เป็นสถานการณ์จำลองเเละใกล้เคียงกับเรื่องจริงมากที่สุดลองเเทนตัวเองลงไปเเล้วจะทราบถึงความรู้สึก
ตอนความเดิมเรื่อง : คุณเป็นพนักงานคนหนึ่ง ที่เข้าสมัคทำงานที่โรงงานทำเหล็กกล้าแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุด
สิ่งที่สำคัญคือ คุณจะไม่ได้รับเงินเดือนจากที่นี้ ทำฟรี เเต่สิ่งที่คุณจะได้คือ ใบผ่านงาน
ใบผ่านงานที่นี้มีความหมายต่อคุณคือ ไปที่ไหนทุกที่ก็จะรับคุณเพราะโรงงานสุดยอดเทคโนโลยี
ตำแหน่งที่คุณได้คือ "ประชาสัมพันธ์" มีหน้าที่ทำการรวบรวมข้อมูลจาก คนในโรงงาน หัวหน้า รองหัวหน้า
เเละข้อมูลที่ได้ศึกษามาเอง เมื่อเรียบร้อยก็ทำการประชาสัมพันธ์ให้คนในโรงงานทราบถึง
แผนหรือนโยบายที่เราต้องปฏิบัติทั้งหมดในอนาคต เราได้เป็นหัวหน้าเเละมีผู้ช่วยหนึ่งคน
เดิมเเล้วโรงงานนี้ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ต่อมาก็ปรับเป็น ทำงานวันละ 9 ชั่วโมง
ระยะ ที่ 1 : ต่อมามีข้อมูลมาเพียงเเค่ว่า "ต้องเร่งผลิตเหล็กให้ได้ 20 ตู้คอนเทนเนอร์" ภายใน 7 เดือน
มีออเดอร์เข้ามาด่วน บุคคลที่เกี่ยวข้องและเราก็ปรึกษากันอย่างย่อยโดยไม่มีตัวเเทนจากพนักงานมาประชุมด้วย
และลงลายลักษณ์อักษรเอาไว้ว่า "จะต้องเพิ่มเวลาการทำงาน เป็น 10 ชั่วโมง"
โดยเราก็เป็นพนักงานใหม่ ด้วยความเร่งรีบ เพื่อให้งานเสร็จโดยเร็วก็ได้ทำนำที่บันทึกและรายละเอียดการประชุมนั้น
มาทำการเรียบเรียงและทำการประชาสัมพันธ์ออกไปในที่สุด เมื่อพนักงานทราบก็ตกใจเป็นอย่างยิ่งก็มีการถกเถียงสิ่งที่เกิดขึ้น
เลยมีนัดประชุมใหญ่ พนักงานส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า 10 ชั่วโมงก็ 10 ชั่วโมง
เพื่อให้ได้เหล็ก 20 ตู้คอนเทนเนอร์ ภายใน 7 เดือน เเต่มีพนักงานบางคนไม่เห็นด้วยเพราะหักโหมเกินไป
เเต่ทางบริษัทก็ไม่มีใครว่าอะไร และมีพนักงานเสนอว่า "ก็ทำงาน 8 ชั่วโมงตามเดิมเเล้วพอใกล้จะถึงวันส่งมอบ
ก็ค่อยรีบทำงานโดยให้คนนอกเข้ามาช่วยเราเช่น พ่อ เเม่ (ซึ่งสามารถทำได้) "
เเต่บางคนมองว่าเป็นการเพิ่มภาระให้พ่อเเม่ เเละบางคนก็ไม่มีพ่อเเม่ให้เข้ามาช่วยด้วย
เเต่พนักงานทุกคนก็มองว่าเราเป็นคนต้นคิดนโยบาย ด้วยเราเองเห็นว่าเกิดความวุนวาย และถกเถียงกันเพราะเรา
จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนี้ไป และให้ผู้ช่วยรับงานไป เราก็ย้ายมาเป็นพนักงานเเทน
ระยะ ที่ 2 : จู่ๆโรงงานก็มีการปิดซ่อมบำรุง 1 เดือน การผลิตเหล็กตามออเดอร์ก็ยังดำเนินการต่อไป
เเละด้วยมีการปิดโรงงานนี้ตามแผนเดิมที่มีการเขียนไว้และตกลงกันว่าทุกคนต้องทำงานชดเชย เท่ากับชั่วโชงที่หายไป
ในการซ่อมบำรุงโรงงานจากเดิม 10 ชั่วโมงก็เพิ่มเป็น 12 ชั่วโมงในระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้ครบชั่วโมงที่หายไป
เเละกลับมาทำงาน 10 ชั่วโมงตามเดิม
ระยะ ที่ 3 : หลังจากซ่อมบำรุงเสร็จทุกคนต้องมาทำงาน 12 ชั่วโมงระยะหนึ่ง ที่ชั่วโมงหายไป ต่อมา
คนที่สังออเดอร์เหล็กกลับมาบอกว่า "ผมขอโทษด้วยความจริงผมสั่งจากบริษัทของคุณ 10 ตู้เท่านั้นเอง อีก 10 ตู้ผมสั่งจากอีกบริษัทหนึ่ง"
เมื่อพนักงานทราบเข้าก็โมโห จนทำให้พนักงานโกรธ และโทษเราในฐานะประชาสัมพันธ์ในตอนนั้น
ว่าไม่ควรประชาสัมพันธ์ไปอย่างนั้น ด้วยความที่เราก็ไม่อยากจะเสียใบผ่านงานที่มีค่า ไม่อยากลาออกจากโรงงานนี้ไป
เราก็ไปปรึกษาผู้ช่วยที่ทำหน้าที่อยู่ตอนนี้เพราะมันเป็นสิ่งที่ยังใช้นโยบายที่เราประชาสัมพันธ์นี้อยู่ว่า
ไหนๆเขาก็มาบอกลดออเดอร์ไปเหลือ 10 ตู้คอนเทนเนอร์เเล้ว เราก็ควรจะตัดชั่วโมงออกไปเลย ให้พนักงานได้พักผ่อน
เพราะอย่างไรก็ตามในสต็อกเราก็เพียงพอเเล้วไม่ต้องไปบังคับพนักงานอีกเลย ทางผู้ช่วยเองก็บอกว่าตามเเผนเดิมนะดีเเล้ว
หนักตอนนี้อะดี เเต่จะให้ลดเวลาทำงานที่เหนื่อยล้าได้ และจะได้ให้พนักงานพักร้อนกันยาวขึ้น เเละยังมีเหล็กในสต็อกได้พอจำหน่าย
ณ ตอนนี้ : ด้วยที่ความเรารู้สึกผิดก็อาสาส่งมอบงานเหล็ก 10 ตู้คอนเทนเนอร์เป็นครั้งสุดท้ายเเล้ว
จะได้ปิดนโยบายนี้ไปซักที เราก็อาสางานนี้ดีไหมเพราะมันเป็นสิ่งที่พลาดของเราเอง จบงานนี้ก็จบไปซักที
จากเรื่อง : บอกความจริงบางอย่างคือ ใบผ่านงานที่ว่าคือ "ใบปริญญา" โรงงานเหล็กคือ "ห้องเรียน"
พนักงานคือ "เพื่อน" จากใจเราเองอยากบอกว่า ขอโทษที่ทำผิดพลาดไปในครั้งนั้น ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเจ็บปวด
ขอโทษทุกคน
คุณจะทำอย่างไรต่อไปถ้าได้บทบาทดังนี้ (สมมุติจากเรื่องจริง) ยาวหน่อย
ตอนความเดิมเรื่อง : คุณเป็นพนักงานคนหนึ่ง ที่เข้าสมัคทำงานที่โรงงานทำเหล็กกล้าแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุด
สิ่งที่สำคัญคือ คุณจะไม่ได้รับเงินเดือนจากที่นี้ ทำฟรี เเต่สิ่งที่คุณจะได้คือ ใบผ่านงาน
ใบผ่านงานที่นี้มีความหมายต่อคุณคือ ไปที่ไหนทุกที่ก็จะรับคุณเพราะโรงงานสุดยอดเทคโนโลยี
ตำแหน่งที่คุณได้คือ "ประชาสัมพันธ์" มีหน้าที่ทำการรวบรวมข้อมูลจาก คนในโรงงาน หัวหน้า รองหัวหน้า
เเละข้อมูลที่ได้ศึกษามาเอง เมื่อเรียบร้อยก็ทำการประชาสัมพันธ์ให้คนในโรงงานทราบถึง
แผนหรือนโยบายที่เราต้องปฏิบัติทั้งหมดในอนาคต เราได้เป็นหัวหน้าเเละมีผู้ช่วยหนึ่งคน
เดิมเเล้วโรงงานนี้ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ต่อมาก็ปรับเป็น ทำงานวันละ 9 ชั่วโมง
ระยะ ที่ 1 : ต่อมามีข้อมูลมาเพียงเเค่ว่า "ต้องเร่งผลิตเหล็กให้ได้ 20 ตู้คอนเทนเนอร์" ภายใน 7 เดือน
มีออเดอร์เข้ามาด่วน บุคคลที่เกี่ยวข้องและเราก็ปรึกษากันอย่างย่อยโดยไม่มีตัวเเทนจากพนักงานมาประชุมด้วย
และลงลายลักษณ์อักษรเอาไว้ว่า "จะต้องเพิ่มเวลาการทำงาน เป็น 10 ชั่วโมง"
โดยเราก็เป็นพนักงานใหม่ ด้วยความเร่งรีบ เพื่อให้งานเสร็จโดยเร็วก็ได้ทำนำที่บันทึกและรายละเอียดการประชุมนั้น
มาทำการเรียบเรียงและทำการประชาสัมพันธ์ออกไปในที่สุด เมื่อพนักงานทราบก็ตกใจเป็นอย่างยิ่งก็มีการถกเถียงสิ่งที่เกิดขึ้น
เลยมีนัดประชุมใหญ่ พนักงานส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า 10 ชั่วโมงก็ 10 ชั่วโมง
เพื่อให้ได้เหล็ก 20 ตู้คอนเทนเนอร์ ภายใน 7 เดือน เเต่มีพนักงานบางคนไม่เห็นด้วยเพราะหักโหมเกินไป
เเต่ทางบริษัทก็ไม่มีใครว่าอะไร และมีพนักงานเสนอว่า "ก็ทำงาน 8 ชั่วโมงตามเดิมเเล้วพอใกล้จะถึงวันส่งมอบ
ก็ค่อยรีบทำงานโดยให้คนนอกเข้ามาช่วยเราเช่น พ่อ เเม่ (ซึ่งสามารถทำได้) "
เเต่บางคนมองว่าเป็นการเพิ่มภาระให้พ่อเเม่ เเละบางคนก็ไม่มีพ่อเเม่ให้เข้ามาช่วยด้วย
เเต่พนักงานทุกคนก็มองว่าเราเป็นคนต้นคิดนโยบาย ด้วยเราเองเห็นว่าเกิดความวุนวาย และถกเถียงกันเพราะเรา
จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนี้ไป และให้ผู้ช่วยรับงานไป เราก็ย้ายมาเป็นพนักงานเเทน
ระยะ ที่ 2 : จู่ๆโรงงานก็มีการปิดซ่อมบำรุง 1 เดือน การผลิตเหล็กตามออเดอร์ก็ยังดำเนินการต่อไป
เเละด้วยมีการปิดโรงงานนี้ตามแผนเดิมที่มีการเขียนไว้และตกลงกันว่าทุกคนต้องทำงานชดเชย เท่ากับชั่วโชงที่หายไป
ในการซ่อมบำรุงโรงงานจากเดิม 10 ชั่วโมงก็เพิ่มเป็น 12 ชั่วโมงในระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้ครบชั่วโมงที่หายไป
เเละกลับมาทำงาน 10 ชั่วโมงตามเดิม
ระยะ ที่ 3 : หลังจากซ่อมบำรุงเสร็จทุกคนต้องมาทำงาน 12 ชั่วโมงระยะหนึ่ง ที่ชั่วโมงหายไป ต่อมา
คนที่สังออเดอร์เหล็กกลับมาบอกว่า "ผมขอโทษด้วยความจริงผมสั่งจากบริษัทของคุณ 10 ตู้เท่านั้นเอง อีก 10 ตู้ผมสั่งจากอีกบริษัทหนึ่ง"
เมื่อพนักงานทราบเข้าก็โมโห จนทำให้พนักงานโกรธ และโทษเราในฐานะประชาสัมพันธ์ในตอนนั้น
ว่าไม่ควรประชาสัมพันธ์ไปอย่างนั้น ด้วยความที่เราก็ไม่อยากจะเสียใบผ่านงานที่มีค่า ไม่อยากลาออกจากโรงงานนี้ไป
เราก็ไปปรึกษาผู้ช่วยที่ทำหน้าที่อยู่ตอนนี้เพราะมันเป็นสิ่งที่ยังใช้นโยบายที่เราประชาสัมพันธ์นี้อยู่ว่า
ไหนๆเขาก็มาบอกลดออเดอร์ไปเหลือ 10 ตู้คอนเทนเนอร์เเล้ว เราก็ควรจะตัดชั่วโมงออกไปเลย ให้พนักงานได้พักผ่อน
เพราะอย่างไรก็ตามในสต็อกเราก็เพียงพอเเล้วไม่ต้องไปบังคับพนักงานอีกเลย ทางผู้ช่วยเองก็บอกว่าตามเเผนเดิมนะดีเเล้ว
หนักตอนนี้อะดี เเต่จะให้ลดเวลาทำงานที่เหนื่อยล้าได้ และจะได้ให้พนักงานพักร้อนกันยาวขึ้น เเละยังมีเหล็กในสต็อกได้พอจำหน่าย
ณ ตอนนี้ : ด้วยที่ความเรารู้สึกผิดก็อาสาส่งมอบงานเหล็ก 10 ตู้คอนเทนเนอร์เป็นครั้งสุดท้ายเเล้ว
จะได้ปิดนโยบายนี้ไปซักที เราก็อาสางานนี้ดีไหมเพราะมันเป็นสิ่งที่พลาดของเราเอง จบงานนี้ก็จบไปซักที
จากเรื่อง : บอกความจริงบางอย่างคือ ใบผ่านงานที่ว่าคือ "ใบปริญญา" โรงงานเหล็กคือ "ห้องเรียน"
พนักงานคือ "เพื่อน" จากใจเราเองอยากบอกว่า ขอโทษที่ทำผิดพลาดไปในครั้งนั้น ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเจ็บปวด
ขอโทษทุกคน