สำนักงานตั้งอยู่ติดข้างวัดร่ำเปิง เห็นว่ากันว่าเป็นสำนักงานของNGO แต่ก็ไม่มีป้ายบอกหรือแสดงตัวตนเป็นเรื่องเป็นราว
เรื่องของเรื่องคือสำนักงานนี้ มันมีคนเข้าออกเยอะพอสมควร พอตกดึกก็ตั้งวงกินเหล้ากัน บางทีก็ก่อไฟเผาฟืน ส่งเสียงดัง ที่แย่สุดคือสูบบุหรี่ ซึ่งบ้านเราอยู่ติดกับที่สำนักงานแห่งนี้ เวลาที่เค้าเผาฟืนหรือสูบบุหรี่ควันมันก็ลอยเข้าบ้านเราเต็มๆ ซึ่งเรามีลูกเล็ก ขวบกว่า
ซึ่งถ้าวันไหนอากาศดีๆแล้วเราเปิดหน้าต่างเนี่ย ควันบุหรี่ก็จะลอยเข้าบ้านเราทุกที ตลอดทั้งวันด้วย เพราะเค้าผัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสูบ เราก็เลยต้องปิดหน้าต่างแล้วเปิดแอร์ตลอด แม้กระทั่งหน้าหนาวที่อุณภูมิสิบกว่าองศาก็ต้องเปิดแอร์เพราะเราทนกลิ่นบุหรี่พวกนี้ไม่ไหว
เรารู้สึกเดือดร้อนมาก ไม่ใช่แค่ครอบครัวเรา แต่คนที่มาเช่าบ้านเราอีก บางคนทนไม่ไหว ย้ายออกไปก็มี เราก็ต้องเดือดร้อนหาคนเช่าใหม่ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ทำไรผิดเลย
พูดตรงๆทุกวันนี้เราเซงคนพวกนี้มาก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะบุหรี่ที่เค้าสูบ มันก็สูบในเขตพื้นที่ของเขา ซึ่งมันก็คงไม่ผิดกฎหมาย อันนี้เราเข้าใจ แต่ควันมันลอยเข้าบ้านเราอ่ะ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องมาดมใช่ไหม ถ้าเราเป็นมะเร็งตายไปเค้าก็ไม่ได้มารับผิดชอบอะไรนี่นา ที่เราพอจะทำได้คือ คอยโทรแจ้งสายตรวจให้มาตักเตือนตอนเค้าสังสรรค์กันเกินเวลาสี่ทุ่มขึ้นไปแล้วเท่านั้น แต่เวลาอื่นนอกเหนือจากนั้นเราก็ต้องทน
ที่เราพอจะคิดได้ตอนนี้คือจะไปขอความร่วมมือดีๆ แต่เราต้องติดต่อกับผู้บริหารสำนักงานแห่งนี้(เพราะเคยเดินไปบอกพวกลูกน้องในสำนักงานแล้วแต่ไม่ได้ผล พาลจะมีเรื่องกันซะเปล่าๆ) แต่ปัญหาคือเราไม่รู้จะติดต่อยังไง เพราะเราพยายามหาข้อมูลสำนักงานแห่งนี้ในเน็ตแล้วแต่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย
ใครพอจะรู้หรือมีวิธีแนะนำในการแก้ปัญหาโลกแตกของเราได้ ช่วยทีเถอะนะคะ หรือถ้าคุณเป็นคนในสำนักงานนี้ได้มาอ่าน ช่วยกรุณานำไปพิจรณาด้วยเถอะค่ะ ดิฉันและชาวบ้านโดยรอบเดือดร้อนกันจริงๆ
ใครรู้บ้างว่าสำนักงานNGO ข้างวัดร่ำเปิง(ต.สุเทพ, เชียงใหม่)นี่ทำอะไรบ้าง
เรื่องของเรื่องคือสำนักงานนี้ มันมีคนเข้าออกเยอะพอสมควร พอตกดึกก็ตั้งวงกินเหล้ากัน บางทีก็ก่อไฟเผาฟืน ส่งเสียงดัง ที่แย่สุดคือสูบบุหรี่ ซึ่งบ้านเราอยู่ติดกับที่สำนักงานแห่งนี้ เวลาที่เค้าเผาฟืนหรือสูบบุหรี่ควันมันก็ลอยเข้าบ้านเราเต็มๆ ซึ่งเรามีลูกเล็ก ขวบกว่า
ซึ่งถ้าวันไหนอากาศดีๆแล้วเราเปิดหน้าต่างเนี่ย ควันบุหรี่ก็จะลอยเข้าบ้านเราทุกที ตลอดทั้งวันด้วย เพราะเค้าผัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสูบ เราก็เลยต้องปิดหน้าต่างแล้วเปิดแอร์ตลอด แม้กระทั่งหน้าหนาวที่อุณภูมิสิบกว่าองศาก็ต้องเปิดแอร์เพราะเราทนกลิ่นบุหรี่พวกนี้ไม่ไหว
เรารู้สึกเดือดร้อนมาก ไม่ใช่แค่ครอบครัวเรา แต่คนที่มาเช่าบ้านเราอีก บางคนทนไม่ไหว ย้ายออกไปก็มี เราก็ต้องเดือดร้อนหาคนเช่าใหม่ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ทำไรผิดเลย
พูดตรงๆทุกวันนี้เราเซงคนพวกนี้มาก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะบุหรี่ที่เค้าสูบ มันก็สูบในเขตพื้นที่ของเขา ซึ่งมันก็คงไม่ผิดกฎหมาย อันนี้เราเข้าใจ แต่ควันมันลอยเข้าบ้านเราอ่ะ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องมาดมใช่ไหม ถ้าเราเป็นมะเร็งตายไปเค้าก็ไม่ได้มารับผิดชอบอะไรนี่นา ที่เราพอจะทำได้คือ คอยโทรแจ้งสายตรวจให้มาตักเตือนตอนเค้าสังสรรค์กันเกินเวลาสี่ทุ่มขึ้นไปแล้วเท่านั้น แต่เวลาอื่นนอกเหนือจากนั้นเราก็ต้องทน
ที่เราพอจะคิดได้ตอนนี้คือจะไปขอความร่วมมือดีๆ แต่เราต้องติดต่อกับผู้บริหารสำนักงานแห่งนี้(เพราะเคยเดินไปบอกพวกลูกน้องในสำนักงานแล้วแต่ไม่ได้ผล พาลจะมีเรื่องกันซะเปล่าๆ) แต่ปัญหาคือเราไม่รู้จะติดต่อยังไง เพราะเราพยายามหาข้อมูลสำนักงานแห่งนี้ในเน็ตแล้วแต่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย
ใครพอจะรู้หรือมีวิธีแนะนำในการแก้ปัญหาโลกแตกของเราได้ ช่วยทีเถอะนะคะ หรือถ้าคุณเป็นคนในสำนักงานนี้ได้มาอ่าน ช่วยกรุณานำไปพิจรณาด้วยเถอะค่ะ ดิฉันและชาวบ้านโดยรอบเดือดร้อนกันจริงๆ