สวัสดีเพื่อนๆ ห้องแป้งทุกคนนะค๊า วันนี้สมิทตี้จะมาทำรีวิวและฮาวทู การทำเล็บเจล ได้ง่ายๆไม่ง้อร้าน เนื่องจากสมิทตี้มีได้ไปงานของ essence มา เลยได้เห็นว่ามันมียาทาเล็บเจล ที่ทำเองได้ง่ายๆและไม่ต้องใช้เครื่องอบเล็บ ที่เป็นสาเหตุทำให้เล็บเสียอีกด้วยนะ เรารู้สึกแบบว่า เหย..เจ๋งดีอะ อย่างงี้ก็ไม่ต้องไปทำที่ร้านละดิ แถมหน้าเล็บไม่พังด้วย เราเลยลองเอามาทำที่บ้าน ตอนทำเองก็แอบตื้นเต้นด้วยนะ 555 ว่าจะออกมาเป็นไงฟระ เพราะสกิลการทาเล็บเราค่อนข้างแบบว่า เอ่อ.... (ข้ามๆไปเถ๊อะ >< ) สมิทเลยอยากเอามาแนะนำเพื่อนๆให้ตื้นเต้นไปพร้อมๆกัน ปอลิง.เค้าตั้งใจทำมาเพื่อทู้กคนเลย ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าเนอะ
อุปกรณ์ของเรา
1. essence the gel nail polish สีอะไรก็ได้ตามชอบไปเลือกกันได้เต็มที่ค่ะ สีเพียบ
สมิทตี้ใช้สเขียวมินท์ เบอร์ 40 กับสีชมพูนมเย็น เบอร์ 13 /ราคา 90 บาท
2. essence the gel nail polish base coat / ราคา 155 บาท
3. essence the gel nail polish top coat / ราคา 155 บาท
4. essence studio nail 24/7 nail base / ราคา 125 บาท
5. essence studio nail moisturising cuticle cream / ราคา 125 บาท
6. essence studio nail fast cuticle remover / ราคา 110 บาท
*หาซื้อได้ที่ร้าน watsons ,eveandboy จ้า
มาเริ่มกันเล๊ย///
ก่อนทำล้างมือให้สะอาดเคลียร์สิ่งสกปรกในเล็บออกก่อนเนอะ จากนั้นทา essence studio nail 24/7 nail base ในขั้นตอนแรกเพื่อเคลือบเล็บไม่ให้เล็บเหลืองเวลาล้างออกค่ะ
ก่อนจะทำ เรามาบำรุงเล็บกันซะก่อน เพื่อความแข็งแรงของเล็บนะคะ^^
ทา essence studio nail fast cuticle remover บริเวณจมูกเล็บตัวนี้เป็นทรีทเม้นต์บำรุงค่ะ ทาแล้วจับเวลา 15 วิ เอ้านับ 1 2 3 ...ครบแล้วบอกสมิทตี้ด้วยนะ จากนั้นใช้นิ้วถูเบาๆตรงที่ทา ไอพวกผิวหนังตรงจมูกเล็บที่แห้งด้านๆ จะหลุดออกเลยอ่ะ ฟินเลย... แต่ถ้าเป็นหนังแข็งๆที่แทงออกมาอันนี้ไม่หลุดนะคะ

ทารอบๆจมูกเล็บ

แล้วก็ถูๆๆ
จากนั้นมาบำรุงด้วยการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ essence studio nail moisturising cuticle cream เล็บของเราก็เหมือนกับผิวที่ต้องการการบำรุงอย่างเต็มที่นะคะ^^ ต้องให้ความสำคัญกันด้วยน้า

ทาไปรอบๆเล็บแล้วก็นวดเบาๆ บอกเลยว่าห๊อมหอม รู้สึกเลยว่าเล็บนุ่มขึ้นเลยค่ะ บำรุงขนาดนี้แล้วเห็นผลต่างจากเล็บแห้งเหี่ยวก่อนนี้มว๊ากก
มาถึงพระเอกนางเอกของเรา ตัวที่ทำให้เกิดความเป็นเนื้อเจล ต้องสองตัวนี้เลย แล้วก็เลือกสีทาเล็บที่เราต้องการมาแจมเพื่อเพิ่มสีสัน แต่ต้องเป็นสีเจลเท่านั้นนะคะ ใช้สีที่ขายทั่วไปไม่ได้น้า

ทา base coat เพื่อป้องป้องเล็บและให้สีติดทนนานขึ้นค่ะ จะเป็นเนื้อเจลเหนียวๆ เพื่อเคลือบเล็บเราจ้า

รอให้แห้งสักแปป แล้วต่อด้วยทาสีเล็บที่ต้องการเล๊ย สมิทตี้ชอบตัวแปรงทาเล็บมามันทาง่าย แปรงสปริงตัวได้ดีค่ะ แต่ต้องระวังขนแปรงที่มีหลุดออกมาให้ช้ำใจเล็บไม่เนียนต้องทาใหม่แอบเศร้านิสนุง

เพิ่มความฟรุ้งฟริ้ง เลยขอทากลิตเตอร์เคลือบไปอีกทีนึงค่ะ^^

มาถึงขั้นตอนสำคัญ ทา gel nail ppolish top coat เพื่อเคลือบเล็บให้เงาและติดทน จุดนี้เล็บเราจะเงามาก เป็นเล็บเจลเต็มตัวแล้วน้า
เสร็จแล้วจ้าาา อาจจะทาไม่ค่อยสวยน้า ขอภัยด้วยนะคะ><

เรามาโพสท่าโชว์เล็บเจลกันเล๊ย

เล็บเงาทีเดียวเชียว

จบด้วยท่านี้ พร้อมกับจบรีวิวและฮาวทูนี้เลยนะค๊าา
เป็นยังไงบ้างคะ เผื่อเป็นอีกทางเลือกในทำเล็บสวยๆด้วยตัวเอง ไม่ยากเลยเนอะ สมิทตี้ว่าทำเองมันได้ความสนุกอีกด้วย แต่ไม่รู้ผลงานจะออกมาเป็นยังไงนะ ล้างแล้วล้างอีก 555 ต้องอดทนกันนิดนึงเนาะ สำหรับวันนี้ขอตัวไปทาเล็บต่อก่อน ใครทำมาแล้วเอามาอวดให้เค้าดูด้วยน้า^^
ไว้เจอกันใหม่ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ
☆ How to & Review ทำเล็บเจลด้วยตัวเอง ไม่ง้อร้าน!! ด้วยยาทาเล็บจาก essence
สวัสดีเพื่อนๆ ห้องแป้งทุกคนนะค๊า วันนี้สมิทตี้จะมาทำรีวิวและฮาวทู การทำเล็บเจล ได้ง่ายๆไม่ง้อร้าน เนื่องจากสมิทตี้มีได้ไปงานของ essence มา เลยได้เห็นว่ามันมียาทาเล็บเจล ที่ทำเองได้ง่ายๆและไม่ต้องใช้เครื่องอบเล็บ ที่เป็นสาเหตุทำให้เล็บเสียอีกด้วยนะ เรารู้สึกแบบว่า เหย..เจ๋งดีอะ อย่างงี้ก็ไม่ต้องไปทำที่ร้านละดิ แถมหน้าเล็บไม่พังด้วย เราเลยลองเอามาทำที่บ้าน ตอนทำเองก็แอบตื้นเต้นด้วยนะ 555 ว่าจะออกมาเป็นไงฟระ เพราะสกิลการทาเล็บเราค่อนข้างแบบว่า เอ่อ.... (ข้ามๆไปเถ๊อะ >< ) สมิทเลยอยากเอามาแนะนำเพื่อนๆให้ตื้นเต้นไปพร้อมๆกัน ปอลิง.เค้าตั้งใจทำมาเพื่อทู้กคนเลย ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าเนอะ
อุปกรณ์ของเรา
1. essence the gel nail polish สีอะไรก็ได้ตามชอบไปเลือกกันได้เต็มที่ค่ะ สีเพียบ
สมิทตี้ใช้สเขียวมินท์ เบอร์ 40 กับสีชมพูนมเย็น เบอร์ 13 /ราคา 90 บาท
2. essence the gel nail polish base coat / ราคา 155 บาท
3. essence the gel nail polish top coat / ราคา 155 บาท
4. essence studio nail 24/7 nail base / ราคา 125 บาท
5. essence studio nail moisturising cuticle cream / ราคา 125 บาท
6. essence studio nail fast cuticle remover / ราคา 110 บาท
*หาซื้อได้ที่ร้าน watsons ,eveandboy จ้า
มาเริ่มกันเล๊ย///
ก่อนทำล้างมือให้สะอาดเคลียร์สิ่งสกปรกในเล็บออกก่อนเนอะ จากนั้นทา essence studio nail 24/7 nail base ในขั้นตอนแรกเพื่อเคลือบเล็บไม่ให้เล็บเหลืองเวลาล้างออกค่ะ
ก่อนจะทำ เรามาบำรุงเล็บกันซะก่อน เพื่อความแข็งแรงของเล็บนะคะ^^
ทา essence studio nail fast cuticle remover บริเวณจมูกเล็บตัวนี้เป็นทรีทเม้นต์บำรุงค่ะ ทาแล้วจับเวลา 15 วิ เอ้านับ 1 2 3 ...ครบแล้วบอกสมิทตี้ด้วยนะ จากนั้นใช้นิ้วถูเบาๆตรงที่ทา ไอพวกผิวหนังตรงจมูกเล็บที่แห้งด้านๆ จะหลุดออกเลยอ่ะ ฟินเลย... แต่ถ้าเป็นหนังแข็งๆที่แทงออกมาอันนี้ไม่หลุดนะคะ
ทารอบๆจมูกเล็บ
แล้วก็ถูๆๆ
จากนั้นมาบำรุงด้วยการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ essence studio nail moisturising cuticle cream เล็บของเราก็เหมือนกับผิวที่ต้องการการบำรุงอย่างเต็มที่นะคะ^^ ต้องให้ความสำคัญกันด้วยน้า
ทาไปรอบๆเล็บแล้วก็นวดเบาๆ บอกเลยว่าห๊อมหอม รู้สึกเลยว่าเล็บนุ่มขึ้นเลยค่ะ บำรุงขนาดนี้แล้วเห็นผลต่างจากเล็บแห้งเหี่ยวก่อนนี้มว๊ากก
มาถึงพระเอกนางเอกของเรา ตัวที่ทำให้เกิดความเป็นเนื้อเจล ต้องสองตัวนี้เลย แล้วก็เลือกสีทาเล็บที่เราต้องการมาแจมเพื่อเพิ่มสีสัน แต่ต้องเป็นสีเจลเท่านั้นนะคะ ใช้สีที่ขายทั่วไปไม่ได้น้า
ทา base coat เพื่อป้องป้องเล็บและให้สีติดทนนานขึ้นค่ะ จะเป็นเนื้อเจลเหนียวๆ เพื่อเคลือบเล็บเราจ้า
รอให้แห้งสักแปป แล้วต่อด้วยทาสีเล็บที่ต้องการเล๊ย สมิทตี้ชอบตัวแปรงทาเล็บมามันทาง่าย แปรงสปริงตัวได้ดีค่ะ แต่ต้องระวังขนแปรงที่มีหลุดออกมาให้ช้ำใจเล็บไม่เนียนต้องทาใหม่แอบเศร้านิสนุง
เพิ่มความฟรุ้งฟริ้ง เลยขอทากลิตเตอร์เคลือบไปอีกทีนึงค่ะ^^
มาถึงขั้นตอนสำคัญ ทา gel nail ppolish top coat เพื่อเคลือบเล็บให้เงาและติดทน จุดนี้เล็บเราจะเงามาก เป็นเล็บเจลเต็มตัวแล้วน้า
เสร็จแล้วจ้าาา อาจจะทาไม่ค่อยสวยน้า ขอภัยด้วยนะคะ><
เรามาโพสท่าโชว์เล็บเจลกันเล๊ย
เล็บเงาทีเดียวเชียว
จบด้วยท่านี้ พร้อมกับจบรีวิวและฮาวทูนี้เลยนะค๊าา
เป็นยังไงบ้างคะ เผื่อเป็นอีกทางเลือกในทำเล็บสวยๆด้วยตัวเอง ไม่ยากเลยเนอะ สมิทตี้ว่าทำเองมันได้ความสนุกอีกด้วย แต่ไม่รู้ผลงานจะออกมาเป็นยังไงนะ ล้างแล้วล้างอีก 555 ต้องอดทนกันนิดนึงเนาะ สำหรับวันนี้ขอตัวไปทาเล็บต่อก่อน ใครทำมาแล้วเอามาอวดให้เค้าดูด้วยน้า^^
ไว้เจอกันใหม่ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ