สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นโพสแรกของผม ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ รูปอาจจะไม่ค่อยสวยครับ
อุปกรณ์กล่องที่ใช้ Fuji XE-2 เลนส์ 10-24 f4 , 35 f1.4 มีรูปจากมือถือผสมนิดหน่อย
ทริปนี้เกินขึ้นเนื่องจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมา อกหัก เลยอยากเดินทางคนเดียวรักษาแผลใจพึ่งพิงธรรมชาติ สายลม สายหมอก ภูเขา ต้นไม้ ไปไกลละ ตอนแรกวางแผนจะไปเที่ยวเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน 7 วัน บังเอิญเพื่อนโทรมาชวนไปงานแต่งที่ลำปาง เลยเปลี่ยนโปรแกรมนิดหน่อยไปงานเพื่อนก่อนเลยไปเชียงใหม่วันเดียวแล้วไปแม่ฮ่องสอน
วันที่ 1 ออกเดินทาง คืนวันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2559
ออกเดินทาง กทมไปลำปาง กับสมบัติทัวร์ นัดเจอกับเพื่อนที่หมอชิต รถออก 21.00 น. และครั้งนี้เป็นการขึ้นรถทัวร์ครั้งแรกของเพื่อนผม รถทัวร์ทำให้เพื่อนผมตื่นเต้นแม้จะเป็น รถ ป.1 ทั้งที่นั่งแบบนวดได้ ความกว้าง ของกินที่แจก และบริการต่างๆบนรถ เพื่อนผมบอกเลยว่าค่ารถแค่ 500 กว่าบาท คุ้มวะไม่คิดว่ารถจะสบายขนาดนี้ แล้วการเดินทางก็ผ่านไปด้วยเกือบดีเพราะนอนบนรถหลับๆตื่นๆ เนื่องจากพี่นั่งด้านหลังแกกรนตลอดทางเลย T^T
วันที่ 2 วันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2559 งานแต่งเพื่อนที่ลำปาง
เราถึง สถานีขนส่งลำปาง เวลา 05.30 โดยประมาณ มีเพื่อนที่ล่วงหน้ามาก่อนมารอรับไปที่พัก จริงๆเมื่อคืนพี่แกโทรมาหาตอนตี 1 เราก็นึกว่าเป็นห่วง ที่ไหนได้ โทรผิด แล้วยังจะมาถามแก้เก้ออีกว่าถึงไหนแล้ว หลังจากนั้นก็พาเราไปพักยังลำปางรีสอร์ท ไม่มีรูปนะครับ เพราะถึงห้องปุ๊บหลับเลย ก่อนพักผ่อนเพื่อนผมบอกว่าเดี๋ยว 9โมง ตื่นไปไหว้พระกันแล้วค่อยไปบ้านงาน ผมตื่นมาอีกทีประมาณ 10 โมง โทรไปหาเพื่อนที่นัดไว้ ปรากฎว่าพึ่งตื่นเหมือนกัน กว่าจะได้ออกเกือบเที่ยงที่เแรกที่ไป
-วัดศรีชุม หนึ่งในวัดเก่าแก่ของ จังหวัดลำปางเป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ออกจากวัดศรีชุมแฟนเพื่อนอยากไปช๊อปเซรามิก เลยไปต่อกันที่
-อินทราเอาท์เลส เป็นสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดลำปาง

หลังจากออกจากอินทราเอาท์เลสก็ไปที่บ้านงานกันและอยู่ร่วมฉลองกันยันเที่ยงคืน จบไปอีกวัน
วันที่ 3 วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2559 ดอกพญาเสือโคร่งที่ขุนช่างเคี่ยน-พระธาตุดอยสุเทพ-ถนนคนเดินท่าแพ
วันนี้จริงๆแผนเดิมจะขึ้นไปเชียงใหม่กับเพื่อนแค่ 2 คนแต่ เพื่อนอีกกลุ่มเกิดเฮี้ยนไรกันขึ้นมาก็ไม่รู้ อยู่ๆก็บอก ปะกูไปเที่ยวด้วยโดดงานกันดีกว่าแต่มีเพื่อนอีกคนยังไม่ยอมติดเรื่องงานอยู่ การรวมหัวเป่าหูจึงเกิดขึ้นกล่อมอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง วลีเด็ดก็เกิดขึ้น "อย่าให้งานมาทำให้เรื่องเที่ยวเสียสิวะ" สรุปไปก็ไป(จริงๆก็ไม่ได้อยากไปหรอกแต่รถเพื่อนที่มันจะกลับด้วยดันจะไปเที่ยวรถทัวร์ก็เต็ม) งานนี้โดดงานกันทั่วหน้าเพราะต้องกับกันพรุ่งนี้แทน
กว่าจะได้ออกจากลำปางก็ เกือบบ่ายโมงแล้วด้วยเหตุผมข้างต้นผสมแต่ละคนตื่นสายด้วยแหละ
เราไปถึงพระธาตุดอยสุเทพก็ปาเข้าไป 16.00 น. แล้วจึงตกลงกันว่าจะนั่งรถขึ้นไปที่ขุนช่างเคี่ยนก่อนแล้วค่อยกลับลงมาไหว้พระธาตุดอยสุเทพ
-ขุนช่างเคี่ยน วิธีขึ้นไปมี 2 วิธี
1.ขับรถส่วนตัวหรือมอเตอร์ไซ ขึ้นไป (แต่วิธีนี้ไม่แนะนำ) เนื่องจากทางที่จะไปแคบมากและด้านข้างเป็นเหวครับ ตอนผมไปมีรถเกือบไหลลงเหว
2.เช่ารถขึ้นไป ค่าโดยสาร ขึ้น 200 บาท ลง 200 บาท รวม 400 บาท (จะถูกกว่านี้ขึ้นกับความสามารถในการต่อลองของท่าน)เมื่อได้รถแล้วก็ Go Go Go
ถึงแล้วขุนช่างเคี่ยน ( ณ วันที่ผมไป ดอกพญาเสือโคร่งพึ่งเริ่มบาน ยังมีไม่มาก)
หลังจากล่าเสือกันได้พอสมควรเวลาตามที่นัดรถไว้ รถก็พาลงมายังจุดชุมวิวเพื่อชมพระอาทิตย์ตก แต่ว่ามาไม่ทัน เลยได้แค่นี้ครับ
และสุดท้ายรถก็มาส่งเราหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพ ไปไหว้พระธาตุกันต่อ (เป็นครั้งแรกที่มาไหว้ตอนกลางคืนเลย)
เมืองเชียงใหม่ยามค่ำคืน

เมื่อไหว้พระธาตุดอยสุเทพเสร็จคราวนี้แหละปัญหาใหญ่ของพวกเรา “คืนนี้ยังไม่มีที่นอน” แบบว่าจะมาก็มาเลยไปตายดาบหน้าจริงๆ ที่พักไม่หาแถมมาถึงก็เที่ยวเลยที่พักช่างมัน ก็แบบนี้แหละคราบ สรุป เราขับรถวนหาโดยให้เพื่อนดูในอโกด้าว่ายังมีที่ไหนว่างบ้าง โชคยังดีได้ที่พักแถวประตูท่าแพเลย ใกล้ถนนคนเดิน ชื่อโรงแรมรุ่งเรือง เหลือ 3 ห้องสุดท้ายพอดี ห้องพักคือละ 990 บาท+เตียงเสริมอีก 300 ไม่มีรูปห้องนะครับแต่สภาพห้องก็ถือว่าพอรับได้ พอวางของเสร็จก็ไปเดินตลาดเลยเนื่องจากกว่าจะได้ที่พัก 3 ทุ่มกว่าแล้ว

เดินได้ไม่ทันไรก็เก็บของกันแล้ว ตอนแรกเพื่อนจะไปต่อวอร์มอัพแต่พอถึงห้องปุ๊บหลับเป็นตายน้ำยังไม่ได้อาบเลย

รอไรครับนอนพรุ่งนี้ตื่นเช้า
วันที่ 4 วันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2559 แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง
แล้ววันนี้เราก็ได้ลุยเดี่ยวซะที เช้านี้ 15 องศาผมตื่น ตี5.00 ล้างหน้าแปลงฟัน(น้ำไม่อาบอีกละ)เรียบร้อยปลุกเพื่อนให้ไปส่งที่ อาเขตเชียงใหม่ เนื่องจากเมื่อวานผมได้มาซื้อตั๋วรถตู้ขึ้นแม่ฮ่องสอนไว้แล้ว ก่อนขึ้นดอยสุเทพ เวลารถออก 6.30 น. ราคา 250 บาท โดยรถจะวิ่งเส้น เชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน
มีจอดรับส่งคนที่ ปาย กับ ปางมะผ้า

คันนี้ที่ผมจะไป อิอิ

ผมมาซื้อตั๋วเป็นที่สุดท้ายขอรถคันนี้ แถวหลังสุด จะบอกว่า นั่งทรมานมากเนื่องจากเบาะแคบมากยืดขาไม่ได้ต้องเขย่งขาตลอดเวลาแถมข้างๆเป็นฝรั่งนั่งเบียดอีก ดีว่าพวกฝรั่งลงแค่ที่ปาย จากประสบการณ์เคยนั่งรถเพื่อนไปแม่ฮ่องสอนครั้งหนึ่ง (รู้นะคิดว่าคราวก่อนผมอ้วกอะสิ ผิดครับแค่เกือบ อิอิ) เลยเตรียมยาแก้เมารถมาเพื่อความชัวร์จัดไป 1 เม็ดก่อนรถออก ซะพักก็หลับ

ตื่นมาอีกทีครึ่งทางไปปายแล้วรถจอดพักเข้าห้องน้ำ

หลังจากนั้นอีกประมาณ 1.30 ชั่วโมงเราก็ถึงปาย คนลงกันเกือบหมดคัน และมีฝรั่งขึ้นมา 3-4 คน ดีครับรถโล่งเลย

เขาบอกว่า(เขานี้ใครวะ) มาแม่ฮ่องสอนถ้าไม่มีการอ้วกก็เหมือนมาไม่ถึง จากการที่พี่รถตู้ก็ควบตะบึงแบบดริฟกันทุกโค้ง เก็บทุกหลุม มีเท่าไหร่พี่ใส่หมดวิ่งมา100 ลงหลุม100 รู้ก็รู้ว่าทำทางจะช้านิดก็ไม่ได้ แหม่มฝรั่งข้างๆเริ่มมีอาการ ตอนแรกก็นึกว่าจะหลับแต่หลับไม่สบายขยับไปขยับมา ซะพักขยับตัวเห็นจะบอกโชเฟอร์ รู้เลยครับมาแน่นอนอ้วก ผมกับพี่เลยข้างๆช่วยกันปฐมพยาบาลโดยการหาถุงพลาสติกให้แหม่มแกก่อนที่จะเลอะรถและคนในรถแล้วจะพากันอ้วกไปกันหมด เรียบร้อยครับ 1 ถุงเต็มๆ โชคดีครับแกอ้วกเสร็จถึงจุดตรวจคนพอดี เลยไม่ต้องถือถุงนาน พอขึ้นมาผมเลยให้ยาแก้เมาไปกับยาดม พอจัดไป1เม็ดก็หลับยาวเลย เวลา 12.00 น. ถึงแล้ว สถานีขนส่งแม่ฮ่องสอน ผ่านมาแล้วสินะ 1,864 โค้ง

เมื่อลงรถผมก็ไปจองตั๋วกลับ กทม ก่อน เที่ยววันพฤหัส ได้รอบ 16.00 น. 805 บาท เหลือแค่ 2 ที่สุดท้าย ได้ตั๋วรถแล้วเดินออกไปด้านหน้าสถานีขนส่งนั่งรถมอเตอร์ไซไปตลาดสายหยุด 50 บาท ถ้าเป็นสามล้อ 80 บาท
ถึงตลาดละตอนนี้จะต่อรถประจำทางขึ้นปางอุ๋ง วันธรรมดาจากแม่ฮ่องสอนจะมี 2 เที่ยวแต่ถ้าเป็นวันหยุดนักท่องเที่ยวเยอะบางทีพี่แกไปจอดรอที่ขนส่งเลย ถามค่ารถไปปางอุ๋ง 80 บาท รถออกเวลา 15.30 น. ที่ท่ารถผมได้เจอกับน้องอีกคนมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกันเลยไปด้วยกันเลย 2 วันนี้

เวลาเหลือหลังจากนั้นเดินเข้าไปตลาดไปหาของกิน ยังไม่ได้กินไรตั้งแต่เช้า จบด้วยกระเพราไข่ดาว (สิ้นคิดสิ้นดี) กินเสร็จไปเดินรอบหนองจองคำส่องที่พักไว้ก่อนอีก 2 วันต้องมานอนที่นี่ เล็งสามหมอกเกลส์เฮ้าส์ไว้
เดินกลับไปที่รถพึ่งจะ14.30 พี่คนขับบอกให้ไปเดินเล่นก่อนเดี๋ยวจะออกจะโทรไปตามเลยเดินไปชิมกาแฟร้านดังของแม่ฮ่องสอนคอฟฟี่มอร์นิ่ง

นั่งชิวซะพัก ได้เวลาเดินกลับไปที่รถ 15.30 รถยังไม่ออก คนขับเดินมาบอกน้อง พี่ต้องรอนักเรียนเลิกก่อนนะแล้วจะออก พี่หลอกผม

แต่ขึ้นไปกับรถพี่สาวพี่ก่อนละกันจะ เย้ สรุป พี่แกก็ขับรถไปจอดหน้าโรงเรียนแล้วให้ผมเปลี่ยนรถ นักเรียนก็เลิกละ เลยได้นั่งรถไปกับนักเรียนกลับหมู่บ้าน

ถึงแล้ว หมู่บ้านรวมไทย ป้าคนขับเดินมาถามพักที่ไหน "ยังไม่มีที่พักครับ" "งั้นพักที่นี่เลย ญาติป้าเองถูกกว่าที่อื่นนะ" ได้ยินว่าถูกเลยเดิมตามป้าแกต้อยๆไปที่นี่ "โฮมเตย์นายตี้" คืนละ 400 ส่วนน้องอีกคนนอนเต้นส์ ค่าเต้นส์ 250 ค่าเช่าเตาพร้อมถ่าน 100
ได้ที่พักแล้วไปถ่ายรูปกันมาถึงเย็นแล้วเลยได้รูปน้อย

ดาราประจำปางอุ๋ง

ค่ำแล้วหาไรกิน ค่ำนี้หมูกะทะ 299 บาท ฟิน

แล้วกลับไปถ่ายรูปต่อข้างเต้นส์น้อง

ถ่ายได้ช้าง ครั้งแรกของผมเลย

ถ่ายเสร็จก็เดินออกมาคนเดียว มืดมาก (ไฟฉายอย่าลืมเอามา) เดินคนเดียวหลอนเลยแถมมีเสียงใบไม้ ลูกสนตก จังหวะเหมือนคนเดินตามอีก

หลอน กลับถึงที่พักแปรงฟันนอน(น้ำไม่อาบอีกละ)
[CR] แบกเป้เที่ยวรักษาใจไปเรื่อยเปื่อยที่ ขุนช่างเคี่ยน-ปางอุ๋ง-รักไทย-แม่ฮ่องสอน
อุปกรณ์กล่องที่ใช้ Fuji XE-2 เลนส์ 10-24 f4 , 35 f1.4 มีรูปจากมือถือผสมนิดหน่อย
ทริปนี้เกินขึ้นเนื่องจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมา อกหัก เลยอยากเดินทางคนเดียวรักษาแผลใจพึ่งพิงธรรมชาติ สายลม สายหมอก ภูเขา ต้นไม้ ไปไกลละ ตอนแรกวางแผนจะไปเที่ยวเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน 7 วัน บังเอิญเพื่อนโทรมาชวนไปงานแต่งที่ลำปาง เลยเปลี่ยนโปรแกรมนิดหน่อยไปงานเพื่อนก่อนเลยไปเชียงใหม่วันเดียวแล้วไปแม่ฮ่องสอน
วันที่ 1 ออกเดินทาง คืนวันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2559
ออกเดินทาง กทมไปลำปาง กับสมบัติทัวร์ นัดเจอกับเพื่อนที่หมอชิต รถออก 21.00 น. และครั้งนี้เป็นการขึ้นรถทัวร์ครั้งแรกของเพื่อนผม รถทัวร์ทำให้เพื่อนผมตื่นเต้นแม้จะเป็น รถ ป.1 ทั้งที่นั่งแบบนวดได้ ความกว้าง ของกินที่แจก และบริการต่างๆบนรถ เพื่อนผมบอกเลยว่าค่ารถแค่ 500 กว่าบาท คุ้มวะไม่คิดว่ารถจะสบายขนาดนี้ แล้วการเดินทางก็ผ่านไปด้วยเกือบดีเพราะนอนบนรถหลับๆตื่นๆ เนื่องจากพี่นั่งด้านหลังแกกรนตลอดทางเลย T^T
วันที่ 2 วันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2559 งานแต่งเพื่อนที่ลำปาง
เราถึง สถานีขนส่งลำปาง เวลา 05.30 โดยประมาณ มีเพื่อนที่ล่วงหน้ามาก่อนมารอรับไปที่พัก จริงๆเมื่อคืนพี่แกโทรมาหาตอนตี 1 เราก็นึกว่าเป็นห่วง ที่ไหนได้ โทรผิด แล้วยังจะมาถามแก้เก้ออีกว่าถึงไหนแล้ว หลังจากนั้นก็พาเราไปพักยังลำปางรีสอร์ท ไม่มีรูปนะครับ เพราะถึงห้องปุ๊บหลับเลย ก่อนพักผ่อนเพื่อนผมบอกว่าเดี๋ยว 9โมง ตื่นไปไหว้พระกันแล้วค่อยไปบ้านงาน ผมตื่นมาอีกทีประมาณ 10 โมง โทรไปหาเพื่อนที่นัดไว้ ปรากฎว่าพึ่งตื่นเหมือนกัน กว่าจะได้ออกเกือบเที่ยงที่เแรกที่ไป
-วัดศรีชุม หนึ่งในวัดเก่าแก่ของ จังหวัดลำปางเป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ออกจากวัดศรีชุมแฟนเพื่อนอยากไปช๊อปเซรามิก เลยไปต่อกันที่
-อินทราเอาท์เลส เป็นสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดลำปาง
หลังจากออกจากอินทราเอาท์เลสก็ไปที่บ้านงานกันและอยู่ร่วมฉลองกันยันเที่ยงคืน จบไปอีกวัน
วันที่ 3 วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2559 ดอกพญาเสือโคร่งที่ขุนช่างเคี่ยน-พระธาตุดอยสุเทพ-ถนนคนเดินท่าแพ
วันนี้จริงๆแผนเดิมจะขึ้นไปเชียงใหม่กับเพื่อนแค่ 2 คนแต่ เพื่อนอีกกลุ่มเกิดเฮี้ยนไรกันขึ้นมาก็ไม่รู้ อยู่ๆก็บอก ปะกูไปเที่ยวด้วยโดดงานกันดีกว่าแต่มีเพื่อนอีกคนยังไม่ยอมติดเรื่องงานอยู่ การรวมหัวเป่าหูจึงเกิดขึ้นกล่อมอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง วลีเด็ดก็เกิดขึ้น "อย่าให้งานมาทำให้เรื่องเที่ยวเสียสิวะ" สรุปไปก็ไป(จริงๆก็ไม่ได้อยากไปหรอกแต่รถเพื่อนที่มันจะกลับด้วยดันจะไปเที่ยวรถทัวร์ก็เต็ม) งานนี้โดดงานกันทั่วหน้าเพราะต้องกับกันพรุ่งนี้แทน
กว่าจะได้ออกจากลำปางก็ เกือบบ่ายโมงแล้วด้วยเหตุผมข้างต้นผสมแต่ละคนตื่นสายด้วยแหละ
เราไปถึงพระธาตุดอยสุเทพก็ปาเข้าไป 16.00 น. แล้วจึงตกลงกันว่าจะนั่งรถขึ้นไปที่ขุนช่างเคี่ยนก่อนแล้วค่อยกลับลงมาไหว้พระธาตุดอยสุเทพ
-ขุนช่างเคี่ยน วิธีขึ้นไปมี 2 วิธี
1.ขับรถส่วนตัวหรือมอเตอร์ไซ ขึ้นไป (แต่วิธีนี้ไม่แนะนำ) เนื่องจากทางที่จะไปแคบมากและด้านข้างเป็นเหวครับ ตอนผมไปมีรถเกือบไหลลงเหว
2.เช่ารถขึ้นไป ค่าโดยสาร ขึ้น 200 บาท ลง 200 บาท รวม 400 บาท (จะถูกกว่านี้ขึ้นกับความสามารถในการต่อลองของท่าน)เมื่อได้รถแล้วก็ Go Go Go
ถึงแล้วขุนช่างเคี่ยน ( ณ วันที่ผมไป ดอกพญาเสือโคร่งพึ่งเริ่มบาน ยังมีไม่มาก)
หลังจากล่าเสือกันได้พอสมควรเวลาตามที่นัดรถไว้ รถก็พาลงมายังจุดชุมวิวเพื่อชมพระอาทิตย์ตก แต่ว่ามาไม่ทัน เลยได้แค่นี้ครับ
และสุดท้ายรถก็มาส่งเราหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพ ไปไหว้พระธาตุกันต่อ (เป็นครั้งแรกที่มาไหว้ตอนกลางคืนเลย)
เมืองเชียงใหม่ยามค่ำคืน
เมื่อไหว้พระธาตุดอยสุเทพเสร็จคราวนี้แหละปัญหาใหญ่ของพวกเรา “คืนนี้ยังไม่มีที่นอน” แบบว่าจะมาก็มาเลยไปตายดาบหน้าจริงๆ ที่พักไม่หาแถมมาถึงก็เที่ยวเลยที่พักช่างมัน ก็แบบนี้แหละคราบ สรุป เราขับรถวนหาโดยให้เพื่อนดูในอโกด้าว่ายังมีที่ไหนว่างบ้าง โชคยังดีได้ที่พักแถวประตูท่าแพเลย ใกล้ถนนคนเดิน ชื่อโรงแรมรุ่งเรือง เหลือ 3 ห้องสุดท้ายพอดี ห้องพักคือละ 990 บาท+เตียงเสริมอีก 300 ไม่มีรูปห้องนะครับแต่สภาพห้องก็ถือว่าพอรับได้ พอวางของเสร็จก็ไปเดินตลาดเลยเนื่องจากกว่าจะได้ที่พัก 3 ทุ่มกว่าแล้ว
เดินได้ไม่ทันไรก็เก็บของกันแล้ว ตอนแรกเพื่อนจะไปต่อวอร์มอัพแต่พอถึงห้องปุ๊บหลับเป็นตายน้ำยังไม่ได้อาบเลย
วันที่ 4 วันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2559 แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง
แล้ววันนี้เราก็ได้ลุยเดี่ยวซะที เช้านี้ 15 องศาผมตื่น ตี5.00 ล้างหน้าแปลงฟัน(น้ำไม่อาบอีกละ)เรียบร้อยปลุกเพื่อนให้ไปส่งที่ อาเขตเชียงใหม่ เนื่องจากเมื่อวานผมได้มาซื้อตั๋วรถตู้ขึ้นแม่ฮ่องสอนไว้แล้ว ก่อนขึ้นดอยสุเทพ เวลารถออก 6.30 น. ราคา 250 บาท โดยรถจะวิ่งเส้น เชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน
มีจอดรับส่งคนที่ ปาย กับ ปางมะผ้า
คันนี้ที่ผมจะไป อิอิ
ผมมาซื้อตั๋วเป็นที่สุดท้ายขอรถคันนี้ แถวหลังสุด จะบอกว่า นั่งทรมานมากเนื่องจากเบาะแคบมากยืดขาไม่ได้ต้องเขย่งขาตลอดเวลาแถมข้างๆเป็นฝรั่งนั่งเบียดอีก ดีว่าพวกฝรั่งลงแค่ที่ปาย จากประสบการณ์เคยนั่งรถเพื่อนไปแม่ฮ่องสอนครั้งหนึ่ง (รู้นะคิดว่าคราวก่อนผมอ้วกอะสิ ผิดครับแค่เกือบ อิอิ) เลยเตรียมยาแก้เมารถมาเพื่อความชัวร์จัดไป 1 เม็ดก่อนรถออก ซะพักก็หลับ
หลังจากนั้นอีกประมาณ 1.30 ชั่วโมงเราก็ถึงปาย คนลงกันเกือบหมดคัน และมีฝรั่งขึ้นมา 3-4 คน ดีครับรถโล่งเลย
เขาบอกว่า(เขานี้ใครวะ) มาแม่ฮ่องสอนถ้าไม่มีการอ้วกก็เหมือนมาไม่ถึง จากการที่พี่รถตู้ก็ควบตะบึงแบบดริฟกันทุกโค้ง เก็บทุกหลุม มีเท่าไหร่พี่ใส่หมดวิ่งมา100 ลงหลุม100 รู้ก็รู้ว่าทำทางจะช้านิดก็ไม่ได้ แหม่มฝรั่งข้างๆเริ่มมีอาการ ตอนแรกก็นึกว่าจะหลับแต่หลับไม่สบายขยับไปขยับมา ซะพักขยับตัวเห็นจะบอกโชเฟอร์ รู้เลยครับมาแน่นอนอ้วก ผมกับพี่เลยข้างๆช่วยกันปฐมพยาบาลโดยการหาถุงพลาสติกให้แหม่มแกก่อนที่จะเลอะรถและคนในรถแล้วจะพากันอ้วกไปกันหมด เรียบร้อยครับ 1 ถุงเต็มๆ โชคดีครับแกอ้วกเสร็จถึงจุดตรวจคนพอดี เลยไม่ต้องถือถุงนาน พอขึ้นมาผมเลยให้ยาแก้เมาไปกับยาดม พอจัดไป1เม็ดก็หลับยาวเลย เวลา 12.00 น. ถึงแล้ว สถานีขนส่งแม่ฮ่องสอน ผ่านมาแล้วสินะ 1,864 โค้ง
เมื่อลงรถผมก็ไปจองตั๋วกลับ กทม ก่อน เที่ยววันพฤหัส ได้รอบ 16.00 น. 805 บาท เหลือแค่ 2 ที่สุดท้าย ได้ตั๋วรถแล้วเดินออกไปด้านหน้าสถานีขนส่งนั่งรถมอเตอร์ไซไปตลาดสายหยุด 50 บาท ถ้าเป็นสามล้อ 80 บาท
ถึงตลาดละตอนนี้จะต่อรถประจำทางขึ้นปางอุ๋ง วันธรรมดาจากแม่ฮ่องสอนจะมี 2 เที่ยวแต่ถ้าเป็นวันหยุดนักท่องเที่ยวเยอะบางทีพี่แกไปจอดรอที่ขนส่งเลย ถามค่ารถไปปางอุ๋ง 80 บาท รถออกเวลา 15.30 น. ที่ท่ารถผมได้เจอกับน้องอีกคนมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกันเลยไปด้วยกันเลย 2 วันนี้
เวลาเหลือหลังจากนั้นเดินเข้าไปตลาดไปหาของกิน ยังไม่ได้กินไรตั้งแต่เช้า จบด้วยกระเพราไข่ดาว (สิ้นคิดสิ้นดี) กินเสร็จไปเดินรอบหนองจองคำส่องที่พักไว้ก่อนอีก 2 วันต้องมานอนที่นี่ เล็งสามหมอกเกลส์เฮ้าส์ไว้
เดินกลับไปที่รถพึ่งจะ14.30 พี่คนขับบอกให้ไปเดินเล่นก่อนเดี๋ยวจะออกจะโทรไปตามเลยเดินไปชิมกาแฟร้านดังของแม่ฮ่องสอนคอฟฟี่มอร์นิ่ง
นั่งชิวซะพัก ได้เวลาเดินกลับไปที่รถ 15.30 รถยังไม่ออก คนขับเดินมาบอกน้อง พี่ต้องรอนักเรียนเลิกก่อนนะแล้วจะออก พี่หลอกผม
ถึงแล้ว หมู่บ้านรวมไทย ป้าคนขับเดินมาถามพักที่ไหน "ยังไม่มีที่พักครับ" "งั้นพักที่นี่เลย ญาติป้าเองถูกกว่าที่อื่นนะ" ได้ยินว่าถูกเลยเดิมตามป้าแกต้อยๆไปที่นี่ "โฮมเตย์นายตี้" คืนละ 400 ส่วนน้องอีกคนนอนเต้นส์ ค่าเต้นส์ 250 ค่าเช่าเตาพร้อมถ่าน 100
ได้ที่พักแล้วไปถ่ายรูปกันมาถึงเย็นแล้วเลยได้รูปน้อย
ดาราประจำปางอุ๋ง
ค่ำแล้วหาไรกิน ค่ำนี้หมูกะทะ 299 บาท ฟิน
แล้วกลับไปถ่ายรูปต่อข้างเต้นส์น้อง
ถ่ายได้ช้าง ครั้งแรกของผมเลย
ถ่ายเสร็จก็เดินออกมาคนเดียว มืดมาก (ไฟฉายอย่าลืมเอามา) เดินคนเดียวหลอนเลยแถมมีเสียงใบไม้ ลูกสนตก จังหวะเหมือนคนเดินตามอีก