สวัสดีครับ ผมเป็น สมาชิกใหม่ของ pantip นะครับ (พึ่งได้ยืนยันตัวเองผ่านวันนี้วันแรก) อิอิ ผมเป็นพนักงานเงินเดือนตนนึงซึ่งทุกปีจะให้รางวัลชีวิตโดยการไปพักผ่อนต่างประเทศช่วงปีใหม่ (แถบเอเซีย) โดยไปคนเดียวทุกประเทศครับ (ชิวไปไม๊) เมื่อปีที่แล้วได้มีโอากาสไปญี่ปุ่นมา ตอนกำลังหาตั๋วเครื่องบินนั้นก็ได้ไปเจอตั๋วไป DEL/VNS ในราคาค่อนข้างถูก ก็เลยตัดสินใจจองไป ในใจก็คิดว่าประเทศที่เจริญกว่าเรามากๆๆ ก็ไปดูมาแล้ว ขอลองไปดูประเทศอินเดียบ้างว่าเป็นไงบ้าง เห็นแต่ในรีวิวก็เลยอยากเห็นของจริงกับเขาบ้างครับ เดินทางวันที่ 30 ธ.ค. - 3 ม.ค. โดยสารการบิน Air India พอใกล้ช่วงปีใหม่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ก็จะรู้ดีว่าไอ้หมอนี่จะต้องไปเที่ยวแน่ๆ ก็เลยมีคำถามที่ส่วนใหญ่จะถามกัน
เพื่อน : เฮ้ยปีนี้ไปไหนน่ะ
เรา : อินเดีย
เพื่อน :
ไม่มีที่ไปแล้วหรอ
เรา : ไอ้เราก็อ่าวซะงั้น แหม่ก็อยากลองไปเปิดโลกกว้างบ้างไงไรงี้
เพื่อน : โหยสกปรก ชิหาย ไม่กลัวท้องเสีย หรา ๆ แขก
โกงนะ
เดียวโดนแขกเสยดากหรอก ๆ บลาๆๆ เต็มไปหมด (กลุ้ม)
ทุกทีไปเที่ยวทุกคนต่างยินดี ยินงามกับเรา มีแอบอิจเบาๆ แต่รอบนี้ไม่ เลย 5555 (อาจจะมีคำพูดไม่เพราะ โลกไม่สวย เพราะเป็นนิสัยผม อย่าได้ถือสานะฮับ)
เพื่อความไม่ประมาทเราก็เริ่มอ่านรีวิวละ แต่ละที่เป็นไง การเดินทาง การกินการอยู่ นิสัยคนอินเดีย การต้มตุ๋นนักท่อง มุขไหน ที่โดนกันบ่อย
อ่านเสร็จ save เก็บไว้เลย 55555 บอกเลยว่าอ่านรีวิวไปเครียดไป คิดในใจกรูทำไรลงไปว่ะเนี่ย ทำไม่ไปไต้หวัน ทำไมไปรัสเซีย 5555
คิดๆไปคิดมาเอาน่ะ แขกกับเรา ใครจะแน่กว่ากัน เดินทางคนเดียวมาจะสิบกว่าประเทศละ ชั่วโมงบินก็เยอะ ดูเสะว่า เฮาจะรอดไม๊
การไปอินเดียครั้งนี้อยากไปเห็น 3 ที่หลักๆ ได้แก่ Taj Mahal/ Saranath และ แม่น้ำคงคา เมือง Varanasi
30 Dec 2015
ก่อนขึ้นเครื่องยังมีเวลาเหลือเลยได้เข้าไปใช้ Lounge ของ Louis Tarvern ครับ อาหารก็ธรรมดาครับ ไม่มีไรมาก
Boarding Pass ในวันนี้ น้อง Dream มารอเราแล้ว ครั้งนี้ตื่นเต้นหน่อยๆ ที่ได้ขึ้น 787-800 ครับ
ถึงแล้วสนามบิน Indhira Ghandi
(ลืมบอกไปครับว่าตอนนี้คนไทยไปเที่ยวอินเดีย (Tourist Visa) ไม่จำเป็นต้องไปทำที่สถานทูตแล้วนะครับ สามารถทำ e-TV visa ทำผ่านหน้า Website จ่ายเงิน รอประมาณ 2 วันก็ได้ยืนยันแล้วนำใบนั้นไปยื่นที่ ต.ม. เลยครับ)
Airport Link สะอาดใหม่ มากเลย ถูกด้วยเที่ยวยเดียว 60 รูปี เอง คิคิ
หากใครขาดโลก Social Media ขาดแล้วเหมือนขาดใจ (เหมือนผม) ไม่ต้องห่วงครับ ออกมาก็เจอบู้ทของ Air tel ครับ 700 รูปี เนท 2 GB โทรได้ 100 รูปี ง่ายๆนะผมว่าไม่วุ่นวาย กรอก เซ้นชื่อ ถ่าย หน้า Passport ถ่ายรูปเรา รอสองชั่วโมงก็ได้แล้วครับ อ่าวแล้วจะรู้ได้ไงว่าใช้ได้แล้ว ตอนเปลี่ยนซิม มันจะไม่มีสัญญาณ พอสัญญาณมาแล้ว เราก็โทร ไป Activate ตามที่เบอร์เข้าให้มาแล้วระบบจะให้เรากด เลข 4 ตัวสุดท้าย ของ Passport เรา เป็นอันเสร็จสิ้นครับ
พอออกมาสถานีรถไฟ Delhi Metro station จะเจอพี่ๆ แขกผู้ที่แสนน่ารัก มาต้อนรับเราเต็มไปหมดเลย สารพัดคำถาม ถาโถมเค้ามา ทำกับว่าเราเป็น Super star มาจากแดนไกลอะไรอย่างงั้น ยูว จะไปไหน ยูวมีโรงแรมหรือยัง ยูว มันไกลจากที่มากนะ สารพัดเลยฮะ เราต้องตีฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้เพื่อไปหาที่ตั้งมั่นก่อน สถานีรถไฟนี้จะอยู่ด้านหลังของ New Delhi Railway Station ครับ ท่ Platform 1 จะมี Tourist Office อยู่นะครับ ต้องเดินไปข้างหน้าเลยครับ ระวห่างเดินไปจะได้กิน ละมุมมาเตะจมูกๆ อย่างเป็นระยะ โอ้ยๆ กินเยี่ยวครับท่านผู้ชม มาเป็นระยะ ฉุนๆๆ เป็นเนืองๆ เลย ผมมาลองเดินหา Tourist Office ครับ เพราะวันนี 18:45 ต้องนั่งรถไฟไป Agra ครับ พอถึงที่ Platform 1 จะเป็นด้านหน้าของ สถานีรถไฟ New Delhi ครับ
คราวนี้ก็หารถตุ๊กๆ ผู้น่ารัก พาเที่ยว รอบ Delhi ครับ ผมไม่นั่งรถไฟนะครับ เพราะมีเวลาจำกัดแถมกระเป๋าใหญ่ด้วย เพราะต้องเสียค่าฝากอีก คิดไปคิดมาเหมาเที่ยวดีกว่า ได้ราคามาที 600 รูปี ครับ พาไปสองที่ คือ Qutab Minar และ Red Fort ครับ ในส่วนของรายละเอียดผมขออนุญาตไม่เขียนนะครับพราะผมไม่รู้ครับ รู้ว่าสวย ก็ไป แค่นั้นครับ
พอดีผ่าน India Gate ครับ คนขับก็เลยบอก ยูวๆๆ นั้นไง ยูว ก็เลยได้มาแชะ นึง
บรรยากาศบ้านเมืองเค้าครับระหว่างทางกลับไปที่ สถานีรถไฟ
พอถึงปั๊บ กด ลิฟต์ ปุ๊บ ลิฟต์เปิดปั๊บ จะกด ลิฟต์ ก็เจอแบบที่เห็นครับ
ที่ Office นี้เปิดให้บริการชาวต่างชาตินะครับ สามารถมานั่งรอรถไฟที่นี่ได้นะครับ พอดีตั๋วผมที่ได้จอง และ print มาไม่เลขที่นั่งระบุ ครับเลยก็ต้องมาสอบถามที่นี่ครับ ก็เวลยแวยเข้าห้องน้ำหน่อย
พอใกล้ได้เวลาก็มา check จาบอร์ดครับว่าเรารถไฟของเราจอดที่ชานชาลาไหน ดูจากชื่อขบวนกับเลขขบวนครับ
เนื่องจากรถไฟที่อินเดียนั้นมีหลายชั้นมาก จากที่อ่านมาหลายๆรีวิวผมขอเลือก First Class ละกันครับเพื่อความสบายใจของผม
เป็นตู้นอนแอร์ครับ นอนสี่คนมีประตูเปิดปิด ม่าน ดีมากครับ ปลอดภัยดี ชั้นนี้เต็มเร็วมากครับ มีประมาณ 20 คนเท่านั้นครับ สำหรับขบวนนี้
รถไฟออกตรงเวลามากเลยครับ ไม่เลทเลย (ถึงเลทอีกเรื่องนึงนะ ผมโดนแล้ว)
อาหารเย็นผมขอฝากท้องบนรถไฟละกันครับ Non-Veg ครับ 100 รูปี
ถูกมากนะครับมื้อนี้ เยอะมากด้วยอิ่มเลย
ผมได้จองที่พักผ่าน Air BNB ครับ (นอกใจ Agoda) ผมชอบตรงที่ว่าเราสามารถคุยโต้ตอบกับเจ้าของที่พักได้โดยตรงครับ ง่าย สบายใจดีครับ ผมถึงเกือบสามทุ่มเลยให้างโรงแรมจัดหารถมารับครับ ได้ราคาที่ 250 รูปี ครับ เพื่อความสบายใจ จริงๆ แล้ว [repain taxi ก็มีนะครับ ผมขี้เกรียจไปต่อรอง ต่อสู้กับแขกครับ เสียเงินเพิ่มหน่อย แต่ได้ความสบายใจครับ
ที่สถานีจะเจอคนหลายชนชั้นมากครับ ก็ที่รู้กันอยู่ว่า คนอินเดียนับถือฮินดู และระบบวรรณะยังเหนียวแน่นมากครับ
คนที่มีรายได้น้อย หรือวรรณะล่างๆ ก็จะนอนเรียง รายตามพื้นแบบที่เห็นเนี่ยแหละครับ การแต่งตัวนี่ดูออกเลยครับว่า วรรณะต่างกัน เห็นแล้วก็สงสารนะครับ
และแล้วคนขับรถก็ถือป้ายประกาศจับ หน้าทางออกครับ แล้วขับรถฝ่าลมหนาว 12 องศา ไปถึงที่พักครับ
ข้างบนที่พักเป็นดาดฟ้าครับ เป็นร้านอาหารด้วยครับ ชิวโคตรๆ เลยสั่งชาอินเดียมาโซ้ยกับอากาศเย็นๆ ครับ เขาเรียว่า "จาย" ครับ
[CR] Countdown 2016 in INDIA
เพื่อน : เฮ้ยปีนี้ไปไหนน่ะ
เรา : อินเดีย
เพื่อน :
เรา : ไอ้เราก็อ่าวซะงั้น แหม่ก็อยากลองไปเปิดโลกกว้างบ้างไงไรงี้
เพื่อน : โหยสกปรก ชิหาย ไม่กลัวท้องเสีย หรา ๆ แขก
ทุกทีไปเที่ยวทุกคนต่างยินดี ยินงามกับเรา มีแอบอิจเบาๆ แต่รอบนี้ไม่ เลย 5555 (อาจจะมีคำพูดไม่เพราะ โลกไม่สวย เพราะเป็นนิสัยผม อย่าได้ถือสานะฮับ)
เพื่อความไม่ประมาทเราก็เริ่มอ่านรีวิวละ แต่ละที่เป็นไง การเดินทาง การกินการอยู่ นิสัยคนอินเดีย การต้มตุ๋นนักท่อง มุขไหน ที่โดนกันบ่อย
อ่านเสร็จ save เก็บไว้เลย 55555 บอกเลยว่าอ่านรีวิวไปเครียดไป คิดในใจกรูทำไรลงไปว่ะเนี่ย ทำไม่ไปไต้หวัน ทำไมไปรัสเซีย 5555
คิดๆไปคิดมาเอาน่ะ แขกกับเรา ใครจะแน่กว่ากัน เดินทางคนเดียวมาจะสิบกว่าประเทศละ ชั่วโมงบินก็เยอะ ดูเสะว่า เฮาจะรอดไม๊
การไปอินเดียครั้งนี้อยากไปเห็น 3 ที่หลักๆ ได้แก่ Taj Mahal/ Saranath และ แม่น้ำคงคา เมือง Varanasi
30 Dec 2015
ก่อนขึ้นเครื่องยังมีเวลาเหลือเลยได้เข้าไปใช้ Lounge ของ Louis Tarvern ครับ อาหารก็ธรรมดาครับ ไม่มีไรมาก
Boarding Pass ในวันนี้ น้อง Dream มารอเราแล้ว ครั้งนี้ตื่นเต้นหน่อยๆ ที่ได้ขึ้น 787-800 ครับ
ถึงแล้วสนามบิน Indhira Ghandi
(ลืมบอกไปครับว่าตอนนี้คนไทยไปเที่ยวอินเดีย (Tourist Visa) ไม่จำเป็นต้องไปทำที่สถานทูตแล้วนะครับ สามารถทำ e-TV visa ทำผ่านหน้า Website จ่ายเงิน รอประมาณ 2 วันก็ได้ยืนยันแล้วนำใบนั้นไปยื่นที่ ต.ม. เลยครับ)
Airport Link สะอาดใหม่ มากเลย ถูกด้วยเที่ยวยเดียว 60 รูปี เอง คิคิ
หากใครขาดโลก Social Media ขาดแล้วเหมือนขาดใจ (เหมือนผม) ไม่ต้องห่วงครับ ออกมาก็เจอบู้ทของ Air tel ครับ 700 รูปี เนท 2 GB โทรได้ 100 รูปี ง่ายๆนะผมว่าไม่วุ่นวาย กรอก เซ้นชื่อ ถ่าย หน้า Passport ถ่ายรูปเรา รอสองชั่วโมงก็ได้แล้วครับ อ่าวแล้วจะรู้ได้ไงว่าใช้ได้แล้ว ตอนเปลี่ยนซิม มันจะไม่มีสัญญาณ พอสัญญาณมาแล้ว เราก็โทร ไป Activate ตามที่เบอร์เข้าให้มาแล้วระบบจะให้เรากด เลข 4 ตัวสุดท้าย ของ Passport เรา เป็นอันเสร็จสิ้นครับ
พอออกมาสถานีรถไฟ Delhi Metro station จะเจอพี่ๆ แขกผู้ที่แสนน่ารัก มาต้อนรับเราเต็มไปหมดเลย สารพัดคำถาม ถาโถมเค้ามา ทำกับว่าเราเป็น Super star มาจากแดนไกลอะไรอย่างงั้น ยูว จะไปไหน ยูวมีโรงแรมหรือยัง ยูว มันไกลจากที่มากนะ สารพัดเลยฮะ เราต้องตีฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้เพื่อไปหาที่ตั้งมั่นก่อน สถานีรถไฟนี้จะอยู่ด้านหลังของ New Delhi Railway Station ครับ ท่ Platform 1 จะมี Tourist Office อยู่นะครับ ต้องเดินไปข้างหน้าเลยครับ ระวห่างเดินไปจะได้กิน ละมุมมาเตะจมูกๆ อย่างเป็นระยะ โอ้ยๆ กินเยี่ยวครับท่านผู้ชม มาเป็นระยะ ฉุนๆๆ เป็นเนืองๆ เลย ผมมาลองเดินหา Tourist Office ครับ เพราะวันนี 18:45 ต้องนั่งรถไฟไป Agra ครับ พอถึงที่ Platform 1 จะเป็นด้านหน้าของ สถานีรถไฟ New Delhi ครับ
คราวนี้ก็หารถตุ๊กๆ ผู้น่ารัก พาเที่ยว รอบ Delhi ครับ ผมไม่นั่งรถไฟนะครับ เพราะมีเวลาจำกัดแถมกระเป๋าใหญ่ด้วย เพราะต้องเสียค่าฝากอีก คิดไปคิดมาเหมาเที่ยวดีกว่า ได้ราคามาที 600 รูปี ครับ พาไปสองที่ คือ Qutab Minar และ Red Fort ครับ ในส่วนของรายละเอียดผมขออนุญาตไม่เขียนนะครับพราะผมไม่รู้ครับ รู้ว่าสวย ก็ไป แค่นั้นครับ
พอดีผ่าน India Gate ครับ คนขับก็เลยบอก ยูวๆๆ นั้นไง ยูว ก็เลยได้มาแชะ นึง
บรรยากาศบ้านเมืองเค้าครับระหว่างทางกลับไปที่ สถานีรถไฟ
พอถึงปั๊บ กด ลิฟต์ ปุ๊บ ลิฟต์เปิดปั๊บ จะกด ลิฟต์ ก็เจอแบบที่เห็นครับ
ที่ Office นี้เปิดให้บริการชาวต่างชาตินะครับ สามารถมานั่งรอรถไฟที่นี่ได้นะครับ พอดีตั๋วผมที่ได้จอง และ print มาไม่เลขที่นั่งระบุ ครับเลยก็ต้องมาสอบถามที่นี่ครับ ก็เวลยแวยเข้าห้องน้ำหน่อย
พอใกล้ได้เวลาก็มา check จาบอร์ดครับว่าเรารถไฟของเราจอดที่ชานชาลาไหน ดูจากชื่อขบวนกับเลขขบวนครับ
เนื่องจากรถไฟที่อินเดียนั้นมีหลายชั้นมาก จากที่อ่านมาหลายๆรีวิวผมขอเลือก First Class ละกันครับเพื่อความสบายใจของผม
เป็นตู้นอนแอร์ครับ นอนสี่คนมีประตูเปิดปิด ม่าน ดีมากครับ ปลอดภัยดี ชั้นนี้เต็มเร็วมากครับ มีประมาณ 20 คนเท่านั้นครับ สำหรับขบวนนี้
รถไฟออกตรงเวลามากเลยครับ ไม่เลทเลย (ถึงเลทอีกเรื่องนึงนะ ผมโดนแล้ว)
อาหารเย็นผมขอฝากท้องบนรถไฟละกันครับ Non-Veg ครับ 100 รูปี
ถูกมากนะครับมื้อนี้ เยอะมากด้วยอิ่มเลย
ผมได้จองที่พักผ่าน Air BNB ครับ (นอกใจ Agoda) ผมชอบตรงที่ว่าเราสามารถคุยโต้ตอบกับเจ้าของที่พักได้โดยตรงครับ ง่าย สบายใจดีครับ ผมถึงเกือบสามทุ่มเลยให้างโรงแรมจัดหารถมารับครับ ได้ราคาที่ 250 รูปี ครับ เพื่อความสบายใจ จริงๆ แล้ว [repain taxi ก็มีนะครับ ผมขี้เกรียจไปต่อรอง ต่อสู้กับแขกครับ เสียเงินเพิ่มหน่อย แต่ได้ความสบายใจครับ
ที่สถานีจะเจอคนหลายชนชั้นมากครับ ก็ที่รู้กันอยู่ว่า คนอินเดียนับถือฮินดู และระบบวรรณะยังเหนียวแน่นมากครับ
คนที่มีรายได้น้อย หรือวรรณะล่างๆ ก็จะนอนเรียง รายตามพื้นแบบที่เห็นเนี่ยแหละครับ การแต่งตัวนี่ดูออกเลยครับว่า วรรณะต่างกัน เห็นแล้วก็สงสารนะครับ
และแล้วคนขับรถก็ถือป้ายประกาศจับ หน้าทางออกครับ แล้วขับรถฝ่าลมหนาว 12 องศา ไปถึงที่พักครับ
ข้างบนที่พักเป็นดาดฟ้าครับ เป็นร้านอาหารด้วยครับ ชิวโคตรๆ เลยสั่งชาอินเดียมาโซ้ยกับอากาศเย็นๆ ครับ เขาเรียว่า "จาย" ครับ