บันทึกการเดินทางเล่มที่ ๑ - บ้านระเบียงดาว
สวัสดีคะเพื่อนๆชาวพันทิพย์ทุกคน ก่อนอื่นอยากจะขออนุญาติแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อว่า น้อยหน่า เป็นช่างภาพอิสระและกราฟฟิกดีไซน์เนอร์ จุดประสงค์ในการเขียนกระทู้นี้ก็คือเพื่อเป็นการบอกเล่าบอกต่อจากสิ่งที่หน่าได้พบเจอและแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันนะคะ ^-^ และนี่ก็เป็นทริปแรกของปีอีกด้วย กระทู้นี้ก็เป็นกระทู้แรกของเราอีกเช่นกันคะ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยแล้วกันคะ มาลุยกันเลย Let's go!!
IG : nah_photographer
www.facebook.com/NahPhotograh
๑๐ มกราคม ๒๕๕๙
หน่าออกเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่โดยรถ First Class VIP ของ นครชัยแอร์ ออกเดินทางเวลา ๒๐:๒๐ ของคืนวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๙
๑๑ มกราคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๔:๓๐
หน่าเดินทางมาถึงขนส่งอาเขตเวลา ๔:๓๐ ถึงแต่เช้ามืดเลยคะ จากนั้นก็นั่งรถแดงจากอาเขตไปที่ขนส่งช้างเผือกเพื่อไปต่อรถบัสสีส้มสาย เชียงใหม่-ท่าตอน ไป อ.เชียงดาว จุดหมายปลายทางของเราคือ "บ้านระเบียงดาว" (รถแดงจากอาเขตไปขนส่งช้างเผือกคนละ ๕๐ บาท / รถบัส เชียงใหม่ - ท่าตอน คนละ ๔๐ บาท) รถเชียงใหม่ - ท่าตอน ใช้เวลาเดินทางไปถึง อ.เชียงดาว ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาทีโดยประมาณ (แวะรับผู้โดยสารตลอดทางเบียดกันนิดนึงอุ่นดี ^-^)
และพวกเราก็มาถึง อ.เชียงดาวกัน เราขอลงตรงที่ "Lotus Express" หน่าตั้งใจว่าจะเช่ามอเตอร์ไซด์แล้วขับกันขึ้นไปบนบ้านระเบียงดาวกันเอง แต่ตอนนั้นเพิ่งจะ ๘:๑๐ คิดว่าร้านน่าจะยังไม่เปิด บวกกับไม่เห็นจะมีร้านมอเตอร์ไซด์ให้เช่าเลยแก -*- ทันใดนั้นมีคุณลุงท่านนึงตะโกนมาจากอีกฝากถนนว่า "หนูๆจะไปบนบ้านระเดียวดาวใช่มั้ย" สองคนหันมองหน้ากันรีบวิ่งไปหาลุงทันทีคะะะะ "ไปๆๆๆๆคะลุง" ๕๕๕๕๕
คุณลุงชื่อเสียงเรียงนามว่า "ลุงบุญ" เป็นชาวบ้านที่เข้ามาในเมืองทุกๆเช้าเพื่อแวะซื้อของทำธุระต่างๆและรับนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวบนหมู่บ้าน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รถของชาวบ้านที่มาจากบ้านเมืองคองไม่ได้มีแค่รถของลุงบุญแต่ยังมีของคนอื่นๆอีกคะ ทั้งนี้รถที่วิ่งจะมีสองรอบคือ ๙:๐๐ และ ๑๓:๐๐ คะ
ตรงนี้เป็นซอยที่ลุงบุญจอดรถไว้รอนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่จะขึ้นไปบ้านเมืองคอง
จากที่เจอกันและก็ตกลงกับลุงว่าจะลงที่บ้านระเบียงดาวนะคะ ลุงก็เอากระเป๋าของพวกเราไปเก็บให้และบอกให้พวกเราไปหาข้าวหาปลากินก่อนนะลุงจะรอตรงรถนะมาเจอกันไม่เกิน ๘:๔๕ แล้วกัน ... ฝั่งตรงข้ามจากที่รถของลุงเป็นร้านขายกับข้าวมีอาหารให้เลือกมากมายแล้วก็มีข้าวขาหมู ชา กาแฟ โอวันติล แน่นอนเราเลือก ... ข้าวขาหมู + ชานมร้อนๆ ๑ แก้ว เพื่อนเราก็กินเหมือนกัน มาดูบรรยากาศในร้านกันคะ ^^
โอเคอิ่มท้องแล้วออกเดินทางกัน ...
นี่เป็นวิวทิวทัศน์ระกว่างทางนะ ^^
โอเคในที่สุดเราก็มาถึงบ้านระเบียงดาวกันแล้ว
ค่ารถ ท่าตอน-บ้านคอง คนละ ๕๐ บาท ...
อยากจะบอกว่าทริปนี้เป็นทริปที่เราไม่ได้จองที่พักไว้เลย ๕๕๕ พอมาบอกเพื่อนที่ร่วมเดินทางไปด้วย "จ๋า" ถึงกับปาดเหงื่อ "แกแล้วเราจะนอนไหนกันดี ๕๕๕๕" หน่าตอบไปว่า "บ้านระเบียงดาวแหล่ะยังไงก็ต้องมีที่พักแน่นอนวันนี้วันธรรมดานะคนไม่เยอะหรอกอีกอย่างเราไหว้พระก่อนออกจากบ้านหน่าขอว่าขอให้หน่าได้เข้าพักค้างคืนอาศัยที่บ้านระเบียงดาวด้วยเถอดดดเพี้ยง!" ๕๕๕๕๕ งานนี้ถึงกับพึ่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ...
แต่เหมือนพระท่านจะรับฟังคำขอของหน่าแหะ มาถึงเดินไปถึงจุดเช็คอิน ... พี่เจ้าของบอกว่ายังมีห้องว่างคะ ยิ้มกันเลยทีเดียว ^^
แถมยังได้ห้องที่วิวดีมากๆด้วย
ห้อง A5 จำชื่อห้องไม่ได้ ชื่อของทุกๆห้องจะเป็นชื่อของดอกไม้ที่ปลูกอยู่ตรงบริเวณหน้าห้องพักแต่ละหลังคะ และนี่คือบริเวณหน้าห้องของเรา เห้อออ ฟินนน~ ณ จุดนี้ไม่อยากไปไหนเลยยย พวกเรามาถึงราวๆสิบโมงนิดๆ เช็คอินเสร็จเก็บของที่ห้อง ล้างหน้าล้างตา และ นอน .... ตื่นมาอีกทีเที่ยงๆ อากาศยังเย็นๆๆ มีลมพัดอยู่ตลอดเวลาเลยคะ เราเริ่มรู้สีกว่าชักหิวละ หาขนมกินรองท้องก่อนละกัน
คุ้กกี้ชิ้นละ ๑๕ บาท
ถึงแดดจะร้อนจ้าในตอนกลางวันแต่อากาศก็ยังดีมากเพราะมีลมพัดตลอด ...
บริเวณนี้คือลานกว้างของบ้านระเบียงดาวไว้นั่งเล่นชมวิว ถ่ายภาพ รับประทานอาหารกัน
จากนั้นเรากับเพื่อนก็มาเดินเล่นชมวิถีชีวิตชาวบ้านและก็นั่งเล่นดูวิวกันไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รูปนี้แถมให้คุณเพื่อน อิอิ ^^
เดินเล่นกันถ่ายรูปเล่นกันจนเริ่มเข้าช่วงเย็นละกลับไปที่พักดีกว่า นั่งชมวิวต่อ และรออาหารเย็น ...
มานี้ไม่ต้องทำไรมากคะ สัญญาณโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ทก็ไม่มี นั่งๆนอนๆแบบอืดๆ กินลมชมวิวไป ๕๕๕
แต่ถ้าเดินลงไปที่บ้านสายหมอกจะมีสัญญาณนิดนึง เพื่อนเราบอกสัญญาณมาตามลม ๕๕๕๕๕ คุณเธอคิดได้นะจ้ะ ^^
อาหารเย็นที่เรารอคอยมาถึงแล้ว ข้าวสวย ไข่เจียวหมูสับ ผักลวก ไฮไลท์อยู่ตรงนี้ "น้ำพริกนรกแตก" คุคุณ แตกจริงๆ! เผ็ดสะเด็ดมากคะ!!
ชาแอปปเปิ้ลนั้นสั่งเองคะ อยากลอง อร่อย หอมหวานเย็น สดชื่น
อุณหภูมิเริ่มลดต่ำลงเรื่อยๆ เจ้าของบ้านบอกว่า น้องมาช่วงนี้เพิ่งหนาวนะ ตั้งแต่ปีใหม่มาไม่หนาวเลย 15-20 องศา เราก็บอกพี่คะแค่นี้ก็หนาวแล้วนะ 55555 ที่มันหนาวเนี่ยไม่ใช่เพราะอากาศมันติดลบหรือเหลือตัวเลขแค่หลักเดียวเหมือนดอยอินทนนท์หรอก แต่เพราะว่ามีลมพัดตลอดๆ จากเย็นเป็นหนาว จากหนาวเป็นหนาวมากก
เราตั้งใจรอฟ้ามืดอีกนิดแล้วเตรียมตัวถ่ายดาว ก่อนอื่นขอบอกก่อนเราไม่เคยถ่ายดาวมาก่อนไม่รู้ว่าต้องเซ็ทยังไง ก็ปรับไปเรื่อยๆจนเข้าที่ ตั้งใจว่าจเถ่ายเยอะๆๆ ให้ได้เห็นทางช้างเผือก 55555 ปรากฏณ์ว่าได้มาแค่รูปเดียว เราทนหนาวไม่ไหว ตอนนั้นปวดหัวมากเลยรู้สึกเหมือนจะมีไข้ เอาแหล่ะแค่นี้ก็ได้ ไว้ตอนเช้ามืดมาต่อ ....
เราเข้านอนตั้งแต่สองทุ่มเพราะตั้งใจจะตื่นมาแต่เช้าสักตีสี่ แหมอากาศหนาวๆในผ้าห่มเล่นทำเอาเราหลับยาววววว ว ตื่นมาอีกที 6:15 ! สรุปถ่ายดาวตอนเช้ามืดไม่ทัน -*-
ถ่ายแสงเช้าแทนแล้วกัน ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นั่นรูปเพื่อนเราเอง
ทุกคนเริ่มตื่นออกมาชมบรรยากาศยามเช้าแล้ว ^^
เครื่องดื่มร้อนๆและมื้อเช้า
หลังจากมื้อเช้าจบลงพวกเราตัดสินใจเดินทางไปต่อที่ ... บ้านแม่กำปอง
เรานั่งรถลงจากบ้านเมืองคองโดยอาศัยรถชาวบ้านลงมาคนละ 50 บาทเหมือนเดิม มาลงที่ตลาดในเมือง อ.เชียงดาว จากนั้นนั่งเหมือนเดินเลยคะ "บัสส้ม" กลับขนส่งช้างเผือก แต่ ... รอบนี้พวกเราได้ตัดสินใจ เช่ามอเตอร์ไซด์ และขับขี่กันเองไปบ้านแม่กำปอง ...
เราไปเช่ามอเตอร์ไซต์ที่ร้าน Bicky เลยโรงแรมโลตัสปางสวนแก้วมานิดเดียวคะ จากนั้นก็ลุยยาวเลย ...
ถามว่าไปแม่กำปองเนี่ยต้องวิ่งเส้นไหน เราอาศัย Google Map นำทางไป 55555 ขับมาทางเส้น อ.สันกำแพงคะ จากนั้นเราก็ตาม Google Map มาเรื่อยๆ ๆ จนถึงที่หมายเลย ถ้าถามเส้นทางอย่างละเอียดแนะนำทักหลังไมค์มาแล้วหน่าจะโทรกลับไปหานะคะ ^^ 5555
Take me to Chiang Mai - เชียงดาว - แม่กำปอง - แม่ริม - ขุนช่างเคี่ยน - ดอยสุเทพ
สวัสดีคะเพื่อนๆชาวพันทิพย์ทุกคน ก่อนอื่นอยากจะขออนุญาติแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อว่า น้อยหน่า เป็นช่างภาพอิสระและกราฟฟิกดีไซน์เนอร์ จุดประสงค์ในการเขียนกระทู้นี้ก็คือเพื่อเป็นการบอกเล่าบอกต่อจากสิ่งที่หน่าได้พบเจอและแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันนะคะ ^-^ และนี่ก็เป็นทริปแรกของปีอีกด้วย กระทู้นี้ก็เป็นกระทู้แรกของเราอีกเช่นกันคะ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยแล้วกันคะ มาลุยกันเลย Let's go!!
www.facebook.com/NahPhotograh
๑๐ มกราคม ๒๕๕๙
หน่าออกเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่โดยรถ First Class VIP ของ นครชัยแอร์ ออกเดินทางเวลา ๒๐:๒๐ ของคืนวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๙
๑๑ มกราคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๔:๓๐
หน่าเดินทางมาถึงขนส่งอาเขตเวลา ๔:๓๐ ถึงแต่เช้ามืดเลยคะ จากนั้นก็นั่งรถแดงจากอาเขตไปที่ขนส่งช้างเผือกเพื่อไปต่อรถบัสสีส้มสาย เชียงใหม่-ท่าตอน ไป อ.เชียงดาว จุดหมายปลายทางของเราคือ "บ้านระเบียงดาว" (รถแดงจากอาเขตไปขนส่งช้างเผือกคนละ ๕๐ บาท / รถบัส เชียงใหม่ - ท่าตอน คนละ ๔๐ บาท) รถเชียงใหม่ - ท่าตอน ใช้เวลาเดินทางไปถึง อ.เชียงดาว ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาทีโดยประมาณ (แวะรับผู้โดยสารตลอดทางเบียดกันนิดนึงอุ่นดี ^-^)
และพวกเราก็มาถึง อ.เชียงดาวกัน เราขอลงตรงที่ "Lotus Express" หน่าตั้งใจว่าจะเช่ามอเตอร์ไซด์แล้วขับกันขึ้นไปบนบ้านระเบียงดาวกันเอง แต่ตอนนั้นเพิ่งจะ ๘:๑๐ คิดว่าร้านน่าจะยังไม่เปิด บวกกับไม่เห็นจะมีร้านมอเตอร์ไซด์ให้เช่าเลยแก -*- ทันใดนั้นมีคุณลุงท่านนึงตะโกนมาจากอีกฝากถนนว่า "หนูๆจะไปบนบ้านระเดียวดาวใช่มั้ย" สองคนหันมองหน้ากันรีบวิ่งไปหาลุงทันทีคะะะะ "ไปๆๆๆๆคะลุง" ๕๕๕๕๕
คุณลุงชื่อเสียงเรียงนามว่า "ลุงบุญ" เป็นชาวบ้านที่เข้ามาในเมืองทุกๆเช้าเพื่อแวะซื้อของทำธุระต่างๆและรับนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวบนหมู่บ้าน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตรงนี้เป็นซอยที่ลุงบุญจอดรถไว้รอนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่จะขึ้นไปบ้านเมืองคอง
จากที่เจอกันและก็ตกลงกับลุงว่าจะลงที่บ้านระเบียงดาวนะคะ ลุงก็เอากระเป๋าของพวกเราไปเก็บให้และบอกให้พวกเราไปหาข้าวหาปลากินก่อนนะลุงจะรอตรงรถนะมาเจอกันไม่เกิน ๘:๔๕ แล้วกัน ... ฝั่งตรงข้ามจากที่รถของลุงเป็นร้านขายกับข้าวมีอาหารให้เลือกมากมายแล้วก็มีข้าวขาหมู ชา กาแฟ โอวันติล แน่นอนเราเลือก ... ข้าวขาหมู + ชานมร้อนๆ ๑ แก้ว เพื่อนเราก็กินเหมือนกัน มาดูบรรยากาศในร้านกันคะ ^^
โอเคอิ่มท้องแล้วออกเดินทางกัน ...
นี่เป็นวิวทิวทัศน์ระกว่างทางนะ ^^
โอเคในที่สุดเราก็มาถึงบ้านระเบียงดาวกันแล้ว
ค่ารถ ท่าตอน-บ้านคอง คนละ ๕๐ บาท ...
อยากจะบอกว่าทริปนี้เป็นทริปที่เราไม่ได้จองที่พักไว้เลย ๕๕๕ พอมาบอกเพื่อนที่ร่วมเดินทางไปด้วย "จ๋า" ถึงกับปาดเหงื่อ "แกแล้วเราจะนอนไหนกันดี ๕๕๕๕" หน่าตอบไปว่า "บ้านระเบียงดาวแหล่ะยังไงก็ต้องมีที่พักแน่นอนวันนี้วันธรรมดานะคนไม่เยอะหรอกอีกอย่างเราไหว้พระก่อนออกจากบ้านหน่าขอว่าขอให้หน่าได้เข้าพักค้างคืนอาศัยที่บ้านระเบียงดาวด้วยเถอดดดเพี้ยง!" ๕๕๕๕๕ งานนี้ถึงกับพึ่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ...
แต่เหมือนพระท่านจะรับฟังคำขอของหน่าแหะ มาถึงเดินไปถึงจุดเช็คอิน ... พี่เจ้าของบอกว่ายังมีห้องว่างคะ ยิ้มกันเลยทีเดียว ^^
แถมยังได้ห้องที่วิวดีมากๆด้วย
ห้อง A5 จำชื่อห้องไม่ได้ ชื่อของทุกๆห้องจะเป็นชื่อของดอกไม้ที่ปลูกอยู่ตรงบริเวณหน้าห้องพักแต่ละหลังคะ และนี่คือบริเวณหน้าห้องของเรา เห้อออ ฟินนน~ ณ จุดนี้ไม่อยากไปไหนเลยยย พวกเรามาถึงราวๆสิบโมงนิดๆ เช็คอินเสร็จเก็บของที่ห้อง ล้างหน้าล้างตา และ นอน .... ตื่นมาอีกทีเที่ยงๆ อากาศยังเย็นๆๆ มีลมพัดอยู่ตลอดเวลาเลยคะ เราเริ่มรู้สีกว่าชักหิวละ หาขนมกินรองท้องก่อนละกัน
คุ้กกี้ชิ้นละ ๑๕ บาท
ถึงแดดจะร้อนจ้าในตอนกลางวันแต่อากาศก็ยังดีมากเพราะมีลมพัดตลอด ...
บริเวณนี้คือลานกว้างของบ้านระเบียงดาวไว้นั่งเล่นชมวิว ถ่ายภาพ รับประทานอาหารกัน
จากนั้นเรากับเพื่อนก็มาเดินเล่นชมวิถีชีวิตชาวบ้านและก็นั่งเล่นดูวิวกันไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดินเล่นกันถ่ายรูปเล่นกันจนเริ่มเข้าช่วงเย็นละกลับไปที่พักดีกว่า นั่งชมวิวต่อ และรออาหารเย็น ...
มานี้ไม่ต้องทำไรมากคะ สัญญาณโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ทก็ไม่มี นั่งๆนอนๆแบบอืดๆ กินลมชมวิวไป ๕๕๕
แต่ถ้าเดินลงไปที่บ้านสายหมอกจะมีสัญญาณนิดนึง เพื่อนเราบอกสัญญาณมาตามลม ๕๕๕๕๕ คุณเธอคิดได้นะจ้ะ ^^
อาหารเย็นที่เรารอคอยมาถึงแล้ว ข้าวสวย ไข่เจียวหมูสับ ผักลวก ไฮไลท์อยู่ตรงนี้ "น้ำพริกนรกแตก" คุคุณ แตกจริงๆ! เผ็ดสะเด็ดมากคะ!!
ชาแอปปเปิ้ลนั้นสั่งเองคะ อยากลอง อร่อย หอมหวานเย็น สดชื่น
อุณหภูมิเริ่มลดต่ำลงเรื่อยๆ เจ้าของบ้านบอกว่า น้องมาช่วงนี้เพิ่งหนาวนะ ตั้งแต่ปีใหม่มาไม่หนาวเลย 15-20 องศา เราก็บอกพี่คะแค่นี้ก็หนาวแล้วนะ 55555 ที่มันหนาวเนี่ยไม่ใช่เพราะอากาศมันติดลบหรือเหลือตัวเลขแค่หลักเดียวเหมือนดอยอินทนนท์หรอก แต่เพราะว่ามีลมพัดตลอดๆ จากเย็นเป็นหนาว จากหนาวเป็นหนาวมากก
เราตั้งใจรอฟ้ามืดอีกนิดแล้วเตรียมตัวถ่ายดาว ก่อนอื่นขอบอกก่อนเราไม่เคยถ่ายดาวมาก่อนไม่รู้ว่าต้องเซ็ทยังไง ก็ปรับไปเรื่อยๆจนเข้าที่ ตั้งใจว่าจเถ่ายเยอะๆๆ ให้ได้เห็นทางช้างเผือก 55555 ปรากฏณ์ว่าได้มาแค่รูปเดียว เราทนหนาวไม่ไหว ตอนนั้นปวดหัวมากเลยรู้สึกเหมือนจะมีไข้ เอาแหล่ะแค่นี้ก็ได้ ไว้ตอนเช้ามืดมาต่อ ....
เราเข้านอนตั้งแต่สองทุ่มเพราะตั้งใจจะตื่นมาแต่เช้าสักตีสี่ แหมอากาศหนาวๆในผ้าห่มเล่นทำเอาเราหลับยาววววว ว ตื่นมาอีกที 6:15 ! สรุปถ่ายดาวตอนเช้ามืดไม่ทัน -*-
ถ่ายแสงเช้าแทนแล้วกัน ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทุกคนเริ่มตื่นออกมาชมบรรยากาศยามเช้าแล้ว ^^
เครื่องดื่มร้อนๆและมื้อเช้า
หลังจากมื้อเช้าจบลงพวกเราตัดสินใจเดินทางไปต่อที่ ... บ้านแม่กำปอง
เรานั่งรถลงจากบ้านเมืองคองโดยอาศัยรถชาวบ้านลงมาคนละ 50 บาทเหมือนเดิม มาลงที่ตลาดในเมือง อ.เชียงดาว จากนั้นนั่งเหมือนเดินเลยคะ "บัสส้ม" กลับขนส่งช้างเผือก แต่ ... รอบนี้พวกเราได้ตัดสินใจ เช่ามอเตอร์ไซด์ และขับขี่กันเองไปบ้านแม่กำปอง ...
เราไปเช่ามอเตอร์ไซต์ที่ร้าน Bicky เลยโรงแรมโลตัสปางสวนแก้วมานิดเดียวคะ จากนั้นก็ลุยยาวเลย ...
ถามว่าไปแม่กำปองเนี่ยต้องวิ่งเส้นไหน เราอาศัย Google Map นำทางไป 55555 ขับมาทางเส้น อ.สันกำแพงคะ จากนั้นเราก็ตาม Google Map มาเรื่อยๆ ๆ จนถึงที่หมายเลย ถ้าถามเส้นทางอย่างละเอียดแนะนำทักหลังไมค์มาแล้วหน่าจะโทรกลับไปหานะคะ ^^ 5555