สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน นี่คือกระทู้แรกของเราหลังจากสมัครเปนสมาชิกเมื่อวานค่ะ
อาจจะยาวหน่อย รบกวนเพื่อนๆช่วยแนะนำด้วยนะคะ เพราะนี่คือสิ่งที่อยุ่ในใจเรามาตลอดระยะเวลา 2ปี(ตั้งแต่มีลูกค่ะ)
เริ่มต้นขอเล่าประวัติคร่าวๆของเราก่อนนะ คือเราทำงานเป็นวิศวกรในบริษัทเอกชนหรือวิศกรโรงงานนั่นล่ะ เปลี่ยนบริษัทมา3ครั้งเพื่อัพฐานเงินเดือน
อย่างที่รู้ๆกันนั่นละเนอะ(หรือจะเรียกอีกอย่างเหมือนตอนเค้าสัมพาษงานก้คือหาประสบการณ์เพิ่มเติมนั่นเอง เราทำงานที่สุดท้ายเปนโรงงานของฝรั่ง
หน้าที่การงานเราค่อนข้างเจริญเติบโตก้าวหน้าดีมาก เรียกว่าแบบก้าวกระโดดเลยก้ได้ เพราะฝรั่งเค้าดูที่ผลงานจริงๆไม่เกี่ยวกับอายุงานเลย
เราทำงานแฮปปี้มาก ทำงานสนุก มีความสุขกับเพื่อนร่วมงาน เปนที่รักของหัวหน้างาน และยังได้ไปเทรนนิ่งที่ต่างประเทศบ่อยๆอักด้วย เรียกว่าช่วงที่
ทำงานนี่เปนช่วงชีวิตที่ดีจริงๆ เงินเดือนวิศวกรอย่างเราตกเดือนนึงก้50k ผ่อนบ้านผ่อนรถ เที่ยวกิน แถมมีเก็บอีกด้วยนะ
จนวันนึง เราต้องลาออกมาช่วยงานที่บ้านและตั้งใจด้วยว่าจะมีลูกสักที เพราะกัวท้องตอนอายุมากแล้วลูกจะออกมาเอ๋อ พอออกมาได้สักพักก้คุยกับสามี
เริ่มขบวนการผลิตลูก เปิดปุ๊บก้ติดปั๊บ ที่บ้านดีใจกันมากเพราะถือเปนหลานคนแรกของทั้งทางฝั่งเราและฝั่งสามีเลย
หลังจากคลอดลูกสาวคนแรก ก้เปนไปตามคาดคือลูกเปนแก้วตาดวงใจของทั้งสองครอบครัวเลยจริงๆ แม่คอยช่วยเราเลี้ยงลูก แม่เปนต้นแบบในการที่เลี้ยงลูกดีมาก ใจเย็นมีสติ ปรานีตอ่อนโยน ให้ข้อคิดเราดีๆหลายอย่างเลย รู้เลยว่าคนๆนึงจะเป็นแม่คนที่ดีได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย (อ้อ ลืมบอกไปว่า สามีเราก้เปนวิศกรเหมือนกัน ทำอยู่โรงงานเดียวกันนั่นล่ะเค้าจะกลับมาหาเรากับลูกๆทุก2อาทิตย์ เพราะขับรถไกลมากใช้เวลาประมาณ8ชม. ถ้าจะกลับทุกอาทิตย์ก้ดูจะเหนื่อยเกินไป) กับสามีพอมาทีก้ช่วยเราเลี้ยงลูกดูแลลูกทุกอย่างเท่าที่เค้าจะทำได้ เพราะมีเวลาแค่2วัน พอวันอาทิตย์ค่ำก้ตีรถกลับเพื่อจะได้ทันทำงานเช้าวันจันทร์พอดี เปนอย่างนี้อยุ่8 เดือน เราก้ทัองลูกคนที่2 คนนี้เปนผู้ชายค่ะ^^ หนักเอาการทีเดียวมีลูกหัวปีท้ายปี เหนื่อยมากแต่มีความสุข ได้เห็นพัฒนาการของลูกในแต่ละวันมันเปนเรื่องที่ตื่นเต้นมาก ซึ่งตรงนี้สามีก้บอกเราว่าดีจังนะได้อยุ่กับลูกได้กอดลูกทุกวันเลย(มีแอบน้อยใจลูกนิดๆด้วยค่ะ5555)
มาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะสงสัยว่าไหนละปัญหา อ่านดูแล้วก้เหมือนจะมีความสุขทุกอย่างนี่ งั้นเอาเปนว่าเข้าเรื่องเลยละกันนะคะ
คือระหว่างที่เราท้องจนคลอด เราคิดมาตลอดว่าเราจะเลี้ยงลูกจนครบ3ขวบแล้วจะกลับมาทำงาน เพราะเราอยากมีความสุขทั้งในส่วนของตัวเราเองและครอบครัว ส่วนตัวเราคือ ทำงานแล้วเรามีความสุข สุขจากการที่เห็นงานสำเร็จ สุขจากการมีคนชื่นชมผลงาน สุขจากการทีเพื่อนมีสังคม มีเวลาพักผ่อนบ้างในเวลางาน แม้จะช่วงสั้นๆก้เถอะ ซึ่งเราว่าคนที่เปนแม่เต้มเวลาอย่างเราจะรุ้เรยว่าการเลี้ยงลูกอยุ่บ้านนั้นมันทั้งสุข ทั้งเหนื่อย ทั้งเหงามากๆเลยทีเดียว. หาเวลาพักก้แทบจะไม่ได้เลย อยากออกไปนั่งชิลๆร้านกาแฟ หรือกินอาหารป้ิงย่างอร่อยๆนี่ไม่ต้องพูดถึง คงต้องรอลูกโตก่อนล่ะนะ55555
เราเคยบอกสามีและครอบครัวเรื่องอยากกลับไปทำงานหลายครั้ง ทุกคนก้ขอให้คิดดีๆไม่เชิงห้ามแต่ก้ไม่อยากให้ไป เพราะถ้าไปก้ต้องห่างลูกอีก ส่วนเรื่องเงินปกติสามีก้ให้เราใช้ยุ่เดือนละ40000 บวกกับเงินกงสีของที่บ้านอีก ตกเดือนนึงรวมเรากับลูกได้ใช้ประมาน60000บาท เรารู้ว่ามันไมาใช่เงินน้อยๆ มันน่าจะสบาย แต่เราคิดว่าถ้าเราไปทำงานเราก้จะได้เพิ่มอีก ซึ่งส่วนที่ได้เพิ่มแน่นอนว่ามันจะทำให้ลูกของเรามีความมั่นคงเพิ่มขึ้นแน่นอน และรวมถึงตัวเราด้วยล่ะ ซึ่งถ้าวันนึงวันใดข้างหน้าสามีเราไม่ยุ่หรือทิ้งเรากับเราลูก เราก้จะได้ไม่ลำบาก และอีกอย่างที่เราคิดคือลูกเราเลี้ยงได้ พอเค้าโต. เค้าก้ไปมีครอบครัวของเค้า แล้วถ้าเกิดกรณีที่แย่ที่สุดคือเค้าไม่เลี้ยงเราล่ะ เราจะทำไง สู้เราออกทำงานหาเงินเพิ่มและเลี้ยงตัวเราและครอบครัวเพื่อเป็นหลักประกันชีวิตตัวเองแต่เนินๆดีกว่ามั้ย เพราะถ้านานกว่านี้อายุเยอะขึ้น บริษัทที่ไหนเค้าจะรับกลับเข้าทำงานอีกล่ะ.
เราเคยอ่านเจอบทความของหมอคนนึง เค้าเขียนประมาณว่า เค้าโชคดี ที่ได้ทั้งทำงานที่เค้ารักและได้อยุ่กับครอบครัวที่เค้ารักด้วย เราก้อยากเปนยังงั้น เพราะเราตั้งใจว่า ทำงานไปสักพักเราจะซื้อบ้านและเอาลูกไปอยุ่ด้วยรวมถึงพ่อกับแม่ด้วยที่อาจจะไปๆมาๆเพราะท่านยังห่วงบ้านที่ท่านอยู่ตามประสาคนแก่ เราอยากให้ชีวิตเราและครอบครัวมีความสุขมากๆ ไม่รู้เราคิดถูกมั้ย หรือเราเห้นแก่ตัวเกินไป เราควรจะอยู่เลี้ยงลูกที่บ้านและดูแลพ่อแม่ต่อไปดีเพราะท่านก้แก่มากแล้ว การที่จะให้ท่านย้ายจากสถานที่คุ้นเคยบ้านที่ท่านรักก้เปนเรื่องที่ยากอยุ่ อันนี้เข้าใจส่วนเรื่องจะให้เอาหลานๆท่านไปเลี้ยงท่านก้คงจะให้ล่ะค่ะ แต่ในใจท่านนะสิ คงแย่มากแน่ๆที่ต้องยุ่กัน2คนตายาย........ไม่รู้จิงๆค่ะจะต้องทำยังไงสับสนมากมายจิงๆT_T
งานคือเงินเงินบันดาลสุขหรือครอบครัว???
อาจจะยาวหน่อย รบกวนเพื่อนๆช่วยแนะนำด้วยนะคะ เพราะนี่คือสิ่งที่อยุ่ในใจเรามาตลอดระยะเวลา 2ปี(ตั้งแต่มีลูกค่ะ)
เริ่มต้นขอเล่าประวัติคร่าวๆของเราก่อนนะ คือเราทำงานเป็นวิศวกรในบริษัทเอกชนหรือวิศกรโรงงานนั่นล่ะ เปลี่ยนบริษัทมา3ครั้งเพื่อัพฐานเงินเดือน
อย่างที่รู้ๆกันนั่นละเนอะ(หรือจะเรียกอีกอย่างเหมือนตอนเค้าสัมพาษงานก้คือหาประสบการณ์เพิ่มเติมนั่นเอง เราทำงานที่สุดท้ายเปนโรงงานของฝรั่ง
หน้าที่การงานเราค่อนข้างเจริญเติบโตก้าวหน้าดีมาก เรียกว่าแบบก้าวกระโดดเลยก้ได้ เพราะฝรั่งเค้าดูที่ผลงานจริงๆไม่เกี่ยวกับอายุงานเลย
เราทำงานแฮปปี้มาก ทำงานสนุก มีความสุขกับเพื่อนร่วมงาน เปนที่รักของหัวหน้างาน และยังได้ไปเทรนนิ่งที่ต่างประเทศบ่อยๆอักด้วย เรียกว่าช่วงที่
ทำงานนี่เปนช่วงชีวิตที่ดีจริงๆ เงินเดือนวิศวกรอย่างเราตกเดือนนึงก้50k ผ่อนบ้านผ่อนรถ เที่ยวกิน แถมมีเก็บอีกด้วยนะ
จนวันนึง เราต้องลาออกมาช่วยงานที่บ้านและตั้งใจด้วยว่าจะมีลูกสักที เพราะกัวท้องตอนอายุมากแล้วลูกจะออกมาเอ๋อ พอออกมาได้สักพักก้คุยกับสามี
เริ่มขบวนการผลิตลูก เปิดปุ๊บก้ติดปั๊บ ที่บ้านดีใจกันมากเพราะถือเปนหลานคนแรกของทั้งทางฝั่งเราและฝั่งสามีเลย
หลังจากคลอดลูกสาวคนแรก ก้เปนไปตามคาดคือลูกเปนแก้วตาดวงใจของทั้งสองครอบครัวเลยจริงๆ แม่คอยช่วยเราเลี้ยงลูก แม่เปนต้นแบบในการที่เลี้ยงลูกดีมาก ใจเย็นมีสติ ปรานีตอ่อนโยน ให้ข้อคิดเราดีๆหลายอย่างเลย รู้เลยว่าคนๆนึงจะเป็นแม่คนที่ดีได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย (อ้อ ลืมบอกไปว่า สามีเราก้เปนวิศกรเหมือนกัน ทำอยู่โรงงานเดียวกันนั่นล่ะเค้าจะกลับมาหาเรากับลูกๆทุก2อาทิตย์ เพราะขับรถไกลมากใช้เวลาประมาณ8ชม. ถ้าจะกลับทุกอาทิตย์ก้ดูจะเหนื่อยเกินไป) กับสามีพอมาทีก้ช่วยเราเลี้ยงลูกดูแลลูกทุกอย่างเท่าที่เค้าจะทำได้ เพราะมีเวลาแค่2วัน พอวันอาทิตย์ค่ำก้ตีรถกลับเพื่อจะได้ทันทำงานเช้าวันจันทร์พอดี เปนอย่างนี้อยุ่8 เดือน เราก้ทัองลูกคนที่2 คนนี้เปนผู้ชายค่ะ^^ หนักเอาการทีเดียวมีลูกหัวปีท้ายปี เหนื่อยมากแต่มีความสุข ได้เห็นพัฒนาการของลูกในแต่ละวันมันเปนเรื่องที่ตื่นเต้นมาก ซึ่งตรงนี้สามีก้บอกเราว่าดีจังนะได้อยุ่กับลูกได้กอดลูกทุกวันเลย(มีแอบน้อยใจลูกนิดๆด้วยค่ะ5555)
มาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะสงสัยว่าไหนละปัญหา อ่านดูแล้วก้เหมือนจะมีความสุขทุกอย่างนี่ งั้นเอาเปนว่าเข้าเรื่องเลยละกันนะคะ
คือระหว่างที่เราท้องจนคลอด เราคิดมาตลอดว่าเราจะเลี้ยงลูกจนครบ3ขวบแล้วจะกลับมาทำงาน เพราะเราอยากมีความสุขทั้งในส่วนของตัวเราเองและครอบครัว ส่วนตัวเราคือ ทำงานแล้วเรามีความสุข สุขจากการที่เห็นงานสำเร็จ สุขจากการมีคนชื่นชมผลงาน สุขจากการทีเพื่อนมีสังคม มีเวลาพักผ่อนบ้างในเวลางาน แม้จะช่วงสั้นๆก้เถอะ ซึ่งเราว่าคนที่เปนแม่เต้มเวลาอย่างเราจะรุ้เรยว่าการเลี้ยงลูกอยุ่บ้านนั้นมันทั้งสุข ทั้งเหนื่อย ทั้งเหงามากๆเลยทีเดียว. หาเวลาพักก้แทบจะไม่ได้เลย อยากออกไปนั่งชิลๆร้านกาแฟ หรือกินอาหารป้ิงย่างอร่อยๆนี่ไม่ต้องพูดถึง คงต้องรอลูกโตก่อนล่ะนะ55555
เราเคยบอกสามีและครอบครัวเรื่องอยากกลับไปทำงานหลายครั้ง ทุกคนก้ขอให้คิดดีๆไม่เชิงห้ามแต่ก้ไม่อยากให้ไป เพราะถ้าไปก้ต้องห่างลูกอีก ส่วนเรื่องเงินปกติสามีก้ให้เราใช้ยุ่เดือนละ40000 บวกกับเงินกงสีของที่บ้านอีก ตกเดือนนึงรวมเรากับลูกได้ใช้ประมาน60000บาท เรารู้ว่ามันไมาใช่เงินน้อยๆ มันน่าจะสบาย แต่เราคิดว่าถ้าเราไปทำงานเราก้จะได้เพิ่มอีก ซึ่งส่วนที่ได้เพิ่มแน่นอนว่ามันจะทำให้ลูกของเรามีความมั่นคงเพิ่มขึ้นแน่นอน และรวมถึงตัวเราด้วยล่ะ ซึ่งถ้าวันนึงวันใดข้างหน้าสามีเราไม่ยุ่หรือทิ้งเรากับเราลูก เราก้จะได้ไม่ลำบาก และอีกอย่างที่เราคิดคือลูกเราเลี้ยงได้ พอเค้าโต. เค้าก้ไปมีครอบครัวของเค้า แล้วถ้าเกิดกรณีที่แย่ที่สุดคือเค้าไม่เลี้ยงเราล่ะ เราจะทำไง สู้เราออกทำงานหาเงินเพิ่มและเลี้ยงตัวเราและครอบครัวเพื่อเป็นหลักประกันชีวิตตัวเองแต่เนินๆดีกว่ามั้ย เพราะถ้านานกว่านี้อายุเยอะขึ้น บริษัทที่ไหนเค้าจะรับกลับเข้าทำงานอีกล่ะ.
เราเคยอ่านเจอบทความของหมอคนนึง เค้าเขียนประมาณว่า เค้าโชคดี ที่ได้ทั้งทำงานที่เค้ารักและได้อยุ่กับครอบครัวที่เค้ารักด้วย เราก้อยากเปนยังงั้น เพราะเราตั้งใจว่า ทำงานไปสักพักเราจะซื้อบ้านและเอาลูกไปอยุ่ด้วยรวมถึงพ่อกับแม่ด้วยที่อาจจะไปๆมาๆเพราะท่านยังห่วงบ้านที่ท่านอยู่ตามประสาคนแก่ เราอยากให้ชีวิตเราและครอบครัวมีความสุขมากๆ ไม่รู้เราคิดถูกมั้ย หรือเราเห้นแก่ตัวเกินไป เราควรจะอยู่เลี้ยงลูกที่บ้านและดูแลพ่อแม่ต่อไปดีเพราะท่านก้แก่มากแล้ว การที่จะให้ท่านย้ายจากสถานที่คุ้นเคยบ้านที่ท่านรักก้เปนเรื่องที่ยากอยุ่ อันนี้เข้าใจส่วนเรื่องจะให้เอาหลานๆท่านไปเลี้ยงท่านก้คงจะให้ล่ะค่ะ แต่ในใจท่านนะสิ คงแย่มากแน่ๆที่ต้องยุ่กัน2คนตายาย........ไม่รู้จิงๆค่ะจะต้องทำยังไงสับสนมากมายจิงๆT_T