“When I was young a little boy
I asked my mother what will I be
Will I be handsome
Will I be rich”
‘ตอนเด็กคุณอยากจะเป็นอะไรครับ?’
ตอนเป็นเด็กอยากเป็นอะไรก็จิตนาการไปสิครับ ลองเล่นกับเพื่อนผู้ร้ายจับตำรวจ หรือหมอ หมา กา ไก่ อะไรก็ว่ากันไป แต่ทำไมยิ่งโตขึ้นอยากเป็นอะไร มันไม่เหมือนตอนที่เป็นเด็กนะ โตมามันไม่ง่ายเลยหล่ะสิ
พอจะหลุดข้าม ป.ตรี คุณคิดหรือเปล่าสิ่งที่คุณทำ สิ่งที่คุณเป็นมันใช่เปล่าหว้า (ทำน้ำเสียงเป็นจิ๊กโก๋เซ็ง ลากเสียงหว้าด้วยนะ)
ผมเป็นเด็ก ไม่น่าเด็กแล้วนะถ้าเทียบอายุ แต่ถ้าเทียบวุฒิภาวะ เรียกผมว่าเด็กเถอะครับ ผมเรียน ป.ตรี สถานศึกษาเอกชนย่านหนึ่ง ผมได้รับโอกาสฝึกงานตั้งหนึ่งปีแหน่ะ เห๋ยย แกร เราฝึกงานหนึ่งปีแหน่ะ เก๋ป้ะล้ะ!!! ผมมีคำถามบ่อยๆ ว่า “เห้ย ฝึกได้ด้วยหรอ จบพร้อมเพื่อนป่ะ” มหาลัยผมได้ครับ จบพร้อมเพื่อน ถ้าคุณเอาตัวรอด 1 ปีผ่าน แต่จะรอดหรือเปล่านี่สิ ไม่รอดก็โดน “เห๋ย แกรรร ไม่จบพร้อมเราหรอออ”
ตอนนี้เวลาผ่านมาได้เทอมหนึ่งแล้วนะครับ “ขอแสดงความยินดีด้วยคุณได้ผ่านมาครึ่งทางแล้ว” แต่จริงๆ แล้วผมว่าผม ‘ล้มเหลว’ กับการฝึกงานนะครับ
ผมเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่บริษัทมีเดียโฆษณาแห่งหนึ่งครับ เข้ามาแบบไม่งง-งวย(ขีดให้กันงงครับ เขียนเองยังงงเลยครับว่า งองู เกินมาหรือเปล่า)หรอกครับ ขอเขามา เขาก็ให้ความกรุณารับเราเข้ามาฝึกงาน แต่พอเข้ามาแล้วใจมันรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับ ‘มีเดีย’ เสียเลย คือคิดว่าตัวเองอยากเป็น ‘Creative’ (five five five) ผมรู้สึกอีกว่าการฝึกงานของผม ห่วยแต๊กกก ห่วยแตกมากครับ .... บริษัทเขาอ่ะดี ตัวผมเองนี่แหละ เพราะคิดว่ามันไม่สนุก เราเลยไม่ชอบ เราเลยปฎิเสธไปเสียทุกอย่าง ทู๊กอย่าง
ในช่วงปลายปีผมมีโอกาสจะไปเชียงใหม่ครับ ทางบริษัทผมกลัวจะเหงาไม้เหงามือ... ไม่ใช่ละครับ คือประเด็น ผมอยากไปเป็น Creative ดั่งใจฝัน จึงขอพี่ที่ฝึกงานให้ย้ายตัวเองไปบริษัทโฆษณาชื่อดังซึ่งเป็นเครือเดียวกันครับ มันไม่ใช่ง่ายๆ แบบนั้นกับเด็กต๊อกต๋อยอย่างผมสิครับ ผมถูกเรียกเข้าไปคุยในห้องประชุมครับ คุณเคยดูรายการ The face Thailand ใช่ไหมครับ ทุกสัปดาห์จะมีคนเข้าห้องดำสองคน แต่นี่ไม่ใช่ The face Thailand ครับที่จะเข้าไปสองคนแล้วมีคนหนึ่งคัดออก ไม่ใช่มีแค่ mentor คนเดียวที่นั่งสอนเด็ก ผมเข้าไปในห้องประชุมเปรียบดั่งห้องดำ The face Thailand แต่มี 3 mentors พร้อมหน้า พร้อมตา เตรียมเชือดเด็กน้อยๆ นั่นเป็นความรู้สึกของผมครับ แต่จริงๆ มันคือความหวังดีที่จะให้ผมรู้จักตัวเอง
พี่ๆ ถามผมว่ารู้จัก Creative ไหม เป็นแปลว่าอะไร นั่นสิ... ผมรู้จักมันจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้ อยากฝึก Creative แผนกไหน Copy writer หรือ Art Direction จะฝึกอันไหนจะได้บอกเขาถูก ชอบ Creative แบบไหน คือ ความ Creative มันไม่รู้จบจริงๆ ผมสับสนไปหมด สับสนจนคิดว่า ตัวเองยังชอบ Creative จริงเปล่า หรือ ว่าค่านิยมหรือคำจำกัดความมันดูเท่ นั่นแหละฮะ จึงได้ Assignment มา คือ
• ดูหนังสองเรื่อง ‘Motorcycle diary’ กับ ‘Geogia O’keeffe’
• สนทนา : Kamil Lertchaiprasert, Mahasamut, Studio Prempracha, Tong, Khagee, Wadeelada, Somchai Khan-asa (Hip)
• เก็บรูปภาพเชียงใหม่ 300 รูป
และต้องกลับมานำเสนอวันที่ 13 มค. 2559 ครับ
“กว่าจะเจอสิ่งที่ตัวเองชอบ มันนานป่ะครับ”
I asked my mother what will I be
Will I be handsome
Will I be rich”
‘ตอนเด็กคุณอยากจะเป็นอะไรครับ?’
ตอนเป็นเด็กอยากเป็นอะไรก็จิตนาการไปสิครับ ลองเล่นกับเพื่อนผู้ร้ายจับตำรวจ หรือหมอ หมา กา ไก่ อะไรก็ว่ากันไป แต่ทำไมยิ่งโตขึ้นอยากเป็นอะไร มันไม่เหมือนตอนที่เป็นเด็กนะ โตมามันไม่ง่ายเลยหล่ะสิ
พอจะหลุดข้าม ป.ตรี คุณคิดหรือเปล่าสิ่งที่คุณทำ สิ่งที่คุณเป็นมันใช่เปล่าหว้า (ทำน้ำเสียงเป็นจิ๊กโก๋เซ็ง ลากเสียงหว้าด้วยนะ)
ผมเป็นเด็ก ไม่น่าเด็กแล้วนะถ้าเทียบอายุ แต่ถ้าเทียบวุฒิภาวะ เรียกผมว่าเด็กเถอะครับ ผมเรียน ป.ตรี สถานศึกษาเอกชนย่านหนึ่ง ผมได้รับโอกาสฝึกงานตั้งหนึ่งปีแหน่ะ เห๋ยย แกร เราฝึกงานหนึ่งปีแหน่ะ เก๋ป้ะล้ะ!!! ผมมีคำถามบ่อยๆ ว่า “เห้ย ฝึกได้ด้วยหรอ จบพร้อมเพื่อนป่ะ” มหาลัยผมได้ครับ จบพร้อมเพื่อน ถ้าคุณเอาตัวรอด 1 ปีผ่าน แต่จะรอดหรือเปล่านี่สิ ไม่รอดก็โดน “เห๋ย แกรรร ไม่จบพร้อมเราหรอออ”
ตอนนี้เวลาผ่านมาได้เทอมหนึ่งแล้วนะครับ “ขอแสดงความยินดีด้วยคุณได้ผ่านมาครึ่งทางแล้ว” แต่จริงๆ แล้วผมว่าผม ‘ล้มเหลว’ กับการฝึกงานนะครับ
ผมเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่บริษัทมีเดียโฆษณาแห่งหนึ่งครับ เข้ามาแบบไม่งง-งวย(ขีดให้กันงงครับ เขียนเองยังงงเลยครับว่า งองู เกินมาหรือเปล่า)หรอกครับ ขอเขามา เขาก็ให้ความกรุณารับเราเข้ามาฝึกงาน แต่พอเข้ามาแล้วใจมันรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับ ‘มีเดีย’ เสียเลย คือคิดว่าตัวเองอยากเป็น ‘Creative’ (five five five) ผมรู้สึกอีกว่าการฝึกงานของผม ห่วยแต๊กกก ห่วยแตกมากครับ .... บริษัทเขาอ่ะดี ตัวผมเองนี่แหละ เพราะคิดว่ามันไม่สนุก เราเลยไม่ชอบ เราเลยปฎิเสธไปเสียทุกอย่าง ทู๊กอย่าง
ในช่วงปลายปีผมมีโอกาสจะไปเชียงใหม่ครับ ทางบริษัทผมกลัวจะเหงาไม้เหงามือ... ไม่ใช่ละครับ คือประเด็น ผมอยากไปเป็น Creative ดั่งใจฝัน จึงขอพี่ที่ฝึกงานให้ย้ายตัวเองไปบริษัทโฆษณาชื่อดังซึ่งเป็นเครือเดียวกันครับ มันไม่ใช่ง่ายๆ แบบนั้นกับเด็กต๊อกต๋อยอย่างผมสิครับ ผมถูกเรียกเข้าไปคุยในห้องประชุมครับ คุณเคยดูรายการ The face Thailand ใช่ไหมครับ ทุกสัปดาห์จะมีคนเข้าห้องดำสองคน แต่นี่ไม่ใช่ The face Thailand ครับที่จะเข้าไปสองคนแล้วมีคนหนึ่งคัดออก ไม่ใช่มีแค่ mentor คนเดียวที่นั่งสอนเด็ก ผมเข้าไปในห้องประชุมเปรียบดั่งห้องดำ The face Thailand แต่มี 3 mentors พร้อมหน้า พร้อมตา เตรียมเชือดเด็กน้อยๆ นั่นเป็นความรู้สึกของผมครับ แต่จริงๆ มันคือความหวังดีที่จะให้ผมรู้จักตัวเอง
พี่ๆ ถามผมว่ารู้จัก Creative ไหม เป็นแปลว่าอะไร นั่นสิ... ผมรู้จักมันจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้ อยากฝึก Creative แผนกไหน Copy writer หรือ Art Direction จะฝึกอันไหนจะได้บอกเขาถูก ชอบ Creative แบบไหน คือ ความ Creative มันไม่รู้จบจริงๆ ผมสับสนไปหมด สับสนจนคิดว่า ตัวเองยังชอบ Creative จริงเปล่า หรือ ว่าค่านิยมหรือคำจำกัดความมันดูเท่ นั่นแหละฮะ จึงได้ Assignment มา คือ
• ดูหนังสองเรื่อง ‘Motorcycle diary’ กับ ‘Geogia O’keeffe’
• สนทนา : Kamil Lertchaiprasert, Mahasamut, Studio Prempracha, Tong, Khagee, Wadeelada, Somchai Khan-asa (Hip)
• เก็บรูปภาพเชียงใหม่ 300 รูป
และต้องกลับมานำเสนอวันที่ 13 มค. 2559 ครับ