[CR] Afternoon Tea à la française มาจิบชายามบ่ายแบบฝรั่งเศส ที่ le Dali โรงแรม Le Meurice ในปารีสกัน

สวัสดีค่าา วันนี้จะมารีวิวปารีส ในมุมที่(คิดว่า)ไม่ค่อยมีคนนึกถึงกันเท่าไหร่ นั่นก็คือช่วงเวลาจิบชา tea time ที่ฝรั่งเศสค่ะ

ออกตัวก่อนเลยว่า เป็นคนชอบของหวานและจิบชาเหมือนกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกของเราค่ะ ที่ได้ลอง full set afternoon tea (แบบมี tier stand/chariot) เลยอยากจะขอเขียนเก็บเป็นประสบการณ์ไว้หน่อย
ขอกระซิบว่า full set afternoon tea แอบหายากมากในปารีส เท่าที่หาข้อมูลมา รู้สึกจะมีแต่ในร้านชา หรือเรียกในภาษาฝรั่งเศสว่า salons de thé ดังๆ ไม่ก็โรงแรมห้าดาวต่างๆ ซึ่งแน่นอนราคาก็สูงตามไปด้วย T:T ดังนั้นถ้ามีข้อมูลไม่ครบ หรืออะไรผิดพลาดไปก็ขออภัยล่วงหน้านะคะ

*ในกระทู้นี้ ขอใช้ภาษาฝรั่งเศสเขียนกำกับด้วยนะคะ เผื่ออาจจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการหาข้อมูลท่องเที่ยว หรือสนใจภาษาฝรั่งเศสอยู่

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ย้อนอดีตไป Ladurée เป็น 1 ในร้านแรกๆ ที่ทำให้ salons de thé ในฝรั่งเศสบูมขึ้นมา และทำให้ macarons (มาการง) เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก
เพราะฉะนั้น ในปัจจุบันนี้ ถ้าพูดถึง salons de thé หรือ cafés ในปารีสที่ห้ามพลาด ไม่แปลกเลยที่ Ladurée จะอยู่ใน must go list ของหลายๆคน
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีอีกหลายร้านที่ดังๆ เช่น  Angelina, Mariage frères, Carette, Café de Flore, Café de la Paix, Jean-Paul Hévin, Jacques Genin, etc. ซึ่งของขึ้นชื่อแต่ละร้านอาจคล้ายกันหรือต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ก็จะอร่อยๆ ไม่แพ้กันค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จริงๆ นอกจากตาม Salons de thé แล้ว Cafés Restaurants ทั่วไปส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส เดี๋ยวนี้มักจะมีเป็น set กาแฟหรือชาเล็กๆ เรียกว่า café/thé gourmand เสนออยู่ในเมนูด้วยนะคะ บางที่ก็อาจจะมี chocolat gourmand เพิ่มอีกตัวนึง

ใน 1 เซทนี้ก็จะมีของหวานชิ้นเล็กๆ พอดีคำเรียกว่า petites bouchées 2 - 3 อย่าง (ขึ้นอยู่กับร้าน) เสริ์ฟกับเครื่องดื่มตามที่เราเลือก สามารถรับเป็นของหวาน หรือจะเป็นของว่างยามบ่ายก็ได้ (ที่เป็นของหวาน เพราะเดี๋ยวนี้ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีเวลามากนั่งกินข้าวนานกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เลยมักจะสั่งแค่ main course/plat principal แล้วจบด้วยของหวานและ/หรือกาแฟค่ะ)


เกริ่นนำไปเยอะแล้ว มาอ่านกันเลยดีกว่าค่ะว่า การจิบชา afternoon tea สไตล์อังกฤษที่ฝรั่งเศส ในปารีสจะเป็นยังไงกันมั่ง



Information :

@ Le Dali, Le Meurice
228 Rue de Rivoli, 75001 Paris
Métro ป้ายที่ใกล้ที่สุดคือ Tuileries สาย 1

สำหรับ dress code หาบนเวปของ le Meurice ไม่เจอ เนื่องจากอยู่ในเครือ Dorchester เลยคิดว่าอย่างน้อยน่าจะต้องเป็น smart casual
Tea time served at 3.30 p.m. to 6 p.m.
แนะนำให้จองล่วงหน้าได้ทางเวปตามลิ้งนี้เลยค่ะ
https://www.dorchestercollection.com/en/paris/le-meurice/restaurant-bars/le-dali/
กดเลือก Tea Time Dali 48 euros* ได้เลย แต่เวลาไปถึงแล้ว สามารถเปลี่ยนเป็นเซทอื่นๆ หรือ à la carte ก็ได้ค่ะ

Pastry Chef/Chef Pâtissier ตอนนี้คือ Cédric Grolet ทำ Le Meurice มาตั้งแต่ปี 2011

เพิ่งได้รับตำแหน่ง Pastry Chef of the Year 2015/Chef Pâtissier de l'Année 2015 จาก magazine Le Chef ไปหมาดๆ
ตอนนี้อายุแค่ 30 ปีเอง ก็ได้ดูแลตรงนี้แล้ว เก่งมาก คงเพราะฝึกมาตั้แต่เด็กๆวัยรุ่นเลย เยี่ยม
ประวัติเพิ่มเติม เผื่อใครสนใจ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับ l'Hôtel หรือ le Palacel Le Meurice
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


สภาพตึก ประตูทางเข้า และสถานที่ สมกับเป็นโรงแรมหรู 5 ดาวค่ะ มีทั้งคนคอยรับ-ส่ง เปิดประตูรถรถให้ และก็เปิดประตูโรงแรมให้

พอเข้าโรงแรมมาปุ๊บ ก็จะเจอกับห้อง Le Dali อยู่ตรงหน้าเลยค่ะ



เราจองไว้แล้ว ก็ให้มองไปทางด้านขวาจะมี reception อยู่ แจ้งชื่อกับพนักงาน และก็จะมีบริการเก็บโค้ทให้ตรงนี้สำหรับหน้าหนาว




ชอบภาพบนเพดานนี้มาก ถูก renovate ตั้งแต่ปลายปี 2007 ให้เป็นแนว surrealist ชื่อโปรเจค Keystone ของ Philippe Starck วาดโดยลูกสาวของเค้า Ara Starck




หลังจากได้นั่งแล้ว บริกรก็จะเอาเมนูมาให้เลือกค่ะ



ข้างบนนี้เป็นเมนูฝรั่งเศส แต่ก็มีเมนูภาษาอังกฤษให้ด้วย สามารถขอได้ หรือจะดูจากเวปของโรงแรมเลยก็ได้ค่ะ
https://www.dorchestercollection.com/wp-content/uploads/LMP-Dali-TeaTime-2016-UK1.pdf

ลายกระเบื้องชุดชาน่ารักมาก


ที่ Le Dali เซท Tea Time au Dali ถึงแม้จะเขียนว่า per person/par personne แต่สามารถแชร์กันได้นะคะ โดยสั่งเพิ่มเครื่องดื่ม 1 ที่ พนักงานแอบเสนอตั้งแต่ทีแรก
แต่เนื่องจากเราไปกินกัน 2 คน และเพื่อนเราที่ไปกินด้วย หิวมากก เพราะไม่ได้กินอาหารกลางวันมา เราเลยสั่งกันคนละเซท ก็เลยได้มาแต่ละอย่าง x2 ค่ะ
โดย 1 เซท จะประกอบไปด้วย 5 finger sandwiches / 2 scones  และก็ 5 gourmandises และก็เครื่องดื่มร้อนตามใจเรา 1 ที่ค่ะ (ชา กาแฟ หรือช็อคโกแลตร้อนก็ได้)

เค้าจะเสิร์ฟเซท clotted cream และแยม กับ ชาก่อน
เราเลือก Fleur d'orient หรือ Jasmin Flower Tea ไป
เป็นชาเขียวกลิ่นมะลิ ทำจากดอกเก๊กฮวย มะลิ และกุหลาบผสมกันค่ะ หอมนุ่มนวล

ความพิเศษของชานี้ คือ เป็นชาดอกไม้บานค่ะ เลยมาในกาใสๆ โชว์ให้เราได้ดู ทำให้เหมือนเราได้ชื่นชมผลงานศิลปะพร้อมๆกับจิบชาไปในตัว พลุโอ่ง


tier stand/chariot มาแล้ว


ซูมๆ
ชั้นล่างประกอบไปด้วย sandwiches 5 ชิ้น x2

ชั้นกลางเป็น scones คนละ 2 ชิ้นค่ะ

ส่วนชั้นบนก็เป็นของหวาน 5 อย่าง x2 ค่ะ


เนื่องในโอกาสพิเศษของเราเอง คือเป็นครั้งแรกที่ได้มาทาน ประจวบกับใกล้จะถึงวันเกิดแล้วด้วย(จริงๆ นะ อีกแค่ 2 เดือนเอง ฮ่าๆ ^^') ก็เลยใส่ comment ไปตอนจองว่าเป็นโอกาสพิเศษ birthday ค่ะ
เค้าก็จะมีจานเค้กชิ้นเล็กๆ และจุดเทียนมาให้ complimentary จากทางร้าน (ความคิดแรกคือน่ารักมาก  แต่ทำไมเค้กแอบชิ้นเล็กจัง หลังจากกินเสร็จ ก็เข้าใจเลยว่าทำไมเค้าเอามาให้น้อย ><)





การตกแต่ง จัดการโต๊ะก็ดีค่ะ มีที่เหลือเฟือ สำหรับ 2 ที่นั่ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ข้อดีมีดังต่อไปนี้

เรื่องการตกแต่ง décor เอาไปเลย 5 ดาว ทางเดิน ห้องน้ำยังเริ่ด

พนักงานก็บริการดี สุภาพ มีเสนอถ่ายรูปให้ด้วยค่ะ

Tea Time au Dali เซทนี้ให้ปริมาณมาเยอะมาก สำหรับจำนวน 1 เซท ต่อ 1 คน ขอเติมน้ำร้อนได้ฟรีค่ะ

นั่งทานไปคุยไปซักพัก มีพนักงานจากในครัว ยก Madeleines ร้อนๆ จากเตาอบมาเสิร์ฟให้แต่ละโต๊ะ จริงๆ ตอนนั้นเริ่มอิ่มแล้ว แต่ก็อยากลอง เลยหยิบมาชิ้นนึง แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย กรอบนอก นุ่มใน อร่อยมาก ฟินน


แซนวิชคือดีมาก ถึงมากที่สุด จำไม่ได้แล้วว่ามีไส้อะไรบ้าง แต่ foie gras และ salmon with caviar อร่อย ที่แน่ๆ ไส้เยอะและปริมาณเยอะค่ะ (ชิ้นนิ้งกัดได้ 3 คำ) ขนมปังที่เอามาทำไม่เย็นจืดชืด ผ่านการปิ้งเรียบร้อยแล้ว ทำให้อุ่นเบาๆ ตอนทาน

สโคนอร่อยทั้ง 2 แบบเลยค่ะ แบบ original เข้ากันได้ดีกับ clotted cream และแยมโฮมเมดสตอเบอร์รี่ หรือส้ม ส่วนอีกแบบใส่ผลไม้แห้งและลูกเกด


มาถึงของหวาน หน้าตาดีมากก presentation งามเลิศไม่มีไรเถียงเลย

แต่เรากลับรู้สึกเฉยๆ กับรสชาติค่ะ ค่อนไปทางติดลบนิดนึงด้วยซ้ำ เพราะส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยชอบ caramel หรือทานหวานมาก ชอบรสเปรี้ยว แต่นี่เจอ caramel ซะเกือบ 2 - 3 อย่างใน 5 ชิ้น ตัว tartelette noisette หวานไปหน่อย ส่วน éclair aux amandes หนักไปทางเค็ม และแถมยังมีอีกชิ้นที่เปรี้ยวโดดออกมาเลยคือ tartelette citron ซึ่งปกติชอบทานเปรี้ยวมาก แต่อันนี้เปรี้ยวแบบทานแล้ว ตื่นเลยค่ะ ข้อดีอย่างเดียวตัวนี้ คือ พอทำให้แก้เลี่ยนอย่างอื่นไปได้ มีแค่นี้จริงๆ ><
แต่เค้กวันเกิดชิ้นเล็กๆ ที่เค้าเอามาให้อร่อยดีนะ น่าจะเป็น chocolat noirไม่หวานมากจนเกินไปค่ะ

สำหรับเรื่องอื่นๆ นอกจากของหวานที่เราผิดหวังคือ

ที่นี่ไม่มีเปลี่ยนจานให้ มีให้ใช้เซทเดียว
บรรยากาศในห้องอาหาร มืดและผู้คนพลุกพล่านไปหน่อย อาจจะเพราะเป็นทางผ่านไปยังบาร์และห้องอาหารอื่นๆ
ไม่มีเสียงดนตรีบรรเลงคลอระหว่างจิบชา (หรือเราไม่ได้ยินเองไม่แน่ใจ) คาดหวังว่าจะมี เลยแอบผิดหวังนิดหน่อย><


สรุป

ส่วนตัวเราให้ 4/5 เพราะเปรียบเทียบกับราคา ปริมาณ และคุณภาพแล้ว จริงๆ สำหรับ Le Dali ในโรงแรม Le Meurice ก็คุ้มเลยนะคะ ถึงแม้ว่าสำหรับเราแอบผิดหวังหนักตรงที่ของหวานไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ และดันเพิ่งกินข้าวเที่ยงไม่นาน เลยอาจจะอิ่มไปหน่อยแล้วทำให้ความอยากอาหารลดลงไปมาก ><
ขนาดพยายามค่อยๆนั่งทานแล้วจนถึงเกือบๆ 6 โมงเย็น แต่ก็ยังไม่หมด (เหลือ 3 คำ :p)

เอาเป็นว่า ใครอยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศมา Afternoon Tea แบบ luxury ในปารีสและชอบของหวานก็ไม่น่าผิดหวังนะคะ
แนะนำเพิ่มเติม สำหรับใครที่จะสั่งเซทเดียวต่อคน ให้ทานอาหารกลางวันเบาๆ หรือข้ามไปเลยก็ได้ค่ะ อิ่มแน่นอน คอนเฟิร์ม
ส่วนใครมองหาที่นั่งคุยจิบชา เบาๆ สวยๆ ก็แชร์กันดีกว่า หรือจะสั่งเป็น à la carte ก็น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ

ปล.​ รูปทั้งหมดถ่ายจาก iPhone 6 นะคะ (ยกเว้นรูปเชฟ Cédric Grolet ฮ่าๆ) ไม่ได้เอากล้องใหญ่ไป บวกกับแสงรำไร เลยออกมาได้เท่านี้

ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่าาา
ชื่อสินค้า:   Tea time au Dali, Le Meurice
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่