ที่สุดหนังไทย "แป้ก" ในครึ่งหลังปี 2558

ก็เป็นที่ทราบกันว่า ตลอดปี 2558 ภาพยนตร์ไทยหลายต่อหลายเรื่องต้องประสบกับภาวะขาดทุนกันเป็นระนาว บรรยากาศการชมหนังไทยในโรงหนังในประเทศด้วยกันจึงดูวังเวง ทั้งที่บางเรื่องเป็นหนังที่เห็นแล้วน่าติดตาม แต่การเข้าฉายและการโปรโมทตั้งแต่ก่อนหนังเข้าฉายกลับอยู่ในสภาวะร่อแร่ จนแทบจะไม่มีใครเอ่ยว่ามีหนังเรื่องนั้นเรื่องนี้ฉายด้วย

ถึงเวลาแล้วล่ะที่เราจะมาทำความรู้จักกับที่สุดของหนังแป้กในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 ที่พอจะเป็นตัวอย่างของความล้มเหลว งานนี้ไม่ได้วัดค่าหารายได้สูงต่ำ แต่มาจากการประเมินสภาพการณ์ล้วนๆ ในตลาดหนังไทย และขอบอกว่าหนังเหล่านี้ฉายในโรงภาพยนตร์ในประเทศไทยในช่วงเวลานั้นจริงๆ ไม่ได้แค่โม้แต่อย่างใด...


367 วัน Him & Her
ผลงานการกำกับภาพยนตร์ของ ไวท์ ผดุงการ ที่เคยลือลั่นจากผลงานหนังแนวบู๊เกรดบีรุ่นคุณพ่อคุณแม่ หายหน้าไปนานเลยกลับมาทำหนังแนวรักวัยรุ่นตามสูตรสำเร็จทั่วไป ใช้ดารานักแสดงหน้าใหม่เกือบทั้งหมด มีดารารุ่นใหญ่เข้ามาแซมๆ หน่อยด้วย


สยามยุทธ
ผลงานของผู้สร้างหน้าใหม่ ที่มาทำหนังแอ็คชั่นย้อนยุค พาเราย้อนไปถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาแตกพ่ายเข้าสู่สมัยกรุงธนบุรี ผสานด้วยศิลปะแม่ไม้มวยไทย กำกับภาพยนตร์โดย ครูดำ-ธนาวุฒิ เกสโร นำแสดงโดย ธันญ์ ธนากร พระเอกวิกหมอชิต แคนดี้ รากแก่น ทายาทหมอลำรุ่นใหญ่  หนังมาเกิดปัญหาหนักจนเป็นข่าวด้วยเรื่องค่าตัวของนักแสดงและการถอนตัวของนายทุน เป็นตัวอย่างของปัญหาหนังไทยรายได้ต่ำเช่นนั้นแล


ละติจูดที่ 6
ผลงานจากการระดมทุนของ กอ.รมน. โดยมี ยูซีไอ มีเดีย รับหน้าที่ผลิตหนังเรื่องนี้ หนังเจตนาที่จะสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ให้ดูอบอุ่น น่ารัก และประทับใจ แต่พอหนังเข้าฉายก็ถูกกระแสของพระเอกอย่าง ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล กลบซะจนมิด รายได้เลยไม่ดี ทั้งที่เป็นหนังดี ภาพก็สวย นักแสดงก็เล่นได้ถึงใจจริงๆ


โจ หัวแตงโม
แทบจะไม่รู้ว่า นี่คือผลงานกำกับเรื่องล่าสุดของ เรียว กิตติกร ที่เคยลือลั่นจากหนังหลายต่อหลายเรื่อง และหลายแนว มาถึงแนวสืบสวนสอบสวนปนตลก ที่ได้ เก้า จิรายุ มาเป็นนายโจ นักสืบออนไลน์ โปสเตอร์หนังขายพระเอกอย่างโดดเดี่ยว แต่ก็ไม่ช่วยให้รายได้ดีขึ้น เตรียมขึ้นทำเนียบหนังที่รายได้ต่ำสุดของค่ายเอ็ม เทอร์ตี้ไนน์ ไปได้เลย น่าสงสารเชียว


พรหมจรรย์ สวยพันธุ์สยอง
เป็นหนังอีกเรื่องที่ใช้เวลาถ่ายทำและรอคอยกันนานพอสมควร จากผลงานของผู้กำกับ บอม อัศจรรย์ ที่ได้ ชาม โอสถานนท์, ลูกหมี รัศมี และ กำปั้น บาซู มาเขย่าให้ซ่านไปถึงหัวจิตหัวใจของคนดูหนัง กับหนังอีโรติกอิงเรื่องลี้ลับน่าค้นหา


แสงสุดท้ายของอีเหี่ยน
หนังเว่าอีสานอีกหนึ่งเรื่องที่เดินตามรอย แหยม ยโสธร เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่มามุ่งมั่นทำตามความฝันของตัวเอง นำแสดงโดย เอ-พศิน เรืองวุฒิ และ เบน นรีรัตน์ นางเอกหน้าใหม่ที่จะมาประดับวงการหนังอีกคน แถมด้วยขบวนดาราอีสานแสนคุ้นเคยอย่าง เจเน็ท เขียว, รุ้ง ลาวัลย์(หนูหิ่น) และการกลับสู่จอเงิน(แบบเงียบๆ) ของ อี๊ด โปงลางสะออน กับหน้าใหม่ของเค้า


บุญเพ็งหีบเหล็ก
เป็นหนังที่เคยวางโปรแกรมฉายอยู่บ่อยครั้ง แล้วก็ได้ฉายจริงจนได้ แต่ฉายตามต่างจังหวัดบางแห่ง เรื่องของบุญเพ็ง ฆาตกรชื่อดังเมื่อราวร้อยปีก่อน ที่มีการเล่าขานต่อๆ กันมา โดยมี ดีเจแมน พัฒนพล รับบทเป็น บุญเพ็ง คู่กับนักร้องสาวเซ็กซี่ที่ไม่ใช่ใบเตย หากเป็น เปิ้ล ไอริณ


คุณทองแดง The Inspirations
น่าจะปิดท้ายด้วยหนังแอนิเมชันฟอร์มใหญ่อย่างเช่นเรื่องนี้ ซึ่งสร้างจากแรงบันดาลใจของสุนัขทรงเลี้ยง "คุณทองแดง" ผ่านเรื่องราวของสุนัขผู้น่ารักทั้ง 3 ตัว เรื่องนี้ตั้งใจจะเป็นผลงานเด่นส่งท้ายปี (และคาดว่าขาดทุนแน่นอน) แต่ก็ถูกกระแสหนังฝรั่งมายืนเด่นกว่าส่งท้ายปี ไม่เว้นเมื่อคุณทองแดงเสียชีวิต หนังเรื่องนี้ก็ยังฉายอยู่เป็นบางโรง จนป่านนี้ได้มาแค่เฉียดๆ 20 ล้านบาทก็สุขใจแล้ว ใช่ม้า..

นั่นคือที่สุดของความแป้กของหนังไทยในช่วงกลางๆ มาท้ายๆ ในปี 2558 อาจจะยังมีอีกหลายๆ เรื่องที่เข้าข่าย ก็แล้วแต่คุณจะเติม และเราก็หวังว่า อนาคตของหนังไทยคงจะแข็งแกร่งกว่านี้ หากได้รับการช่วยเหลือหรือสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้เกิดปัญหาน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย ก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้สร้างหนังไทยที่เคยประสบกับภาวะอันชอกช้ำ ได้มีแรงทำแรงสู้ตลอดการทำหนังเรื่องต่อๆ ไปก็แล้วกัน ขอให้ดีที่ดีกว่าก็พอ ไปแล้ว สวัสดี.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่