อะเมซิ่งแรก...... เราได้เห็นผู้พิพากษา ที่ต้นสังกัดการันตีบอกว่า เป็น"ท่านเปา" จริง ๆ
และบอกว่า ท่านเปาคนนี้แหละ คือท่านเปาที่เป็นผู้ป่วยทาง จิต
เคยขับรถ จอดขวางทางจราจร เนื่องจากไม่พอใจ จนท.รัฐ และสร้างวีรกรรม
ขว้างข้าวกล่อง ใส่อดีต ผบชน. คำรณวิทย์ ในขณะ นั้น
จนถูกศาลลงโทษสั่งปรับ และสั่งจำคุก แต่โทษจำให้รอลงอาญา...
และล่าสุด..สุด ๆ ร้อน อาการป่วยทางจิตกำเริบอีก เนื่องจากขาดยา
ออกมาอาละวาด ฟาดงวงฟาดงา ที่กรมการขนส่งทางบก ชี้หน้าด่ากราด จนท.ไปทั่ว
จนต้นสังกัดต้องออกมาขอโทษต่อสังคมอีกครั้ง..ลักษณะและพฤติกรรมของเธอ
ไม่น่าจะใช่เป็นผู้ป่วยทางจิตนะผมว่า การกระทำผิดซ้ำ ๆ ซาก ๆ กับการถือครองตำแหน่งหน้าที่ "ท่านเปา"
ต้องสำรวม กาย วาจา ใจ การประพฤติตนทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องเหนือกว่าปุถุชนคนธรรมดา ที่จะพึงกระทำ
แต่นี่เธอไม่สนใจอะไร ไม่สนใจตำแหน่งหน้าที่ที่เธอทำอยู่เลย ฝักไฝ่นัการเมืองเหลืองอ่อย สลิ่มตัวแม่
เมื่อบอกว่าป่วยทางจิต ก็น่าสงสารเธอนะ แต่คนที่น่าสงสารมากกว่าคือ คนที่ถูกเธอตัดสินอรรถคดีความต่าง ๆ
หากเธอทราบว่า อยู่ตรงข้ามกับฟากฝั่งที่เธอเชื่ออยู่ จะรู้ได้อย่างไร ว่าคนที่ถูกตัดสินนั้น
ได้รับความเป็นธรรมจากการตัดสินจริงหรือไม่. เพราะกระบวนการศาลวิพากวิจารณืคำตัดสินก้ผิด ข้อหาละเมิดอำนาจศาลอีก
...ผมอยากแนะนำว่าหากจำเลยที่แพ้คดีความต่าง ๆ แล้วเธอเป็นผู้พิพากษา แล้วถูกตัดสินให้แพ้คดีความ น่าจะนำคดีความมาร้องใหม่ อ้างเหตุ
"ผู้พิพากษาเป็นผู้ป่วยทางจิต" ตามที่ต้นสังกัดเธอชี้แจง ตรงนี้ผมว่าศาลน่าจะรับฟัง และสามารถนำเข้าสู่กระบวน
พิจารณาใหม่ได้...แต่ในความคิดผมคิดว่าเธอไม่ได้ป่วยทางจิตนะ พฤติกรรมเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ แบบนี้ น่าจะ"เป็นนิสัยถาวร"ของเธอมากกว่า
และเป็นนิสัยที่สลิ่มหลาย ๆ คนก็เป็นกันแบบเธอ ควรที่จะหาที่อยู่ใหม่ให้เธอ หางานใหม่ให้เธอทำซะ
เธอจะไม่ต้องมาอวดเบ่งสร้างภาระ สร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคมแบบนี้อีกเลย
ลำพังปัจจุบัน กระบวนการตุลาการ ปชช ก็สิ้นศรัทธา จนไม่มีอะไรจะให้เชื่อแล้ว มาเจอผู้พิพากษาแบนี้ ก็ "อะเมซิ่งไทยแลนด์ไปเรย"
อะเมซิ่งที่ 2 อัศจรรย์ พระนักเลง กร่างคับฟ้า
จริง ๆ แล้วผมไม่นับถือว่าแกเป็นพระนะ ความเป็นพระน่าจะขาด (ปาราชิก) ไปตั้งนานแล้ว กับพฤติกรรมสุดถ่อย ของอลัชชี"โล้นอิสระ"
เห็นผ้าเหลืองปลิว หยอย ๆ ตำหนวด ตะหาน คุ้มกันล้อมหน้าล้อมหลัง ยิ่งกว่าบุคคลสำคัญระดับชาติเสียอีก สื่อต่าง ๆ ตีข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลก
ช่างเป็นเรื่องที่น่าสลดหดหู่ใจ สำหรับชาวพุทธ ที่มีอลัชชีชั่ว มาสร้างมณทิล ให้แปดเปื้ยนแก่ พระพุทธศาสนา ที่ถือว่าเป็นวงการที่ขาวสะอาด และเป็นที่
ยึดเหนี่ยวของบุคคลชนในชาติ ตั้งแต่ผมเกิดมาก็ไม่เคยเห้น พระเป้นหัวหน้าแกีงพาลุกสิษย์ชั่วออกปิดสถานที่ราชการ ปล้นสดมภืชาวบ้านเขาไปทั่ว
ที่อะเมซิ่งยิ่งกว่า นั้น คือ ไม่มีใครทำอะไร "อลัชชี"ชั่วตัวนี้ได้เลย ยังคนลอยนวล ห่มผ้ากาสาวพัตรืของพระพุทธเจ้าเฉยเลย..และพฤติกรรมล่าสุด
สด ๆ ร้อน ๆ ร่วมกับฆราวาสชั่ว อย่าง ไพบูลย์ นิติตะวัน ออกมาขัดขวางการสถาปนา แต่งตั้งองค์สังฆราช ตั้งบอกว่า อลัชชี กับ ฆราวาสกลุ่มนี้
ชั่วได้เกินคำบรรยายจริง ๆ และนี่ก็ "อะเมซิ่งไทยแลนดืกันจริง ๆ"
อะเมซิ่งที่..3 นี่ก็สุด ๆ ไปเลยกับนักกฎหมายระดับ ปรมาจารย์ ผู้เขียนกติกา ให้แก่กะลาแลนด์ใช้มาตาหลอด
แต่ก็ถูกฉีกจากพวกเดียวกันมาโดยตาหลอด เช่นกัน จน ปรมาจารย์ผู้นี้ ไม่รู้จะงัดมุกใหนออกมาเล่นอีก ฟากฝั่งที่ตัวเองเชียร์
ถึงตัวเองจะเป็นผู้ชนะ สมใจนึก บางลำภูเสียที หรือต้องให้แกกลับบ้านเก่าก่อน ชัยชนะนั้นถึงจะมาถึง..แต่ก็น่าเชื่อว่า
ชีวิตของปรมาจารย์ท่านนี้อาจไม่ถึง 10 ปี คงได้เก็บเสื้อผ้ากลับบ้านเก่า เหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ ที่ต้องไปกันไม่มีใครได้สิทธิ์ยกเว้นสักคน
ไม่ว่าจะต่ำต้อยด้อยค่า หรือสูงศักดิ์เพียงไร ก็หนีความตายไม่พ้น แต่ใครจะไปช้า หรือ ไวก็ขึ้นอยู่กับเวรกรรมของแต่ละคน ..เรื่องกฏกติกา
ของประเทส อย่าง รธน ท่านออกมาฮึ่ม ๆ ใส่ ก่อนว่า ครั้งนี้ใช้ยาแรงปราบคนโกง หาก รัฐธรรมนูญ ไม่ผ่าน ฝ่ายที่บิดเบือนให้ ปชช
เข้าใจผิด ต้องรับผิดชอบกับการกระทำในครั้งนี้ จะมาโทษพวกแกไม่ได้ แม้ว่าจะมีธงตั้งไว้และ ปชช ไม่เห็นด้วยก็ไม่ยอมมองว่า
เป็นความผิดของตัวเอง ช่างอะเมซิ่งอะไรแท้หนอ..ไทยแลนด์...และล่าสุด สด ๆ ร้อน ท่านก็ออกมาให้ความเห็นกรณี "แหลมาร์ค"
ถูกปลดออกจากราชการ ว่าการใช้ สด.9 ปลอมเพื่อเข้ารับราชการไม่ใช่เป็นการทุจริต จะเรียกว่าทุจริตไม่ได้ ต้องบอกว่าเป็นการขาดคุณสมบัติ
หรือคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ถูกต้อง ในการเข้ารับกราชการของแหลมาร์ค และไม่น่าจะขาดคุณสมบัติ ตามรัฐธรรมนูญ ใ
นการสมัครเป็น สส. ไม่เชื่อไปถาม กกต.ดูสิ
ว่าไปโน่น...เซียนกฎหมาย ยัง อะเมซิ่งขนาดนี้..เมืองไทยก็แปลกดีเน๊าะ.
.ตั้งแต่ ทั๊กกี้ก็ไม่อยู่ในประเทศนี้เป็นสิบ ๆ ปี มีเรื่อง "อาเมซิ่งตาหลอด"
..จขกท..ก็ขอขำแพ๊บ..กับอะเมซิ่งหลากหลาย อาชีพในกะลาแลนด์
---- พักหลังนี่ เมืองไทยมีอะไรให้ อะเมซิ่ง กันจัง ------
และบอกว่า ท่านเปาคนนี้แหละ คือท่านเปาที่เป็นผู้ป่วยทาง จิต
เคยขับรถ จอดขวางทางจราจร เนื่องจากไม่พอใจ จนท.รัฐ และสร้างวีรกรรม
ขว้างข้าวกล่อง ใส่อดีต ผบชน. คำรณวิทย์ ในขณะ นั้น
จนถูกศาลลงโทษสั่งปรับ และสั่งจำคุก แต่โทษจำให้รอลงอาญา...
และล่าสุด..สุด ๆ ร้อน อาการป่วยทางจิตกำเริบอีก เนื่องจากขาดยา
ออกมาอาละวาด ฟาดงวงฟาดงา ที่กรมการขนส่งทางบก ชี้หน้าด่ากราด จนท.ไปทั่ว
จนต้นสังกัดต้องออกมาขอโทษต่อสังคมอีกครั้ง..ลักษณะและพฤติกรรมของเธอ
ไม่น่าจะใช่เป็นผู้ป่วยทางจิตนะผมว่า การกระทำผิดซ้ำ ๆ ซาก ๆ กับการถือครองตำแหน่งหน้าที่ "ท่านเปา"
ต้องสำรวม กาย วาจา ใจ การประพฤติตนทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องเหนือกว่าปุถุชนคนธรรมดา ที่จะพึงกระทำ
แต่นี่เธอไม่สนใจอะไร ไม่สนใจตำแหน่งหน้าที่ที่เธอทำอยู่เลย ฝักไฝ่นัการเมืองเหลืองอ่อย สลิ่มตัวแม่
เมื่อบอกว่าป่วยทางจิต ก็น่าสงสารเธอนะ แต่คนที่น่าสงสารมากกว่าคือ คนที่ถูกเธอตัดสินอรรถคดีความต่าง ๆ
หากเธอทราบว่า อยู่ตรงข้ามกับฟากฝั่งที่เธอเชื่ออยู่ จะรู้ได้อย่างไร ว่าคนที่ถูกตัดสินนั้น
ได้รับความเป็นธรรมจากการตัดสินจริงหรือไม่. เพราะกระบวนการศาลวิพากวิจารณืคำตัดสินก้ผิด ข้อหาละเมิดอำนาจศาลอีก
...ผมอยากแนะนำว่าหากจำเลยที่แพ้คดีความต่าง ๆ แล้วเธอเป็นผู้พิพากษา แล้วถูกตัดสินให้แพ้คดีความ น่าจะนำคดีความมาร้องใหม่ อ้างเหตุ
"ผู้พิพากษาเป็นผู้ป่วยทางจิต" ตามที่ต้นสังกัดเธอชี้แจง ตรงนี้ผมว่าศาลน่าจะรับฟัง และสามารถนำเข้าสู่กระบวน
พิจารณาใหม่ได้...แต่ในความคิดผมคิดว่าเธอไม่ได้ป่วยทางจิตนะ พฤติกรรมเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ แบบนี้ น่าจะ"เป็นนิสัยถาวร"ของเธอมากกว่า
และเป็นนิสัยที่สลิ่มหลาย ๆ คนก็เป็นกันแบบเธอ ควรที่จะหาที่อยู่ใหม่ให้เธอ หางานใหม่ให้เธอทำซะ
เธอจะไม่ต้องมาอวดเบ่งสร้างภาระ สร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคมแบบนี้อีกเลย
ลำพังปัจจุบัน กระบวนการตุลาการ ปชช ก็สิ้นศรัทธา จนไม่มีอะไรจะให้เชื่อแล้ว มาเจอผู้พิพากษาแบนี้ ก็ "อะเมซิ่งไทยแลนด์ไปเรย"
อะเมซิ่งที่ 2 อัศจรรย์ พระนักเลง กร่างคับฟ้า
จริง ๆ แล้วผมไม่นับถือว่าแกเป็นพระนะ ความเป็นพระน่าจะขาด (ปาราชิก) ไปตั้งนานแล้ว กับพฤติกรรมสุดถ่อย ของอลัชชี"โล้นอิสระ"
เห็นผ้าเหลืองปลิว หยอย ๆ ตำหนวด ตะหาน คุ้มกันล้อมหน้าล้อมหลัง ยิ่งกว่าบุคคลสำคัญระดับชาติเสียอีก สื่อต่าง ๆ ตีข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลก
ช่างเป็นเรื่องที่น่าสลดหดหู่ใจ สำหรับชาวพุทธ ที่มีอลัชชีชั่ว มาสร้างมณทิล ให้แปดเปื้ยนแก่ พระพุทธศาสนา ที่ถือว่าเป็นวงการที่ขาวสะอาด และเป็นที่
ยึดเหนี่ยวของบุคคลชนในชาติ ตั้งแต่ผมเกิดมาก็ไม่เคยเห้น พระเป้นหัวหน้าแกีงพาลุกสิษย์ชั่วออกปิดสถานที่ราชการ ปล้นสดมภืชาวบ้านเขาไปทั่ว
ที่อะเมซิ่งยิ่งกว่า นั้น คือ ไม่มีใครทำอะไร "อลัชชี"ชั่วตัวนี้ได้เลย ยังคนลอยนวล ห่มผ้ากาสาวพัตรืของพระพุทธเจ้าเฉยเลย..และพฤติกรรมล่าสุด
สด ๆ ร้อน ๆ ร่วมกับฆราวาสชั่ว อย่าง ไพบูลย์ นิติตะวัน ออกมาขัดขวางการสถาปนา แต่งตั้งองค์สังฆราช ตั้งบอกว่า อลัชชี กับ ฆราวาสกลุ่มนี้
ชั่วได้เกินคำบรรยายจริง ๆ และนี่ก็ "อะเมซิ่งไทยแลนดืกันจริง ๆ"
อะเมซิ่งที่..3 นี่ก็สุด ๆ ไปเลยกับนักกฎหมายระดับ ปรมาจารย์ ผู้เขียนกติกา ให้แก่กะลาแลนด์ใช้มาตาหลอด
แต่ก็ถูกฉีกจากพวกเดียวกันมาโดยตาหลอด เช่นกัน จน ปรมาจารย์ผู้นี้ ไม่รู้จะงัดมุกใหนออกมาเล่นอีก ฟากฝั่งที่ตัวเองเชียร์
ถึงตัวเองจะเป็นผู้ชนะ สมใจนึก บางลำภูเสียที หรือต้องให้แกกลับบ้านเก่าก่อน ชัยชนะนั้นถึงจะมาถึง..แต่ก็น่าเชื่อว่า
ชีวิตของปรมาจารย์ท่านนี้อาจไม่ถึง 10 ปี คงได้เก็บเสื้อผ้ากลับบ้านเก่า เหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ ที่ต้องไปกันไม่มีใครได้สิทธิ์ยกเว้นสักคน
ไม่ว่าจะต่ำต้อยด้อยค่า หรือสูงศักดิ์เพียงไร ก็หนีความตายไม่พ้น แต่ใครจะไปช้า หรือ ไวก็ขึ้นอยู่กับเวรกรรมของแต่ละคน ..เรื่องกฏกติกา
ของประเทส อย่าง รธน ท่านออกมาฮึ่ม ๆ ใส่ ก่อนว่า ครั้งนี้ใช้ยาแรงปราบคนโกง หาก รัฐธรรมนูญ ไม่ผ่าน ฝ่ายที่บิดเบือนให้ ปชช
เข้าใจผิด ต้องรับผิดชอบกับการกระทำในครั้งนี้ จะมาโทษพวกแกไม่ได้ แม้ว่าจะมีธงตั้งไว้และ ปชช ไม่เห็นด้วยก็ไม่ยอมมองว่า
เป็นความผิดของตัวเอง ช่างอะเมซิ่งอะไรแท้หนอ..ไทยแลนด์...และล่าสุด สด ๆ ร้อน ท่านก็ออกมาให้ความเห็นกรณี "แหลมาร์ค"
ถูกปลดออกจากราชการ ว่าการใช้ สด.9 ปลอมเพื่อเข้ารับราชการไม่ใช่เป็นการทุจริต จะเรียกว่าทุจริตไม่ได้ ต้องบอกว่าเป็นการขาดคุณสมบัติ
หรือคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ถูกต้อง ในการเข้ารับกราชการของแหลมาร์ค และไม่น่าจะขาดคุณสมบัติ ตามรัฐธรรมนูญ ใ
นการสมัครเป็น สส. ไม่เชื่อไปถาม กกต.ดูสิ
ว่าไปโน่น...เซียนกฎหมาย ยัง อะเมซิ่งขนาดนี้..เมืองไทยก็แปลกดีเน๊าะ.
.ตั้งแต่ ทั๊กกี้ก็ไม่อยู่ในประเทศนี้เป็นสิบ ๆ ปี มีเรื่อง "อาเมซิ่งตาหลอด"
..จขกท..ก็ขอขำแพ๊บ..กับอะเมซิ่งหลากหลาย อาชีพในกะลาแลนด์