ดู Reply 1988 แล้วคุณ "ฉุกคิด" เกี่ยวกับคนรอบตัวของคุณเรื่องอะไรบ้างครับ? (เน้นประเด็นครอบครัวและมิตรภาพ)


               คนที่รักเรื่อง Reply 1988 ทุกคนคงจะชอบประเด็นเรื่องครอบครัวและมิตรภาพเหมือนกันใช่ไหมครับ? ลองมาแบ่งปันกันดีกว่าว่ามีอะไรที่คุณนึกถึงและฉุกคิดได้จากการรับชมละครเรื่องนี้

--- ฉากที่จองฮวันโทรมาถามแม่เรื่องชื่อภาษาอังกฤษ แม่จองฮวันบ่ายเบี่ยงอยู่นาน
แต่สุดท้ายก็ต้องยอมบอกว่าแม่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ เป็นฉากที่น่าจะสะเทือนใจลูกหลายๆคน
คงไม่มีแม่คนไหนไม่อยากเป็นฮีโร่ของลูก ให้ลูกเห็น ให้ลูกได้ชื่นชม แต่ใจคนเป็นลูกก็คง
ไม่นึกฝันที่อยากจะให้แม่มาอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนแบบนี้ คิดว่าจองฮวันก็เช่นกัน
ใครจะรู้ว่าหลังโทรศัพท์ผู้ชายจิตใจดีอย่างจองฮวันอาจจะแอบน้ำตาไหลอยู่ก็ได้ ตัดไปที่
จองบงคุยกับพ่อ พ่อเล่าว่าแม่ไม่ได้จบมหาลัยหรอก แต่มีประสบการณ์ในการเป็นเจ้าหนี้
และมีโอกาสได้ทำงานกับคนญี่ปุ่น พ่อคิดเสมอว่าแม่เป็นคนเก่งที่สุดเลย แม้ไม่ได้จบ
การศึกษาแบบ traditional แต่ก็มีประสบการณ์ที่ล้ำค่าที่จะมาช่วยให้ใช้ชีวิต
และเอาตัวรอดได้ ถ้าจองบงเอาเป็นตัวอย่างได้ก็น่าจะดีมาก

   ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง Twenty Again เลย (แนะนำเลยดีมากถ้าใครที่ยังไม่ได้ดู) บางทีการเข้าศึกษา
แบบตามหลักสูตรก็ไม่ได้เป็นคำตอบสุดท้ายของชีวิตเสมอไป หลายๆคนเข้าเรียนไปเพียงเพราะมันเป็น
"ช่วงเวลาที่เหมาะสม" ของชีวิต เด็กคนอื่นเรียนเราก็เรียนๆไป จะได้ไม่น้อยหน้าใคร หรือสำนวน
ที่เขาคิดกันมาเล่นๆนั่นแหละว่า "พ่อแม่จ้างเรียน" ยังไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าเส้นทางที่เราเลือกมันจะ
พาเราไปสู่จุดไหน เดี๋ยวพอเรียนจบก็ต้องมาคิดอีกว่าต้องใช้ชีวิตยังไง ทำงานอะไร จะมีกินไหม
แต่ถ้าเราเริ่มคิดตั้งแต่เนื่นๆ เราอาจจะได้ออกแบบชีวิตของตัวเองได้เร็วขึ้นอีกหลายก้าว และได้ใช้ชีวิต
ไปตามเส้นทางที่เราเลือกเดินตั้งแต่ยังศึกษาอยู่ อาจจะเลือกที่จะไม่แบกความคาดหวังของคนในสังคมไว้มากนัก
(กรณีที่เลือกแนวทางชีวิตที่แปลกจากปกติ) คิดถึงใจตัวเองเยอะๆ จากใจคนที่ตอนที่จะเลือกมหาลัย
ไม่ค่อยได้มองถึงอนาคตเท่าไหร่ 555+

ป.ล. ไม่ได้พูดว่าเรียนมหาวิทยาลัยไม่ดีนะ พูดถึงแค่ว่า ถึงไม่ได้เรียนก็ไม่ใช่ชีวิตจะจบลงตรงนั้น
และถึงได้เรียนก็ยังต้องมาคิดถึงอนาคตอีกว่าจะทำอะไรต่อไป

----- ฉากที่แม่โบราปกป้องโบราจากเจ้าหน้าที่ที่จะรับโบราไปโรงพัก
                                 
        ข้อหาเป็นแกนนำในการประท้วงปล่อยตัวประกัน สิ่งแรกที่ทำให้คิดก็เกี่ยวกับเรื่อง
การมีจุดยืนทางการเมืองนี่แหละ อย่างที่รู้ว่าบ้านเราหลายครอบครัวก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน
การเมืองทำให้ครอบครัวไม่คุยกันได้เลย แล้วมีฝ่ายไหนผิดเป็นพิเศษหรือเปล่า ก็อาจจะไม่
โบราที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเองจนเอาตัวเองไปเสี่ยง ทำเอาพ่อแม่เกือบใจสลาย
มองในมุมมองความเป็นพ่อแม่ที่ฟูมฟักลูกมาแต่เกิด ชีวิตและความปลอดภัยของลูกน่า
จะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้ามองจากมุมมองของโบรา คนมีอุดมการณ์ก็ไม่ใช่เรื่องผิด
(แม้ผมจะไม่ค่อยเข้าใจก็ตาม) คงต้องหาตรงกลางด้วยความเข้าใจทั้งสองฝ่าย

   อีกสิ่งนึงที่ทำให้คิดคือ วิธีการปกป้องของแม่ คือการบรรยายว่าลูกเป็นคนยังไงให้เจ้าหน้าที่ฟัง
ออกแนวโม้ (ยาวมาก ป้าเอาเวลาไหนไปหายใจ) ซึ่งก็แปลกดี (555) โบราบอกว่าบางทีแม่
ก็ชอบทำเรื่องน่าอาย แต่ในวินาทีนั้นแม่คงจะนึกอะไรไม่ออก แค่ขอให้ช่วยลูกได้ก็พอ
ในวินาทีวิกฤตใครจะรู้ว่าเราสามารถทำอะไรเพื่อช่วยคนที่เรารักได้บ้าง
  
    อีกอย่างนึงที่ฉุกคิดขึ้นมาจากเหตุการณ์ข้างบนคือการเอาลูกไปเล่า(โม้)ให้คนอื่นฟัง
แต่ก่อนผมก็เคยคิดนะว่าพ่อแม่จะไปโม้อะไรนักหนาเนี่ย เอาไปเทียบกับลูกคนนั้นคนนี้อยู่ได้
แต่ผมก็นึกนะว่าตอนนั้นที่เราสอบมหาวิทยาลัยติด แล้วที่วิ่งไปกอดแม่ หน้าของแม่นั้นดีใจไปด้วย
ความสุขแค่ไหน คนที่เฝ้าดูเรามาตั้งแต่เรายังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนนั้นเราสามารถทำให้แม่ภูมิใจได้แล้ว
แม่คงจะตื้นตันอยากเอาไปเล่าให้คนโน้นคนนี้ฟังละเนาะ ว่าคนที่แม่รักที่สุดคนนึงในชีวิตของแม่เริ่มโต
ขึ้นมาระดับนึงแล้ว ถ้าผมทำให้แม่ภูมิใจได้อีกแล้วแม่เอาไปเล่าต่อผมก็ยินดี แต่ถ้าวันใดผมทำให้แม่ต้อง
เสียใจหรืออับอาย จนไม่กล้าเอาผมไปพูดถึงอีก ผมคงใจสลาย

     ผมอาจจะแปลกคนนะ แต่กับกระแสแม่ของกวาง The Face (ถ้าใครตามข่าว) ที่อวดลูกใน IG
แล้วเหมือนไปเกทับลูกคนอื่น ผมไม่ค่อย upset เท่าไหร่ มันอาจจะน่าหมั่นไส้จริงๆ แต่ผมก็คิดแหละว่า
ถ้าเป็นสมัยก่อนแม่ของกวางก็คงแค่เอาไปโพนทะนาให้เพื่อนๆฟัง อาจจะไปแซะๆลูกคนอื่นบ้าง
แต่คงไม่เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ โลกโซเชี่ยลมีเดียน่ากลัวมากๆ เผลอแป๊บเดียวจากที่ไปเข้านอนตื่นเช้ามา
อาจจะกลายเป็นขี้ปากคนทั่วประเทศแล้วก็ได้ และก็น่าสังเกตว่าคนสมัยนี้หมั่นไส้กันง่ายมาก
ผมก็เป็นนะยอมรับ 555+ แต่พยายามเลิกอยู่นิสัยหมั่นไส้เนี่ย บางทีอย่างที่รู้ๆกัน ถ้าหมั่นไส้แฟนคลับมากๆ
ก็อาจพาลไปเกลียดดาราเลยก็ได้ ทั้งๆที่ดาราก็ไม่ได้ผิดอะไร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่