[CR] รู้ไว้ก่อนไปเวียดนาม : ขึ้นแท็กซี่ที่เวียดนามยังไง ไม่ให้โดนโกง


ใครเวียดนามแล้วไม่เคยโดนแท็กซี่โกงบ้าง ยกมือขึ้นนนนนน......คุณคือคนที่โชคดีมากๆ ทำบุญมาด้วยอะไรนี่ ประหลาดใจ

ไปเวียดนามแล้วไม่โดนโกงเหมือนยังมาไม่ถึงวียดนาม คำพูดนี้ดูจะไม่เกินจริงซักเท่าไหร่ สำหรับคนที่ไปเยือนเวียดนามและไป “โดน” มาเรียบร้อยแล้ว
ชื่อเสียงและเทคนิคการโกงนักท่องเที่ยวของแท็กซี่ที่เวียดนามเรียกว่าโด่งดัง พอๆกับว่ามาเวียดนามแล้วต้องมากินเฝอหรือมามุดอุโมงค์กูจีเลยทีเดียว  คือโกงกันตั้งแต่สนามบินยันในเมืองและขากลับ อมยิ้ม08

วันนี้จขกท.เลยอยากจะมาแชร์วิธีที่จะช่วยให้ใช้ชีวิตรอดปลอดภัยจากแท็กซี่เวียด หรือโดนน้อยลงซักนิดก็ยังดี  หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกๆคนบ้างนะคะ

วิธีต่างๆที่แท็กซี่ที่นี่ใช้โกงนักท่องเที่ยวก็มีแชร์กันในหลายกระทู้  เช่น...
ใบแดงคนขับจะพาขับวนๆ ถึงแม้ถนนหลายๆเส้นในโฮจิมินห์จะเป็น one way แต่ระยะทางจากที่เที่ยวที่หนึ่งไปอีกที่จะไม่ไกลกันมาก  ถ้ารู้สึกว่านั่งนานเกิน 20 นาที ให้ระวังตัวได้แล้ว (ระยะทางจากสนามบินเข้าเมืองแค่ประมาณ 30-40 นาที เพราะฉะนั้นนั่งแค่ในเมืองไม่ควรเกินกว่านี้)
ใบแดง    คนขับหลีกเลี่ยงที่จะไปส่งให้ถึงหน้ารร.  อันนี้ค่อนข้างชัดเลย เพราะปกติหน้ารร.จะมีพนักงานคอยเปิดประตูรถให้อยู่ ถ้ามีอะไรเค้าจะช่วยได้ คนขับแท็กซี่โกงทั้งหลายเลยพยายามจะสลัดเราลงแถวริมถนน ด้วยเหตุผลต่างๆนานา เช่น อ้อมไกล,รถติด ถ้าโดนแบบนี้แล้วต้องลงให้ระวังเป็นพิเศษ
ใบแดงคนขับจอดรถและเอาหนังสือพิมพ์ขึ้นมา อันนี้ใช่เลย ไม่ใช่ว่าจะอยากทันเหตุการณ์บ้านเมืองอะไร แต่เค้าจะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ใหญ่ๆไว้คอยบังเวลาสลับแบงค์ หรือโขมยของ
ใบแดงเทคนิคสลับแบงค์ ถ้าเราให้แบงค์แสนไป เค้าก็จะปล่อยลงพื้นรถในช่วงที่เราเผลอและเอาแบงค์หมื่นมาโวยวายว่าเราจ่ายไม่ครบ
เพื่อนเราสามารถเจอเทคนิคทั้งหมดนี้ได้ภายในครึ่งวันหลังลงเครื่อง  ครบครันไป โดนไปหลายแสน(ดอง)

    ใครโดนแบบแปลกๆอันไหนอีก มาแชร์กันได้นะคะ  เราเคยโดนแบบจะกด password ของการ์ดเพื่อจ่ายค่าแท็กซี่ กลายเป็นกดจำนวนเงินให้ทิปซะงั้น แล้ว password นี่ เป็นเลขหกหลัก กลายเป็นว่าค่าแท็กซี่ 3 หมื่น เราทิปไป 3 แสน แต่รอบนี้รอดนะ นั่งยัน นอนยัน อยู่ในรถนั่นแหละ ให้เค้า   cancel ให้ได้

ส่วนคันนี้เป็น แท็กซี่ที่เราไปโดนมาที่ฮานอย เหมือนจะมีการปรับมิเตอร์ เพราะว่าราคาขากลับ มันเยอะกว่าขาไปตอนแรกมาก ทั้งๆที่ก็ทางเดียวกัน พอรู้ตัวเราเริ่มโวยวาย ว่ามิเตอร์แปลกๆนะ คนขับก็ทำมึนๆ เราทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ขู่ว่าเรารู้นะว่าแกโกง โมโหมากถ่ายรูปมันไว้เลย เม่าโกรธ


ช่วงแรกๆที่จขกท.มาอยู่ที่เวียดนาม ก็ยังเคยชินกับวิธีการขึ้นแท็กซี่จากเมืองไทยอยู่  ต้องอยู่ไปซักพักถึงได้เข้าใจว่านิสัยของแท็กซี่ที่นี่จะไม่เหมือนกับที่บ้านเรา

1. แท็กซี่ ที่นี่ไม่รีบ ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องรีบขึ้นรีบลง เราสามารถขึ้น ลง ช้าๆ ได้  ค่อยๆนับเงิน ตรวจดูของให้ครบก่อนลง (ถ้าคนขับมีเร่ง โวยวายช่วงที่เรานับเงิน ให้รู้ตัวไว้เลยว่ากำลังจะโดนเทคนิคโกงแบบนึงแล้ว)
2. แท็กซี่ที่นี่สามารถขับปีนฟุตบาทขึ้นมารับได้ทุกคัน ตอนขึ้นถ้าหน้ารร.มีฟุตบาทใหญ่พอให้รถขึ้นมาได้ ให้รอด้านบนเลย
ไม่ต้องลงมารอที่ฟุตบาท ริมถนนให้เสี่ยงกับภัยอื่นๆ อย่างที่จขกท.เคยโดน  ตอนนั้นจขกท.ยังไม่เชี่ยวชาญพอ เลยเดินมาโบกแท็กซี่ริมถนน....ก็โดนกันไป ตามระเบียบเต่าเอือม
เข้าไปอ่านความมันส์กันได้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

พนักงานรร.ทุกที่ยินดีเรียกแท็กซี่ให้ ส่วนเราสามารถนั่งสวยๆรอใน lobby ก่อน จนกว่ารถจะมาค่อยเดินออกมาก็ได้ นางพญาเม่า
3.แท็กซี่ที่นี่ไม่ค่อยปฏิเสธลูกค้า อยู่มาปีครึ่งเคยเจอไปแค่ 2 คัน (น้อยกว่าเรียกแถวCentral World  5 นาทีอี๊กกกก) คาดว่ายังไม่รู้จักเทคนิคไปส่งรถ หรือเติมแก๊ส หรือยังไม่เคยมาดูงานแถวนี้เป็นแน่

เอาล่ะมาถึงวิธีขึ้นแท็กซี่กันได้
เริ่มจากเลือกแท็กซี่ให้ถูกคัน
บริษัทแท็กซี่ที่พอจะเชื่อถือได้ที่เวียดนามจะมี 2 เจ้า คือ Vinasun กับ Mailinh ถ้าในโฮจิมินห์ Vinasun จะหาได้ง่ายที่สุด ส่วน Mailinh จะมีทั่วประเทศ ถ้าไปทางฮานอย หรือ ดานัง ดาลัด ก็จะหา Mailinh ได้
Vinasun รถจะขาวๆคาด แดง เขียว

Mailinh จะมี 2 สี คือเขียวทั้งคัน กับขาวแถบเขียว



แบบคันขาว *ภาพจาก internet*


2.ดูที่อยู่และเปิดแผนที่ไปด้วย ระหว่างนั่งถ้ากลัวแท็กซี่จะพาอ้อม ให้เปิดแผนที่ในโทรศัพท์ดูไปด้วย ว่าทิศทางที่เค้าขับไปมันพอจะใกล้เคียงมั้ย  นอกจากจะเช็คทางแล้วยังเอาไว้ขู่คนขับนิดๆด้วยว่าชั้นรู้ทางนะเฮ้ย อย่ามาพาอ้อม อีกอย่างถ้าเค้าพาไปผิดทาง เราจะได้ไหวตัวทัน

3.ถ้ารู้สึกว่าโดนอ้อมหรือไปผิดทางให้โวยวาย จากประสบการณ์คนเวียดนามน้อยมากที่จะลงไม้ลงมือ ฉะนั้นถ้าคิดว่าเค้าน่าจะเริ่มพาวน ให้โวยวายเลย อาจจะชี้แผนที่ให้ดูด้วยก็ได้ว่านี่มันคนละทางแล้วนะ  ถ้าเจอแบบนี้ส่วนใหญ่คนขับก็จะทำหน้ามึนๆแล้วก็วนกลับเอง ภาษาอังกฤาที่เค้ารู้จักคือ police ค่ะ ดูท่าไม่ดี โวยเลยว่าจะเรียกตำรวจ

4. เผื่อเวลาไว้ด้วย แท็กซี่ไม่รู้ทางเยอะ ประมาณว่าเข้าเมืองมาขับแท็กซี่ พวกนี้อาจจะไม่ได้ตั้งใจโกง แต่ไม่รู้ทางจริงๆจขกท.   เคยโดนให้บอกทางอยู่หลายที ก็งงๆ คนต่างชาติต้องมาบอกทางคนพื้นที่ด้วยเฮ้ย
ปกติแท็กซี่ที่ชำนาญ เราบอกแค่เลขที่กับชื่อถนน เค้าจะไปได้ถูกเลย เพราะถนนที่นี่จะเป็นบล็อค ตึกก็จะเรียงเลขที่ จะมีแค่แบ่งเลขคู่กับเลขคี่อยู่คนละฝั่งถนน ซึ่งฝั่งตรงข้ามกันเลขอาจจะไม่ใกล้กันก็ได้
เพราะฉะนั้นถ้าจะไปรร. หรือร้านอาหาร อย่าลืมเอาที่อยู่ให้เค้าดูด้วย เค้าจะหาง่ายกว่าชื่อร้านอย่างเดียว

5. ปกติ แท็กซี่ จากสนามบิน  ถ้าเป็นราคาที่ตกลงกันไว้แล้วและจ่ายที่ counter แล้ว ราคาจะรวมค่าออกจากสนามบิน 10,000 VND  เราไม่ต้องจ่ายตรงตู้เวลาออกจากสนามบิน คนขับต้องเป็นคนจ่าย แต่ก็มีเหมือนกันที่คนขับจะหันมามั่วขอจากเรา แถมค่าผ่านหมื่นนึง มันจะขอแสนนึง ให้เรายืนยันเลยว่าไม่จ่าย ตกลงกับ counter มาแล้ว อันนี้ใครที่ดูมีกะตังค์หน่อย ดูเป็นญี่ปุ่นๆมักจะโดน แต่เราไม่เคยโดนซักที
อ่อ เวลาตกลงราคาแท็กซี่จากสนามบินที่ counter ให้ขอราคาเป็นดองจะถูกกว่า US ถ้าเป็น US ส่วนใหญ่มักจะโดนที่ 15-18 USD แต่ถ้าเป็นดองก็ประมาณ 200,000 (มิเตอร์ปกติประมาณ 150,000)

4.ศึกษาแบงค์ เตรียมเงินแบงค์ย่อยไว้ เนื่องมาจากค่าเงินดองที่นี่สร้างความปวดหัวให้กับคนไทยมากเพราะเลขศูนย์มันเยอะเหลือเกิน ไปใหม่ๆอาจจะงงได้ ว่านี่มันแบงค์อะไร แบงค์พัน แบงค์หมื่น มีไปยันแบงค์ 5 แสน แท็กซี่มักจะใช้จุดนี้ในการสลับแบงค์โกงเรา  เทคนิคนึงที่เพื่อนจขกท.ใช้และได้ผลดี คือการแบ่งกับเก็บแบงค์ ลูกชายถือแค่แบงค์หลักพัน ลูกสาวถือเฉพาะแบงค์หมื่น และแม่ถือหลักแสน แบบนี้จะป้องกันการมั่วแบงค์ได้เวลาที่ต้องรีบๆควักเงินจ่าย
ปกติจขกท.จะมีการ์ดแท็กซี่ที่บริษัททำไว้ให้ พอจะจ่ายก็ใช้รูดการ์ด ไม่ต้องใช้เงินสดจ่ายเลยลดปัญหาไปได้เยอะ แต่ถ้ามีต้องใช้เงินสดเราจะใช้วิธีดูราคาประมาณไว้เลยตั้งแต่ใกล้ๆจะถึงที่หมาย หยิบเงินออกมานับให้พอดีๆ พอตอนจ่ายจะถือไว้ยังไม่ยื่นให้คนขับ แล้วนับให้ดูเลยว่านี่ 1 แสน นี่2 หมื่น โอเคนะ แล้วค่อยยื่นให้ ป้องกันปัญหาว่าได้เงินไม่ครบ
แบงค์ของเวียดนามเรียงตามความใหญ่ ตั้งแต่ 5 แสนลงไปจน 1 พัน


เห็นเลขศูนย์เยอะๆ อย่าเพิ่งง กับมัน เราจะสนใจแค่ 3  เลขข้างหน้าเท่านั้น  ก็จะพอคำนวนเป็นเงินไทยได้ เวลาคำนวนแบบง่ายๆก็ ตัด 0 สามตัวหลังไปเลย แล้วคูนด้วย 1.5 เช่น 100,000 ดอง จะประมาณ 150 บาท

6.อย่าขึ้น แท็กซี่ ที่จอดรอตามที่ท่องเที่ยว ตามแหล่งท่องเที่ยว เช่นหน้าตลาดเบ๋นธ่าน ,War museum มักจะมีแท็กซี่ยี่ห้ออื่นๆที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจมาจอดดักเหยื่ออยู่ บางคันทำ สีและตัวหนังสือเลียนแบบเจ้าดังอย่าง Vinasun และ Mailinh ด้วย ให้เดินเลยไปแล้วโบกแท็กซี่ที่ผ่านไปมาจะดีกว่า
แท็กซี่ หน้าตาประมาณนี้มักจะจอดรอลูกค้าอยู่ตามที่ท่องเที่ยว (แท็กซี่ยี่ห้ออื่นนอกจาก Vinasun กับMailinh อาจจะไม่ได้โกงทุกคันนะคะ แต่เราขอ ปลอดภัยไว้ก่อน)


7.ใช้ตัวช่วยที่บริษัทจัดมาให้  ตามถนนในเมือง สถานที่ท่องเที่ยว หรือแถวรร. จะมีพนักงานของบริษัทแท็กซี่ ใส่ชุดฟอร์มบริษัท มายืนคอยอยู่ บางทีก็มีร่มปักไว้ให้เห็นง่ายๆ  เรามารถเดินไปหาพนักงานเหล่านี้ให้เค้าเรียกรถให้ได้เลย พนักงานจะวอ หรือโทร หรือบางทีก็ไปยืนโบกให้
พนักงานใส่ชุดประมาณนี้ ในรูปจะเป็นพนักงานของ Vinasun นะคะ ส่วนของ Mailinh จะใส่สีเขียวสดกว่านี้หน่อย



พอขึ้นรถ เค้าจะมีกระดาษใบเล็กๆให้เรามาด้วย ระบุเลขรถ วันที่ เวลา แล้วก็สถานที่ที่เราขึ้นมา


จริงๆแท็กซี่ที่นี่เราสามารถโทรเรียกได้ทั้ง 2 ค่าย แต่ call center จะพูดเวียดนามเลยต้องให้คนที่นี่โทรให้ แต่ถ้าอยู่ในเมือง ปกติแท็กซี่จะหาง่ายมากๆๆๆ ไม่ค่อยมีปัญหา นอกซะจากไปที่ไกลๆ แท็กซี่ผ่านน้อย อาจจะต้องใช้วิธีโทร

ล่าสุดปลายปี 2015 Vinasun ได้อกก application สำหรับเรียกแท็กซี่ออกมาแล้ว แต่ตอนนั้นยังเป็นช่วงทดลอง จขกท.เลยยังไม่มีโอกาสได้ใช้ app นี้ ถ้าใครไปจะลองโหลด app มาใช้ดูก็ได้ ดูจากที่ลองเข้าไปก็ใช้ไม่ยาก สามารถบอกได้ว่าจะมีแท็กซี่มั้ย ใช้เวลาเท่าไหร่ในการมารับ

แท็กซี่ เวียดนามจะไม่มีป้ายไฟ ว่าง แบบบ้านเรา ต้องอาศัยโบกๆ แล้วลุ้นเอาว่ามีคนนั่งอยู่แล้วรึเปล่า ยืนโบกได้ทุกคัน ถ้าคันไหนว่างเค้าก็จะขับเข้ามาเอง
ชื่อสินค้า:   เวียดนาม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่