สวัสดีค่ะ
อย่างแรกเลย ต้องขอออกตัวก่อนว่ารีวิวครั้งนี้อาจจะมีรายละเอียดไม่มากนัก แต่เราจะพยายามนึกข้อมูลทั้งหมด
ที่ทราบมาเขียนไว้ให้ เผื่อมันจะเป็นความรู้ให้คนอื่นได้ต่อไปค่ะ อิอิ
*เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรก และเป็นกระทู้แรกที่ตั้งด้วย ถ้าผิดพลาดตรงไหน ขอโทษด้วยนะคะ*
เราไปญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งครั้งก่อนเนี้ยะไปเมื่อปี 2013 (ยังต้องขอวีซ่าอยู่)
เลยเป็นครั้งแรกที่ไปแบบไม่มีวีซ่า ตื่นเต้นมากกกกก งื้ออออ กลัวมากแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เราชอบประเทศญี่ปุ่น แต่ที่ทำให้อยากไปจริงๆคือ The Wizarding World of Harry Potter ที่ USJ ค่ะ (กรี้ดด)

ตอนเรามาเมื่อปี 2013 เป็นช่วงที่ยังไม่เปิด คือกำลังจะเปิดละหละ แล้วเราก็อินกับแฮรี่มากกกกกกกกก ชอบมากกกก
คือเป็นคนที่อินกับสวนสนุก สวนสัตว์ และพิพิธพันธ์อะไรอย่างเงี้ยะ แล้วช่วงนั้นญี่ปุ่นเขาก็ตื่นเต้นกับไอโซนนี้กันมากนะ
รถไฟติดโฆษณาเอย exibitionแฮรี่เอย (ได้ไปมาด้วย ดีมากเลย) เฮ้ย! คือตั้งใจเลยอ่ะ ว่าต้องมานะเว้ยยยยย
บวกกับอารมณ์เรียนปีสุดท้ายแล้ว อยากจะเที่ยวหาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอะไรเทือกนั้นกับเขาบ้าง เผื่อจะกลายเป็นคนคูลๆ
พอขอทางครอบครัวผ่านก็จองตั๋วทันทีเลยค่ะ (ขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ในการสนับสนุนการเดินทางครั้งนี้ *love* )
การเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปญี่ปุ่นง่ายมาก เพราะข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเยอะ สบ๊ายย
แต่มันจะไม่ง่ายตรงที่เป็นหน้าหนาวนี้ละ เสียพื้นที่กระเป๋าให้กับเสื้อผ้าเยอะมากอ่ะ เสียใจแต่ต้องแคร์ เพราะมันหนาว...

ขาไปเราบินกับสายการบินหางแดง ลงที่สนามบินโอซาก้า ส่วนขากลับเรานั่งสายการบินประจำชาติ ขึ้นเครื่องจากสนามบินนาริตะค่ะ
เรามีแค่แพลนเที่ยวคร่าวๆเท่านั้น คร่าวๆ แบบมากๆ คือไม่มีวิธีเดินทางหรืออะไรทั้งนั้น กะไปหาเอาดาบหน้า (บ้าบอ)
>>> { สนามบินโอซาก้า (KIX) > USJ > โตเกียว > Disney Sea > นิกโก้ > สนามบินโตเกียว (NRT) ประมาณนี้ } <<<
เราไปทั้งหมด 10 วัน เห็นได้ชัดเลยว่านี้คือตารางเที่ยวที่ว่างมากค่ะ (5555555)
เราจะแบ่งรีวิวออกเป็นพาทๆ ตามสถานที่ที่คิดว่าน่าสนใจนะคะ
เพราะไปแบบตามใจฉันมาก ถ้าจะตามทั้งทริปคงน่าเบื่อแย่ บางวันก็เดินเล่นไปวันๆ หุหุ
+ การเดินทางในญี่ปุ่น , ที่พัก
+ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า ไคยูคัง
+ USJ แบบไม่มี express pass (ซื้อไม่ทัน จิตตกมาก)
+ เกียวโตคนเดียว ได้วัดเดียวเอ๊ง
+ TOKYO ONE PIECE TOWER คนเดียวอีกแล้ว ถ่ายรูปยังไงละเนี่ย.....
+ ร้าน animate ทั้ง 3 สาขา Akihabara , Ikebukuro , Shibuya สำหรับสาวๆ
+ Tokyo Disney Sea สวรรค์สำหรับคนมีคู่ แต่เรา.....ไปคนเดียวจ้า
+ นิกโก้หนาวมาก
+ สรุปทริป
เริ่มด้วยพาทแรก
+ การเดินทางในญี่ปุ่น
ตอนไปเราลงที่สนามบิน KIX และเราซื้อตั๋วรถบัสจากบนเครื่องบินของแอร์เอเชียเลย โดยรถบัสจะมาทุกๆ 1 ชม.
และจะมีวิ่งตลอดทั้งคืน (ฮูเร่!)

สะดวกมากกกกกกกกกกกกกก มากถึงมากที่สุดเลย
รถบัสจะจอดแถวๆ Osaka Sta.(Umeda) ราคาค่ายบัส 1,550 yen
สามารถขึ้นรถจาก No.5 เทอมินอล 1 แต่ถ้าใครไม่ได้ซื้อตั๋วบัสจากบนเครื่องมา ก็สามารถกดตู้ซื้อตั๋วได้ปกติค่ะ
รายละเอียดบัส
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.okkbus.co.jp/en/timetable/kix/t_osa.html
รถไฟในญี่ปุ่น เขาว่ากันว่า สะดวก สบายยยยยยยย เออ เป็นเรื่องจริงนะ แต่สำหรับคนไทยที่มีรถไฟฟ้าเพียงสองสามสี
อาจจะ เอิ่ม..........อืม.......อาจจะใช้เวลาสักนิดในการทำความเข้าใจนิดหน่อย (แรกๆงงมาก แต่ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอนค่ะ)
แล้วก็นะ...ตอนนี้มันยุคไหนแล้ววว เรามีตัวช่วยเยอะแยะ ซึ่งตัวเราเองใช้ตัวช่วย 2 ตัวค่ะ
อันแรกคือ
http://www.hyperdia.com ไม่พลาดเลยค่ะ ใช้งานง่ายมีภาษาอังกฤษ บอกทั้งเวลา ชื่อสาย และชื่อบนขบวน
ใครที่ต้องการวางแผนการเดินทางเป้ะๆ ก็สามารถ เลือกวันเวลาได้เลย เป็นเว็บที่คนญี่ปุ่นก็ใช้เน้าะ
อีกตัวคือ Google Map คืออันนี้ดีมากกกกกกก มันกินเน็ตเยอะรึเปล่า เราไม่ค่อยมั่นใจ เราจะใช้เวลาเดินหาร้านที่ต้องการ
มันสำคัญมากกกกกก คือถ้าไม่มีคงเดินทางลำบากกว่านี้แน่ๆ ใช้ดูรถไฟก็ได้นะ (บอกชานชลา สายรถไฟ ราคาและเวลาด้วย)
แต่ส่วนใหญ่เราจะใช้ตอนเดินมากกว่า หรือใช้ตอนหลงทาง
ข้อเสียของมันคือ บางเส้นทางมันจะอ้อมไปหน่อยให้ดูแผนที่ดีๆ ไม่ต้องเดินตามทั้งหมดเป้ะๆก็ได้ค่ะ

หน้าตา Google Map ก็ประมาณนี้เลย
ในการเดินทางทั้งหมดนี้ เราไม่มี JR PASS นะ จากการที่ลองคำนวณๆดูแล้ว มันไม่ค่อยคุ้ม
นั่งแค่ชินคันเซ็นจากโอซาก้า > โตเกียว รอบเดียวเอ๊งงง
ตอนอยู่ในคันไซ เราก็กดตู้ซื้อตั๋วปกติ เพราะบัตรคันไซเอามาใช้คันโตไม่ได้ เลยไม่ได้ออกเป็นบัตรมา อยู่แปปเดียวเอง
พอมาถึงโตเกียวปุ๊ปก็ออกบัตร PASMO เลย กดซื้อได้ที่สถานีเลยค่ะ หรือจะเป็น SUICA ก็ได้ เหมือนๆกัน
(ตอนออกบัตรอย่าลืมเลือกแบบพิมชื่อด้วยนะคะ เพื่อความเท่ 555555)
แต่ถ้าใครนั่งชินคันเซ็นไปและกลับคันไซคันโต ก็แนะนำให้ซื้อ JR PASS ไปนะคะ คุ้มอยู่แล้ว

อันนี้บัตรพาสโม่ของเราเอง คัคโค่ยมาก มีชื่อด้วย อิๆ
ส่วนแท็กซี่ ราคาเริ่มต้นที่ 2 km - 730 yen เกิน 2 กม. ก็จะเป็น 280 m - 90 yen ค่ะ และราคากลางคืนก็อีกเรทนึง
แต่เอาจริงก็ต่างไม่มากนะ (ยังไงก็แพงอยู่แล้ว) คนขับรถจะมีมารยาทดีมากเว้อ รถสะอาดสะอ้าน
และที่สำคัญคือ ประตูเปิดปิดอัตโนมัติจ้า

เราได้ใช้บริการสองครั้ง แพงละเกิ้นนน ฮือออออ
*TIP*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใครจะนั่งแท็กซี่ก็อย่าลืมหาที่อยู่ของสถานที่ที่จะไปแล้วยื่นให้เขาดูได้เลยค่ะ
ถ้าเป็นภาษาญี่ปุ่นจะดีมาก ไม่ผิด ไม่หลงแน่นอน
+ ที่อยู่
ตอนอยู่โอซาก้า เราพักที่ APA VILLA HOTEL จองผ่าน Agoda
โรงแรมพอใช้ได้นะคะ ไม่ไกลจากสถานี มีเซเว่นด้วย ไม่แย่และไม่ดีมาก 3/5 ค่ะ
ทางโรงแรมให้ฝากกระเป๋าได้ด้วย ข้างล่างมีออนเซ็นด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ลอง เขิลลลลลล >////<

รูปห้องในโรงแรมค่ะ เล็กจิ๋วตามแบบญี่ปุ่น
ส่วนตอนอยู่โตเกียว นอนห้องของพี่ที่รู้จักกันค่ะ (ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่าาา) ที่ shimokitazawa เดินจากสถานีประมาณ 5 นาที
แถบนั้นมีบ้านสวยๆน่ารักๆเยอะมาก มีโรงเรียนด้วย ร้านขายของมือสอง ของน่ารักๆเพียบบบบ แล้วก็เงียบๆดีค่ะ
ห้องพี่เราค่อนข้างใหญ่นะ ถ้าเทียบกับโรงแรมญี่ปุ่น นอน 2 คน สบายๆเลย และค่าเช่าก็แพงมากด้วยเช่นกัน

วิวจากห้องตอนเช้าค่ะ

อันนี้เป็นระหว่างทางเดินไปสถานี เงียบสงบดีค่ะ
[CR] Review หนีเที่ยวญี่ปุ่นแบบชิวๆ ก่อนเปิดเทอม
อย่างแรกเลย ต้องขอออกตัวก่อนว่ารีวิวครั้งนี้อาจจะมีรายละเอียดไม่มากนัก แต่เราจะพยายามนึกข้อมูลทั้งหมด
ที่ทราบมาเขียนไว้ให้ เผื่อมันจะเป็นความรู้ให้คนอื่นได้ต่อไปค่ะ อิอิ
*เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรก และเป็นกระทู้แรกที่ตั้งด้วย ถ้าผิดพลาดตรงไหน ขอโทษด้วยนะคะ*
เราไปญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งครั้งก่อนเนี้ยะไปเมื่อปี 2013 (ยังต้องขอวีซ่าอยู่)
เลยเป็นครั้งแรกที่ไปแบบไม่มีวีซ่า ตื่นเต้นมากกกกก งื้ออออ กลัวมากแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เราชอบประเทศญี่ปุ่น แต่ที่ทำให้อยากไปจริงๆคือ The Wizarding World of Harry Potter ที่ USJ ค่ะ (กรี้ดด)
ตอนเรามาเมื่อปี 2013 เป็นช่วงที่ยังไม่เปิด คือกำลังจะเปิดละหละ แล้วเราก็อินกับแฮรี่มากกกกกกกกก ชอบมากกกก
คือเป็นคนที่อินกับสวนสนุก สวนสัตว์ และพิพิธพันธ์อะไรอย่างเงี้ยะ แล้วช่วงนั้นญี่ปุ่นเขาก็ตื่นเต้นกับไอโซนนี้กันมากนะ
รถไฟติดโฆษณาเอย exibitionแฮรี่เอย (ได้ไปมาด้วย ดีมากเลย) เฮ้ย! คือตั้งใจเลยอ่ะ ว่าต้องมานะเว้ยยยยย
บวกกับอารมณ์เรียนปีสุดท้ายแล้ว อยากจะเที่ยวหาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอะไรเทือกนั้นกับเขาบ้าง เผื่อจะกลายเป็นคนคูลๆ
พอขอทางครอบครัวผ่านก็จองตั๋วทันทีเลยค่ะ (ขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ในการสนับสนุนการเดินทางครั้งนี้ *love* )
การเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปญี่ปุ่นง่ายมาก เพราะข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเยอะ สบ๊ายย
แต่มันจะไม่ง่ายตรงที่เป็นหน้าหนาวนี้ละ เสียพื้นที่กระเป๋าให้กับเสื้อผ้าเยอะมากอ่ะ เสียใจแต่ต้องแคร์ เพราะมันหนาว...
ขาไปเราบินกับสายการบินหางแดง ลงที่สนามบินโอซาก้า ส่วนขากลับเรานั่งสายการบินประจำชาติ ขึ้นเครื่องจากสนามบินนาริตะค่ะ
เรามีแค่แพลนเที่ยวคร่าวๆเท่านั้น คร่าวๆ แบบมากๆ คือไม่มีวิธีเดินทางหรืออะไรทั้งนั้น กะไปหาเอาดาบหน้า (บ้าบอ)
>>> { สนามบินโอซาก้า (KIX) > USJ > โตเกียว > Disney Sea > นิกโก้ > สนามบินโตเกียว (NRT) ประมาณนี้ } <<<
เราไปทั้งหมด 10 วัน เห็นได้ชัดเลยว่านี้คือตารางเที่ยวที่ว่างมากค่ะ (5555555)
เราจะแบ่งรีวิวออกเป็นพาทๆ ตามสถานที่ที่คิดว่าน่าสนใจนะคะ
เพราะไปแบบตามใจฉันมาก ถ้าจะตามทั้งทริปคงน่าเบื่อแย่ บางวันก็เดินเล่นไปวันๆ หุหุ
+ การเดินทางในญี่ปุ่น , ที่พัก
+ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า ไคยูคัง
+ USJ แบบไม่มี express pass (ซื้อไม่ทัน จิตตกมาก)
+ เกียวโตคนเดียว ได้วัดเดียวเอ๊ง
+ TOKYO ONE PIECE TOWER คนเดียวอีกแล้ว ถ่ายรูปยังไงละเนี่ย.....
+ ร้าน animate ทั้ง 3 สาขา Akihabara , Ikebukuro , Shibuya สำหรับสาวๆ
+ Tokyo Disney Sea สวรรค์สำหรับคนมีคู่ แต่เรา.....ไปคนเดียวจ้า
+ นิกโก้หนาวมาก
+ สรุปทริป
เริ่มด้วยพาทแรก
+ การเดินทางในญี่ปุ่น
ตอนไปเราลงที่สนามบิน KIX และเราซื้อตั๋วรถบัสจากบนเครื่องบินของแอร์เอเชียเลย โดยรถบัสจะมาทุกๆ 1 ชม.
และจะมีวิ่งตลอดทั้งคืน (ฮูเร่!)
รถบัสจะจอดแถวๆ Osaka Sta.(Umeda) ราคาค่ายบัส 1,550 yen
สามารถขึ้นรถจาก No.5 เทอมินอล 1 แต่ถ้าใครไม่ได้ซื้อตั๋วบัสจากบนเครื่องมา ก็สามารถกดตู้ซื้อตั๋วได้ปกติค่ะ
รายละเอียดบัส
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รถไฟในญี่ปุ่น เขาว่ากันว่า สะดวก สบายยยยยยยย เออ เป็นเรื่องจริงนะ แต่สำหรับคนไทยที่มีรถไฟฟ้าเพียงสองสามสี
อาจจะ เอิ่ม..........อืม.......อาจจะใช้เวลาสักนิดในการทำความเข้าใจนิดหน่อย (แรกๆงงมาก แต่ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอนค่ะ)
แล้วก็นะ...ตอนนี้มันยุคไหนแล้ววว เรามีตัวช่วยเยอะแยะ ซึ่งตัวเราเองใช้ตัวช่วย 2 ตัวค่ะ
อันแรกคือ http://www.hyperdia.com ไม่พลาดเลยค่ะ ใช้งานง่ายมีภาษาอังกฤษ บอกทั้งเวลา ชื่อสาย และชื่อบนขบวน
ใครที่ต้องการวางแผนการเดินทางเป้ะๆ ก็สามารถ เลือกวันเวลาได้เลย เป็นเว็บที่คนญี่ปุ่นก็ใช้เน้าะ
อีกตัวคือ Google Map คืออันนี้ดีมากกกกกกก มันกินเน็ตเยอะรึเปล่า เราไม่ค่อยมั่นใจ เราจะใช้เวลาเดินหาร้านที่ต้องการ
มันสำคัญมากกกกกก คือถ้าไม่มีคงเดินทางลำบากกว่านี้แน่ๆ ใช้ดูรถไฟก็ได้นะ (บอกชานชลา สายรถไฟ ราคาและเวลาด้วย)
แต่ส่วนใหญ่เราจะใช้ตอนเดินมากกว่า หรือใช้ตอนหลงทาง
ข้อเสียของมันคือ บางเส้นทางมันจะอ้อมไปหน่อยให้ดูแผนที่ดีๆ ไม่ต้องเดินตามทั้งหมดเป้ะๆก็ได้ค่ะ
หน้าตา Google Map ก็ประมาณนี้เลย
ในการเดินทางทั้งหมดนี้ เราไม่มี JR PASS นะ จากการที่ลองคำนวณๆดูแล้ว มันไม่ค่อยคุ้ม
นั่งแค่ชินคันเซ็นจากโอซาก้า > โตเกียว รอบเดียวเอ๊งงง
ตอนอยู่ในคันไซ เราก็กดตู้ซื้อตั๋วปกติ เพราะบัตรคันไซเอามาใช้คันโตไม่ได้ เลยไม่ได้ออกเป็นบัตรมา อยู่แปปเดียวเอง
พอมาถึงโตเกียวปุ๊ปก็ออกบัตร PASMO เลย กดซื้อได้ที่สถานีเลยค่ะ หรือจะเป็น SUICA ก็ได้ เหมือนๆกัน
(ตอนออกบัตรอย่าลืมเลือกแบบพิมชื่อด้วยนะคะ เพื่อความเท่ 555555)
แต่ถ้าใครนั่งชินคันเซ็นไปและกลับคันไซคันโต ก็แนะนำให้ซื้อ JR PASS ไปนะคะ คุ้มอยู่แล้ว
อันนี้บัตรพาสโม่ของเราเอง คัคโค่ยมาก มีชื่อด้วย อิๆ
ส่วนแท็กซี่ ราคาเริ่มต้นที่ 2 km - 730 yen เกิน 2 กม. ก็จะเป็น 280 m - 90 yen ค่ะ และราคากลางคืนก็อีกเรทนึง
แต่เอาจริงก็ต่างไม่มากนะ (ยังไงก็แพงอยู่แล้ว) คนขับรถจะมีมารยาทดีมากเว้อ รถสะอาดสะอ้าน
และที่สำคัญคือ ประตูเปิดปิดอัตโนมัติจ้า
*TIP* [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
+ ที่อยู่
ตอนอยู่โอซาก้า เราพักที่ APA VILLA HOTEL จองผ่าน Agoda
โรงแรมพอใช้ได้นะคะ ไม่ไกลจากสถานี มีเซเว่นด้วย ไม่แย่และไม่ดีมาก 3/5 ค่ะ
ทางโรงแรมให้ฝากกระเป๋าได้ด้วย ข้างล่างมีออนเซ็นด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ลอง เขิลลลลลล >////<
รูปห้องในโรงแรมค่ะ เล็กจิ๋วตามแบบญี่ปุ่น
ส่วนตอนอยู่โตเกียว นอนห้องของพี่ที่รู้จักกันค่ะ (ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่าาา) ที่ shimokitazawa เดินจากสถานีประมาณ 5 นาที
แถบนั้นมีบ้านสวยๆน่ารักๆเยอะมาก มีโรงเรียนด้วย ร้านขายของมือสอง ของน่ารักๆเพียบบบบ แล้วก็เงียบๆดีค่ะ
ห้องพี่เราค่อนข้างใหญ่นะ ถ้าเทียบกับโรงแรมญี่ปุ่น นอน 2 คน สบายๆเลย และค่าเช่าก็แพงมากด้วยเช่นกัน
วิวจากห้องตอนเช้าค่ะ
อันนี้เป็นระหว่างทางเดินไปสถานี เงียบสงบดีค่ะ