[CR] UK 1st 7 วัน 9,000 กิโล

"who lives see much, who travels see more."

สวัสดีจ้ะ สวัสดีนะ

เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้ไปประเทศที่ทุกคนใฝ่ฝัน ซึ่งก็คือประเทศอังกฤษ
เราเดินทางไปกับพี่ชายตั้งแต่วันที่ 5 - 12 ธันวาคมปีที่ผ่านมา แต่ก็เหมือนไม่ได้เที่ยวเท่าไหร่
ต้องเกริ่นก่อนว่าจุดประสงค์หลักของการไปอังกฤษคือการไปรับปริญญาพี่ชาย ส่วนการเที่ยวนั้นเป็นจุดประสงค์รอง
เราใช้กล้องฟิล์มเป็นส่วนใหญ่และจะมีแต่รูปอะไรก็ไม่รู้ ถือว่ามาแบ่งปันบรรยากาศของอังกฤษที่บางคนอาจจะไม่เคยเห็นก็แล้วกัน
เราจะใส่คำบรรยายใต้ภาพเป็นแบบเฟซบุ้คแล้วกัน เพราะเราจะได้ไม่งง (หัวเราะ) และเราจะสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดในตอนท้าย

หมายเหตุ เนื่องจากเป็นกระทู้แรก หากฟอนท์เด้งไปนู่นเด้งไปนี่หรือมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ

----------------------------------------------------------------------------------------------------

เอาจริง ๆ วันแรกไม่มีอะไรเลย เพราะกว่าเราจะไปถึงลอนดอนก็ราว ๆ 2 ทุ่ม เราเดินทางโดย EVA บินตรงสู่ลอนดอน
หลังจากนั้นก็เดินทางต่อมายังโรงแรม ibis ที่อยู่ใกล้กับ Heathrow เพื่อให้ง่ายต่อการนั่ง Tube ไปสถานี Victoria ในวันถัดไป

วิวจากหน้าต่างของห้องพักยามเช้า


หลังจากนั่ง Tube มาถึงสถานี Victoria ก็มานั่งจิบกาแฟระหว่างรอเวลารถออก


View from the Bus ระหว่างทางไป Nottingham อึมครึมมากแม้จะเที่ยงแล้ว


เราพัก Hostel ที่อยู่ใกล้ Old Market Square ช่วงนั้นเขาก็จัดงานเหมือนงานวัดบริเวณด้านหน้าซึ่งก็ให้บรรยากาศอีกแบบ
จัดการเช็คอินเสร็จสรรพก็ออกมาเดินเล่นรอพบปะมิตรสหาย



พลาดไม่ได้ Fish and Chips อาหารบ้าน ๆ ของอังกฤษที่ร้าน Georges
หลังจากกินเสร็จก็เม้ามอยและแยกย้ายกันกลับที่พักเพื่อเตรียมพร้อมสู่งานรับปริญญาในวันถัดไป


เจ็ดโมงเช้า ย้ำว่าเจ็ดโมงเช้า เดินออกไป Tesco เพื่อมาทำอาหารกินเองที่โฮสเทล


หลังจากกินข้าวเรียบร้อย ระหว่างรอเวลานั่งรถไปมหาลัยก็แวะสตาร์บั้คสะหน่อย




บรรยากาศภายในมหาลัยถ่ายมานิดเดียวเพราะงานหนักมาก คนไทยกับงานรับปริญญานี่เป็นอะไรที่เล่นใหญ่ตลอด
ส่วนพิธีรับปริญญานี่เราชอบมาก ในงานจะมีคนประสบความสำเร็จมาพูดประสบการณ์หรือให้ข้อคิดต่าง ๆ
ซึ่งพิธีแต่ละรอบจะเปลี่ยนคนไปเรื่อย ๆ สนุกสนานเป็นกันเองมาก ๆ
เวลาลูกหลานญาติมิตรใครออกมารับใบปริญญาก็กรีดร้องตะโกนกันเหมือนเชียร์บอล


เช้าวันใหม่เริ่มต้นที่ my lovely starbucks เช่นเคย มาอังกฤษนี่เข้าร้านกาแฟบ่อยมาก เช้า กลางวัน เย็น
กินกาแฟเสร็จก็กลับไปแพ็คของเพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่มหานครลอนดอน แต่ก่อนกลับก็มีนัดมื้อเที่ยงกับมิตรสหาย




ระหว่างรอกินมื้อเที่ยงก็เลยเดินเล่นในตัวเมืองเพื่อเก็บบรรยากาศ
เมืองนี้คือเมืองที่มี Robin Hood และมีปราสาทที่ใช้ถ่ายทำ Bat Man ด้วย (ใช่ไหมอ่ะ?)
แต่ไม่ได้เข้านะปราสาทไรนี่อะ ไปเช้าเกินเขายังไม่เปิด (หัวเราะ)




บรรยากาศรอบ ๆ เมือง Nottingham เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีกิมมิค
หลังจากนั้นก็ไปพบปะมิตรสหายก่อนจะนั่งรถบัสเข้าลอนดอน


กว่าจะเดินทางมาถึงก็ 4 โมงกว่า ๆ แทบจะมืดแล้ว (ช่วงธันวานี่มืดเร็วมาก)
หลังจากเช็คอินโรงแรมเรียบร้อยก็ออกไปเดินเล่นที่โซโห (Soho) และไปกินล็อบสเตอร์ (ง่อวว ธรรมดาที่ไหน)


lobster first time ถ่ายมาได้ดีสุดเท่านี้เพราะร้านมืดมาก ความอร่อยอย่าให้ต้องบรรยาย ถือว่าปลดล็อค achievement ในชีวิต







วันใหม่ก็เริ่มด้วยการตะลุยแลนด์มาร์คต่าง ๆ ทั้ง Tower bridge, Tower of London, London Eye และเดินต่อไปยัง National Gallery


เดินดูภาพเขียนใน National Gallery ไปเรื่อย ๆ เนื่องจากไม่ได้อินกับศิลปะเท่าไหร่เลยเดินออกมาข้างนอก
และได้มาพบกับสิ่งที่เรียกว่า Street performances เราว่า Street performances เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่เลยนะ
และทำเป็นกิจลักษณะทีเดียวเช่นพวกที่แสดงอยู่ในสถานีรถไฟฟ้าก็ต้องไปยื่นเรื่องขออนุญาต
หรือตามสถานที่อย่าง Covent Garden พอแสดงเสร็จก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป


คนนี้อยู่ที่ Covent Garden ทักษะภาษาดีมาก พูดได้ 4 ภาษา คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และจีน


คนนี้แสดงปลดโซ่โดยไม่ใช่มือ อากาศเย็นมาก ฝนตกด้วย แต่ไม่ค่อยพีคเท่าไหร่


เห่นโหลว พลาดไม่ได้กับ Winter Wonderland
งานนี้จัดที่ Hyde Park ซึ่งลงที่สถานี Hyde Park Corner ก็จะถึงหน้างานเลย
แต่มันติดป้ายว่า Winter Wonderland This Way ตั้งแต่สถานี Green Park ไอ่เราก็ลงสิ เดินเงอะ ๆ งะ ๆ ไม่ถึงสักที
นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ ที่จะไปงานนี้ก็มาถามทางกับเราที่กำลังหลงอยู่ว่าไปทางไหนคะ หึ
เดินตาม Google Map ไปเรื่อย ๆ สายตาเหลือไปเห็นป้าย Tube
“Hyde Park Corner”
ร้ายกาจ !
โดนหลอกให้เดินเป็นกิโล




ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาเพราะใช้กล้อง DSLR ถ่ายตอนกลางคืนไม่เป็น บรรยากาศน่าเที่ยวมาก
มีเครื่องเล่นน่ากลัวเต็มไปหมด เราเลยเดินหาของกินและจบลงด้วยการจิบเบียร์เบา ๆ


วันใหม่นี้ออกตะลุยรอบ London และจะกลับมาทานข้าวมื้อเย็นกับมิตรสหาย



เช้าวันใหม่กับเมืองสุดฮิต Greenwich

Greenwich Park ทางผ่านไปยัง Royal Observatory Greenwich
คนส่วนใหญ่จะมาถ่ายรูปกับเส้นแบ่งเวลา แต่เรากับพี่เรามาแวะเข้าห้องน้ำแล้วก็เล่นเกมปล่อยยานอวกาศในตึกอะไรสักอย่าง
มีอะไรให้เล่นเยอะมาก เรากับพี่เราเล่นเพลินเป็นชั่วโมง แล้วก็เดินย้อนกลับมาหาอะไรกิน





หลังจากหาอะไรกินเสร็จเรียบร้อยก็นั่งรถไฟต่อไปยัง Borough Market





ปลดล็อค achievement ! ในชีวิตรู้จักแต่ชีสแผ่นกับฝอย ๆ รสชาติปะแล่มดีออก
เดินเล่นสักพักก็นั่ง Tube ไป Notting Hill ตามหา Blue Door ในตำนาน





Blue Door ในเรื่อง รักบานฉ่ำที่นอตทิงฮิล อยู่ข้างสตาร์บั้คส์นี่เอง
แต่ที่พีคกว่าการตามรอยภาพยนตร์คือคุณลุงที่นั่งอยู่ฝั่งซ้าย
จังหวะที่เรากำลังลั่นชัตเตอร์ให้พี่เราอยู่ คุณลุงนี่ก็มองและทำท่าทางเหมือนจะลุกมาหาเรา
ด้วยความที่ว่าบ้านหลังนี้มีเจ้าของและคนที่นี่ค่อนข้างซีเรียสกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เราเลยกลัวมาก
คุณลุงนี่ก็แนะนำตัวว่าชื่อจิมมี่นะ เป็นชาวไอริช เนี่ยยูรู้ไหมว่าคนเราใช้ชีวิตอยู่กับอดีตไม่ได้
เราต้องมูฟออนนะ ทูเดอะฟิวเช่อร์นะ กิฟมีอะฮัก (ขอกอดหน่อย)
เรากับพี่เราก็กอด เยห์ กอดฝรั่งครั้งแรก ฟังมายเลิฟลี่จิมมี่พูดไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งจิมมี่พูดว่า
“ยังไงพอจะช่วยฉันสักคนละปอนด์สองปอนด์ได้ไหม”
ร้ายกาจ ! กลอุบายการขอเงินช่างแยบยลนัก !


จิมมี่ช่างร้ายกาจ เรากับพี่เลยหนีมา Camden Town อีกหนึ่งเมืองฮิปสเตอร์ของที่นี่




หลังจากเดินเล่นสักพักก็กลับมา London ที่สถานี King’s Cross เพื่อมากินข้าวกับมิตรสหาย
แล้วก็ไปยืนจิบเบียร์หลบฝนที่ Pub แห่งหนึ่ง และปิดท้ายมื้อดึกด้วย KFC




Covent Garden อีกหนึ่งโลเคชั่นที่พลาดไม่ได้สำหรับการมาลอนดอน


ด้านหลังของโบสถ์ St.Paul Cathedral (ไหนโบสถ์?)


จบแล้วครับกับการไปอังกฤษครั้งนี้

--------------------------------------------------------