สวัสดีค่ะ
ชื่อเล่นชื่อ นุ่น ชื่อเล่นยาวๆว่า โบนัสนุ่น เป็นผู้หญิงตาตี่ ขาใหญ่ และรักกระต่ายมาก
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกใน pantip เลยนะคะ ปกติจะถ่ายรูปเก็บเป็นอัลบัมอยู่ใน facebook
แต่คิดไปคิดมา อยากแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยว และถ่ายรูป ที่สวยบ้างไม่สวยบ้าง ให้เพื่อนๆได้ดู เผื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
ออกตัวก่อนเลยว่า ถ้ามีตรงไหนผิดพลาด กราบขออภัยงามๆ 3 ทีไว้ก่อนเลยนะคะ อย่าถือสามือใหม่เลย ^^
ทริปนี้โบนัสนุ่นพาไปชมแกลเลอรี่ดอกไม้สวยๆอีกที่ จากเมื่อปีที่แล้วที่ไปมาแล้วประทับใจ ปีนี้ก็เลยต้องไปซ้ำอีก แต่ concept แต่ละปีเค้าก็จะจัดไม่เหมือนกันนะ อย่างเช่นปีนี้มาใน concept “Art in Heart แค่เห็นก็เข้าใจ” ที่ ดาษดา แกลเลอรี่ เขาใหญ่ ปราจีนบุรี … วันหยุดวันที่ 19 มกราคม 2558 นุ่นเลือกไปวันธรรมดา เหตุผลอย่างเดียวเลยคือ เสาร์-อาทิตย์ หยุดงานไม่ได้ ก็เลยต้องเลือกมาเที่ยววันธรรมดา เหมือนทุกทริปนั่นแหละ แต่ผลพลอยได้คือคนไม่เยอะ ถ่ายรูปได้ฟินมาก อยากได้มุมไหน ถ่ายเลยจ้า … แต่ก่อนจะไปถึงดาษดา มีที่แวะเที่ยวอีกหลายที่ ไปดูรูปกันเลยดีกว่า เด๋วมองภาพไม่ออก … ระหว่างดู เปิดเพลง “วันสบาย – อภิรมย์” ไปด้วยจะฟินมาก ^^

ภาพเปิดอัลบัม เอารูปสวยๆของดาษดา แกลเลอรี่มาเรียกน้ำย่อยก่อน .. ถ้าจำไม่ผิดที่นี่เค้าจะจัดแกลเลอรี่ดอกไม้สวยๆแบบนี้แค่ปีละ 1 ครั้ง ประมาณ 3 เดือนช่วงหน้าหนาว ปีนี้จะจัดถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 ค่าเข้าชมคนละ 250 บาท ถ้าคนที่ไม่ชอบจะแอบบ่นว่าแพง แต่นุ่นว่ามันก็เหมือนซื้อตั๋วหนัง 1 เรื่องแหละ แค่เปลี่ยนบรรยากาศจากโรงหนังมาเป็น แกลเลอรี่ดอกไม้ สำหรับนุ่น นุ่นว่าคุ้มนะ

นุ่นใช้เส้นทางเดินทางจากปากช่อง วิ่งเส้นธนรัชต์ ข้ามเขาใหญ่ไปฝั่งปราจีน แต่ก่อนขึ้นเขาใหญ่ ได้ยินว่ามีรีสอร์ทเปิดใหม่ เป็นสไตล์ tent camp อยากลองแวะชิมอาหารหน่อยว่าจะเป็นยังไง ชื่อน่ารักมาก “LALA MUKHA Tent Resort” อยู่ตรงทางแยกจากถนนกุดคล้า ตัดออก dairy home เลี้ยวเข้ามาประมาณไม่ถึง 1 กิโลเมตร อยู่ด้านซ้ายมือเลยจ๊ะ

วิวบริเวณร้านอาหาร เห็นเขาลูกช้างข้างหลังแบบเต็มๆตา มองจากถนนจะไม่เห็นนะ ว่าด้านในเป็นแบบนี้

ด้วยความรักสุขภาพของนุ่น เลยลองสั่ง ลาลามูก้า สลัด เป็นสลัดผัก ผลไม้ มี green oak , แอปเปิ้ลเขียว , ส้ม , มะเขือเทศเชอรี่ , แอลม่อนฝานบางๆ และน้ำสลัดเป็นซอสส้ม แปลกดี แต่รสชาติงั้นๆอ่ะ นุ่นกินไม่หมด จริงๆผักสลัดน่าจะหลากหลายกว่านี้ ไม่น่ามีมาให้แค่ green oak มันดูเลี่ยนๆ ขมๆไปหน่อย

และด้วยความรักสุขภาพแต่กลัวไม่อิ่ม เลยสั่งผักโขมอบชีสมาเติมให้อยู่ท้อง 55 อันนี้เยอะไปหน่อย ผักโขมมันรองพื้นมาเต็ม กินไม่หมดอีกตามเคย

กินไปดูวิวไป เพลินดี ที่พักก็เป็นลักษณะ tent camp มีทั้งแบบห้องน้ำในตัวและ ห้องน้ำรวม แต่อาจจะเป็นเพราะที่นี่เพราะเปิดใหม่กิ๊กมากๆ พนักงานก็ยังไม่โอเค คุยกันเสียงดั๊งดัง -..- และด้านข้างก็ยังมีการก่อสร้างอยู่ ได้ยินเสียงตอกๆๆๆ เจียๆๆๆ ทุบๆๆๆ แสบหูมาก ถ้าตัดวิวออกนี่คิดว่านั่งกินข้าวอยู่ในร้านหมอฟัน -..-

เดี๋ยวอีกหน่อยคงดีขึ้น แต่ยอมรับว่าวิวที่นี่สวยจริง ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนภูเขาตรงนี้คงจะเขียวสดชื่นมากๆ กินอิ่มแล้ว เด๋วจะออกเดินทางแล้วค่ะ ไปเล้ยย

ขับผ่านด่านอุทยานเข้ามา เสียค่าธรรมเนียม ค่ารถคันละ 50 บาท และค่าบริการคนละ 40 บาทนะจ๊ะ แวะไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ก่อน เพื่อความสบายใจ

วันนี้เสี่ยงเซียมซีได้หมายเลข 9 ดีเลยแหละ ^^

เส้นทางนี้ระยะทางจาก เขาใหญ่-ปากช่อง จนถึง เขาใหญ่-ปราจีนบุรี ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตรนิดๆ แต่ขับชิลๆไป ที่แรกที่แทบทุกคนต้องแวะ คือจุดชมวิวที่นี่ มากี่ครั้งนุ่นก็ดูไม่ออกว่าข้างล่างนั้นเขากำลังก่อสร้างอะไรอยู่ ใครรู้ก็ช่วยมาแถลงหน่อยน้า สงสัยมานาน 555

อีกมุม

และขาดไม่ได้คือนางแบบอ้วนๆคนนี้ จะยืนตรงไปไหน -..-

ต่อกันด้วยวิวข้างทาง อยู่แถวๆเวิ้ง อ่างเก็บน้ำสายศร แต่เป็นฝั่งตรงข้าม ทุ่งหญ้ากำลังเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สวยดีอ่า

และอีกที่ ที่ตั้งใจมาเลยก็คือ จุดชมวิวผาเดียวดาย ครั้งที่แล้วขึ้นมาเขาใหญ่เมื่อเดือน พฤศจิกายน ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าผาเดียวดายขึ้นไม่ได้ เพราะดินสไลด์ แต่ครั้งนี้เอาชัวร์ สอบถามเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ที่ด่านเก็บเงิน เจ้าหน้าที่บอกว่าขึ้นได้แล้ว เลยจัดไปไม่ให้พลาด แต่ทางยังไม่ดีเท่าไร ใครขับรถขึ้นมา โปรดระมัดระวังเป็นพิเศษนะจ๊ะ มุมนี้เป็นทางเดินลงไปยังจุดชมวิว เด๋วเราไปดูข้างล่างกัน

อ่า … ถึงแล้ว เดียวดายจริงๆ ละก็สวยจริงๆ อากาศเย็นผิดกับข้างล่างมาก ตรงนี้สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1000 เมตร เป็นจุดสูงสุดของทิวเขาภาคกลาง … อะไรแว้ มะกี้ยังอยู่อีกสานอยู่เลย

มีป้ายบอกชัดเจน แต่พวงมาลัยข้างๆแอบหลอนเอาเรื่องอยู่ walking distance ประมาณ 200 เมตร ไม่ไกลมาก

นางแบบก็มา เดาเอาเองว่าถ่ายยังไง

อีกมุมนึงน้า นุ่นเป็นคนชอบวิวแบบนี้มาก รู้สึกสูงดี … เออสิ ก็ถูกแล้ว เพราะมันสูงไง … มองวิวไปเรื่อยเปื่อยแล้วคิดถึงเพลงนี้เลยอ่า … ว่าอยู่ยิ่งสูงยิ่งเห็น ยิ่งสูงยิ่งมองได้ไกล และให้เห็นมุมมองที่กว้างใหญ่ เปิดความคิดให้ใจจากสายตา ว่าเราควรยืนมองดู อยู่เหนือหัวใจแห่งปัญหา และจะเห็นทุกเรื่องราวไม่หนักหนา หมื่นทางตันยังมีทางหนึ่งให้ออกเสมอ … ต้องเป็นเวอร์ชั่น กัน ณภัทร ด้วยนะ ^^

ถนนด้านหน้าเห็นแล้วสะดุดตา ต้นไม้กำลังเปลี่ยนสีพอดี ถ้าขับขึ้นไปจะไปจุดชมวิวเขาเขียว ด้านบนไม่มีอะไร นุ่นเลยไม่ได้ขึ้นไป

ถึงแล้วจ้า ที่สวรรค์แกล้งคือมาถึงปุ๊บ ฝนตกปั๊บ กระหน่ำตกลงมาแบบไม่เกรงใจคนตั้งใจมาเที่ยวเลย 555

นุ่นมาถึงตอนบ่าย 3 พอดี ที่นี่ค่าเข้าชม 250 บาท ซื้อตั๋วปุ๊บ น้องๆพนักงานบอกว่าบ่าย 3 ตรงมีการแสดงด้านใน วิ่งเลยครับ นุ่นก็เป็นคนเชื่อคนง่าย เค้าให้วิ่งก็วิ่งค่ะ มาทันดูการแสดงพอดี 555

ด้านใน pavilion นี้ติดแอร์เย็นสบาย เล่นไฟส่องต้นไม้หลายๆสี สลับไปสลับมา นุ่นก็เดินถ่ายรูปมุมโน้นมุมนี้ สวยดีค่า

เค้าใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆค่ะ นุ่นชอบบบบ

เอาจริงๆนะ นุ่นคิดว่าอยู่ในงานแต่งงาน ใครชอบเอาไปเป็นธีมได้

นี่ก็เหมือน backdrop งานแต่ง

นี่ก็เค้กงานแต่ง 555

นี่ก็ prop งานแต่ง 555 พอแล้ว

พอการแสดงแสงสีจบ ไฟก็ค่อยๆสว่าง คราวนี้เราจะเห็นดอกไม้ได้เต็มๆตา เวลาในการแสดงแสงสีประมาณ 15 นาที

หน้าวัวใบแหลมๆ อันนี้เค้าเรียกหน้าวัวป่ะ

และฝนก็ยังกระหน่ำตกไม่หยุดยั้ง เราก็เลยมานั่งพักเหนื่อย จิบกาแฟ ชิมหนมเค้กไปพลางๆก่อน ร้านเค้กที่นี่ชื่อน่ารัก la lalla นุ่นสั่งลาเต้เย็นและเค้กชาไทย เค้กหวานมาก -..- และกาแฟไม่ใช่กาแฟสด แต่เป็นกาแฟที่ชงเอาไว้แล้วมาเทใส่แก้ว -..- หนูมิปลื้มมมม

เค้กหน้าตาดี แต่เค้าอยากให้รสชาติดีกว่านี้อ่ะ T_T

บรรยากาศร้านขนม คนหายไปไหนหมดดดดดดด

อ่า เราออกมาดูตรง pavilion ข้างนอกบ้าง เค้าจัดดอกไม้อลังการมากนะ มุมถ่ายรูปน่ารักๆเยอะเลย

La lalla อีกมุม ชื่อนี้น่ารักจัง

ดอกจริงหมดนั่นเลย บรรยากาศข้างนอกฝนก็ยังตกอยู่ แต่ดีนะ มันทำให้อากาศไม่ร้อน

ที่นี่แทบทุกมุมที่จัด จะมีเก้าอี้ไว้ให้นั่งโพสท่าสวยๆ แต่เป็นวันธรรมดา นุ่นเลยถ่ายรูปได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องแย่งคนอื่น

ฝักกระถิน คิดได้ไง ^^

มุมนี้ก็เป็นมุมมหาชน ที่คนชอบมาถ่ายรูป หมีเปียก ^^

กวางเรนเดียร์นี่เค้าก็ใช้ไม้ๆมาต่อกันทั้งหมดเลยอ่ะ

นุ่นคอนเฟิร์มเลยว่าต้นไม้เยอะจริงๆ หลายชนิดหลายพันธุ์มากๆ

มุ้งมิ้งๆ

ดูรูปกันไปยาวๆนะจ๊ะ

พระเอกของงาน กล้วยไม้ ฟาแลนนอฟซีส ที่ต้นสวย ดอกใหญ่มาก

เดินจนจะเมื่อยแล้ว แต่ก็เจอมุมถ่ายรูปสวยๆตลอด

อันนี้มันคือสะระแหน่รึเปล่า

เนี่ย นุ่นชอบต้นนี้ ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว แต่นุ่นไม่เคยเห็นดอกสีม่วงเข้มแบบนี้ สวยมากกกก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะกระถางละ 350 บาท

ฟาแลนลายสวยๆ

สีเหลืองก็มี

บริเวณนี้จะเป็นโซนขายของฝาก ของที่ระลึก ต้นไม้หลายชนิด ใครชอบซื้อไปปลูก ไปประดับ นุ่นว่าที่นี่คัดคุณภาพต้นไม้ที่จะนำมาขายมาก เราไม่เห็นต้นเก่าๆ เน่าๆ โทรมๆเลย หาซื้อไปเป็นของฝากถูกใจแน่นอน
[CR] Dasada Gallery ที่ที่ดอกไม้ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
ชื่อเล่นชื่อ นุ่น ชื่อเล่นยาวๆว่า โบนัสนุ่น เป็นผู้หญิงตาตี่ ขาใหญ่ และรักกระต่ายมาก
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกใน pantip เลยนะคะ ปกติจะถ่ายรูปเก็บเป็นอัลบัมอยู่ใน facebook
แต่คิดไปคิดมา อยากแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยว และถ่ายรูป ที่สวยบ้างไม่สวยบ้าง ให้เพื่อนๆได้ดู เผื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
ออกตัวก่อนเลยว่า ถ้ามีตรงไหนผิดพลาด กราบขออภัยงามๆ 3 ทีไว้ก่อนเลยนะคะ อย่าถือสามือใหม่เลย ^^
ทริปนี้โบนัสนุ่นพาไปชมแกลเลอรี่ดอกไม้สวยๆอีกที่ จากเมื่อปีที่แล้วที่ไปมาแล้วประทับใจ ปีนี้ก็เลยต้องไปซ้ำอีก แต่ concept แต่ละปีเค้าก็จะจัดไม่เหมือนกันนะ อย่างเช่นปีนี้มาใน concept “Art in Heart แค่เห็นก็เข้าใจ” ที่ ดาษดา แกลเลอรี่ เขาใหญ่ ปราจีนบุรี … วันหยุดวันที่ 19 มกราคม 2558 นุ่นเลือกไปวันธรรมดา เหตุผลอย่างเดียวเลยคือ เสาร์-อาทิตย์ หยุดงานไม่ได้ ก็เลยต้องเลือกมาเที่ยววันธรรมดา เหมือนทุกทริปนั่นแหละ แต่ผลพลอยได้คือคนไม่เยอะ ถ่ายรูปได้ฟินมาก อยากได้มุมไหน ถ่ายเลยจ้า … แต่ก่อนจะไปถึงดาษดา มีที่แวะเที่ยวอีกหลายที่ ไปดูรูปกันเลยดีกว่า เด๋วมองภาพไม่ออก … ระหว่างดู เปิดเพลง “วันสบาย – อภิรมย์” ไปด้วยจะฟินมาก ^^
ภาพเปิดอัลบัม เอารูปสวยๆของดาษดา แกลเลอรี่มาเรียกน้ำย่อยก่อน .. ถ้าจำไม่ผิดที่นี่เค้าจะจัดแกลเลอรี่ดอกไม้สวยๆแบบนี้แค่ปีละ 1 ครั้ง ประมาณ 3 เดือนช่วงหน้าหนาว ปีนี้จะจัดถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 ค่าเข้าชมคนละ 250 บาท ถ้าคนที่ไม่ชอบจะแอบบ่นว่าแพง แต่นุ่นว่ามันก็เหมือนซื้อตั๋วหนัง 1 เรื่องแหละ แค่เปลี่ยนบรรยากาศจากโรงหนังมาเป็น แกลเลอรี่ดอกไม้ สำหรับนุ่น นุ่นว่าคุ้มนะ
นุ่นใช้เส้นทางเดินทางจากปากช่อง วิ่งเส้นธนรัชต์ ข้ามเขาใหญ่ไปฝั่งปราจีน แต่ก่อนขึ้นเขาใหญ่ ได้ยินว่ามีรีสอร์ทเปิดใหม่ เป็นสไตล์ tent camp อยากลองแวะชิมอาหารหน่อยว่าจะเป็นยังไง ชื่อน่ารักมาก “LALA MUKHA Tent Resort” อยู่ตรงทางแยกจากถนนกุดคล้า ตัดออก dairy home เลี้ยวเข้ามาประมาณไม่ถึง 1 กิโลเมตร อยู่ด้านซ้ายมือเลยจ๊ะ
วิวบริเวณร้านอาหาร เห็นเขาลูกช้างข้างหลังแบบเต็มๆตา มองจากถนนจะไม่เห็นนะ ว่าด้านในเป็นแบบนี้
ด้วยความรักสุขภาพของนุ่น เลยลองสั่ง ลาลามูก้า สลัด เป็นสลัดผัก ผลไม้ มี green oak , แอปเปิ้ลเขียว , ส้ม , มะเขือเทศเชอรี่ , แอลม่อนฝานบางๆ และน้ำสลัดเป็นซอสส้ม แปลกดี แต่รสชาติงั้นๆอ่ะ นุ่นกินไม่หมด จริงๆผักสลัดน่าจะหลากหลายกว่านี้ ไม่น่ามีมาให้แค่ green oak มันดูเลี่ยนๆ ขมๆไปหน่อย
และด้วยความรักสุขภาพแต่กลัวไม่อิ่ม เลยสั่งผักโขมอบชีสมาเติมให้อยู่ท้อง 55 อันนี้เยอะไปหน่อย ผักโขมมันรองพื้นมาเต็ม กินไม่หมดอีกตามเคย
กินไปดูวิวไป เพลินดี ที่พักก็เป็นลักษณะ tent camp มีทั้งแบบห้องน้ำในตัวและ ห้องน้ำรวม แต่อาจจะเป็นเพราะที่นี่เพราะเปิดใหม่กิ๊กมากๆ พนักงานก็ยังไม่โอเค คุยกันเสียงดั๊งดัง -..- และด้านข้างก็ยังมีการก่อสร้างอยู่ ได้ยินเสียงตอกๆๆๆ เจียๆๆๆ ทุบๆๆๆ แสบหูมาก ถ้าตัดวิวออกนี่คิดว่านั่งกินข้าวอยู่ในร้านหมอฟัน -..-
เดี๋ยวอีกหน่อยคงดีขึ้น แต่ยอมรับว่าวิวที่นี่สวยจริง ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนภูเขาตรงนี้คงจะเขียวสดชื่นมากๆ กินอิ่มแล้ว เด๋วจะออกเดินทางแล้วค่ะ ไปเล้ยย
ขับผ่านด่านอุทยานเข้ามา เสียค่าธรรมเนียม ค่ารถคันละ 50 บาท และค่าบริการคนละ 40 บาทนะจ๊ะ แวะไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ก่อน เพื่อความสบายใจ
วันนี้เสี่ยงเซียมซีได้หมายเลข 9 ดีเลยแหละ ^^
เส้นทางนี้ระยะทางจาก เขาใหญ่-ปากช่อง จนถึง เขาใหญ่-ปราจีนบุรี ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตรนิดๆ แต่ขับชิลๆไป ที่แรกที่แทบทุกคนต้องแวะ คือจุดชมวิวที่นี่ มากี่ครั้งนุ่นก็ดูไม่ออกว่าข้างล่างนั้นเขากำลังก่อสร้างอะไรอยู่ ใครรู้ก็ช่วยมาแถลงหน่อยน้า สงสัยมานาน 555
อีกมุม
และขาดไม่ได้คือนางแบบอ้วนๆคนนี้ จะยืนตรงไปไหน -..-
ต่อกันด้วยวิวข้างทาง อยู่แถวๆเวิ้ง อ่างเก็บน้ำสายศร แต่เป็นฝั่งตรงข้าม ทุ่งหญ้ากำลังเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สวยดีอ่า
และอีกที่ ที่ตั้งใจมาเลยก็คือ จุดชมวิวผาเดียวดาย ครั้งที่แล้วขึ้นมาเขาใหญ่เมื่อเดือน พฤศจิกายน ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าผาเดียวดายขึ้นไม่ได้ เพราะดินสไลด์ แต่ครั้งนี้เอาชัวร์ สอบถามเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ที่ด่านเก็บเงิน เจ้าหน้าที่บอกว่าขึ้นได้แล้ว เลยจัดไปไม่ให้พลาด แต่ทางยังไม่ดีเท่าไร ใครขับรถขึ้นมา โปรดระมัดระวังเป็นพิเศษนะจ๊ะ มุมนี้เป็นทางเดินลงไปยังจุดชมวิว เด๋วเราไปดูข้างล่างกัน
อ่า … ถึงแล้ว เดียวดายจริงๆ ละก็สวยจริงๆ อากาศเย็นผิดกับข้างล่างมาก ตรงนี้สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1000 เมตร เป็นจุดสูงสุดของทิวเขาภาคกลาง … อะไรแว้ มะกี้ยังอยู่อีกสานอยู่เลย
มีป้ายบอกชัดเจน แต่พวงมาลัยข้างๆแอบหลอนเอาเรื่องอยู่ walking distance ประมาณ 200 เมตร ไม่ไกลมาก
นางแบบก็มา เดาเอาเองว่าถ่ายยังไง
อีกมุมนึงน้า นุ่นเป็นคนชอบวิวแบบนี้มาก รู้สึกสูงดี … เออสิ ก็ถูกแล้ว เพราะมันสูงไง … มองวิวไปเรื่อยเปื่อยแล้วคิดถึงเพลงนี้เลยอ่า … ว่าอยู่ยิ่งสูงยิ่งเห็น ยิ่งสูงยิ่งมองได้ไกล และให้เห็นมุมมองที่กว้างใหญ่ เปิดความคิดให้ใจจากสายตา ว่าเราควรยืนมองดู อยู่เหนือหัวใจแห่งปัญหา และจะเห็นทุกเรื่องราวไม่หนักหนา หมื่นทางตันยังมีทางหนึ่งให้ออกเสมอ … ต้องเป็นเวอร์ชั่น กัน ณภัทร ด้วยนะ ^^
ถนนด้านหน้าเห็นแล้วสะดุดตา ต้นไม้กำลังเปลี่ยนสีพอดี ถ้าขับขึ้นไปจะไปจุดชมวิวเขาเขียว ด้านบนไม่มีอะไร นุ่นเลยไม่ได้ขึ้นไป
ถึงแล้วจ้า ที่สวรรค์แกล้งคือมาถึงปุ๊บ ฝนตกปั๊บ กระหน่ำตกลงมาแบบไม่เกรงใจคนตั้งใจมาเที่ยวเลย 555
นุ่นมาถึงตอนบ่าย 3 พอดี ที่นี่ค่าเข้าชม 250 บาท ซื้อตั๋วปุ๊บ น้องๆพนักงานบอกว่าบ่าย 3 ตรงมีการแสดงด้านใน วิ่งเลยครับ นุ่นก็เป็นคนเชื่อคนง่าย เค้าให้วิ่งก็วิ่งค่ะ มาทันดูการแสดงพอดี 555
ด้านใน pavilion นี้ติดแอร์เย็นสบาย เล่นไฟส่องต้นไม้หลายๆสี สลับไปสลับมา นุ่นก็เดินถ่ายรูปมุมโน้นมุมนี้ สวยดีค่า
เค้าใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆค่ะ นุ่นชอบบบบ
เอาจริงๆนะ นุ่นคิดว่าอยู่ในงานแต่งงาน ใครชอบเอาไปเป็นธีมได้
นี่ก็เหมือน backdrop งานแต่ง
นี่ก็เค้กงานแต่ง 555
นี่ก็ prop งานแต่ง 555 พอแล้ว
พอการแสดงแสงสีจบ ไฟก็ค่อยๆสว่าง คราวนี้เราจะเห็นดอกไม้ได้เต็มๆตา เวลาในการแสดงแสงสีประมาณ 15 นาที
หน้าวัวใบแหลมๆ อันนี้เค้าเรียกหน้าวัวป่ะ
และฝนก็ยังกระหน่ำตกไม่หยุดยั้ง เราก็เลยมานั่งพักเหนื่อย จิบกาแฟ ชิมหนมเค้กไปพลางๆก่อน ร้านเค้กที่นี่ชื่อน่ารัก la lalla นุ่นสั่งลาเต้เย็นและเค้กชาไทย เค้กหวานมาก -..- และกาแฟไม่ใช่กาแฟสด แต่เป็นกาแฟที่ชงเอาไว้แล้วมาเทใส่แก้ว -..- หนูมิปลื้มมมม
เค้กหน้าตาดี แต่เค้าอยากให้รสชาติดีกว่านี้อ่ะ T_T
บรรยากาศร้านขนม คนหายไปไหนหมดดดดดดด
อ่า เราออกมาดูตรง pavilion ข้างนอกบ้าง เค้าจัดดอกไม้อลังการมากนะ มุมถ่ายรูปน่ารักๆเยอะเลย
La lalla อีกมุม ชื่อนี้น่ารักจัง
ดอกจริงหมดนั่นเลย บรรยากาศข้างนอกฝนก็ยังตกอยู่ แต่ดีนะ มันทำให้อากาศไม่ร้อน
ที่นี่แทบทุกมุมที่จัด จะมีเก้าอี้ไว้ให้นั่งโพสท่าสวยๆ แต่เป็นวันธรรมดา นุ่นเลยถ่ายรูปได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องแย่งคนอื่น
ฝักกระถิน คิดได้ไง ^^
มุมนี้ก็เป็นมุมมหาชน ที่คนชอบมาถ่ายรูป หมีเปียก ^^
กวางเรนเดียร์นี่เค้าก็ใช้ไม้ๆมาต่อกันทั้งหมดเลยอ่ะ
นุ่นคอนเฟิร์มเลยว่าต้นไม้เยอะจริงๆ หลายชนิดหลายพันธุ์มากๆ
มุ้งมิ้งๆ
ดูรูปกันไปยาวๆนะจ๊ะ
พระเอกของงาน กล้วยไม้ ฟาแลนนอฟซีส ที่ต้นสวย ดอกใหญ่มาก
เดินจนจะเมื่อยแล้ว แต่ก็เจอมุมถ่ายรูปสวยๆตลอด
อันนี้มันคือสะระแหน่รึเปล่า
เนี่ย นุ่นชอบต้นนี้ ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว แต่นุ่นไม่เคยเห็นดอกสีม่วงเข้มแบบนี้ สวยมากกกก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะกระถางละ 350 บาท
ฟาแลนลายสวยๆ
สีเหลืองก็มี
บริเวณนี้จะเป็นโซนขายของฝาก ของที่ระลึก ต้นไม้หลายชนิด ใครชอบซื้อไปปลูก ไปประดับ นุ่นว่าที่นี่คัดคุณภาพต้นไม้ที่จะนำมาขายมาก เราไม่เห็นต้นเก่าๆ เน่าๆ โทรมๆเลย หาซื้อไปเป็นของฝากถูกใจแน่นอน