..... ประชาธิปัตย์ ร้ายหรือดีต้องยึดฐานเสียงกทม. ไว้/ตรรกะทางการเมืองของคนกทม. ผ่านผู้ว่ากทม.....

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์  หากไม่นับเอาภาคใต้แล้ว....แฟนคลับและฐานเสียงประเภทจะดีชั่วอย่างไรฉันก็ยังรักเธอนั้นส่วนใหญก็คือคนกทม.  ประชาธปัตย์และพรรคการเมืองอื่นๆ ต่างก็ทราบดีว่า การได้รับเสียงส่วนใหญ่จากคนกทม.นั้น  ก็เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกมากกว่าสองตัวขึ้นไป   เพราะอย่างน้อยๆ :-

- คำว่ามติหรือเสียงของ “คนกทม.” มีมนต์ขลังและถูกสร้างให้มีมนต์ขลังแล้วในสายตาของคนทั่วๆ ไป    
- พลังเสียงของคนกทม. ได้พิสูจน์ให้เห็นมาเกือบตลอดว่า  สามารถล้มหรือสร้างความคลอนแคลนต่อรัฐบาลที่มาจากมติส่วนใหญ่ของคนทั่วประเทศได้  เช่นรัฐบาลบิ๊กจิ๋ว และล่าสุดรัฐบาลปูที่ผ่านมา
- ในกทม. มีฐานเสียงที่มาจากชนชั้นกลางและนักธุรกิจซึ่งเป็นชนชั้นที่สามารถกำหนดทิศทางทางการเมืองได้มากสุด


การพยายามรักษา “ฐานเสียง” ที่กทม.ตรงนี้ของประชาธิปัตย์แม้จะไม่ใช่ลักษณะการรักษาฐานที่มั่นสุดท้ายแต่ก็สามารถชี้เป็นชี้ตายอนาคตของพรรคได้เลย   นับเป็นความโชคดีผสมผสานกับความชำนาญด้านจิตวิทยาของพรรคประชาธิปัตย์  ที่ยังมีคนกทม. ส่วนใหญ่ยังให้ความไว้วางใจอยู่     พรรคประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่โชคดีที่สุดของประเทศไทยนับตั้งแต่มีการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา   หลายสิบๆ ปีที่ผ่านมา  ประชาธิปัตย์ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามากมายและสุดท้ายมักจะได้รับการโอบอุ้มอย่างอารีย์     ตัวอย่างสุดท้ายเห็นจะเป็นคดียุบพรรค    ที่ระหว่างนั้นพรรคการเมืองใหญ่ๆ ล้วนถูกยุบล้มระเนระนาด    พรรคประชาธิปัตย์เองก็ส่อแววจะโดนยุบ.....สำนวน  หลักฐานและพยานอื่นๆ พร้อมที่จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณา  แต่ปรากฏว่าศาลไม่รับฟ้อง  เพราะ”นายทะเบียนพรรคการเมือง” ทำการร้องล่าช้าล่วงเลยเกินกำหนดที่กฎหมายกำหนดไว้   ดูเอาเถิด....นายทะเบียนพรรคการเมืองที่ขึ้นชื่อว่ารู้หน้าที่และข้อกำหนดเรื่องนี้ดีกว่าคนอื่นๆ  และที่สำคัญคดียุบพรรคการเมืองที่ถูกยุบมาก่อนหน้านี้ก็ล้วนผ่านมือนายทะเบียนฯ มาแล้ว   แต่พอถึงคิวพรรคประชาธิปัตย์..จู่ๆ ท่านก็เกิดลืมวันเดือนปีขึ้นมาดื้อๆ???    อย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่โชคดีที่สุดในประเทศไทยได้อย่างไร?


การตัดขาดจากคุณชายหมูเจ้าของสโลแกน “ไม่เลือกเรา เขามาแน่” ในตอนนี้นั้น   ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร  นั่นแหละคือหนึ่งในพฤติกรรมของประชาธิปัตย์ในการที่จะพยุงฐานเสียงกทม. เอาไว้    พฤิตกรรมการ “ตัดนิ้วร้าย”  “ตัดสายป่าน”  “เตะตัดขา”  “ปากปราศัยน้ำใจเชือดคอ” เหล่านี้  พรรคประชาธิปัตย์แสดงให้เห็นว่าช่ำชองมาตลอด    ถึงตรงนี้....คนกทม.ที่เลือกประชาธิปัตย์มาตลอดก็ลองหยุด”มองไกล” แล้วเที่ยวใส่ไคล้คนอื่นว่าโดนพรรคการเมืองอย่างเพื่อไทยหรืออื่นๆ หลอกใช้   ลองกลับ “มองใกล้” ที่ตัวเองว่า   “อิเหนาเป็นเอง” อยู่หรือเปล่า???
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่