เรื่องเล่าเย็นยะเยือก...จากแดนอาทิตย์อุทัย

กระทู้สนทนา
*เรื่องนี้จบในตอน ไม่มีเดี๋ยวมาต่อ
**เป็นเรื่องของรุ่นพี่ผมคนนึงสมัยไปเรียนต่อ
***เพื่อให้ได้อรรถรส ขอเล่าในแบบมุมมองบุคคลที่ 3 นะครับ

นานมาแล้ว ชมรมปีนเขาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น
ในวันหนึ่งกลางฤดูหนาว อากาศแจ่มใส ประธานและสมาชิกรวม 5 คน
ตัดสินใจออกไปปีนเขา 燕岳 天気 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักปีนเขา
ทว่า พวกเขาไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า หลังฟ้าใสมักมีพายุเสมอ...

5 ชีวิตขึ้นไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง... หิมะก็เริ่มตก
แต่สำหรับนักปีนเขาที่ผ่านสมรภูมิมาหลายลูก เรื่องแค่นี้ไม่ใช่พึ่งจะเคยเจอ
ทั้ง 5 ยังคงมุ่งหน้าต่อไป...เพื่อให้ถึงจุดหมาย
และแล้วหิมะที่เดิมเพียงโปรยปราย...กลับกลายเป็น พายุหิมะ

ทั้ง 5 ตระหนักได้ในที่สุด ว่าไม่อาจไปต่อไหว...แต่สายเกินไปแล้ว

แม้ทั้ง  5  จะหันหลังกลับตอนนี้ แต่ด้วยความเร็วของมนุษย์
ก็ไม่มีทางที่จะหนีพ้นความเร็วของเงื้อมมือมัจจุราช
ที่มาในชื่อของ หิมะถล่ม

หิมะถล่มขนาดยักษ์ดูราวกับคลื่นสึนามิ ไล่ตามแผ่นหลังของทั้ง 5
เคราะห์ดีที่สมาชิกทั้ง 4 วิ่งมาเจอเข้ากับปากถ้ำ จึงเข้าไปหลบจนรอดมาได้
เมื่อทั้ง 4 ปลอดภัยแล้ว ก็เพิ่งเอะใจขึ้นได้ว่า...

ประธานหายไปไหน
อนิจจา เมื่อทั้ง 4 วิ่งออกมาดูข้างนอก ก็พบกับประธานชมรม ขาพลิกหกล้มอยู่

พวกเขาพุ่งตัวเข้าไปช่วย
แต่ก็ถูกตวาดเสียงดังว่า

"อย่า!!"

เป็นเสียงของประธาน ที่กำลังยิ้ม โบกมือบ๊ายบาย

แล้วประธานก็ถูกหิมะถล่มกลืนหายลงไปข้างล่าง...

เมื่อคลื่นยักษ์สีขาวโพลนหยุดคำรามแล้ว ทั้ง 4  พยายามค้นหาร่างประธาน...ที่ไร้วิญญาณ
และพวกเขาก็เจอจนได้ สาเหตุการเสียชีวิตระบุได้ง่ายๆ...จากคอที่ห้อยต่องแต่งของประธาน
พวกเขาทั้ง 4  เสียใจมาก และก็ได้ตัดสินใจว่า จะพาประธานกลับไปด้วย

พวกเขาผลัดกันแบกร่างของประธาน...ย่ำหิมะกองหนาบนพื้น ลงเขาไปด้วยความเหนื่อยล้า
ขณะเดียวกันกับที่ดวงตะวันเริ่มจะลับขอบฟ้า
ทั้ง 4 รู้ดีว่าต้องรีบเร่งฝีเท้า...แต่ก็ทำได้ยากยิ่งเมื่อต้องพาประธานกลับไปด้วย
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่คิดจะปล่อยประธานไป พวกเขากัดฟันทน แบกร่างที่เย็นเฉียบไม่แพ้หิมะของประธานต่อไปเรื่อยๆ

และแล้วก็พลบค่ำ

ถึงตอนนี้ทั้ง  4  ต่างคิดว่านี่คือจุดจบ..พวกเขายังเหลือระยะทางอีกกว่าครึ่ง
แต่หากเป็นเป็นยามราตรี...ไม่มีทางที่พวกเขาจะรอดชีวิตจากความหนาวที่กัดกินได้
ทั้ง 4 อ่อนล้าเกินกว่าจะก้าวต่อไปได้
แต่แล้ว...ประดุจพานพบกับโอเอซิส

มันคือกระท่อมร้างแห่งหนึ่ง
ทั้ง 4 กรูกันเข้าไปในกระท่อมร้างด้วยความหวังที่ล้นพ้น
แต่โลกความเป็นจริงไม่ได้ง่ายดายเพียงนั้น
เพราะกระท่อมร้างก็คือกระท่อมร้างอยู่วันยังค่ำ

มันเก่า ผุ พัง ผนังเป็นรู ทำให้ลมหนาวที่กรีดผิวทะลุผ่านเข้ามาเป็นเสียงหวีดหวิว
ทั้งยังอับชื้น ไม่มีแม้เศษผ้าขี้ริ้วจะใช้ห่อหุ้มกายา
ไม่สิ อย่าว่าแต่เศษผ้าเลย
แม้แต่ฟืนไฟจะให้ก่อคลายความหนาว ก็ยังไม่มี

ทั้ง 4 ทิ้งตัวลงนั่งด้วยความสิ้นหวัง พวกเขาวางร่างของประธานลงไว้ตรงกลาง
กระท่อมนี้เป็นกระท่อมทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ทั้ง 4  จึงแยกย้ายกันไปจับจองคนละมุม
พวกเขารู้ดีว่า ถึงแม้การพักผ่อนในกระท่อมร้างแห่งนี้จะดีกว่าการเดินไปจนกลายเป็นผีเร่ร่อนกลางภูเขา แต่หากพวกเขาเผลอหลับไหลเมื่อใหร่

ก็คงจะต้องแข็งตายเพราะความหนาวเย็นเช่นเดียวกัน

ทั้ง 4 จมอยู่ในห้วงภวังค์ ความเมื่อยล้ารุกคืบเข้ามา
เปลือกตามันช่างหนักเหลือเกิน...
อีกไม่นานพวกเขาคงหลับลงเพราะความอ่อนเพลียเป็นแน่
ทันใดนั้น  ชายคนหนึ่ง(รุ่นพี่ผม)ก็พูดขึ้นมาว่า

”เออนี่...รู้แล้วว่าเราจะรอดกันไปได้ยังไง”
ทุกคนหูผึ่งกับประโยคที่แฝงไว้ซึ่งประกายแห่งความหวัง
”เรา 4 คนอยู่คนละมุมห้องใช่มั้ย แต่ถ้าหลับก็คงแข็งตายกันหมด”
”เอายังงี้ เดี๋ยวพวกนายหลับไปก่อน ฉันจะเฝ้าให้สักครู่หนึ่ง พอฉันทนไม่ไหว ฉันจะลุกจากที่นั่งตัวเอง ไปปลุกอีกคนที่นั่งมุมขวาถัดจากฉัน แล้วฉันก็นั่งลงนอนแทนตรงมุมนั้น คนที่ถูกฉันปลุกก็ให้เฝ้าอยู่จนทนไม่ไหว ก็ไปปลุกคนถัดไป แล้วนั่งลงนอนแทนคนนั้น ทำแบบนี้ทุกคนไปจนเช้า พวกเราก็จะได้พักบ้าง แต่ก็จะไม่หลับสนิท ต้องรอดได้แน่ๆ!!"

ทุกคนต่างเห็นด้วยกับวิธีนี้ เพราะในสถานการณ์นี้ก็คงไม่มีวิธีใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว
และแล้วทั้งสามก็เริ่มผลอยหลับไปด้วยความสบายใจ ว่าคนแรกจะเริ่มต้นปลุกให้ และทุกคนก็จะทำแบบเดียวกันต่อไปเรื่อยๆ...

และแล้วรุ่งสางก็มาเยือน

ทั้ง 4 ลืมตาขึ้น และพบว่าตนเองยังขยับร่างกายได้อยู่

ในที่สุดพวกเขาก็รอดชีวิต
พวกเขาแบกร่างของประธานลงเขา กลับบ้านด้วยกัน
และเรื่องราวก็จบลง

--------------------------------------------------

5555555555555555555555555555

เรื่องราวก็มีแค่นี้แหละครับ ไม่รู้ทำไมตอนรุ่นพี่เล่าให้ฟัง มันรู้สึกขนลุกซู่ น่ากลัวเอามากๆ ทั้งๆที่มันไม่มีอะไรแท้ๆ หรือเป็นเพราะตอนแกยกแก้วกรึ่มๆเมียแกมายืนอยู่ข้างหลังก็ไม่รู้5555555 ก็ถือซะว่าเป็นเรื่องเล่าขำๆในหน้าหนาวนี้ไปละกันนะครับ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่