3rd time In SEOUL
สวัสดีค่ะ จะมาพูดเรื่อยเปื่อยกับครั้งที่สามใน ‘โซล’
ขอบอกก่อนเลยว่า เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไรนะคะ ไปครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม มีผู้ร่วมทางเป็นน้องอีกคนนึง มาเริ่มกันเลยเนอะ
ข้อมูลที่จำเป็น
สภาพอากาศ – เราไปช่วงวันที่ 24-29 ธันวาคม อากาศค่อนข้างหนาวแต่ยังพอทนได้มากกว่าเดือนมกราคม ( ในความคิดของเรานะคะ ) อากาศต่ำสุดที่ -7,8 องศา แต่ส่วนมากก็ -1,2 ประมาณนี้ เรากับน้องใส่ลองจอน เสื้อหนึ่งตัว เดรสหรือกระโปรงอีกชั้นนึง แล้วก็เสื้อโค้ท ส่วนขานี่ เราซื้อเลกกิ้งที่เกาหลีเลยค่ะ ชั้นเดียวจบ แค่นี้สำหรับเรา ทนได้ค่ะ หนาวแต่ไม่ถึงกับว่าเดินไม่ไหวทั้งวันนะ แมสปิดปากกับถุงมือและผ้าพันคอช่วยชีวิตได้เยอะมาก
การเดินทาง – แนะนำให้ใช้แอพ City rail map รูปรถไฟสีชมพู เจ๋งมากค่ะ บอกทุกอย่าง ตัวอย่างว่าถ้าเราอยู่แถวเมียงดง จะไปอับกูจอง ก็เสิร์ชชื่อสถานีของเราเลยค่ะ ถ้าเราไม่รู้ว่าอะไรใกล้เราที่สุด ก็กดคำว่า current location ก็ได้ แอพก็จะแนะนำว่าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีอะไร จะต้อง transfer ที่สถานีไหน ประมาณนี้ค่ะ ใช้ได้กับซับเวย์นะคะ ส่วนกับรถบัส เราใช้ google map เอา สะดวกดีค่ะ ที่ป้ายรอรถบัสที่นี่เก๋มากอ่ะ มันจะมีป้ายขึ้นว่า รถบัสเบอร์นี้จะมาถึงในอีกกี่นาที ทำให้เราคำนวณเวลาได้สบาย *เวลาหาที่อยู่อะไรสักอย่างไม่เจอ ให้โหลดแอพ Naver map แล้วใส่ที่อยู่ลงเป็นภาษาเกาหลี เพราะคนเกาหลีนิยมใช้ Naver มากกว่าเนอะ
บัตร T-money – ซื้อเลยก็ได้ ใช้ได้ 1 ปี หรือจะเช่าเอาก็ได้นะจากที่ไทย (แต่เราไม่รู้ที่เช่านะคะ เราไปซื้อเอา) ราคา 4,000 วอนค่ะ เติมขั้นต่ำได้ 1,000 วอน แต่เราเติมไปเลย 30,000 วอนต่อทริปนี้ มีประโยชน์เว่อวังอลังการ ใช้ซื้อได้ทุกอย่างในหลายๆร้าน ใช้กับรถบัสและซับเวย์ได้ (เวลาแตะบัตรที่บัสและซับเวย์ ต้องแตะทั้งขาเข้าและขาออกนะคะ หรือขาขึ้นและขาลง)
ซิม ,ไวไฟ – ซื้อซิม EG ที่ร้าน GS25 ค่ะ ที่สนามบินอินชอน ร้านนี้จะอยู่ประมาณประตูทางออกที่8,9 ประมาณนี้ค่ะ ราคา 55,000 วอน + เน็ต 2GB แต่ต้องเสียเวลาลงทะเบียนที่ค่อนข้างยุ่งยากเหมือนกัน ตอนนั้นเราทำละมีปัญหา เลยถามพนักงานในร้าน ซึ่งแถวนั้นจะมีพนักงานของ EG ซิมเนี่ยล่ะค่ะ คอยให้บริการอยู่ ถ้าซิมใช้ไม่ได้จริงๆ เราจะขอเปลี่ยนก็ได้ค่ะ ในกรณีที่ยังไม่แกะก็สามารถขอ Refund คืนได้, ส่วนไวไฟ เช่าจากที่ไทยก็ได้ค่ะ มีหลายเจ้า หรือจะของ Olleh wifi ที่สนามบินก็ได้ค่ะ ประตูทางออกไหนก็มี
สายการบิน – เราจอง AirAsiaX ค่ะ แต่จองกับเว็บ AirAsiago เป็นการจองโรงแรม+ตั๋วเครื่องบิน ได้มาในราคา 15000 กว่าๆ ต่อคน ซึ่งเราคิดว่า สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่และคริสมาสต์ ราคานี้ถือว่าโอเค แต่สำหรับที่พักที่เป็นเกสต์เฮ้าส์ ขอไม่พูดถึงละกันนะคะ5555 พูดแล้วปวดใจ เราจะข้ามไปเลยละกัน เชิญเลือกที่พักตามใจชอบค่ะ
อื่นๆ – อย่าลืมเอา Universal plug ไปด้วยนะคะ และสิ่งที่อยากแนะนำคือ แอพ Google Translate ที่โคตรมีประโยชน์กับใจ ถ่ายรูปคำศัพท์ที่ตัวเองไม่รู้ลงไป แล้วมันจะแปลให้อัติโนมัติเลย ลองดูนะ
คำเตือน – เป็นทริปที่หาสาระไม่ได้ค่ะ ตื่นไม่เป็นเวลา ไม่ค่อยได้กินข้าว และแอบไปติ่ง EXO ด้วยนิดนึงนะ
ปล. ใช้กล้อง FUJI X100s บางรูปใช้มือถือถ่าย แล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ต้องใช้รูป portrait มาประกอบคำอธิบาย รูปส่วนใหญ่เป็นรูปน้องเราที่ไปด้วยกัน เพราะลืมถ่ายรูปวิวมา
3rd Time in SEOUL
สวัสดีค่ะ จะมาพูดเรื่อยเปื่อยกับครั้งที่สามใน ‘โซล’
ขอบอกก่อนเลยว่า เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไรนะคะ ไปครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม มีผู้ร่วมทางเป็นน้องอีกคนนึง มาเริ่มกันเลยเนอะ
ข้อมูลที่จำเป็น
สภาพอากาศ – เราไปช่วงวันที่ 24-29 ธันวาคม อากาศค่อนข้างหนาวแต่ยังพอทนได้มากกว่าเดือนมกราคม ( ในความคิดของเรานะคะ ) อากาศต่ำสุดที่ -7,8 องศา แต่ส่วนมากก็ -1,2 ประมาณนี้ เรากับน้องใส่ลองจอน เสื้อหนึ่งตัว เดรสหรือกระโปรงอีกชั้นนึง แล้วก็เสื้อโค้ท ส่วนขานี่ เราซื้อเลกกิ้งที่เกาหลีเลยค่ะ ชั้นเดียวจบ แค่นี้สำหรับเรา ทนได้ค่ะ หนาวแต่ไม่ถึงกับว่าเดินไม่ไหวทั้งวันนะ แมสปิดปากกับถุงมือและผ้าพันคอช่วยชีวิตได้เยอะมาก
การเดินทาง – แนะนำให้ใช้แอพ City rail map รูปรถไฟสีชมพู เจ๋งมากค่ะ บอกทุกอย่าง ตัวอย่างว่าถ้าเราอยู่แถวเมียงดง จะไปอับกูจอง ก็เสิร์ชชื่อสถานีของเราเลยค่ะ ถ้าเราไม่รู้ว่าอะไรใกล้เราที่สุด ก็กดคำว่า current location ก็ได้ แอพก็จะแนะนำว่าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีอะไร จะต้อง transfer ที่สถานีไหน ประมาณนี้ค่ะ ใช้ได้กับซับเวย์นะคะ ส่วนกับรถบัส เราใช้ google map เอา สะดวกดีค่ะ ที่ป้ายรอรถบัสที่นี่เก๋มากอ่ะ มันจะมีป้ายขึ้นว่า รถบัสเบอร์นี้จะมาถึงในอีกกี่นาที ทำให้เราคำนวณเวลาได้สบาย *เวลาหาที่อยู่อะไรสักอย่างไม่เจอ ให้โหลดแอพ Naver map แล้วใส่ที่อยู่ลงเป็นภาษาเกาหลี เพราะคนเกาหลีนิยมใช้ Naver มากกว่าเนอะ
บัตร T-money – ซื้อเลยก็ได้ ใช้ได้ 1 ปี หรือจะเช่าเอาก็ได้นะจากที่ไทย (แต่เราไม่รู้ที่เช่านะคะ เราไปซื้อเอา) ราคา 4,000 วอนค่ะ เติมขั้นต่ำได้ 1,000 วอน แต่เราเติมไปเลย 30,000 วอนต่อทริปนี้ มีประโยชน์เว่อวังอลังการ ใช้ซื้อได้ทุกอย่างในหลายๆร้าน ใช้กับรถบัสและซับเวย์ได้ (เวลาแตะบัตรที่บัสและซับเวย์ ต้องแตะทั้งขาเข้าและขาออกนะคะ หรือขาขึ้นและขาลง)
ซิม ,ไวไฟ – ซื้อซิม EG ที่ร้าน GS25 ค่ะ ที่สนามบินอินชอน ร้านนี้จะอยู่ประมาณประตูทางออกที่8,9 ประมาณนี้ค่ะ ราคา 55,000 วอน + เน็ต 2GB แต่ต้องเสียเวลาลงทะเบียนที่ค่อนข้างยุ่งยากเหมือนกัน ตอนนั้นเราทำละมีปัญหา เลยถามพนักงานในร้าน ซึ่งแถวนั้นจะมีพนักงานของ EG ซิมเนี่ยล่ะค่ะ คอยให้บริการอยู่ ถ้าซิมใช้ไม่ได้จริงๆ เราจะขอเปลี่ยนก็ได้ค่ะ ในกรณีที่ยังไม่แกะก็สามารถขอ Refund คืนได้, ส่วนไวไฟ เช่าจากที่ไทยก็ได้ค่ะ มีหลายเจ้า หรือจะของ Olleh wifi ที่สนามบินก็ได้ค่ะ ประตูทางออกไหนก็มี
สายการบิน – เราจอง AirAsiaX ค่ะ แต่จองกับเว็บ AirAsiago เป็นการจองโรงแรม+ตั๋วเครื่องบิน ได้มาในราคา 15000 กว่าๆ ต่อคน ซึ่งเราคิดว่า สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่และคริสมาสต์ ราคานี้ถือว่าโอเค แต่สำหรับที่พักที่เป็นเกสต์เฮ้าส์ ขอไม่พูดถึงละกันนะคะ5555 พูดแล้วปวดใจ เราจะข้ามไปเลยละกัน เชิญเลือกที่พักตามใจชอบค่ะ
อื่นๆ – อย่าลืมเอา Universal plug ไปด้วยนะคะ และสิ่งที่อยากแนะนำคือ แอพ Google Translate ที่โคตรมีประโยชน์กับใจ ถ่ายรูปคำศัพท์ที่ตัวเองไม่รู้ลงไป แล้วมันจะแปลให้อัติโนมัติเลย ลองดูนะ
คำเตือน – เป็นทริปที่หาสาระไม่ได้ค่ะ ตื่นไม่เป็นเวลา ไม่ค่อยได้กินข้าว และแอบไปติ่ง EXO ด้วยนิดนึงนะ
ปล. ใช้กล้อง FUJI X100s บางรูปใช้มือถือถ่าย แล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ต้องใช้รูป portrait มาประกอบคำอธิบาย รูปส่วนใหญ่เป็นรูปน้องเราที่ไปด้วยกัน เพราะลืมถ่ายรูปวิวมา