เหตุการณ์ครั้งก่อน
http://pantip.com/topic/32356152
http://pantip.com/topic/33025328
โดนจอดรถขวางที่คอนโด ไปตามยามและแจ้งเจ้าของมาเลื่อนรถ
เจ้าของรถมาถึงหาว่าไปกรีดรถเค้ารอบคัน แล้วยังไปแจ้งตำรวจจับเรา
เจอข้อหาคดีอาญาทำให้เสียทรัพย์ แต่เราปฏิเสธข้อกล่าวหา ตอนนั้นเครียดมากเลยนะคะ
เราต้องเสียเวลาไปสำนักอัยการทุกนัดจนมีคำสั่งไม่ฟ้องเพราะหลักฐานไม่พอฟ้อง
(ในวงจรปิดเห็นเราเดินผ่านรถเขาด้านซ้ายแค่หัวกับไหล่เพราะมีรถบังแต่ไม่มีการยกมือ
หรือออกแรงทำอะไรลักษณะเหมือนเดินผ่านเฉยๆ ส่วนด้านขวาของรถเขาก็มีรอยกรีดยาวรอบคัน
วงจรปิดเห็นชัดมากแต่ไม่มีภาพเราเดินผ่านด้านขวารถเขาเลย)
เราก็กลับมานั่งคิดอยู่พักนึงว่าจะเอาไงดีปล่อยไปหรือฟ้องกลับ
ในที่สุดตัดสินใจฟ้องแพ่งกลับ นัดขึ้นศาลครั้งแรกจำเลยไม่มา ศาลให้ทนายส่งหมายเรียกอีกครั้ง
และขึ้นศาลนัดที่สองเมื่อวาน คู่กรณีมาพร้อมทนาย ตอนแรกเหมือนจะขอไกล่เกลี่ยบอกว่าไม่มีเงิน
เราก็บอกศาลว่าเรายอมไกล่เกลี่ยเพราะเราไม่ได้ฟ้องเพื่อเงินแต่ฟ้องเพื่อเรียกศักดิ์ศรีตัวเองคืนเพราะเราไม่ได้ทำ
แต่เราก็มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องไปสถานีตำรวจและก็ต้องลางานไปสำนักอัยการอีกหลายครั้ง
เขาก็ไม่พูดออกมาว่าจะไกล่เกลี่ยเท่าไรอ้างว่าลำบากเดือนร้อน มีอะไรที่น่าสมเพชมากกว่านี้แต่ไม่ขอเล่า
ทีนี้คงได้รู้ตัวแล้วว่าได้ละเมิดสิทธ์คนอื่นแล้วเดือดร้อนอย่างไร
ในที่สุดก็ขอสืบพยานและก็ต้องเลื่อนไปอีกสองสามเดือนไม่รู้จะยืดเยื้อยาวนานแค่ไหนรอติดตามตอนต่อไปนะคะ
เล่าให้ฟังว่ามีคนแบบนี้ในสังคมให้พึงระวังตัว และเผื่อใครมีความเห็นอะไรแนะนำได้ค่ะ
****ลืมเล่าถึงประโยคคลาสสิคที่ฝั่งนั้นให้การศาลว่า "เป็นการเข้าใจผิดโดยสุจริต" อ่านแล้วอย่าของขึ้นน๊า 555 ****
ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจค่ะ
ฟ้องกลับคู่กรณี จากเหตุการณ์จอดรถขวางที่คอนโด
http://pantip.com/topic/32356152
http://pantip.com/topic/33025328
โดนจอดรถขวางที่คอนโด ไปตามยามและแจ้งเจ้าของมาเลื่อนรถ
เจ้าของรถมาถึงหาว่าไปกรีดรถเค้ารอบคัน แล้วยังไปแจ้งตำรวจจับเรา
เจอข้อหาคดีอาญาทำให้เสียทรัพย์ แต่เราปฏิเสธข้อกล่าวหา ตอนนั้นเครียดมากเลยนะคะ
เราต้องเสียเวลาไปสำนักอัยการทุกนัดจนมีคำสั่งไม่ฟ้องเพราะหลักฐานไม่พอฟ้อง
(ในวงจรปิดเห็นเราเดินผ่านรถเขาด้านซ้ายแค่หัวกับไหล่เพราะมีรถบังแต่ไม่มีการยกมือ
หรือออกแรงทำอะไรลักษณะเหมือนเดินผ่านเฉยๆ ส่วนด้านขวาของรถเขาก็มีรอยกรีดยาวรอบคัน
วงจรปิดเห็นชัดมากแต่ไม่มีภาพเราเดินผ่านด้านขวารถเขาเลย)
เราก็กลับมานั่งคิดอยู่พักนึงว่าจะเอาไงดีปล่อยไปหรือฟ้องกลับ
ในที่สุดตัดสินใจฟ้องแพ่งกลับ นัดขึ้นศาลครั้งแรกจำเลยไม่มา ศาลให้ทนายส่งหมายเรียกอีกครั้ง
และขึ้นศาลนัดที่สองเมื่อวาน คู่กรณีมาพร้อมทนาย ตอนแรกเหมือนจะขอไกล่เกลี่ยบอกว่าไม่มีเงิน
เราก็บอกศาลว่าเรายอมไกล่เกลี่ยเพราะเราไม่ได้ฟ้องเพื่อเงินแต่ฟ้องเพื่อเรียกศักดิ์ศรีตัวเองคืนเพราะเราไม่ได้ทำ
แต่เราก็มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องไปสถานีตำรวจและก็ต้องลางานไปสำนักอัยการอีกหลายครั้ง
เขาก็ไม่พูดออกมาว่าจะไกล่เกลี่ยเท่าไรอ้างว่าลำบากเดือนร้อน มีอะไรที่น่าสมเพชมากกว่านี้แต่ไม่ขอเล่า
ทีนี้คงได้รู้ตัวแล้วว่าได้ละเมิดสิทธ์คนอื่นแล้วเดือดร้อนอย่างไร
ในที่สุดก็ขอสืบพยานและก็ต้องเลื่อนไปอีกสองสามเดือนไม่รู้จะยืดเยื้อยาวนานแค่ไหนรอติดตามตอนต่อไปนะคะ
เล่าให้ฟังว่ามีคนแบบนี้ในสังคมให้พึงระวังตัว และเผื่อใครมีความเห็นอะไรแนะนำได้ค่ะ
****ลืมเล่าถึงประโยคคลาสสิคที่ฝั่งนั้นให้การศาลว่า "เป็นการเข้าใจผิดโดยสุจริต" อ่านแล้วอย่าของขึ้นน๊า 555 ****
ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจค่ะ