สวัสดีค่ะ นี่เป็นกิจกรรมรีวิวการท่องเที่ยวแบบ “Back packer” ณ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เดินทางโดยรถสาธารณะ บอกเลยว่าการเดินทางครั้งนี้ได้บรรยากาศสุดๆค่ะ ทริปนี้บอกเลยว่าคุ้มมากค่ะ ราคาเบาๆ เที่ยวเองได้สบายๆเลยค่ะ เรามาชมรีวิวกันเลยดีกว่า...555
เราเริ่มต้นการเดินทางที่ สถานนีรถไฟนครปฐม ค่ะ
เดินทางมาที่สถานีรถไฟนครปฐมเวลา 06.00 น. ค่ะ จากนั้นเราเข้าไปที่สถานีรถไฟเพื่อเช็คเวลาของรถไฟ
ขบวนที่ 257 ธนบุรี – น้ำตก เวลาของรถไฟขบวนนี้มาเวลา07.50 น.
ระหว่างที่รอซื้อตั๋วรถไฟ เราก็ไปหาอะไรรองท้องกันดีกว่า หน้าสถานีรถไฟนครปฐมมีของกินเยอะเลยค่ะ แต่สิ่งเล็งเลย คือ ข้าวเหนียวหมูปิ้งค่ะ ว่าแล้วก็ซื้อเลย ข้าวเหนียว 1 ห่อ หมูปิ้ง 2 ไม้ ราคา 25 บาท ค่ะ แล้วก็ซื้อน้ำ 1 ขวด ราคา 10 บาท
ทานเสร็จแล้ว แต่เวลายังเหลืออยู่เลย... ไปทำบุญกันก่อนเดินทางซะเลย ที่ที่จะไปทำบุญไหว้พระกันก็คือที่
“ องค์พระปฐมเจดีย์ ”อยู่ใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟเลยค่ะ
ใกล้ได้เวลารถไฟมาแล้ว... เราเข้าไปซื้อตั๋วกันเลยดีกว่าค่ะ ตั๋วรถไฟขบวนนี้ฟรีนะค่ะ เพียงแค่เราใช้บัตรประชาชนมายื่นให้กับพนักงานขายตั๋ว เพียงเท่านี้เราก็จะได้ตั๋วรถไฟฟรีแล้ว
เย้ !! ได้ตั๋วรถไฟของ ขบวนที่ 257 ธนบุรี – น้ำตก มาแล้ว 555 ระหว่างที่เรารอรถไฟเคลื่อนขบวนมาถึง เรามาเก็บภาพสวย ๆ กันไปเรื่อย ๆ ดีกว่าค่ะ
รถไฟมาแล้ว ต้องรีบวิ่งกันเลยทีเดียว เพราะว่าวิวที่ดีที่สุดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ และ รถไฟก็อยู่ชานชลาที่ 2 เราต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถไฟให้เร็วที่สุด 5555 บอกเลยค่ะ คนเยอะพอสมควร แต่พอขึ้นไปขึ้นรถไฟปุ๊บ เข่าอ่อนเลย คนเต็มขบวนเลยค่ะ เราเดินหาที่นั่งจนทั่วแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยสมปรารถนาเท่าไรนัก เพราะผู้คนส่วนมากที่นั่งรถไฟขบวนนี้ เริ่มต้นที่ “สถานีรถไฟธนบุรี ( บางกอกน้อย )” เราได้ที่นั่งพร้อมที่ยืน แต่ก็ยังต้องการวิวทางซ้ายมืออยู่นะ Free style มาก ๆ เลยค่ะ
ระหว่างนี้ รถไฟก็ค่อย ๆ เคลื่อนขบวนไปตามบนทางบนรางเหล็ก มีเจ้าหน้าที่คอยมาเดินตรวจตั๋วรถไฟไปเรื่อย ๆ
แต่ที่ชื่นชอบเลย รถไฟจอดสถานีไหน จะมีแม่ค้าแม่ขายขึ้นมาบนรถไฟ ขายทั้งข้าวที่บรรจุด้วยกระทง ทั้งเครื่องดื่มต่าง ๆ นานา รวมไปทั้งผลไม้หลากหลายชนิดกันเลยก็ว่าได้ ของทานเยอะแยะมากมายเลือกไม่ถูกเลยค่ะ
แหม เห็นแล้วเปรี้ยวปาก มะม่วงสักถุงละกันนะ ราคาเพียงแค่ 20 บาทค่ะ
กริ๊ง ๆ ๆ !!!!!! เสียงเคาะระฆังของสถานีที่ผู้คนส่วนใหญ่รอชมกันมากมาย “สถานี รถไฟสายมรณะ” ขอบอกว่าสวยมากค่ะ สถานีนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติ แม่น้ำ ผู้คนที่มาท่องเที่ยวกันมากมาย แต่น่าเสียดายวันนี้รถไฟตกเวลามามากพอสมควร เลยไม่ได้พักขบวนให้ผู้คนลงไปชมความงามของสถานีนี้ และที่น่าเสียดายมากคือ คนแย่งกันถ่ายรูปมากจนเราเองก็ไม่สามารถถ่ายภาพได้เลย คนอื่น ๆ ก็ยืนบังกันเต็มไปหมด
ขณะนี้เวลา 15.00 น.โดยประมาณ
ผ่านไปแล้ว 7- 8 ชั่วโมง สำหรับการเดินทางบนรถไฟ ขบวนที่ 257 ธนบุรี – น้ำตก สุดสายปลายทางของเราก็มาถึง สถานีน้ำตก เอ้า!!!!! วิ่งกันอีกแล้วหรอเนี่ย ใช่ค่ะ เราต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถสองแถวที่จอดรอรับผู้โดยสาร เพื่อที่จะไป “น้ำตกไทรโยคน้อย”
ราคาค่าโดยสาร รถสองแถวจาก สถานีน้ำตกมา ถึง น้ำตกไทรโยคน้อย ราคา 20 บาท ต่อคนค่ะ
ตอนนี้มาถึง น้ำตกไทรโยคน้อยแล้วค่ะ เราต้องรอรถเมล์โดยสารประจำทางสังขละบุรีค่ะ ระหว่างรอขอแอบไปชมน้ำตกไทรโยคหน่อยก็คงดี 555แต่มีเวลาไม่มากน้ะค่ะ ต้องรีบหน่อย ถ้าพลาดไม่ทันรถเราจะแย่นะค่ะ
เอ๊ะ!!!! รถเมล์มาแล้ว โบก ๆ ๆ
เราต้องไปลงสุดสายปลายทางกันเลยทีเดียวค่ะ ราคาค่าโดยสาร คนละ 180 บาทค่ะ
กระเป๋ารถเมล์บอกเราว่า จะต้องเปลี่ยนคันระหว่างทางค่ะ เพราะเที่ยวนี้เป็นเที่ยวสุดท้ายค่ะ
ถึงเวลาเปลี่ยนรถแล้ว รถเมล์คันนี้จอดรอรถเมล์อีกคันที่จะขึ้นไป สังขละบุรี ที่หน้าตลาดทองผาภูมิค่ะ
ตอนนี้รู้สึกหิวมาก เหมือนโชคเข้าข้างเลยค่ะ มีร้านตำถาดอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน จะรออะไรหล่ะ หิวขนาดนี้ แต่เพื่อความรอบคอบเลยบอกพี่คนขับไว้ว่า “ถ้ารถเมล์ที่จะเปลี่ยนมาแล้ว พี่ช่วยตะโกนเรียกที่นะค่ะ” กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ 5555 เราสั่ง ตำถาดมาทานค่ะ ราคาอยู่ที่ 120 บาทค่ะ
ขึ้นรถเมล์แล้วค่ะ พอมาได้ครึ่งทาง ฝนตกปรอย ๆ มาตลอดทาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ
ถึงแล้วค่ะ ตลาดสังขละบุรี เวลายังไม่มืดมากถือว่าถ่ายภาพกำลังสวยเลยค่ะแต่อุปสรรคย่อมเกิด ฝนเจ้ากรรมดันตกหนักกว่าเดิม
ขณะนี้เวลา 18.20 โดยประมาณ
ไม่ไหวแล้ว เมื่อยมากเลย อยากไปที่Guest house เต็มทีแล้ว มี วินมอเตอร์ไซต์มาพอดีเลยค่ะ เราบอกเขาแค่ “ไป P Guest house” พี่เขาก็พาไปเลย ค่าโดยสาร ราคา คนละ 20 บาท เราเองก็ไม่ลืมขอเบอร์โทรพี่เขาไว้ค่ะ กลัวออกไปรอรถกลับไม่ได้
เช็คอินท์ที่พักพร้อมกับยื่นใบหลักฐานการโอนเงินให้พนักงานเลย แต่ขอบอกเลยว่า Service พร้อมทุกอย่างเลยค่ะ และมีบริการร้านอาหารไปในตัวด้วย บรรยากาศดีมาก ที่พักสะอาด ราคาเหมาะสำหรับ Backpacker อย่างเรามากเลยค่ะ
ยังอยากสนุกอยู่เลย ทางที่พักมีบริการ เช่ามอเตอร์ไซต์ด้วยนะ ค่าเช่า 200 บาทต่อคัน จะรอช้าอยู่ทำไม ไปกันเลย ตลาดสังขละบุรี อยู่ใกล้กับท่ารถเมล์ที่เรามา
วันที่ 2 เวลา 05.00 น.
ตื่นนอน เตรียมตัวไปทำบุญที่ สะพานมอญกันเถอะ ขับมอเตอร์ไซต์มาตามป้ายที่เขาติดไว้ข้างทางค่ะ หางจากที่พัก ประมาณ 500 เมตร
ซื้อของใส่บาทตร ราคา 30 บาท ต่อชุดค่ะ ใส่บาทเสร็จแล้ว แวะ ชม ชิม ช้อป ต่อเลยยยย
เดินทางกลับมาที่ ที่พัก แต่เหลือบไปเห็น ร้านกาแฟ ร้านน่านั่งมาก ตกแต่งสวย น่าไปลองชิมรสชาติมาก ๆ
กาแฟแก้วละ ประมาณ 40 -50 บาทรสชาติดีมาก ๆ เลยค่ะ มุมถ่ายรูปก็สวย ๆ ทั้งนั้นเลย ปลื้มมากค่ะ ระยะทางห่างจากที่พัก ประมาณ 200 เมตร
**** เดี๋ยววันหน้าเรามาต่อกันน่ะค่ะ ทริปสนุกๆ ยังมีอีกยาววววววว
เรียนหนัก ก็พักหน่อย "แบกเป้ ลุยสังขละบุรี"
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกิจกรรมรีวิวการท่องเที่ยวแบบ “Back packer” ณ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เดินทางโดยรถสาธารณะ บอกเลยว่าการเดินทางครั้งนี้ได้บรรยากาศสุดๆค่ะ ทริปนี้บอกเลยว่าคุ้มมากค่ะ ราคาเบาๆ เที่ยวเองได้สบายๆเลยค่ะ เรามาชมรีวิวกันเลยดีกว่า...555
เราเริ่มต้นการเดินทางที่ สถานนีรถไฟนครปฐม ค่ะ
เดินทางมาที่สถานีรถไฟนครปฐมเวลา 06.00 น. ค่ะ จากนั้นเราเข้าไปที่สถานีรถไฟเพื่อเช็คเวลาของรถไฟ
ขบวนที่ 257 ธนบุรี – น้ำตก เวลาของรถไฟขบวนนี้มาเวลา07.50 น.
ระหว่างที่รอซื้อตั๋วรถไฟ เราก็ไปหาอะไรรองท้องกันดีกว่า หน้าสถานีรถไฟนครปฐมมีของกินเยอะเลยค่ะ แต่สิ่งเล็งเลย คือ ข้าวเหนียวหมูปิ้งค่ะ ว่าแล้วก็ซื้อเลย ข้าวเหนียว 1 ห่อ หมูปิ้ง 2 ไม้ ราคา 25 บาท ค่ะ แล้วก็ซื้อน้ำ 1 ขวด ราคา 10 บาท
ทานเสร็จแล้ว แต่เวลายังเหลืออยู่เลย... ไปทำบุญกันก่อนเดินทางซะเลย ที่ที่จะไปทำบุญไหว้พระกันก็คือที่
“ องค์พระปฐมเจดีย์ ”อยู่ใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟเลยค่ะ
ใกล้ได้เวลารถไฟมาแล้ว... เราเข้าไปซื้อตั๋วกันเลยดีกว่าค่ะ ตั๋วรถไฟขบวนนี้ฟรีนะค่ะ เพียงแค่เราใช้บัตรประชาชนมายื่นให้กับพนักงานขายตั๋ว เพียงเท่านี้เราก็จะได้ตั๋วรถไฟฟรีแล้ว
เย้ !! ได้ตั๋วรถไฟของ ขบวนที่ 257 ธนบุรี – น้ำตก มาแล้ว 555 ระหว่างที่เรารอรถไฟเคลื่อนขบวนมาถึง เรามาเก็บภาพสวย ๆ กันไปเรื่อย ๆ ดีกว่าค่ะ
รถไฟมาแล้ว ต้องรีบวิ่งกันเลยทีเดียว เพราะว่าวิวที่ดีที่สุดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ และ รถไฟก็อยู่ชานชลาที่ 2 เราต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถไฟให้เร็วที่สุด 5555 บอกเลยค่ะ คนเยอะพอสมควร แต่พอขึ้นไปขึ้นรถไฟปุ๊บ เข่าอ่อนเลย คนเต็มขบวนเลยค่ะ เราเดินหาที่นั่งจนทั่วแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยสมปรารถนาเท่าไรนัก เพราะผู้คนส่วนมากที่นั่งรถไฟขบวนนี้ เริ่มต้นที่ “สถานีรถไฟธนบุรี ( บางกอกน้อย )” เราได้ที่นั่งพร้อมที่ยืน แต่ก็ยังต้องการวิวทางซ้ายมืออยู่นะ Free style มาก ๆ เลยค่ะ
ระหว่างนี้ รถไฟก็ค่อย ๆ เคลื่อนขบวนไปตามบนทางบนรางเหล็ก มีเจ้าหน้าที่คอยมาเดินตรวจตั๋วรถไฟไปเรื่อย ๆ
แต่ที่ชื่นชอบเลย รถไฟจอดสถานีไหน จะมีแม่ค้าแม่ขายขึ้นมาบนรถไฟ ขายทั้งข้าวที่บรรจุด้วยกระทง ทั้งเครื่องดื่มต่าง ๆ นานา รวมไปทั้งผลไม้หลากหลายชนิดกันเลยก็ว่าได้ ของทานเยอะแยะมากมายเลือกไม่ถูกเลยค่ะ
แหม เห็นแล้วเปรี้ยวปาก มะม่วงสักถุงละกันนะ ราคาเพียงแค่ 20 บาทค่ะ
กริ๊ง ๆ ๆ !!!!!! เสียงเคาะระฆังของสถานีที่ผู้คนส่วนใหญ่รอชมกันมากมาย “สถานี รถไฟสายมรณะ” ขอบอกว่าสวยมากค่ะ สถานีนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติ แม่น้ำ ผู้คนที่มาท่องเที่ยวกันมากมาย แต่น่าเสียดายวันนี้รถไฟตกเวลามามากพอสมควร เลยไม่ได้พักขบวนให้ผู้คนลงไปชมความงามของสถานีนี้ และที่น่าเสียดายมากคือ คนแย่งกันถ่ายรูปมากจนเราเองก็ไม่สามารถถ่ายภาพได้เลย คนอื่น ๆ ก็ยืนบังกันเต็มไปหมด
ขณะนี้เวลา 15.00 น.โดยประมาณ
ผ่านไปแล้ว 7- 8 ชั่วโมง สำหรับการเดินทางบนรถไฟ ขบวนที่ 257 ธนบุรี – น้ำตก สุดสายปลายทางของเราก็มาถึง สถานีน้ำตก เอ้า!!!!! วิ่งกันอีกแล้วหรอเนี่ย ใช่ค่ะ เราต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถสองแถวที่จอดรอรับผู้โดยสาร เพื่อที่จะไป “น้ำตกไทรโยคน้อย”
ราคาค่าโดยสาร รถสองแถวจาก สถานีน้ำตกมา ถึง น้ำตกไทรโยคน้อย ราคา 20 บาท ต่อคนค่ะ
ตอนนี้มาถึง น้ำตกไทรโยคน้อยแล้วค่ะ เราต้องรอรถเมล์โดยสารประจำทางสังขละบุรีค่ะ ระหว่างรอขอแอบไปชมน้ำตกไทรโยคหน่อยก็คงดี 555แต่มีเวลาไม่มากน้ะค่ะ ต้องรีบหน่อย ถ้าพลาดไม่ทันรถเราจะแย่นะค่ะ
เอ๊ะ!!!! รถเมล์มาแล้ว โบก ๆ ๆ
เราต้องไปลงสุดสายปลายทางกันเลยทีเดียวค่ะ ราคาค่าโดยสาร คนละ 180 บาทค่ะ
กระเป๋ารถเมล์บอกเราว่า จะต้องเปลี่ยนคันระหว่างทางค่ะ เพราะเที่ยวนี้เป็นเที่ยวสุดท้ายค่ะ
ถึงเวลาเปลี่ยนรถแล้ว รถเมล์คันนี้จอดรอรถเมล์อีกคันที่จะขึ้นไป สังขละบุรี ที่หน้าตลาดทองผาภูมิค่ะ
ตอนนี้รู้สึกหิวมาก เหมือนโชคเข้าข้างเลยค่ะ มีร้านตำถาดอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน จะรออะไรหล่ะ หิวขนาดนี้ แต่เพื่อความรอบคอบเลยบอกพี่คนขับไว้ว่า “ถ้ารถเมล์ที่จะเปลี่ยนมาแล้ว พี่ช่วยตะโกนเรียกที่นะค่ะ” กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ 5555 เราสั่ง ตำถาดมาทานค่ะ ราคาอยู่ที่ 120 บาทค่ะ
ขึ้นรถเมล์แล้วค่ะ พอมาได้ครึ่งทาง ฝนตกปรอย ๆ มาตลอดทาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ
ถึงแล้วค่ะ ตลาดสังขละบุรี เวลายังไม่มืดมากถือว่าถ่ายภาพกำลังสวยเลยค่ะแต่อุปสรรคย่อมเกิด ฝนเจ้ากรรมดันตกหนักกว่าเดิม
ขณะนี้เวลา 18.20 โดยประมาณ
ไม่ไหวแล้ว เมื่อยมากเลย อยากไปที่Guest house เต็มทีแล้ว มี วินมอเตอร์ไซต์มาพอดีเลยค่ะ เราบอกเขาแค่ “ไป P Guest house” พี่เขาก็พาไปเลย ค่าโดยสาร ราคา คนละ 20 บาท เราเองก็ไม่ลืมขอเบอร์โทรพี่เขาไว้ค่ะ กลัวออกไปรอรถกลับไม่ได้
เช็คอินท์ที่พักพร้อมกับยื่นใบหลักฐานการโอนเงินให้พนักงานเลย แต่ขอบอกเลยว่า Service พร้อมทุกอย่างเลยค่ะ และมีบริการร้านอาหารไปในตัวด้วย บรรยากาศดีมาก ที่พักสะอาด ราคาเหมาะสำหรับ Backpacker อย่างเรามากเลยค่ะ
ยังอยากสนุกอยู่เลย ทางที่พักมีบริการ เช่ามอเตอร์ไซต์ด้วยนะ ค่าเช่า 200 บาทต่อคัน จะรอช้าอยู่ทำไม ไปกันเลย ตลาดสังขละบุรี อยู่ใกล้กับท่ารถเมล์ที่เรามา
วันที่ 2 เวลา 05.00 น.
ตื่นนอน เตรียมตัวไปทำบุญที่ สะพานมอญกันเถอะ ขับมอเตอร์ไซต์มาตามป้ายที่เขาติดไว้ข้างทางค่ะ หางจากที่พัก ประมาณ 500 เมตร
ซื้อของใส่บาทตร ราคา 30 บาท ต่อชุดค่ะ ใส่บาทเสร็จแล้ว แวะ ชม ชิม ช้อป ต่อเลยยยย
เดินทางกลับมาที่ ที่พัก แต่เหลือบไปเห็น ร้านกาแฟ ร้านน่านั่งมาก ตกแต่งสวย น่าไปลองชิมรสชาติมาก ๆ
กาแฟแก้วละ ประมาณ 40 -50 บาทรสชาติดีมาก ๆ เลยค่ะ มุมถ่ายรูปก็สวย ๆ ทั้งนั้นเลย ปลื้มมากค่ะ ระยะทางห่างจากที่พัก ประมาณ 200 เมตร
**** เดี๋ยววันหน้าเรามาต่อกันน่ะค่ะ ทริปสนุกๆ ยังมีอีกยาววววววว