ระวังไป work and travel มีอะไรมากกว่าที่คิด
San Diego,Califonia
มันเริ่มต้นที่ว่า เรากับเพื่อนอยากไปwork and travel ที่ USA อยากได้ประสบการณ์ ภาษา ฯลฯ แต่สิ่งที่ได้มันมากกว่านั้น !!!เริ่มจากตอนแรกเรากับเพื่อนก็ไม่รู้ว่าจะไปบริษัทไหนดี ไม่มีประสบการณ์ในการไปwork and travel มาก่อน ตอนแรกๆก็หาข้อมูลผ่านทาง pantip บ้าง ถามเพื่อนที่เคยไปบ้าง แต่ละคนต่างก็ให้ความเห็นไม่ตรงกัน แล้วทำไงล่ะ?? งงดิ เรากับเพื่อนหาข้อมูลอยู่เดือนนึง เราก็ตัดสินใจลองไปถามข้อมูลกับบริษัทหนึ่งดู ขึ้นต้นด้วยตัว A เป็นบริษัทใหญ่อยู่นะ พอเข้าไป พนักงานก็ถามเรากับเพื่อนว่าอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษหรือป่าว ตอนนั้นก็ยังไม่มีในใจ พนักงานก็บริการดี แทบจะคุกเข่ามาเสิร์ฟน้ำ555 อาจจะเว่อร์ไปหน่อย แต่มันค่อนข้างจะจริง แถมยังเสนอ(แทบจะยัดเยียด)ให้เราไปสวนสนุกอีก ไอ้เราก็ไม่ชอบสวนสนุกซะด้วย พูดไปให้น้ำลายแห้งก็ไม่สมัครหรอก 555555 พอสักพักก็ให้เราเข้าไปสัมภาษณ์ในห้องแบบตัวต่อตัว เอ้ย พูดใส่เราเป็นชุดๆ ทำไงล่ะ อึ้งดิ ตอบไม่ได้ แถมราคาก็ค่อนข้างแพงอีก ถ้าเทียบกับบริษัทอื่น ในที่สุดก็ยังตัดสินใจไม่ได้ เลยลองไปดูในเว็บ หาข้อมูลทบทวน และเปรียบเทียบอีกรอบ ในที่สุดเรากับเพื่อนก็เจอบริษัท Ihappy หน้าเว็บดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ แถมราคาก็ดันถูกกว่าชาวบ้าน พูดตรงๆกลัวโดนหลอก กลัวโดนเอาไปทิ้ง ไม่มีใครดูแล แต่ราคามันน่าสนใจ เพื่อนเราก็โทรไปถามข้อมูลกับทางบริษัท แล้วเพื่อนก็บอกว่าบริษัทนี้น่าสนใจดีนะ เราก็ยังติดที่ว่า หน้าเว็บมันดูไม่สวย ไม่น่าเชื่อถือ แต่เพื่อนมันก็ยังยัดยื้อจะให้โทร สุดท้าย ตัดสินใจ ....โทรก็ได้วะ!!
เสียงตู้ด ตู้ดในในหู เราก็คิดในใจนะ สงสัยเพื่อนมันเห็นว่าถูก เลยให้กูโทร พอคุยกับพนักงานทางโทรศัพท์ เห้ยยยยยย.....ถ้าไม่โทรไป คงเสียดายแน่นอน พี่ๆที่ Ihappy ให้คำแนะนำดีมาก ถามอะไรตอบได้ทุกอย่าง ถ้าจะบอกว่าเป็นอับดุลเลยก็ว่าได้ ฮ่าๆๆๆๆ พอเราวางหูโทรศัพท์ ก็ชวนเพื่อนเข้าไปสมัครในบริษัทเลย ไม่ต้องคิดให้มันยุ่งยาก ในใจเรากับเพื่อนก็คิดแล้วแหละ ไปสมัครชัวร์ แต่ก็ลองแบบถามนู่น ถามนี่ดู เสียเงินทั้งทีก็ต้องเอาให้คุ้มจริงปะ ฮ่าๆๆๆ พอไปถึงบริษัทเค้าก็เปิดรูปเด็กเก่าๆที่ไปwork and travel มา ดันเจอเพื่อนที่เรารู้จักไปกับบริษัทนี้ ตัดสินใจทันที สมัครเหอะ !
ขั้นตอนการสมัคร เราก็จ่ายเงิน 5,000 เพื่อเป็นค่ามัดจำ จากนั้นเค้าก็ให้เราทำแบบทดสอบภาษาอังกฤษ อารมณ์แบบภาษาอังกฤษพื้นฐาน หลังจากเราทำเสร็จเค้าก็จะตรวจแล้วบอกคะแนน ปล.เราได้ไม่ถึงครึ่งอะ แทบร้องไห้ แต่ก็โอเคอ่ะ คนเราเกิดมาไม่ได้เก่งไปซะทุกเรื่อง แล้วก็ทำใจ 55555 ก่อนจะกลับพี่ๆเค้าก็บอกว่า เดี๋ยวจะมีคนโทรไปสัมภาษณ์นะ จะได้วัดระดับภาของน้อง ไอ้เราก็คิด เห้ย สอบแล้วยังมีสัมภาษณ์อีกเหรอ ตื่นเต้นนนนนนนนนนน!!!
หลังจากนั้นอาทิตย์เดียวก็โทรมาสัมภาษณ์เรา ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี อาจจะเป็นเพราะโชคชะตา หรือฟ้าลิขิตมา อันนี้ก็ไม่รู้5555 ดีใจแทบปิดซอยเลี้ยง ผ่านหมดทุกอย่างแล้ว ต่อไปก็คือ “การเลือกงาน” เราจะต้องดูงานที่มันอัพเดทในเว็บอยู่ตลอด ถ้าเราอยากได้งานอะไร และระดับภาษาเราตรงตามความต้องการก็เลือกได้ พี่ๆเค้าจะโทรมาถามเสมอๆ มีงานนู้นงานนี้เข้ามานะ น้องสนใจไหม??? ไม่เคยเจอบริษัทไหนสนใจเด็ก และโทรมาถามมากขนาดนี้ บางทีก็อยากจะแอบถามว่า พี่คะๆ นี่ค่าโทรศัพท์ฟรีหรือป่าว??? 55555555 เพื่อนเราเลือกที่จะไป San Francisco เราก็อยากไปด้วยนะ เพราะการมันต่างประเทศครั้งแรกมันน่ากลัว ไม่รู้จักใคร ไม่รู้วัฒนธรรม แต่สุดท้ายเราก็อดไปเพราะตำแหน่งเต็มแล้ว แอบร้องไห้อยู่ในใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ T T ในที่สุดเราก็เลือกงานที่ San Diego ,Califonia เป็น Scooper ที่ร้าน Crunchtime Popcornแอ๊ะ!!!! เดี๋ยวก่อน ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อเลย ไอ้เราก็ไม่รู้จักบอกเลย 55555 ที่เลือกไปเพราะเปิดกูเกิลดู เมืองดูเจริญ และ น่าอยู่ แถมยังอยู่ Califonia อยู่โซนเดียวกับเพื่อน แต่คนละเมือง เอาว่ะ ตัดสินใจเลือก !!!!
พอเลือกงานเสร็จ เราก็ต้องสัมภาษณ์กับ Agent ที่อเมริกา ซึ่งก่อนที่จะสัมภาษณ์เราก็ต้องจ่ายเงิน 3,500 บาท เมื่อเราสัมภาษณ์ผ่าน ก็จ่ายอีก 32,500 หลังจากผ่านสัมภาษณ์แล้วเราก็จะต้องไปทำวีซ่าโดยจ่ายเงิน 8,200บาท และขั้นตอนสุดท้ายก็คือการจองตั๋วเครื่องบิน เราสามารถจองเองก็ได้ หรือจะให้พี่ๆเค้าช่วยหาและจองก็ได้ แต่เรากับเพื่อนเลือกจะจองเอง เพราะเราจะเลือกได้ว่าอยากไปหยุดที่ประเทศไหน ตั๋วเครื่องบินของเราราคา 32,450 อาจจะแพงไปนิด แต่ก็คุ้มนะ เพราะสามารถเลื่อนตั๋วได้ สรุปรายจ่าย ตกประมาณ 81,650 เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นถือว่าบริษัท ihappy ถูกมาก และพี่ๆยังดูแลดีอีก
เอาล่ะ บินไป San Diego กัน ไปดูสิว่ามันจะสวยเหมือนในรูปป่าว??
ระวัง จะตกหลุมรัก San Diego!!!! ขอเตือนไว้ก่อน++
มาถึงแล้วก็ต้องเดินชมเมือง.....
อันนี้คือบริเวณจุดชมวิวตรงสะพานข้ามไปฝั่ง Coronado จะบอกว่าสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มากกกกกกกกกกกกก และมากที่สุด อยู่ แถว San Diego Convention Center
เดินไปเรื่อยๆ หู่ยย อยากได้เรือสักลำ ดูหะหรูหะหรามาก
แถวๆนี้จะเป็นสวนสาธารณะ ตอนเย็นจะมีคนมาวิ่งรอบๆ มีสนามบาส และกิจกรรมอื่นๆให้ทำอีกมากมาย ปล.จขกท แอบไปส่องบ่อยๆ555
รถไฟฟ้าใน Downtown
สตอเบอรรี่ถูก ใหญ่ และอร่อยมาก กล่องละ 2 เหรียญเอง
ถ่ายจากมุมสูง สวยมาก
งาน Comic con day ผู้คนจะแต่งตัวเลียนแบบตัวละครที่ชอบ เป็นงานที่รวบรวมหนัง และการ์ตูน ถือว่าเป็นงานที่ใหญ่สำหรับ San Diego
San Diego Safari Park
ร้าน ไอศกรีม บริเวณ Little Italy
Black Beach
สถานีรถไฟ Amtrack
Old Town
Hillcrest
มีหมูเกาหลีให้กินด้วยนะ ฟินไปดิ อิอิ
อันนี้เป็นมุมจากAttitude Sky Lounge เวลามีแข่งเบสบอลคนจะเยอะมากๆ เราสามารถมองเห็นวิวSan Diego และยังเห็นการแข่งขันจากสนามเบสบอลด้วย จะบอกว่าคุ้ม!
Farmer Market ทุกวันเสาร์
จากการที่ทำงานไปด้วย เที่ยวไปด้วย เห็นเงินทีแทบน้ำตาแทบไหล คิดในใจ ได้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย รวมๆกันแล้ว ได้มาเกือบ 170,000บาท หักต้นทุน เหลือกำไรเน้นๆ 60,000บาท ได้ของมาอีกเยอะแยะ อาจจะได้ไม่เยอะสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเราถือว่าโอเคเลย
รูปสุดท้ายเป็นรูปที่ถ่ายจาก La Jolla Cove Seal Beach ฮ่าๆ มีคนถ่ายให้ จขกท ขอเก็บเป็นความลับ
การไป work and travel ครั้งนี้ คือ คุ้มมาก อยากกลับไปอีกถ้ามีโอกาส เราได้เจอทั้งคนที่ช่วยเหลือเรา และไม่ได้ช่วยเหลือเรา ทำให้เราสมารถ เรียนรู้นิสัยของคน และสามารถเติบโตขึ้นไปได้อีกก้าวหนึ่ง ส่วนภาษาจขกท รู้สึกว่า ถ้าเราไม่ขวนขวายด้วยตัวเอง ก็ไม่มีใครช่วยเราได้ ดังนั้น การที่ทุกคนจะประสบความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่ที่ตัวเราเอง ถ้าเพื่อนๆอยากได้ข้อมูลกับการไป work and travel ถามได้นะ เราไม่กัด อิอิ
ระวังไป work and travel มีอะไรมากกว่าที่คิด!!!
San Diego,Califonia
มันเริ่มต้นที่ว่า เรากับเพื่อนอยากไปwork and travel ที่ USA อยากได้ประสบการณ์ ภาษา ฯลฯ แต่สิ่งที่ได้มันมากกว่านั้น !!!เริ่มจากตอนแรกเรากับเพื่อนก็ไม่รู้ว่าจะไปบริษัทไหนดี ไม่มีประสบการณ์ในการไปwork and travel มาก่อน ตอนแรกๆก็หาข้อมูลผ่านทาง pantip บ้าง ถามเพื่อนที่เคยไปบ้าง แต่ละคนต่างก็ให้ความเห็นไม่ตรงกัน แล้วทำไงล่ะ?? งงดิ เรากับเพื่อนหาข้อมูลอยู่เดือนนึง เราก็ตัดสินใจลองไปถามข้อมูลกับบริษัทหนึ่งดู ขึ้นต้นด้วยตัว A เป็นบริษัทใหญ่อยู่นะ พอเข้าไป พนักงานก็ถามเรากับเพื่อนว่าอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษหรือป่าว ตอนนั้นก็ยังไม่มีในใจ พนักงานก็บริการดี แทบจะคุกเข่ามาเสิร์ฟน้ำ555 อาจจะเว่อร์ไปหน่อย แต่มันค่อนข้างจะจริง แถมยังเสนอ(แทบจะยัดเยียด)ให้เราไปสวนสนุกอีก ไอ้เราก็ไม่ชอบสวนสนุกซะด้วย พูดไปให้น้ำลายแห้งก็ไม่สมัครหรอก 555555 พอสักพักก็ให้เราเข้าไปสัมภาษณ์ในห้องแบบตัวต่อตัว เอ้ย พูดใส่เราเป็นชุดๆ ทำไงล่ะ อึ้งดิ ตอบไม่ได้ แถมราคาก็ค่อนข้างแพงอีก ถ้าเทียบกับบริษัทอื่น ในที่สุดก็ยังตัดสินใจไม่ได้ เลยลองไปดูในเว็บ หาข้อมูลทบทวน และเปรียบเทียบอีกรอบ ในที่สุดเรากับเพื่อนก็เจอบริษัท Ihappy หน้าเว็บดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ แถมราคาก็ดันถูกกว่าชาวบ้าน พูดตรงๆกลัวโดนหลอก กลัวโดนเอาไปทิ้ง ไม่มีใครดูแล แต่ราคามันน่าสนใจ เพื่อนเราก็โทรไปถามข้อมูลกับทางบริษัท แล้วเพื่อนก็บอกว่าบริษัทนี้น่าสนใจดีนะ เราก็ยังติดที่ว่า หน้าเว็บมันดูไม่สวย ไม่น่าเชื่อถือ แต่เพื่อนมันก็ยังยัดยื้อจะให้โทร สุดท้าย ตัดสินใจ ....โทรก็ได้วะ!!
เสียงตู้ด ตู้ดในในหู เราก็คิดในใจนะ สงสัยเพื่อนมันเห็นว่าถูก เลยให้กูโทร พอคุยกับพนักงานทางโทรศัพท์ เห้ยยยยยย.....ถ้าไม่โทรไป คงเสียดายแน่นอน พี่ๆที่ Ihappy ให้คำแนะนำดีมาก ถามอะไรตอบได้ทุกอย่าง ถ้าจะบอกว่าเป็นอับดุลเลยก็ว่าได้ ฮ่าๆๆๆๆ พอเราวางหูโทรศัพท์ ก็ชวนเพื่อนเข้าไปสมัครในบริษัทเลย ไม่ต้องคิดให้มันยุ่งยาก ในใจเรากับเพื่อนก็คิดแล้วแหละ ไปสมัครชัวร์ แต่ก็ลองแบบถามนู่น ถามนี่ดู เสียเงินทั้งทีก็ต้องเอาให้คุ้มจริงปะ ฮ่าๆๆๆ พอไปถึงบริษัทเค้าก็เปิดรูปเด็กเก่าๆที่ไปwork and travel มา ดันเจอเพื่อนที่เรารู้จักไปกับบริษัทนี้ ตัดสินใจทันที สมัครเหอะ !
ขั้นตอนการสมัคร เราก็จ่ายเงิน 5,000 เพื่อเป็นค่ามัดจำ จากนั้นเค้าก็ให้เราทำแบบทดสอบภาษาอังกฤษ อารมณ์แบบภาษาอังกฤษพื้นฐาน หลังจากเราทำเสร็จเค้าก็จะตรวจแล้วบอกคะแนน ปล.เราได้ไม่ถึงครึ่งอะ แทบร้องไห้ แต่ก็โอเคอ่ะ คนเราเกิดมาไม่ได้เก่งไปซะทุกเรื่อง แล้วก็ทำใจ 55555 ก่อนจะกลับพี่ๆเค้าก็บอกว่า เดี๋ยวจะมีคนโทรไปสัมภาษณ์นะ จะได้วัดระดับภาของน้อง ไอ้เราก็คิด เห้ย สอบแล้วยังมีสัมภาษณ์อีกเหรอ ตื่นเต้นนนนนนนนนนน!!!
หลังจากนั้นอาทิตย์เดียวก็โทรมาสัมภาษณ์เรา ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี อาจจะเป็นเพราะโชคชะตา หรือฟ้าลิขิตมา อันนี้ก็ไม่รู้5555 ดีใจแทบปิดซอยเลี้ยง ผ่านหมดทุกอย่างแล้ว ต่อไปก็คือ “การเลือกงาน” เราจะต้องดูงานที่มันอัพเดทในเว็บอยู่ตลอด ถ้าเราอยากได้งานอะไร และระดับภาษาเราตรงตามความต้องการก็เลือกได้ พี่ๆเค้าจะโทรมาถามเสมอๆ มีงานนู้นงานนี้เข้ามานะ น้องสนใจไหม??? ไม่เคยเจอบริษัทไหนสนใจเด็ก และโทรมาถามมากขนาดนี้ บางทีก็อยากจะแอบถามว่า พี่คะๆ นี่ค่าโทรศัพท์ฟรีหรือป่าว??? 55555555 เพื่อนเราเลือกที่จะไป San Francisco เราก็อยากไปด้วยนะ เพราะการมันต่างประเทศครั้งแรกมันน่ากลัว ไม่รู้จักใคร ไม่รู้วัฒนธรรม แต่สุดท้ายเราก็อดไปเพราะตำแหน่งเต็มแล้ว แอบร้องไห้อยู่ในใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ T T ในที่สุดเราก็เลือกงานที่ San Diego ,Califonia เป็น Scooper ที่ร้าน Crunchtime Popcornแอ๊ะ!!!! เดี๋ยวก่อน ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อเลย ไอ้เราก็ไม่รู้จักบอกเลย 55555 ที่เลือกไปเพราะเปิดกูเกิลดู เมืองดูเจริญ และ น่าอยู่ แถมยังอยู่ Califonia อยู่โซนเดียวกับเพื่อน แต่คนละเมือง เอาว่ะ ตัดสินใจเลือก !!!!
พอเลือกงานเสร็จ เราก็ต้องสัมภาษณ์กับ Agent ที่อเมริกา ซึ่งก่อนที่จะสัมภาษณ์เราก็ต้องจ่ายเงิน 3,500 บาท เมื่อเราสัมภาษณ์ผ่าน ก็จ่ายอีก 32,500 หลังจากผ่านสัมภาษณ์แล้วเราก็จะต้องไปทำวีซ่าโดยจ่ายเงิน 8,200บาท และขั้นตอนสุดท้ายก็คือการจองตั๋วเครื่องบิน เราสามารถจองเองก็ได้ หรือจะให้พี่ๆเค้าช่วยหาและจองก็ได้ แต่เรากับเพื่อนเลือกจะจองเอง เพราะเราจะเลือกได้ว่าอยากไปหยุดที่ประเทศไหน ตั๋วเครื่องบินของเราราคา 32,450 อาจจะแพงไปนิด แต่ก็คุ้มนะ เพราะสามารถเลื่อนตั๋วได้ สรุปรายจ่าย ตกประมาณ 81,650 เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นถือว่าบริษัท ihappy ถูกมาก และพี่ๆยังดูแลดีอีก
เอาล่ะ บินไป San Diego กัน ไปดูสิว่ามันจะสวยเหมือนในรูปป่าว??
ระวัง จะตกหลุมรัก San Diego!!!! ขอเตือนไว้ก่อน++
มาถึงแล้วก็ต้องเดินชมเมือง.....
อันนี้คือบริเวณจุดชมวิวตรงสะพานข้ามไปฝั่ง Coronado จะบอกว่าสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มากกกกกกกกกกกกก และมากที่สุด อยู่ แถว San Diego Convention Center
เดินไปเรื่อยๆ หู่ยย อยากได้เรือสักลำ ดูหะหรูหะหรามาก
แถวๆนี้จะเป็นสวนสาธารณะ ตอนเย็นจะมีคนมาวิ่งรอบๆ มีสนามบาส และกิจกรรมอื่นๆให้ทำอีกมากมาย ปล.จขกท แอบไปส่องบ่อยๆ555
รถไฟฟ้าใน Downtown
สตอเบอรรี่ถูก ใหญ่ และอร่อยมาก กล่องละ 2 เหรียญเอง
ถ่ายจากมุมสูง สวยมาก
งาน Comic con day ผู้คนจะแต่งตัวเลียนแบบตัวละครที่ชอบ เป็นงานที่รวบรวมหนัง และการ์ตูน ถือว่าเป็นงานที่ใหญ่สำหรับ San Diego
San Diego Safari Park
ร้าน ไอศกรีม บริเวณ Little Italy
Black Beach
สถานีรถไฟ Amtrack
Old Town
Hillcrest
มีหมูเกาหลีให้กินด้วยนะ ฟินไปดิ อิอิ
อันนี้เป็นมุมจากAttitude Sky Lounge เวลามีแข่งเบสบอลคนจะเยอะมากๆ เราสามารถมองเห็นวิวSan Diego และยังเห็นการแข่งขันจากสนามเบสบอลด้วย จะบอกว่าคุ้ม!
Farmer Market ทุกวันเสาร์
จากการที่ทำงานไปด้วย เที่ยวไปด้วย เห็นเงินทีแทบน้ำตาแทบไหล คิดในใจ ได้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย รวมๆกันแล้ว ได้มาเกือบ 170,000บาท หักต้นทุน เหลือกำไรเน้นๆ 60,000บาท ได้ของมาอีกเยอะแยะ อาจจะได้ไม่เยอะสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเราถือว่าโอเคเลย
รูปสุดท้ายเป็นรูปที่ถ่ายจาก La Jolla Cove Seal Beach ฮ่าๆ มีคนถ่ายให้ จขกท ขอเก็บเป็นความลับ
การไป work and travel ครั้งนี้ คือ คุ้มมาก อยากกลับไปอีกถ้ามีโอกาส เราได้เจอทั้งคนที่ช่วยเหลือเรา และไม่ได้ช่วยเหลือเรา ทำให้เราสมารถ เรียนรู้นิสัยของคน และสามารถเติบโตขึ้นไปได้อีกก้าวหนึ่ง ส่วนภาษาจขกท รู้สึกว่า ถ้าเราไม่ขวนขวายด้วยตัวเอง ก็ไม่มีใครช่วยเราได้ ดังนั้น การที่ทุกคนจะประสบความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่ที่ตัวเราเอง ถ้าเพื่อนๆอยากได้ข้อมูลกับการไป work and travel ถามได้นะ เราไม่กัด อิอิ