อ่างขางดินแดนสีชมพู

ทริปนี้เดินทาง 15-18 มกราคม 2559


ทริปนี้ตั้งใจจะไปดูดอกพญาเสือโคร่งที่ดอยอ่างขางสักครั้ง หาข้อมูลก่อนเดินทาง 2 วันจากนั้นก็ไปซื้อตั๋วก่อน 1 วัน เป็นการนั่งรถนิววิริยะยานยนต์ทัวร์ครั้งแรก รถ VIP ของเขาเก่าไปหน่อย แต่เบาะใหญ่ใช้ได้เลยนะ


ราคาตั๋วจากกรุงเทพฯ-ท่าตอน 720 บาท รถออกจากหมอชิต 19:45 น. มาแวะจุดพักรถร้านขวัญที่สลกบาตร ร้ายนี้ก็ไม่โอเค ราดหน้าหวานมาก ยังกับเชื่อมของหวาน อย่างอื่นอาจจะอร่อย แต่เราอาจจะไม่ได้มาแวะอีกแล้วก็ได้นะ


หมดเวลาพักก็ขึ้นรถนอนต่อเลย ง่วงมากๆ ตื่นมาอีกทีก็ใกล้เชียงใหม่ละ คนลงเยอะ จอดไม่นานก็ไปต่อ รถออก 19:45 น. ถึงวัดหาดสำราญจุดต่อรถขึ้นดอยอ่างขางเวลา 6:39 น. เย็นมากๆ


เราโทรนัดรถสองแถวเพื่อให้เขามารับและพาเราเที่ยว ราคาเหมารถ
1. ขึ้น-ลงพาเที่ยว 3 จุดภายในสถานีเกษตรอ่างขาง 1,400 บาท
2. ขึ้น-ลงพาเที่ยวไร่ชา ไร่สตรอว์เบอร์รี่ ม่อนสน ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล ดูอาทิตย์ขึ้น และภายในสถานีเกษตรอ่างขางอีก 3 จุด ราคา 2,000 บาท
3. ขึ้น-ลงพาเที่ยวไร่ชา ไร่สตรอว์เบอร์รี่ ม่อนสน ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล ดูอาทิตย์ขึ้น และภายในสถานีเกษตรอ่างขางอีก 3 จุด ลงมาส่งนอนที่ม่อนสน และเดินขึ้นยอดสูงสุดของดอยอ่างขาง ราคา 2,300 บาท
(คนอื่นมีไปไร่ส้มกับน้ำพุร้อนด้วยในราคา 2,600 บาท แต่ต้องนอนด้านบนไม่ได้ลงมาม่อนสนนะ)

เราเลือกอันที่ 3 คนขับสองแถวชื่อคุณโอ๋แนะนำดี สอบถามสิ่งที่เราชอบแล้วก็ให้เวลาเราเต็มที่

จุดแรกที่เราไป จุดชมวิวม่อนสน จุดนี้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติผ้าห่มปก เช้าๆ แบบนี้คนน้อยมาก ยิ้มเลยเรา ถ่ายรูปสนุก




ระหว่างทางต้นพญาเสือโคร่งเริ่มผลิใบแล้ว ถ่ายจากในรถขณะวิ่งอยู่ไม่ได้จอด



จุดที่ 2 มาชมไร่ชา บ้านขอบด้ง อากาศดี คนเยอะ แถมยังจอดรถปิดเส้นทางเดินรถจนวุ่นวายไปหมด รถแพงแต่มารยาทไม่พัฒนา




จุดที่ 3 ไร่สตรอว์เบอร์รี่ ห้ามเก็บ มีขายแต่ราคากล่องละ 120 บาท สดจริง เราไม่ได้ปลื้มตรงนี้ไร่สตรอว์เบอร์รี่นี่เลย



เราสนใจดงต้นพญาเสือโคร่งที่กำลังออกดอกชมพูสะพรั่ง คุณโอ๋พาเรามาจุดนี้ภายในรั้วของชาวเขา ชมต้นพญาเสือโคร่งแบบส่วนตัว




จุดที่ 4 ชายแดนไทย-พม่า สมเด็จพระเทพฯ เสด็จมาประทับที่ศาลาและทอดพระเนตรพื้นที่ชายแดน มีบังเกอร์ให้มุดเล่นด้วย




มีต้นพญาเสือโคร่งให้ชมอย่างใกล้ชิดเลยนะ แต่ขอเถอะอย่าโน้มกิ่ง หน้าไม่ต้องแปะกับดอกก็ได้เน้อ


คุณโอ๋พามากินข้าวที่ลาดจีนยูนนาน เราก็กินบะหมี่ซี่โครงหมูตุ๋นยูนนาน ก็อร่อยใช้ได้ 40 บาท น้ำชาฟรี


จากนั้นก็พาเราเที่ยวสถานีเกษตรอ่างขาง เสียค่าเข้า 50 บาท เรานั่งรถรับจ้างมาไม่เสียค่าเข้า แต่ถ้ารถส่วนตัวก็ 50 บาท เป็นอีกจุดที่มีแต่คนสงสัยถามว่าเรามาคนเดียวจริงหรอ? 555+ ก็ไม่ใช่ที่แรกที่มาคนเดียวนะ เที่ยวอีก 3 จุด คนพาเที่ยวก็เก่งเนอะวางรูทดีมากๆ แล้วเราก็มาฟินที่นี่มันเยอะและใกล้ชิดมากๆ


จุดแรกในสถานีเกษตรอ่างขางเป็น สวน 80 พญาเสือโคร่งเยอะและสวยมากๆ





เดินไปตามทางอีกนิดแม้ว จะเจอโซนกุหลาบอังกฤษจะมีต้นซากุระที่เป็นพันธุ์มาจากญี่ปุ่น คนพาเที่ยวอธิบายให้ฟัง ขอเน้ออย่าโน้มกิ่งกันเลยนะ ต้นเตี้ยๆ ก็มี




จุดที่สองในสถานีเกษตรอ่างขางก็คือ แปลงต้นบ๊วยและเมืองผัก (เราเรียกเองนะ) บริเวณนี้มีร้านกาแฟบรรยากาศดีทีเดียว โล่งโปร่งสบาย




จุดสุดท้ายภายในสถานีเกษตรอ่างขาง เป็นโซนด้านหน้าและร้านโครงการหลวง



ข้ามฝากมาอีกฝั่งถนน


เดินชมพืชทนแล้งภายในโดม



สวนบอนไซ



สวนหินธรรมชาติ



ใครอยากกินสตรอว์เบอร์รี่ซื้อในร้านโครงการหลวงภายในสถานีเกษตรอ่างขางเลยนะ ลูกสวย ราคาไม่แพง 55-65 บาท ซื้อที่ไร่ชาวเขา 120 บาท แถมยังเป็นผลที่ไม่ได้ขนาด มีตำหนิส่งโครงการหลวงไม่ได้อีกด้วย ชาวเขามีรายได้จากการปลูกสตรอว์เบอร์รี่ส่งให้โครงการหลวงช่วง 3 เดือนที่ปลูกได้อย่างน้อยครัวเรือนละแสนกลาง-ปลาย


ระหว่างทางเดินออกจากสถานีเกษตรอ่างขางชมพูตลอดทางเลย


หลังจากนั้นคุณโอ๋มาติดต่อเรื่องเต็นท์ให้เราได้นอนที่ลานกางเต็นท์ดอยอ่างขาง ตรงจุดชมวิวม่อนสน ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติผ้าห่มปก เต็นท์พร้อมเครื่องนอนสำหรับ 2 คน คืนละ 500 บาท เต็นท์ที่เราได้เป็นวิวดีมากไม่มีเต็นท์อื่นมาบังเลย ถือว่าคุ้มค่า แต่แผ่นรองนอนปู 2 ชั้นแล้วยังบางเฉียบเลย (สภาพหลังจากเรารื้อแล้ว)


จ่ายเงินค่าเช่าเสร็จฝากของที่ร้านค้าที่เราเช่าเต็นท์ และเริ่มเดินสำรวจฐานปฏิบัติการดอยอ่างขาง เป็นพื้นที่ของทหาร มีจุดกางเต็นท์ด้วย




สำรวจทั่วแล้วก็เดินไปหาทางขึ้นเส้นทางศึกษาธรรมชาติขึ้นสู่จุดสูงสุดดอยอ่างขาง เจอป้ายแล้วถึงเวลาซนแล้ว


640 เมตร ทำไมเหนื่อย 555+ ทางเหนื่อยใช้ได้เลยนะ แต่วิวแบบ 360 องศามันดีมากจริงๆ อยู่คนเดียวไม่มีใครแย่งถ่ายรูปด้วย





ที่ป้ายสีเขียว "จุดสูงสุดยอดดอยอ่างขาง สูงจากระดับน้ำทะเล 1,928 เมตร" นั้นเต็มไปด้วยรอยจารึกของคนท่องเที่ยวแบบไร้จิตสำนึก มีทั้งมาคู่ มาหมู่ ชื่อโรงเรียนยังมีเลยนะ เศร้าใจนะ

2 ชั่วโมงกว่ากับการนั่งชมวิวจุดสูงสุดยอดดอยอ่างขาง สูงจากระดับน้ำทะเล 1,928 เมตร คนเดียว อากาศเย็นสบายแต่ไม่มีร่มเงาจากต้นไม้นะ คุ้มค่าการเดินมาก ตอนแรกตั้งใจจะรอดูอาทิตย์ลับแนวเขาแต่ดันลืมเอาไฟฉายขึ้นมา แถมแบตมือถือก็เหลือ 10% ก็เลยตัดใจเดินลง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
มุมสูงลานกางเต็นท์ ขาลงจากยอดสูงสุดดอยอ่างขาง


ลงมาจากจุดสุดดอยอ่างขางแล้วก็มาต่อคิวอาบน้ำ เปิดห้องเดียว น้ำไม่พอใช้ แนะนำว่าควรรีบอาบก่อนอาทิตย์ตก น้ำเย็นมาก

อาทิตย์ตกแล้ว แสงกำลังสวยเลย เขาก็แย่งกันขึ้นไปถ่ายรูปที่ระเบียงไม้ เราก็ถ่ายพวกเขาอีกที มาเที่ยวแล้วแบ่งปันให้คนอื่นถ่ายรูปบ้าง หลายคนก็บ่นพวกกล้องใหญ่ตั้งขาตั้งกล้องถ่ายแบบไม่สนใจคนอื่นเยอะแล้วนะ ดีใจเริ่มมีพวก




หลังจบเรื่องแสงสวยๆไปแล้วก็ถึงเวลาเรื่องสนุกของเราอีกอย่าง คือนำ passport อุทยานแห่งชาติไปปั๊ม เจ้าหน้าอุทยานฯ คุยดีมาก มีแต่ 3 คน แต่ต้องดูแลคนหลายร้อย


หลังกินข้าวอิ่มไม่น่าก็หลับไป ตื่นมาเพราะพวกมาเป็นกลุ่มตะโกนคุยกัน กินเหล้าในเขตอุทยานแห่งชาติ เสียงดังหลัง 4 ทุ่ม (มีประกาศห้ามของอุทยานแห่งชาติและใช้เหมือนกันทั่วประเทศ)


กว่าจะหลับได้ก็ตี 3 แล้ว 17 มกราคม 2559 เช้าเราไม่ต้องตั้งปลุกเลยนะ แก็งค์เดิมเสียงดังเหมือนเดิม แต่ชุดที่เราเตรียมมาไม่ได้เหมาะกับอุณหภูมิต่ำอย่างนี้


แสงเริ่มมาจากขอบฟ้าและเริ่มมีไข่แดงลอยขึ้นมาเรื่อยๆ แล้ว





เหมือนเคยเรามาถ่ายคนอื่นยืนเบียดกันบนระเบียงไม้อีกรอบ



ป.ล. รูปเยอะและไม่ค่อยสวย ขออภัยจะพยายามให้ดีขึ้น (รูปจากกล้องมือถือ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่