เมื่อฉันได้ดูฟุตบอลทีมชาติไทย U23

ดิฉันไม่ได้เป็นคนที่ดูบอลเก่ง ไม่ได้เล่นบอลเป็น แต่หลังจากการแข่งขันฟุตบอล U 23 จบ มันทำให้ฉันรู้ว่าหน้าที่ของการรักษาประตู ไม่ได้อยู่ที่ผู้รักษาประตูเพียงคนเดียว ในช่วงท้ายเกมส์นักเตะทุกคนช่วยการสกัดบอลที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามที่จะทำประตูกันอย่างแข็งแกร่ง ถึงผู้รักษาประตูจะเสียจังหวะในการรับลูก ก็ยังมีเพื่อนร่วมทีมมาช่วยสกัดแทน มันเป็นภาพของความสามัคคีที่น่าประทับใจมาก

        แล้วยังได้มานั่งคอมเม้นของแต่ละเพจ มีคนมาเสนอความคิดเห็นมากมาย ทั้งติชมอย่างไม่ให้เกียรตินักกีฬา ติชมพร้อมกำลังใจเพื่อสู้ต่อไป คำชมและกำลังใจที่มากจากใจ ทั้งจากคนไทยและจากแฟนบอลจากหลายๆๆประเทศ แต่กลับทำให้มีข้อสงสัยในหัวขึ้นมาว่า ทำไมคนชาติอื่นที่ได้ดูการแข่งขันของไทยกลับชมไทย ส่วนน้อยมากที่จะดูถูกดูแคลน แต่ทำไมคนไทยซะเองที่กลับมาติการเล่น บางคนหนักหน่อยก็ด่าเหมือนกับตัวเองมีผลได้เสียกับเกมนี้ (อาจจะมีผลต่อสภาพการเงินของเค้า 55+) แต่ก็ยังมีคนที่ให้กำลังใจเพื่อลุกและสู้ต่อไป บางคอมเม้นถึงขั้นเถียงกันเอง ด่ากันเอง ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน อาจเป็นเพราะบางคนต่างคนต่างเสพสื่อมาแล้ววิเคราะห์ได้คนละอย่าง จึงทำให้เกิดประเด็นในการโต้เถียง  บางคนใช้คำว่า มาตราฐาน มาเป็นคำตัดสินว่าไทยอ่อน คะมาตราฐานของเรายังไม่ได้ดีเท่ากับ 3 ชาติที่อยู่ในกลุ่ม แต่ลืมมองไปรึเปล่าว่า มาตราฐาน ของทั้ง 3 ชาติ เค้าปูทางมาตั้งแต่เมื่อไร เค้าใช้เวลากี่ปีที่จะเอาคำว่า มาตราฐาน มาสร้างนักเตะที่มีคุณภาพได้ขนาดนี้ ของไทยเราเพิ่งจะหลุดจากคำดูถูกดูแคลนของคนไทยที่หมดศรัทธามาได้แค่ไม่กีปี จะให้เราไปมีมาตรฐานเทียบเท่ากับ 3 ชาตินั้นรึ ?

        อยากให้คนที่ด่า ที่ว่า ทีมชาติไทย ให้เวลากับทีมนี้อีกสักนิด การที่เค้าก้าวมาถึงจุดนี้ได้ กระแทกไหล่กับ 3 ชาตินี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีขนาดนี้ เค้าเหนื่อยกันมากขนาดไหน ทุ่มเทมากขนาดไหน ในใจเค้านึกถึงแต่ชาติ ส่วนตัวพวกคุณล่ะนึกถึงอะไร ? ลองคิดดู...

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่