตากลับกลายเป็นปัญหาซะเอง เรารู้สึกหมดที่พึ่ง... เครียดกับกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัว ท่านนายกช่วยด้วย!!
เราควรทำยังไงดี?
จริงๆแล้วเราอยากอาศัยสังคมแห่งการเรียนรู้นี้ ช่วยตีแผ่เรื่องแย่ๆในสังคมที่ไม่ว่าใครก็อาจจะต้องพบเจอ



เรามีคลิป พร้อมรูปร้าน มาด้วย

[/youtube]
เมื่อตำรวจทหารก่อความเดือดร้อนให้ประชาชนและข่มขู่ประชาชนผู้ร้องเรียน ไหนคืนความสุขให้ประชาชน ?
เราอาศัยอยู่ในชุมชน ต.ท่าทราย หมู่ 2 อ.เมือง จ.สมุทรสาคร อยู่ด้านหลังนิคมอุตสาหกรรม ซอยนิคมอุตสาหกรรม 15 เนื่องจากเป็นชุมชนใกล้นิคมอุตสาหกรรม ก็จะมีหอพักนับสิบเรียงรายสลับปะปนกับบ้านชาวบ้านท้องถิ่น ส่วนใหญ่จะมีแต่หอพัก มีแต่คนที่ทำงานในโรงงานเป็นหมื่นๆคนอาศัยที่นี่ น่าจะเป็นเขตที่อยู่อาศัย เมื่อไม่นานมานี้ ใกล้ๆบริเวณที่เราพักมีร้านอาหารชื่อ "ร้านต้มยำตำทะเล" มาเปิดบริการขายทั้งอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเล่นดนตรีสด ร้องคาราโอเกะ ลูกค้าที่มาไม่เยอะมาก แล้วแต่บางวันมี 5-6 คน บางวัน 10 คน บางวันจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ แต่แค่มีลูกค้าเครื่องขยายเสียงถูกเปิดเสียงก็ดังแล้ว
ปัญหาคือ ร้านนี้เป็นร้านเปิดโล่ง ไร้กำแพงกั้นเสียง ดังนั้นยามวิกาลซึ่งปกติแล้วจะเป็นเวลาเงียบสงบ ก็จะมีเสียงดนตรี คนโหวกเหวก โห่ร้อง ร้องเพลงดังระงม ยามวิกาลเสียงมันจะชัดเจนมากแม้เราจะปิดประตูห้องพัก ซึ่งบางทีอากาศร้อนๆก็อยากนอนเปิดประตูบ้าง หรืออยากระบายอากาศบ้าง แต่การเปิดประตูคือการต้องยอมรับเสียงอันไม่พึงประสงค์เข้ามาในห้องนอนอย่างชัดแจ๋วซึ่งมันดังมาก ขนาดปิดประตูแล้วยังฟังชัด ทำงานมาเหนื่อยๆ ต้องการพักผ่อนก็ทำไม่ได้ เสียงมันดังมากจริงๆ ตื้อสมองเลย ร้านอาหารร้านนี้มีเวลาเปิดปิดไม่แน่นอน วันไหนมีเล่นดนตรีสด ทำเอาคนระแวกนั้นฝันร้ายมากๆ นอนไม่ได้จนกว่าร้านจะปิด ซึ่งบอกเวลาไม่ได้ !!! ตึก ตึก ตึกๆๆๆๆๆๆ เสียงคนกรี๊ด โห่ร้องระงม เสียงตึกๆๆๆ จนกว่าร้านจะปิด
ที่ผ่านมาทราบว่ามีคนโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ ผลคือ ตำรวจแค่มาจับลูกค้าที่มาใช้บริการในร้าน และยิ่งไปกว่านั้น ตำรวจกลับเอาเบอร์ที่คนโทรไปแจ้งไปให้เจ้าของร้านโทรมาข่มขู่คนที่แจ้ง และมีกระทั่งตำรวจเอาเบอร์มาตามหาตัวตนของคนที่แจ้งอ้างว่า”จะมาเคลียร์เป็นคนๆไป” ได้ยินว่ามีคนแจ้งไปที่ศูนย์ดำรงธรรม ทางศูนย์ยังคงติดตามการแก้ปัญหา จนทางร้านเคยได้มีการเรียกที่ผู้ที่อาศัยอยู่โดยรอบร้านซึ่งห่างจากตัวร้านไม่ถึง 100 เมตรนับพันคนเพราะเป็นอพาร์ทเม้นท์ เพื่อมาปรับความเข้าใจ เรื่องนี้ทราบมาจากเจ้าของอพาร์ทเม้นต์ที่เราอาศัยอยู่ ตอนเราเข้าไปแจ้งเรื่องร้านนี้เสียงดัง เราเหนื่อย แต่เราพักผ่อนไม่ได้เลย ทางเจ้าของก็แจ้งมาว่าได้เคยพยายามร้องขอกับทางร้านไปแล้ว มิหนำซ้ำเขาเล่าว่ายังได้รับการเชิญจากคนที่ร้านนั้น อ้างตัวว่าเป็นตำรวจให้ไปพูดคุยเจรจา หรือเขาใช้คำว่า "เคลียร์" กลายเป็นว่าพอไปถึงกลับมีแต่เจ้าของอพารทเม้นต์กับลูกแค่ 2 คน นั่งท่ามกลางหนุ่มฉกรรจ์ 5-6 คน(เหมือนโดนหลอกไป) ซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นตำรวจ เป็นเจ้าหน้าที่ศาล เจ้าหน้าที่ทหารศูนย์ดำรงธรรม คนไปคุยเล่าว่า เขาทั้งหมดอ้างตัวว่าได้ร่วมหุ้นการเปิดร้านเพื่อเป็นร้านนั่งกินกันเป็น "ครอบครัว" เอาไว้สังสรรค์เพราะอยากมีร้านนั่งกินสังสรรค์กันในพวกพ้อง แต่ไม่มีเงินกั้นกำแพงให้มิดชิดเป็นห้องร้องเพลง ขอเปิดร้านโดยจะหันลำโพงไปฝั่งด้านอื่นเพื่อลดเสียง และไม่อยากมีปัญหา มาขอเป็นเพื่อน ขอทำมาหากิน โดย "ตำรวจ"ให้ข้อเสนอว่า "หากใครโดนใบสั่งเอามาให้ที่ร้านเลยเดี๋ยวเคลียร์ให้" คนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลก็อ้างว่า "ประเทศไทยไม่มีกฎหมายห้ามใช้เสียง ต้องทำห้องกั้นเสียง มันเสียหายมากไหมกับผลกระทบนี้" ( พรบ สาธารณสุข คงไม่เคยอ่าน) คนที่เป็นทหารก็อ้างว่านั่งทำงานที่ศูนย์ดำรงธรรม บอกรู้หมดใครเคลื่อนไหวยังไง ใครแจ้ง (ขู่ๆกันเข้าไป) อืมมมม หวาดหวั่นแทนคนที่ไปคุยกับกลุ่มคนพวกนี้เลย เจอแบบนี้ ทั้งพยายามจะติดสินบน ทั้งขู่อยู่กลายๆ เฮ้ออออออ นับตั้งแต่วันนั้นมันยังคงเหมือนเดิม นี่กลางเดือน กพ จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่กลางชุมชนด้วย ไม่สนใจคนเดือดร้อน แถมไม่ได้แก้ปัญหาอย่างที่พูด โดยรอบร้านมีหอพักอยู่หลายหอพัก มีแต่คนเอือมระอา แต่ไม่กล้าพูด
ฝั่งอบต.ท่าทราย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 เพิกเฉย ไม่มีใครจัดการอะไรเลย เราต้องทนกับมลพิษทางเสียง คำว่า สุขภาพจิตที่เสียไป มันวัดกันด้วยเหรอ คนเราทำอะไรไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม ละเมิดสิทธิของคนอื่นหรือไม่ โดยเฉพาะทั้งหมดคือ คนที่อ้างว่าตัวเองเป็น "ข้าราชการ" ประชาชนต้องกลัว ข้าราชการมีอำนาจมีตำแหน่งหน้าที่เลยทำอะไรก็ได้ เดือดร้อนก็เป็นเรื่องของคนอื่น ข้าราชการก่อความเดือดร้อน เป็นหน้าที่ของประชาชนอดทนต้องยอมรับให้ได้... (ที่จริง เราก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาเป็นข้าราชการตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ หรือต้องการแค่จะพูดขู่ให้กลัว) ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน ยังมีบ่อนไฮโล ที่ตอนนี้ว่ากันว่ากลายเป็นโต๊ะพนันบอล ในที่โล่งแจ้ง เปิดทั้งกลางวันกลางคืน กลางชุมชนห่างจากโรงเรียนเด็กเล็กและชั้นประถมไม่เกิน 200 เมตร ขนาดมองจากกูเกิ้ลเอิร์ธยังมองเห็น แต่ตำรวจไทยทำไมมองไม่เห็น ? ทหารก็รู้เห็น? ...หมดที่พึ่ง อยากร้องกับท่านนายกโดยตรง แต่ก็ยากที่จะเข้าถึง แถมหน่วยงานที่เราคิดว่าน่าจะช่วยเป็นหูเป็นตากลับกลายเป็นปัญหาซะเอง เรารู้สึกหมดที่พึ่ง... เครียดกับกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัว ท่านนายกช่วยด้วย!!
เราควรทำยังไงดี?
จริงๆแล้วเราอยากอาศัยสังคมแห่งการเรียนรู้นี้ ช่วยตีแผ่เรื่องแย่ๆในสังคมที่ไม่ว่าใครก็อาจจะต้องพบเจอ
เรามีคลิป พร้อมรูปร้าน มาด้วย