พอกันทีกับ เอวิสเชียงใหม่ ให้ผมรอรับรถ สองชั่วโมง แผนการเที่ยวพังหมด

ปกติ ผมเป็นคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว ไปกับ ครอบครัว และการเที่ยวส่วนใหญ่ผมก็จะบินไป แล้วเช่ารถขับต่อ เพราะว่า สะดวก และ ปลอดภัยที่สุดแล้ว
ซึ่ง บริษัทรถเช่าที่ผม เช่าเป็นประจำคือ เอวิส เพราะว่าเชื่อในประสิทธิภาพการให้บริการที่ดีเสมอมา เรียกได้ว่า ใช้บริการมาเกือบๆ สิบปีแล้ว

แต่ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 11 มกราคม 2559 ผมได้บินไัปเที่ยวที่เชียงใหม่ โดยวางแผนว่าเครื่องลง 0750 แต่เช้า แล้วจะรับรถ ขับขึ้นดอยสุเทพ ดอยปุย แล้วไปขุนช่างเคี่ยน ต่อ แล้วสุดท้ายไปนอน ที่เชียงดาว

โดยทริปนี้ ผมเดินทางกัน มีผู้ใหญ่ 4 คน คือ ผมและภรรยา กับ พ่อและแม่ของผม (ุ65 ปี) พร้อมกับเด็กเล็ก 2 คน (1 ขวบและ 3 ขวบ)
ผมลงที่สนามบินเชียงใหม่ตามเวลา และกว่าจะรับกระเป๋า แล้วไปยื่นเอกสาร ก็ประมาณ 0820 ตอนยื่นไป พนักงานเค้าก็บอกว่า รอรับรถประมาณ 20 นาที ครับ ผมทุกคนก็เลย นั่งรอ นั่งรอจนเวลาผ่านไป ราวๆหนึ่ง ชั่วโมงผมจึงได้เดินออกไปถามตรงจุดรับรถ ว่าได้รถมาแล้วหรือยัง

คำตอบที่ได้คือว่า วันนี้ รถไม่พร้อมครับพี่ เพราะว่า ย้ายคาร์แคร์ใหม่ ต้องรอเค้าล้างแล้วค่อยไปรับอีกฟากของสนามบิน ซึ่งในใจผมก็คิดว่า อ่ะ ไม่เป็นไร รออีกหน่อยละกัน เพราะมาเที่ยวทริปแรกของปี ตั้งใจจะมาไหว้พระทำบุญด้วย เดี๋ยวจะพลอยเสียฤกษ์เสียยามไปหมด ซึ่งขณะที่ผมนั่งรอ (ข้างนอก ตรงจุดรับรถ ใครไปเชียงใหม่น่าจะเคยเห็น) ผมก็เห็นมีลูกค้าหลายรายเดินมาสอบถามตลอด ซึ่งสุดท้ายก็คงไม่ใช่ผมแค่คนเดียวแน่แน่แล้ว แบบนี้

จนสุดท้ายกว่าผมจะได้รถก็ปาเช้าไป 1025 และครอบครัวผม รวมถึงพ่อแม่และเด็กๆ ก็ต้องนั่งรอ รวมถึงไม่ได้ทานอะไรเลย เป็นเวลากว่า สองชั่วโมง
แล้วแผนเที่ยว จากทีแรก สิบโมง ผมควรจะได้ไหว้พระที่ดอยสุเทพ ผมยังต้องรอรับรถอยู่เลย สุดท้าย ผมไม่ได้ไหว้พระ ทั้งดอยสุเทพ ไม่ได้ไปดอยปุย ไม่ได้เที่ยวถ้ำเชียงดาว เพราะว่ากว่าผมจะไปถึงเชียงดาว ก็เกือบๆ ค่ำแล้ว และทำให้ผมเที่ยวผมในวันถัดไป กระทบหมดเลย

และนอกจากนี้ ตอนที่ผมนำรถมาคืนที่สนามบิน ผมก็ให้พนักงานรับรถ ดูรถ เรียบร้อย น้องเค้าก็บอกว่านำใบรับรถไปแจ้งที่เคาเตอร์ได้เลยคครับ
พอผมนำใบรับรถไปคืน กลับโดนเจ้าหน้าที่บอกว่า รถคุณมีคราบยางมะตอย เกาะ ต้องโดนค่าปรับ เพิ่มเติม อีก 3200 บาท ซึ่งคำถามของผมคือว่า แล้วทำไม ตอนที่ผมคืนรถ พนักงานไม่บอกผมซักคำ และเครื่องของผมก็กำลังจะออกแล้ว สุดท้ายผมก็ต้องยอมจ่ายค่าปรับไปอีก 3200 บาท

ซึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมดในครั้งนี้ ผมจะถือเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ผมจะใช้บริการของเอวิส (ผมยังมีแผนเดินทางอีก สามสี่จังหวัด ภายในต้นปีนี้)
และจะไม่ขอใช้บริการบริษัทนี้อีก

หวังว่าเรื่องราวทั้งหมดที่ผมเจอ คงเป็นข้อเตือนใจสำหรับเพื่อนๆ ทุกท่าน และหวังว่าทุกท่านคงจะไม่เจอประสบการณ์แบบผมครับ

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่