สำหรับ Day1 - Day 5 สามารถติดตามได้จาก [CR]เที่ยวญี่ปุ่นแบบ slow life กินทุกอย่างที่อยากกินแช่ออนเซนช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแถบคันโต(Kawaguchiko,Gunma,Nikko,Tokyo) - Part1 ค่ะ
http://pantip.com/topic/34692613
Day 6 : ยังอยู่กันที่ NIKKO วันนี้เป็นวันที่2ค่ะแต่ละเมืองที่ไปจะพักอย่างละ2คืน จะได้เที่ยวเต็มที่ในแต่ละเมืองค่ะ
วันนี้ Plan เที่ยวที่อยากไปใน NIKKO มีเยอะมาก เลือกมาเฉพาะที่อยากไปจริงๆมา 2-3 ที่ค่ะเอาแบบชิวๆไม่ต้องรีบ
ข้อมูลที่เที่ยว NIKKO หาจากลิงค์นี้
http://www.japan-guide.com/e/e3800.html ไปเกือบทุกที่ที่เว็บแนะนำเลยค่ะ
NIKKO is NIPPON หรือแปลเป็นไทยว่า “เมืองนิกโก้ คือ ประเทศญี่ปุ่น” เมืองนิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองมรดกโลก ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะค่ะ
เลือกมาประมาณ 4 ที่ เที่ยวมรดกโลก / เที่ยวน้ำตกเคกอน / น้ำตก ริวสึ / ทะเลสาบชูเซนจิ
ตื่นแต่เช้าตรู่ เดินจากที่พักไป เที่ยวมรดกโลกเริ่มที่ Rinnoji Temple ก่อนเลยค่ะ ยังปิดปรับปรุงอยู่แต่เดินขึ้นไปสักการะขอพรกันได้ปรกติค่ะ
เดินเล่นไปรอบๆ อากาศเย็นสบายในช่วงใบไม้ร่วง ต้นไม่ริมทางต้นใหญ่มากดูขลังกันทุกต้นเลย ทางเดินเล่นก่อนเข้าไปใน
จากนั้นเราก็ไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าไป Toshogu Shrine ราคาผู้ใหญ่ 1,300 เยน, เด็ก 450 เยน (ศาลเจ้า + รูปปั้นแมวหลับ + สุสานโชกุนอิเอะยาสุ)
ความหมายของภาพแกะสลักแมวนอนหลับก็คือ เมื่อมีนกกระจอกอยู่ใกล้ๆ หากแมวตื่นนกกระจอกจะถูกกิน แต่หากแมวหลับอยู่ นกกระจอกก็จะปลอดภัย นั่นคือ สื่อความหมายเป็นนัยว่า ประเทศญี่ปุ่นพ้นช่วงของเภทภัยแล้วและกำลังอยู่ในความสงบสุขค่ะ (credit by
https://www.gotoknow.org/posts/231890)
หลังจากเดินชมและเที่ยวดูวัฒนธรรมในมรดกโลกเสร็จ เราก็ไปเที่ยว กระเช้ากันต่อค่ะ เนื่องจากเรามีซื้อตั๋วรถบัสไว้ตั้งแต่เมื่อวานก็เอามาใช้ได้เลยค่ะ
>> กระเช้าไปอะเคจิ-ไดระ
ถ้าอากาศไม่ดีก็จะขึ้นกระเช้าไม่สนุก จากกระเช้าคุณจะได้เห็นถนนที่คุณใช้เดินทางขึ้นมา -- นั่นคืออิโรฮะ-ซากะ (ทางขึ้นลงเขาที่มีโค้งหักศอก 48 โค้ง) ทางด้านขวามือ คุณยังสามารถเห็นภูเขาจำนวนมากที่ซ้อนพาดกันอยู่ในระยะไกล ๆ ที่ป่าด้านล่างคุณจะเห็นแม่น้ำไหลผ่านแมกไม้ นั่นคือแม่น้ำไดยะ หลังเดินทางสั้น ๆ เป็นเวลา 3 นาทีก็จะมาถึงบริเวณชมวิว เป็นลานกว้างที่มีทิวทัศน์ 360 องศา กระเช้าให้บริการตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น ตลอดปียกเว้นวันที่ 1 - 15 มีนาคม ค่ากระเช้าเที่ยวเดียวราคา 390 เยน (เด็ก 190 เย็น) ถ้าแบบไปกลับราคา 710 เยน (เด็ก 360 เยน) Credit by
http://en.japantravel.com/tochigi/nikko-s-akechi-daira-ropeway/1520
วิว จากบนกระเช้าค่ะ ภูเขาหญ้าแห้งหมดแล้วขั้นไปดูวิวคะ เห็นน้ำตกลิบๆเลยน้ำค่อนข้างน้อย
หลังจากดูวิวซักพัก เราก็ลงจากกระเช้ากันเตรียม ไปรอรถบัสค่ะเพื่อไป น้ำตกเคกอน กับทะเลสาบชูเซนจิ นั่งรถบัสไปอีก 15-20 นาทีก็ถึงทะเลสาบชูเซนจิ
วันนี้ฟ้าปิดค่ะ อึมครึมๆ มีฝนปรอยๆนิดหน่อยค่ะ
จากทะเลสาบ หันหลังให้ทะเลสาบเดินขึ้นมาทางขวามือ จะเจอป้ายน่ำตกเคกอน ค่ะ เดินไปได้ช่วงที่ไปน้ำค่อนข้างน้อยค่ะ
เดินไปเดินมา ทั้งวันหลังจากเที่ยวน้ำตกเสร็จเริ่มหิวกันและค่ะ มื้อเย็นนี่เข้า Lawson ซื้อข้าวกล่อง มะเขือเทศสด โอเด้งมากินกันที่พัก
เป็นอันจบวันที่ 6 ค่ะ แอบเหนื่อยเหมือนกันค่ะวันนี้ 555 ไปหลายที่เลย (^_^)
[CR] เที่ยวญี่ปุ่นแบบ slow life กินทุกอย่างที่อยากกินแช่ออนเซนช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแถบคันโต (Part 2 )
http://pantip.com/topic/34692613
Day 6 : ยังอยู่กันที่ NIKKO วันนี้เป็นวันที่2ค่ะแต่ละเมืองที่ไปจะพักอย่างละ2คืน จะได้เที่ยวเต็มที่ในแต่ละเมืองค่ะ
วันนี้ Plan เที่ยวที่อยากไปใน NIKKO มีเยอะมาก เลือกมาเฉพาะที่อยากไปจริงๆมา 2-3 ที่ค่ะเอาแบบชิวๆไม่ต้องรีบ
ข้อมูลที่เที่ยว NIKKO หาจากลิงค์นี้ http://www.japan-guide.com/e/e3800.html ไปเกือบทุกที่ที่เว็บแนะนำเลยค่ะ
NIKKO is NIPPON หรือแปลเป็นไทยว่า “เมืองนิกโก้ คือ ประเทศญี่ปุ่น” เมืองนิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองมรดกโลก ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะค่ะ
เลือกมาประมาณ 4 ที่ เที่ยวมรดกโลก / เที่ยวน้ำตกเคกอน / น้ำตก ริวสึ / ทะเลสาบชูเซนจิ
ตื่นแต่เช้าตรู่ เดินจากที่พักไป เที่ยวมรดกโลกเริ่มที่ Rinnoji Temple ก่อนเลยค่ะ ยังปิดปรับปรุงอยู่แต่เดินขึ้นไปสักการะขอพรกันได้ปรกติค่ะ
เดินเล่นไปรอบๆ อากาศเย็นสบายในช่วงใบไม้ร่วง ต้นไม่ริมทางต้นใหญ่มากดูขลังกันทุกต้นเลย ทางเดินเล่นก่อนเข้าไปใน
จากนั้นเราก็ไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าไป Toshogu Shrine ราคาผู้ใหญ่ 1,300 เยน, เด็ก 450 เยน (ศาลเจ้า + รูปปั้นแมวหลับ + สุสานโชกุนอิเอะยาสุ)
ความหมายของภาพแกะสลักแมวนอนหลับก็คือ เมื่อมีนกกระจอกอยู่ใกล้ๆ หากแมวตื่นนกกระจอกจะถูกกิน แต่หากแมวหลับอยู่ นกกระจอกก็จะปลอดภัย นั่นคือ สื่อความหมายเป็นนัยว่า ประเทศญี่ปุ่นพ้นช่วงของเภทภัยแล้วและกำลังอยู่ในความสงบสุขค่ะ (credit by https://www.gotoknow.org/posts/231890)
หลังจากเดินชมและเที่ยวดูวัฒนธรรมในมรดกโลกเสร็จ เราก็ไปเที่ยว กระเช้ากันต่อค่ะ เนื่องจากเรามีซื้อตั๋วรถบัสไว้ตั้งแต่เมื่อวานก็เอามาใช้ได้เลยค่ะ
>> กระเช้าไปอะเคจิ-ไดระ
ถ้าอากาศไม่ดีก็จะขึ้นกระเช้าไม่สนุก จากกระเช้าคุณจะได้เห็นถนนที่คุณใช้เดินทางขึ้นมา -- นั่นคืออิโรฮะ-ซากะ (ทางขึ้นลงเขาที่มีโค้งหักศอก 48 โค้ง) ทางด้านขวามือ คุณยังสามารถเห็นภูเขาจำนวนมากที่ซ้อนพาดกันอยู่ในระยะไกล ๆ ที่ป่าด้านล่างคุณจะเห็นแม่น้ำไหลผ่านแมกไม้ นั่นคือแม่น้ำไดยะ หลังเดินทางสั้น ๆ เป็นเวลา 3 นาทีก็จะมาถึงบริเวณชมวิว เป็นลานกว้างที่มีทิวทัศน์ 360 องศา กระเช้าให้บริการตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น ตลอดปียกเว้นวันที่ 1 - 15 มีนาคม ค่ากระเช้าเที่ยวเดียวราคา 390 เยน (เด็ก 190 เย็น) ถ้าแบบไปกลับราคา 710 เยน (เด็ก 360 เยน) Credit by http://en.japantravel.com/tochigi/nikko-s-akechi-daira-ropeway/1520
วิว จากบนกระเช้าค่ะ ภูเขาหญ้าแห้งหมดแล้วขั้นไปดูวิวคะ เห็นน้ำตกลิบๆเลยน้ำค่อนข้างน้อย
หลังจากดูวิวซักพัก เราก็ลงจากกระเช้ากันเตรียม ไปรอรถบัสค่ะเพื่อไป น้ำตกเคกอน กับทะเลสาบชูเซนจิ นั่งรถบัสไปอีก 15-20 นาทีก็ถึงทะเลสาบชูเซนจิ
วันนี้ฟ้าปิดค่ะ อึมครึมๆ มีฝนปรอยๆนิดหน่อยค่ะ
จากทะเลสาบ หันหลังให้ทะเลสาบเดินขึ้นมาทางขวามือ จะเจอป้ายน่ำตกเคกอน ค่ะ เดินไปได้ช่วงที่ไปน้ำค่อนข้างน้อยค่ะ
เดินไปเดินมา ทั้งวันหลังจากเที่ยวน้ำตกเสร็จเริ่มหิวกันและค่ะ มื้อเย็นนี่เข้า Lawson ซื้อข้าวกล่อง มะเขือเทศสด โอเด้งมากินกันที่พัก
เป็นอันจบวันที่ 6 ค่ะ แอบเหนื่อยเหมือนกันค่ะวันนี้ 555 ไปหลายที่เลย (^_^)