[CR] เที่ยว Shirakawago 3 ชั่วโมง ได้อะไรบ้าง

สวัสดีครับชาว Blueplanet ทุกท่าน
กระทู้พาเที่ยวแรกของผม ผิดพลาดอย่างใดโปรดแนะนำด้วยครับ
ครั้งนี้จะมาเล่าประสบการณ์ มาพาเที่ยว Shirakawago ภายในสามชั่วโมงกว่าๆ
ลองมาดูสิเที่ยวแบบชิวๆ ครั้งนี้เราจะได้เห็นอะไรกันบ้าง



เริ่มแรกคือตอนนี้ผมทำงานในประเทศญี่ปุ่น จึงค่อนข้างไม่มีปัญหากับสภาพอากาศ เพราะดูก่อนเลยว่าฝนไหม
แต่ถึงอย่างนั้นก่อนออกเดินทางดูพยากรณ์อากาศที่ Shirakawago ท้องฟ้าแจ่มใส แต่ในสภาพความเป็นจริง
คือโซนแถบๆนั้นเป็นหุบเขา หนาวจัดกว่าที่ปกติจึงมีหิมะตกลงมาเรื่อยๆ ความหวังอยากได้ภาพท้องฟ้าใสๆ จึงมลายหายไป




เที่ยวหน้าหนาวประเทศนี้จะถ่ายรูปให้สวยๆต้องท้องฟ้าโล่งๆ อากาศดีๆ  
ถ้าเมฆเยอะ นั่นหมายความว่าภาพที่จะได้
จะได้บรรยากาศคร่ำๆไปด้วย  เหงาๆไปอีกแบบโดยเฉพราะกับคนที่เดินทางเที่ยวคนเดียว


วิธีการเดินทางฉบับย่อมากๆ
นั่งรถบัสจาก นาโกย่า จองผ่านอินเตอร์เน๊ต https://www.highwaybus.com/rs-web01-prd-rel/gp/index
หรือที่หน้าเคาร์เตอร์ก็ได้ ช่วง Shirakawago Light Up  เสาร-อาทิตย์ส่วนใหญ่จะเต็ม ถ้าให้ดีควรจองล่วงหน้า วันถึงสองวัน
รถหนึ่งวันขาไปมีสองรอบ 9:00 กับ 9:50 ขากลับ มี 15:00 กับ 16:00 ซึ่งตอนจองเราสามารถเลือกได้ว่าจะ ไปอย่างเดียว
ไปกลับในวันเดียวกัน คนล่ะวัน รวมถึงเลือกที่นั่งได้  ขาไป 3,600 เยน ไปกลับ 7,200 เยน

เวลาหนึ่งวันโดยประมาณ เที่ยวแบบชิวๆ ไม่เหนื่อยนะ ถ้าเราเดินทางคนเดียว
ประมาณว่าถ่ายรูปจุดนี้เสร็จเราก็เดินชมจุดต่อไปๆ เรื่อยๆ ไม่ต้องรอคอยใคร ให้ถ่ายรูปจนครบทุกคนก่อน




รูปอาจจะเยอะหน่อยนะครับ ถ่ายเรื่อยเปื่อย แต่ไม่ถ่ายอาหารการกิน
อันที่จริงก็ไม่มีให้ถ่าย ผมห่อข้าวมากินเองด้วย เลยเน้นถ่ายรูปมากกว่า ซึ่งก็ไม่ผิดใช่ไหม
เพราะมีกล้องเราจึงชอบเที่ยว ต่างคนก็ต่างชอบต่างสไตล์ แค่เรามีความสุข




ที่นี้ถ้าเราเที่ยววันธรรมดา คนจะน้อยมาก
ส่วนใหญ่ก็มีทัวร์จีนเยอะอันดับหนึ่ง ไทยเราอันดับสองนะครับ ที่เดินทางมาเที่ยวในญี่ปุ่น
เรื่องถ่ายภาพนี้ถูกใจคนที่ชอบแบกขาตั้งกล้องเที่ยวมาก ต่างจากที่เราเที่ยวตามเกียวโต
แบบนั้นหาโอกาศใช้ขาตั้งกล้องยากบวกกับคนเยอะ

ส่วนตัวชอบเที่ยวคนเดียวมากเป็นพิเศษ
เพราะมันเสมือนเป็นการให้รางวัลตัวเอง
และสำคัญคือได้รูปสวยๆเยอะกว่ามาเป็นกวนเป็นทีมใหญ่ๆ (คือกล้องเราจะไม่เต็มไปด้วยรูปคนอื่น)






อากาศแบบนี้ ไม่สดใสเหมือนช่วงซากุระ ไม่น่า wow เหมือนเราไปเที่ยวใบไม้แดงตามวัดดังๆในเกียวโต
บรรยากาศต่างกันต่าง ณตอนนี้ทุกคนอยู่แต่ในความสงบกับความอบอุ่นของเสื้อผ้ากันหนาวตัวเอง

ส่วนรูปภาพโทนขาวดำสลับกันไปบ้างก็สวยไปอีกแบบ แต่ถึงอย่างนั้นของจริงสวยมากกว่านะ
อยากให้มาดูมาเห็นด้วยตัวเอง ณที่นี้เที่ยวง่ายมากและสะดวกสุดๆ
แทบไม่ต้องวางแผนอะไรเลย แค่มีตั๋วรถบัสไปกลับแค่นั้นเป็นพอ






จุดชมวิวผมไม่รู้นะว่ากลางคืนเป็นยังไง
ความรู้สึกผมว่าลำบากกว่ากลางวันเยอะ ทั้งอากาศที่หนาวเย็นมาก แถมหิมะตกตลอด
และก็ที่จุดชมวิวคับแคบมาก ต้องไปต่อแทวรอคิวเบียดเสียดกัน
ถ้ามีหิมะตกหนักแทนที่จะได้วิวสวยๆ ภาพสวยๆ คมๆ ก็กลายเป็นได้ภาพที่มีแต่หิมะตกเป็นฉากหน้า
แล้วก็ละลายความสวยงามของ Shirakawago ไว้ตรงม่านหมองหิมะ
ตรงนี้น่าเสียดายนะผมว่าสำหรับท่านที่มาชม  Shirakawago Light Up ช่วงกลางคืน
แต่กลางวันหายห่วงนะครับ ถ้าจะซวยมากกว่าก็คงฝนตกด้วย เที่ยวด้วยเชื่อเถอะไม่สนุกแน่นอนน T_T






      ข้อดีของการไปเที่ยวคนเดียว คือได้ภาพคนเดียว สนกดคนเดียว มีความสุขอยู่คนเดียว
ข้อดีของการไปเที่ยวสองคนก็ตามภาพเลยครับ ดูๆแล้วพรีเวดดิ้งได้เลย กับบรรยากาศหิมะตกเบาๆ
ส่วนข้อเสียน่ะเหรอ ลืมๆไปเถอะ ตั้งใจเที่ยว แต่ไม่ต้องตั้งใจถ่ายรูปตัวเองมาก รูปจะออกมาดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
และที่สำคัญ ตั้งใจถ่ายเก็บบรรยากาศ ณตอนนั้นให้ดีๆ เพราะเรามาเที่ยวได้ครั้งเดียว
ควรถ่ายรูปให้ได้ดีและดีที่สุดเท่าที่ แบตเตอรี่กล้องของเรามีเหลือ (กรณีที่ไม่ได้ไปเที่ยวไหนต่อนะ)
     ทีแรกช่วงแรกหัดเที่ยว ผมก็ถ่ายแต่วิวกับตัวเอง ไม่ค่อยสนใจแวดล้อมรอบข้าง
นานวันผ่านไปกลับมาดูภาพในกล้อง  เอ๊ะ !! เหมือนภาพถ่ายเรายังขาดอะไรไปอย่างไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร






จุดชมวิวก็อยู่บนสุดหัวกระทู้ภาพแรกนะครับ การเดินทางแบบผมไปแบบไม่ดูแผนที่อะไร
เดินมั่วไปเรื่อยมันก็ถึงเอง พอเวลาลงมาจะกลายเป็นขากลับ
ถ้าเวลาเราเเหลือเยอะก็ถ่ายรูปเล่นมาเรื่อยๆ แต่นะอย่าเดินซ้ำกลับทางเดินเอาล่ะ
ยังมีที่ๆ สวยรอให้เราไปเยี่ยมชมไปถ่ายรูปอยู่ทุกก้าวย่างใน  Shirakawago






ถ้าเดินมาถึงแล้วเห็นสะพานแสดงว่า คงถึงเวลาที่เราต้องจากลาหมู่บ้านในฝันแห่งนี้
ขากลับสะพานไม่น่ากลัวนะครับ สนุกมากต้องมาลอง ส่วนผมก็จ้องแต่ถ่ายรูปอย่างเดียว
แบตกล้องยังหมดไม่ถึงครึ่ง ต้องรีบกดแล้วก็กด แล้วค่อยไปนั่งลบภาพที่เบลอทีหลัง

นี้คือรีวิวประสบการณ์การเดินทางภายในสามชั่วโมงกว่า ๆ
สำหรับคนที่ตั้งต้นจากนาโกย่าแล้วกลับทางเดิม หรือจะไปต่อก็ได้ ประมาณ
ส่วนท่านที่เดินทางจาก ทะคะยะมะ ก็คงใช้บริการรถของ nouhibus ซึ่งมีเที่ยวรถเยอะกว่า
เหมาะสำหรับท่านที่ไปเที่ยวต่อในตัวเมือง ทะคะยะมะ ค่ารถรายนั้นแอบแพงอยู่นะผมว่า
ไปกลับใกล้ๆ สี่พันกว่าเยน ต่างกันกับนาโกนย่า ซึ่งไกลกว่ามากไปกลับ เจ็ดพันสองเยน

สุดท้ายก่อนจากรีวิว บางท่านอาจได้สาระจากกระทู้นี้ บางท่านอาจไม่ได้อะไรเลย
ถือว่ามาชมภาพแล้วกัน ส่วนวิธีการเดินทางหลายๆกระทู้ รีวิวไว้ดีมาก และละเอียดมากจึงไม่ขอกล่าวถึงมาก
ทว่าภาพที่ได้ก็แล้วแต่ดวง สวยมากสวยน้อยแต่หมู่บ้านนี้ก็สวยงามในใจเราเสมอออ
หนึ่งในที่เที่ยวที่สุดยอดที่สุดในญี่ปุ่น รองจากภูเขาไปฟูจิที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง


วิวสุดท้ายก่อนกลับ ของฝากจากหน้าต่างรถบัส ผมว่ามันสวยมากกกกนะ
ตราบใดที่ท้องฟ้ายังไม่สิ้นแสงตะวัน ภาพจะยังสวยงามเมอ

  



สุดท้ายจากกัน ขอขอบคุณครับที่ติดตาม
และก็ไม่มี FB ให้ตามติดนะครับ
さよなら。


ขอขอบคุณ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   shirakawago 22-01-2559
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่