Note : แฟนฟิกชั่นเรื่องนี้เขียนขึ้นมาด้วยความพีคคู่บอสออย ใน Ep.สุดท้าย ทำให้เขียนแฟนฟิกชั่นขนาดสั้นออกมาได้เรื่องหนึ่ง แล้วก็พัฒนาต่อเป็นฟิกยาวตามความพีคที่ไม่จบไม่สิ้นของคนเขียนค่ะ
Ep.0 Never Too Late
http://pantip.com/topic/34594113
Ep.1 Forget the Past
http://pantip.com/topic/34604193
Ep.2: Start the New
http://pantip.com/topic/34614576
Ep.3: Don’t Worry
http://pantip.com/topic/34633163
Cure Ep.4: I’ll be with you
http://pantip.com/topic/34692987
ระเบิดพลังค่ะ นี่คือการระเบิดพลัง 555 เมื่อวานนั่งพิมพ์ Ep.5 พิมพ์ๆ ไปได้สัก 3 หน้าก็หยุด คิดอยู่ว่าจะตัดตอนมาลงก่อนดีมั้ย เพราะที่คิดไว้ในหัวมันน่าจะเกิน 7 หน้า สุดท้ายวันนี้มานั่งพิมพ์ต่อ แค่ครึ่งตอนก็ปาเข้าไป 5 หน้ากับอีกจิ๊ดนึงอีกแล้ว เลยตัดมาลงก่อนละกันนะค้า จริงๆ ใกล้จะจบแล้วล่ะค่ะ ตอนแรกเรากะเอาไว้ว่าน่าจะจบใน 4 ตอน สงสัยจะได้เป็น 6 ตอน (ไม่รวม Ep.0 ที่เป็นฟิกสั้นตอนแรก กับ Special แถมๆ ที่คิดไว้อีกหน่อย)
ภาพเปิดตอนนี้ เราแคปมาจากคลิปแนะนำตัวของออยนะคะ
...................................................................
ออยตักไอศกรีมรสช็อกโกแล็ตชิปของโปรดเข้าปากช้าๆ ตั้งแต่วันที่ถูกขนมปังระเบิดใส่ เธอก็ไม่เคยมากินไอติมร้านป้าไก่ข้างโรงเรียนอีกเลย ดูเหมือนขนมปังเองก็ไม่ได้มา เพราะเมื่อกี้ตอนเธอเดินเข้าร้าน หญิงสูงวัยผู้เป็นเจ้าของเอ่ยทักแล้วถามถึงอดีตเพื่อนสนิท ลูกค้าประจำอีกรายที่หายหน้าหายตาไปเช่นกัน
เฟิร์สทนั่งมองเธอละเลียดกินไอติมแล้วถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ “ออยเป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย”
ออยยิ้มตอบแล้วพยักหน้า “อืม เราสบายดี” เธอมองหน้าตาสดใสของอีกฝ่าย “เฟิร์สทล่ะ กลับไปเข้าชมรมวิ่งแล้วเป็นไงมั่ง ครูอรุณว่าอะไรรึเปล่า”
“ก็โดนอัดเละอ่ะ” เฟิร์สทเล่าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “แต่ก็ธรรมดาแหละ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร ครูแกแค่บอกว่าจะเคี่ยวเราให้หนักกว่าเดิม เล่นหายไปซะนาน” อีกฝ่ายทำท่าขยับคอขยับไหล่เหมือนปวดเมื่อยไปทั้งตัว
“นั่นสิเนอะ” ออยพยักหน้ารับ มิน่า เธอแทบไม่ได้เห็นเฟิร์สทเลยตั้งแต่วันที่ทั้งคู่เลิกกัน แต่เท่าที่มองดูตอนนี้ อีกฝ่ายก็ดูกระฉับกระเฉงและผ่อนคลายขึ้นมากจริงๆ เห็นแบบนี้แล้วเธอค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นหน่อย
“คืนวันปีใหม่ เราว่าจะส่งไลน์ไปหาออยด้วยนะ”
เฟิร์สทพูดต่อ สีหน้าเหมือนจะลังเลนิดหน่อย ก่อนจะคลี่ยิ้มแหยๆ “แต่ไม่รู้จะส่งไปว่ายังไงดี”
ออยฟังแล้วก็นิ่งไป อยู่ๆ ภาพตัวอักษร 6 ตัวในแมสเซสที่ได้รับตอนเที่ยงคืนวันส่งท้ายปีผ่านเข้ามาในความคิด ก่อนที่ใบหน้าจริงจังของคนส่งข้อความจะปรากฏตามมา
ส่วนเรื่องที่เราทำมาทั้งหมด เกือบจะเดือนกว่ามานี่ แกดูไม่ออกจริงๆ เหรอว่า เราทำไปเพราะอะไร
พอคิดทวนถึงตอนประโยคนี้ ออยก็รู้สึกเหมือนหน้าร้อนวูบ จนต้องรีบก้มลงตักไอศกรีมเข้าปาก เมื่อกี้บอสกำลังจะพูดว่าอะไรต่อก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือ เธอถูกดึงดูดด้วยแววตาที่มีประกายแปลกๆ นั่นกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก จึงเผลอจ้องตอบอย่างไม่รู้ตัว แถมสัมผัสของนิ้วที่แตะปลายคางยิ่งทำให้ไม่สามารถเบือนหน้าหลบได้
ตอนแรกที่ได้ยินเสียงเรียก เธอไม่รู้หรอกว่า คนเรียกเป็นใคร รู้แต่ว่าเหมือนได้ยินเสียงระฆังหมดยกช่วยไว้พอดิบพอดี
บอสจะบอกอะไรก็ไม่รู้ละ ตอนนี้เธอขอเวลานอกก่อนดีกว่า
เสียงของเฟิร์สทดึงสติที่กำลังล่องลอยกลับมา ออยเพิ่งรู้ตัวว่า ตัวเองเอาแต่ก้มหน้ากินไอศกรีมจมอยู่ในความคิดจนเกือบลืมคู่สนทนาที่นั่งอยู่ตรงข้าม “หือ เมื่อกิ้เฟิร์สทว่าไงนะ?”
เฟิร์สทมองหน้าตาเหรอหราของเธอแล้วก็หัวเราะ “ไม่มีอะไรหรอก เราบอกว่า เห็นออยสบายดีแบบนี้ ค่อยยังชั่วหน่อย” เขาพูดแล้วก็เอียงคอมองเหมือนจะพิจารณา “ดูสดใสขึ้นเยอะเลย”
ที่พูดไม่ได้เกินจริงเลย ออยยังคงเป็นเด็กผู้หญิงหน้านิ่งๆ เหงาๆ เหมือนเดิม แต่ท่าเขินปนสับสนเมื่อกี้ กับรอยแดงจางๆ ตรงโหนกแก้ม ก็ช่วยส่งให้หน้าตาเธอดูน่ารักขึ้นอีกหลายเท่า ไม่เจอแค่เดือนกว่าๆ ออยมีสีหน้าหลากหลายกว่าที่เขาเคยเห็นมาตลอดเวลาที่รู้จักกันเสียอีก
น่าเสียดาย....คนที่ทำให้เกิดสีหน้าแบบนี้ได้ไม่ใช่เขา
เฟิร์สทคิดแล้วก็ถอนใจ ยักไหล่ พอเห็นออยหยิบกระดาษทิชชูมาซับปาก เขาก็หยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเตรียมจ่ายเงิน
“อิ่มแล้วเนอะ ป่ะ...เดี๋ยวเราเดินไปส่ง”
.............................................................
ระหว่างทางที่เดินกลับ เฟิร์สทชวนเธอคุยเรื่องทั่วๆ ไป เหมือนตอนที่พวกเขาเดินกลับบ้านด้วยกันตอนยังคบกันอยู่ ก่อนที่เฟิร์สทจะเอ่ยถามเหมือนนึกขึ้นมาได้เมื่อเดินเข้าซอยบ้านเธอ
“เออ บอสมันเดินมาโรงเรียนแล้วก็เดินกลับบ้านกับออยทุกวันเลยนี่ มันเลิกขี่จักรยานแล้วเหรอ”
ชื่อของคนที่ถูกเอ่ยถึงทำให้ออยรู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้นมาอีก “ยังไม่เลิกหรอก...บอสขี่จักรยานมาจอดไว้ที่บ้านเราตอนเช้า แล้วเดินไปโรงเรียนน่ะ”
“โห...” เฟิร์สทอุทาน “ไอ้บอสมันก็ลงทุนเหมือนกันเนอะ” พอหันไปมองคนเดินข้างๆ ที่เริ่มทำหน้าไม่ถูกขึ้นมาอีก เขาก็ยิ้มอย่างเอ็นดู “เคยได้ยินแต่ไอ้นนเล่าเรื่องไอ้บอสกับสภาให้ฟัง นึกว่ามันจะเป็นพวกชอบใครไม่เป็นซะอีก ที่ไหนได้...พอจีบสาว มันก็ทุ่มเทน่าดู ตามประกบเช้า กลางวัน เย็น”
“เปล่านะ” ออยรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน “บอสไม่ได้มาจีบเราซักหน่อย แค่พอดีที่โรงเรียนเขาซ่อมที่จอดจักรยานอ่ะ บ้านเราใกล้ บอสก็เลยเอาจักรยานมาฝากไว้” พูดเสียงรัวเหมือนอยากจะแก้ความเข้าใจผิด แต่ใจกลับไพล่คิดไปถึงตอนที่บอสพาเธอไปเที่ยวสวนรถไฟ ตอนที่เธอซ้อนท้ายจักรยานเขา ตอนที่บอสจูงมือเธอเดินผ่านดงเสียงกระซิบใต้ตึก แล้วก็...
เราจะได้บอกให้ว่า เรา...
โอย....ไม่คิดแล้ว ออยสะบัดหน้าไล่ภาพในหัวออกไป “เรื่องไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน บอสก็แค่มาอยู่เป็นเพื่อนหลังจากเราทำเรื่องแย่ๆ ไปน่ะ...คงแค่เป็นห่วงแหละ” อธิบายคนฟังพร้อมกับย้ำกับตัวเองไปด้วย
“...บอสจะมาชอบเราได้ยังไง” พูดแล้วก็ก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาอีกฝ่าย
เฟิร์สททำเสียงเหมือนไม่เชื่อ “ออยคิดแบบนี้จริงอ่ะ?”
ทั้งคู่เดินมาถึงหน้าบ้านพอดี เฟิร์สทยกมือไหว้พ่อของออยที่กำลังเตรียมจะปิดร้าน เตี่ยรับไหว้พร้อมกับทักทายเฟิร์สทสั้นๆ ก่อนจะหันมาบอกออยว่า บอสเพิ่งมาเอาจักรยานไปเมื่อกี้ แล้วเตี่ยก็เดินเข้าบ้านไป
“งั้นเราไปนะ วันนี้แค่อยากมาดูว่า ออยสบายดีแล้ว เท่านั้นแหละ”
เฟิร์สทเอ่ยลา ทำท่าจะเดินออกไป แต่พอมองคนตรงหน้าที่ยังยืนทำตาลอยๆ เหมือนสับสนกับบทสนทนาที่เขาทิ้งท้ายไว้ เฟิร์สทก็เลยหันกลับมายืนตรงหน้าเธออีกครั้ง เอามือล้วงกระเป๋าแล้วถอนใจเบาๆ แบบขำปนอ่อนใจ
“เฮ้อ! ตอนแรกเรากะว่าจะไม่เล่านะ หมันไส้อยากแกล้งไอ้บอสมันนิดหน่อย แต่เห็นออยเป็นแบบนี้ เราว่าเราพูดดีกว่า”
เฟิร์สทบอกแล้วมองหน้าอีกฝ่ายที่เงยหน้ามามองเขาจนได้ “วันที่ออยกินยาแล้วเรามาหาออยที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้าน่ะ ไม่ใช่เพราะเราเห็นสเตตัสที่ออยโพสนะ ไอ้บอสมันเป็นคนเห็นคนแรก น่าจะตื่นมาแล้วเข้าเฟซบุ๊คออยเลยนั่นแหละ ถึงได้รีบโทรหาขนมปังตั้งแต่หกโมง พอโทรหาขนมปังไม่ติด มันถึงขั้นโทรเข้าเครื่องไอ้นนเพื่อจะเอาเบอร์เราเลยนะ ไอ้นนนี่ผวานึกว่าฝันร้าย เจอไอ้บอสโทรมาปลุก”
เฟิร์สทพูดแล้วก็หัวเราะขำเพราะนึกถึงท่าทางของเพื่อนตัวเองตอนเล่าเรื่องนี้
“แล้วหลังจากนั้นไอ้บอสมันยังไปถามอาการออยจากไอ้นนด้วย ไอ้นนบอกว่า ตั้งแต่ฟาดปากกันตอนกีฬาสี ไอ้บอสเพิ่งมาพูดดีๆ กับมันวันนั้นเนี่ยแหละ ท่าทางจะสะเทือนอีโก้น่าดู” หยุดนิดหนึ่งเพื่อสังเกตอาการ พอเห็นว่า คนฟังนิ่งไปเหมือนจะกำลังคิดตาม ก็สรุปว่า
“เราว่า บอสมันแคร์ออยมานานแล้วนะ น่าจะก่อนที่ออยทำเรื่องวันนั้นอีก แต่ออยก็คงพอดูออกใช่ไหมล่ะ?”
เฟิร์สทเอื้อมมือมาจับหัวเธอโยกนิดๆ เหมือนเอ็นดู พูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะแบบเดิมว่า “รู้ตัวได้แล้วมั้ง เราอยากเห็นออยมีความสุขเร็วๆ นะ” พูดแล้วก็โบกมือลา “เราไปซะทีละ โชคดีนะออย”
ออยมองอดีตคนรักที่วิ่งเหยาะๆ จากไปอย่างร่าเริง คำพูดของอีกฝ่ายยังดังก้องในหัว สลับกับคำพูดของตัวต้นเหตุที่ทำให้ใบหน้าของเธอร้อนวูบๆ อยู่ตอนนี้
เราว่าบอสมันแคร์ออยมานานแล้วนะ ออยก็คงพอดูออกใช่ไหมล่ะ
“ตกลงแกรู้หรือยังว่า เราทำไปเพราะอะไร ถ้ายังไม่รู้ เราจะได้บอกให้ว่า เรา...”
โธ่เอ๊ย....แล้วพรุ่งนี้เธอจะมองหน้าบอสได้ยังไงกันละ!
………………………………………………………………………………
Cure Ep.5: Always (Boss/Oil) Hormones the Final Season’s Fanfiction
Ep.0 Never Too Late
http://pantip.com/topic/34594113
Ep.1 Forget the Past
http://pantip.com/topic/34604193
Ep.2: Start the New
http://pantip.com/topic/34614576
Ep.3: Don’t Worry
http://pantip.com/topic/34633163
Cure Ep.4: I’ll be with you
http://pantip.com/topic/34692987
ระเบิดพลังค่ะ นี่คือการระเบิดพลัง 555 เมื่อวานนั่งพิมพ์ Ep.5 พิมพ์ๆ ไปได้สัก 3 หน้าก็หยุด คิดอยู่ว่าจะตัดตอนมาลงก่อนดีมั้ย เพราะที่คิดไว้ในหัวมันน่าจะเกิน 7 หน้า สุดท้ายวันนี้มานั่งพิมพ์ต่อ แค่ครึ่งตอนก็ปาเข้าไป 5 หน้ากับอีกจิ๊ดนึงอีกแล้ว เลยตัดมาลงก่อนละกันนะค้า จริงๆ ใกล้จะจบแล้วล่ะค่ะ ตอนแรกเรากะเอาไว้ว่าน่าจะจบใน 4 ตอน สงสัยจะได้เป็น 6 ตอน (ไม่รวม Ep.0 ที่เป็นฟิกสั้นตอนแรก กับ Special แถมๆ ที่คิดไว้อีกหน่อย)
ภาพเปิดตอนนี้ เราแคปมาจากคลิปแนะนำตัวของออยนะคะ
ออยตักไอศกรีมรสช็อกโกแล็ตชิปของโปรดเข้าปากช้าๆ ตั้งแต่วันที่ถูกขนมปังระเบิดใส่ เธอก็ไม่เคยมากินไอติมร้านป้าไก่ข้างโรงเรียนอีกเลย ดูเหมือนขนมปังเองก็ไม่ได้มา เพราะเมื่อกี้ตอนเธอเดินเข้าร้าน หญิงสูงวัยผู้เป็นเจ้าของเอ่ยทักแล้วถามถึงอดีตเพื่อนสนิท ลูกค้าประจำอีกรายที่หายหน้าหายตาไปเช่นกัน
เฟิร์สทนั่งมองเธอละเลียดกินไอติมแล้วถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ “ออยเป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย”
ออยยิ้มตอบแล้วพยักหน้า “อืม เราสบายดี” เธอมองหน้าตาสดใสของอีกฝ่าย “เฟิร์สทล่ะ กลับไปเข้าชมรมวิ่งแล้วเป็นไงมั่ง ครูอรุณว่าอะไรรึเปล่า”
“ก็โดนอัดเละอ่ะ” เฟิร์สทเล่าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “แต่ก็ธรรมดาแหละ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร ครูแกแค่บอกว่าจะเคี่ยวเราให้หนักกว่าเดิม เล่นหายไปซะนาน” อีกฝ่ายทำท่าขยับคอขยับไหล่เหมือนปวดเมื่อยไปทั้งตัว
“นั่นสิเนอะ” ออยพยักหน้ารับ มิน่า เธอแทบไม่ได้เห็นเฟิร์สทเลยตั้งแต่วันที่ทั้งคู่เลิกกัน แต่เท่าที่มองดูตอนนี้ อีกฝ่ายก็ดูกระฉับกระเฉงและผ่อนคลายขึ้นมากจริงๆ เห็นแบบนี้แล้วเธอค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นหน่อย
“คืนวันปีใหม่ เราว่าจะส่งไลน์ไปหาออยด้วยนะ”
เฟิร์สทพูดต่อ สีหน้าเหมือนจะลังเลนิดหน่อย ก่อนจะคลี่ยิ้มแหยๆ “แต่ไม่รู้จะส่งไปว่ายังไงดี”
ออยฟังแล้วก็นิ่งไป อยู่ๆ ภาพตัวอักษร 6 ตัวในแมสเซสที่ได้รับตอนเที่ยงคืนวันส่งท้ายปีผ่านเข้ามาในความคิด ก่อนที่ใบหน้าจริงจังของคนส่งข้อความจะปรากฏตามมา
ส่วนเรื่องที่เราทำมาทั้งหมด เกือบจะเดือนกว่ามานี่ แกดูไม่ออกจริงๆ เหรอว่า เราทำไปเพราะอะไร
พอคิดทวนถึงตอนประโยคนี้ ออยก็รู้สึกเหมือนหน้าร้อนวูบ จนต้องรีบก้มลงตักไอศกรีมเข้าปาก เมื่อกี้บอสกำลังจะพูดว่าอะไรต่อก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือ เธอถูกดึงดูดด้วยแววตาที่มีประกายแปลกๆ นั่นกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก จึงเผลอจ้องตอบอย่างไม่รู้ตัว แถมสัมผัสของนิ้วที่แตะปลายคางยิ่งทำให้ไม่สามารถเบือนหน้าหลบได้
ตอนแรกที่ได้ยินเสียงเรียก เธอไม่รู้หรอกว่า คนเรียกเป็นใคร รู้แต่ว่าเหมือนได้ยินเสียงระฆังหมดยกช่วยไว้พอดิบพอดี
บอสจะบอกอะไรก็ไม่รู้ละ ตอนนี้เธอขอเวลานอกก่อนดีกว่า
เสียงของเฟิร์สทดึงสติที่กำลังล่องลอยกลับมา ออยเพิ่งรู้ตัวว่า ตัวเองเอาแต่ก้มหน้ากินไอศกรีมจมอยู่ในความคิดจนเกือบลืมคู่สนทนาที่นั่งอยู่ตรงข้าม “หือ เมื่อกิ้เฟิร์สทว่าไงนะ?”
เฟิร์สทมองหน้าตาเหรอหราของเธอแล้วก็หัวเราะ “ไม่มีอะไรหรอก เราบอกว่า เห็นออยสบายดีแบบนี้ ค่อยยังชั่วหน่อย” เขาพูดแล้วก็เอียงคอมองเหมือนจะพิจารณา “ดูสดใสขึ้นเยอะเลย”
ที่พูดไม่ได้เกินจริงเลย ออยยังคงเป็นเด็กผู้หญิงหน้านิ่งๆ เหงาๆ เหมือนเดิม แต่ท่าเขินปนสับสนเมื่อกี้ กับรอยแดงจางๆ ตรงโหนกแก้ม ก็ช่วยส่งให้หน้าตาเธอดูน่ารักขึ้นอีกหลายเท่า ไม่เจอแค่เดือนกว่าๆ ออยมีสีหน้าหลากหลายกว่าที่เขาเคยเห็นมาตลอดเวลาที่รู้จักกันเสียอีก
น่าเสียดาย....คนที่ทำให้เกิดสีหน้าแบบนี้ได้ไม่ใช่เขา
เฟิร์สทคิดแล้วก็ถอนใจ ยักไหล่ พอเห็นออยหยิบกระดาษทิชชูมาซับปาก เขาก็หยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเตรียมจ่ายเงิน
“อิ่มแล้วเนอะ ป่ะ...เดี๋ยวเราเดินไปส่ง”
ระหว่างทางที่เดินกลับ เฟิร์สทชวนเธอคุยเรื่องทั่วๆ ไป เหมือนตอนที่พวกเขาเดินกลับบ้านด้วยกันตอนยังคบกันอยู่ ก่อนที่เฟิร์สทจะเอ่ยถามเหมือนนึกขึ้นมาได้เมื่อเดินเข้าซอยบ้านเธอ
“เออ บอสมันเดินมาโรงเรียนแล้วก็เดินกลับบ้านกับออยทุกวันเลยนี่ มันเลิกขี่จักรยานแล้วเหรอ”
ชื่อของคนที่ถูกเอ่ยถึงทำให้ออยรู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้นมาอีก “ยังไม่เลิกหรอก...บอสขี่จักรยานมาจอดไว้ที่บ้านเราตอนเช้า แล้วเดินไปโรงเรียนน่ะ”
“โห...” เฟิร์สทอุทาน “ไอ้บอสมันก็ลงทุนเหมือนกันเนอะ” พอหันไปมองคนเดินข้างๆ ที่เริ่มทำหน้าไม่ถูกขึ้นมาอีก เขาก็ยิ้มอย่างเอ็นดู “เคยได้ยินแต่ไอ้นนเล่าเรื่องไอ้บอสกับสภาให้ฟัง นึกว่ามันจะเป็นพวกชอบใครไม่เป็นซะอีก ที่ไหนได้...พอจีบสาว มันก็ทุ่มเทน่าดู ตามประกบเช้า กลางวัน เย็น”
“เปล่านะ” ออยรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน “บอสไม่ได้มาจีบเราซักหน่อย แค่พอดีที่โรงเรียนเขาซ่อมที่จอดจักรยานอ่ะ บ้านเราใกล้ บอสก็เลยเอาจักรยานมาฝากไว้” พูดเสียงรัวเหมือนอยากจะแก้ความเข้าใจผิด แต่ใจกลับไพล่คิดไปถึงตอนที่บอสพาเธอไปเที่ยวสวนรถไฟ ตอนที่เธอซ้อนท้ายจักรยานเขา ตอนที่บอสจูงมือเธอเดินผ่านดงเสียงกระซิบใต้ตึก แล้วก็...
เราจะได้บอกให้ว่า เรา...
โอย....ไม่คิดแล้ว ออยสะบัดหน้าไล่ภาพในหัวออกไป “เรื่องไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน บอสก็แค่มาอยู่เป็นเพื่อนหลังจากเราทำเรื่องแย่ๆ ไปน่ะ...คงแค่เป็นห่วงแหละ” อธิบายคนฟังพร้อมกับย้ำกับตัวเองไปด้วย
“...บอสจะมาชอบเราได้ยังไง” พูดแล้วก็ก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาอีกฝ่าย
เฟิร์สททำเสียงเหมือนไม่เชื่อ “ออยคิดแบบนี้จริงอ่ะ?”
ทั้งคู่เดินมาถึงหน้าบ้านพอดี เฟิร์สทยกมือไหว้พ่อของออยที่กำลังเตรียมจะปิดร้าน เตี่ยรับไหว้พร้อมกับทักทายเฟิร์สทสั้นๆ ก่อนจะหันมาบอกออยว่า บอสเพิ่งมาเอาจักรยานไปเมื่อกี้ แล้วเตี่ยก็เดินเข้าบ้านไป
“งั้นเราไปนะ วันนี้แค่อยากมาดูว่า ออยสบายดีแล้ว เท่านั้นแหละ”
เฟิร์สทเอ่ยลา ทำท่าจะเดินออกไป แต่พอมองคนตรงหน้าที่ยังยืนทำตาลอยๆ เหมือนสับสนกับบทสนทนาที่เขาทิ้งท้ายไว้ เฟิร์สทก็เลยหันกลับมายืนตรงหน้าเธออีกครั้ง เอามือล้วงกระเป๋าแล้วถอนใจเบาๆ แบบขำปนอ่อนใจ
“เฮ้อ! ตอนแรกเรากะว่าจะไม่เล่านะ หมันไส้อยากแกล้งไอ้บอสมันนิดหน่อย แต่เห็นออยเป็นแบบนี้ เราว่าเราพูดดีกว่า”
เฟิร์สทบอกแล้วมองหน้าอีกฝ่ายที่เงยหน้ามามองเขาจนได้ “วันที่ออยกินยาแล้วเรามาหาออยที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้าน่ะ ไม่ใช่เพราะเราเห็นสเตตัสที่ออยโพสนะ ไอ้บอสมันเป็นคนเห็นคนแรก น่าจะตื่นมาแล้วเข้าเฟซบุ๊คออยเลยนั่นแหละ ถึงได้รีบโทรหาขนมปังตั้งแต่หกโมง พอโทรหาขนมปังไม่ติด มันถึงขั้นโทรเข้าเครื่องไอ้นนเพื่อจะเอาเบอร์เราเลยนะ ไอ้นนนี่ผวานึกว่าฝันร้าย เจอไอ้บอสโทรมาปลุก”
เฟิร์สทพูดแล้วก็หัวเราะขำเพราะนึกถึงท่าทางของเพื่อนตัวเองตอนเล่าเรื่องนี้
“แล้วหลังจากนั้นไอ้บอสมันยังไปถามอาการออยจากไอ้นนด้วย ไอ้นนบอกว่า ตั้งแต่ฟาดปากกันตอนกีฬาสี ไอ้บอสเพิ่งมาพูดดีๆ กับมันวันนั้นเนี่ยแหละ ท่าทางจะสะเทือนอีโก้น่าดู” หยุดนิดหนึ่งเพื่อสังเกตอาการ พอเห็นว่า คนฟังนิ่งไปเหมือนจะกำลังคิดตาม ก็สรุปว่า
“เราว่า บอสมันแคร์ออยมานานแล้วนะ น่าจะก่อนที่ออยทำเรื่องวันนั้นอีก แต่ออยก็คงพอดูออกใช่ไหมล่ะ?”
เฟิร์สทเอื้อมมือมาจับหัวเธอโยกนิดๆ เหมือนเอ็นดู พูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะแบบเดิมว่า “รู้ตัวได้แล้วมั้ง เราอยากเห็นออยมีความสุขเร็วๆ นะ” พูดแล้วก็โบกมือลา “เราไปซะทีละ โชคดีนะออย”
ออยมองอดีตคนรักที่วิ่งเหยาะๆ จากไปอย่างร่าเริง คำพูดของอีกฝ่ายยังดังก้องในหัว สลับกับคำพูดของตัวต้นเหตุที่ทำให้ใบหน้าของเธอร้อนวูบๆ อยู่ตอนนี้
เราว่าบอสมันแคร์ออยมานานแล้วนะ ออยก็คงพอดูออกใช่ไหมล่ะ
“ตกลงแกรู้หรือยังว่า เราทำไปเพราะอะไร ถ้ายังไม่รู้ เราจะได้บอกให้ว่า เรา...”
โธ่เอ๊ย....แล้วพรุ่งนี้เธอจะมองหน้าบอสได้ยังไงกันละ!