[Trip]หนีร้อน...On the way ภูเก็ต to เชียงราย 8วัน 4443 km.[ตอน3]

ความเดิมตอนที่แล้ว   ตอนที่1   http://pantip.com/topic/34668324
ความเดิมตอนที่แล้ว   ตอนที่2   http://pantip.com/topic/34668558

ต่อจากตอนที่แล้วที่เรากำลังมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงราย
เจอวัดสวยๆก็แวะถ่ายรูป


บ่ายโมงใกล้ตัวเมืองเชียงรายแล้ว ก่อนเข้าเมืองเห็นป้ายวัดร่องขุนเลี้ยวซ้าย ไม่รอช้ารีบเลี้ยวเข่าเช็ดพื้นไปชมความงดงามของศิลปะไทยกับวัดที่มีชื่อเสียงระดับโลก เคยดูแต่ในทีวี ได้เห็นตัวจริงก็วันนี้ อลังการงานสร้างจริงๆ คนเยอะมากทั้งไทยจีนฝรั่งแขกลาว



ชมวัดจนเพลินกว่าจะถึงที่พักก็ปาเข้าไปบ่ายสามครึ่ง วันนี้ผมพักโฮสเทลตามคอนเซ็ปเดิม ชื่อHappy Nest Hostel ราคา450บาทต่อเตียงรวมอาหารเช้าแบบฝรั่ง ขอบอกว่าผมชอบโฮสเทลที่นี่มาก ตกแต่งแบบฮิปเสตอร์ ดิบๆ ใช้ไม้ อิฐ ปูน มีของเก่ามาประดับ โรงแรมมีสี่ชั้น ชั้น1เป็นลอบบี้ ที่นั่งพัก ครัวทำอาหาร ชั้น234เป็นห้องพักและมีมุมพักผ่อนแต่ละชั้น ดูโปร่งโล่ง สบาย ดูเรียบง่ายแต่มีอะไรซ่อนอยู่ ดูไม่เยอะแต่มีเสน่มาก คะแนนผมให้9.78เต็ม10เลย










รถจอดริมถนนหน้าโรงแรมไว้ ไม่ต้องห่วงเพราะลอบบี้มีคนเฝ้า24ชม.หลังจากเก็บข้าวของก็เปิดมือถือดูที่เที่ยวน่าสนใจ ทีแรกว่าจะไปแม่สาย แต่ระยะทางไกลอีก60กิโล เลยเลือกไปแม่สลองแทน หารู้ไม่ ระยะทางพอๆกัน เริ่มออกจากโฮสเทลสี่โมงเย็นพอดี ต้องรีบทำเวลา เพราะกลัวจะมืดซะก่อน


ทางขึ้นดอยสวย วิ่งไต่เขาไปเรื่อยๆ รู้สึกได้ถึงความเย็น



ผ่านไร่ชา 101 บนเขานี้มีแต่ไร่ชา รู้สึกแปลกตาเพราะทางใต้มีแต่ไร่ยางไร่ปาล์ม




ผ่านหมู่บ้านชาวเขาเผ่า…



บนแม่สลองนี้ผมว่าเป็นที่ที่น่ามาพักอย่างยิ่ง ทั้งอากาศดี โรงแรมก็มีไม่มาก ชาวเขาก็ใช้ชีถีชีวิตแบบเดิม ไม่ได้แต่งเสริมเติมแต่งเหมือนที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ปลูกชามาก็ปลูกชาต่อ ไม่ต้องเอาแกะเอาแพะมาเลี้ยงสร้างจุดขายการท่องเที่ยวผมว่ามั่นไม่ยั่งยืน จุดขายที่ยั่งยืนคือวิถีชีวิตแบบเดิมๆมันมีสเน่ในตัวอยู่แล้ว มีความดิบ แม่สลองเป็นที่ที่ผมประทับใจมากอีกที่หนึ่ง ผมจะกลับมาอีกครั้งถ้ามีโอกาส มาเดินเล่นในหมู่บ้านชาวเขาที่ไม่ถูกโลกสมัยใหม่กลืนกิน ผมว่าคล้ายเมืองซาปาของประเทศเวียตนามที่ผมไป เหมือนได้หลุดเข้าไปในไทมเมตชีนย้อนเวลาไปสู่เมืองเก่า สุดยอดจริงๆครัชช..แม่สลอง


ขึ้นมาถึงยอดพระธาตุเจดีย์ตอนห้าโมงครึ่ง อากาศเย็นจนมือสั่น เหมือนมีการปรับปรุงพระธาตุอยุ่ ตัวจริงคงจะสวยน่าดู



ขากลับลงเขามืดพอดีขี่ตามรถยนต์ลงมาเรื่อยๆอย่างระมัดระวัง เพราะโค้งหัดศอกเยอะมาก มือใหม่ถ้าไม่ชินไม่แนะนำขี่กลางคืนบนแม่สลอง ขี่มาเรื่อยใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆก็ถึงที่พักด้วยความเหนื่อยล้า แวะทานข้าวมันไก่ใกล้ที่พัก แล้วก็ไม่ลืมซื้อช้างหนึ่งเชือกติดไม้ติดมือไปนอนด้วย 55+



ที่นี่มือคนมาพักเยอะ ทั้งฝรั่งและหนุ่มสาวไทย สาวเหนือน่ารักมาก ผมออกมานั่งวางแผนการเดินทางที่หน้าโฮสเทล ชมบรรยากาศเมืองไปด้วย จิบช้างเบาๆก่อนเข้านอน ผมตัดสินใจไปแม่สอดจากแผนเดิมจะยิงตรงกลับไปทางสุโขทัย เพราะคิดว่าไหนๆก็มาแล้ว จัดเต็มไปเลย จองที่พักเสร็จก็นั่งเหล่สาวเหนือไปจนสี่ทุ่ม ก็ไปอาบน้ำนอนพักผ่อนพร้อมเดินทางอีกยาวไกลในวันพรุ่งนี้


แล้ววันนี้ผมก็เดินทางมาถึงเป้าหมายที่ผมตั้งใจไว้แล้ว เชียงราย ดินแดนทางเหนือสุดของไทย แต่ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง เป้าหมายที่แท้จริงคือบ้าน บ้านที่มีทุกคนที่ผมรักรออยู่ รอให้ผมกลับไปเล่าเรื่องราวดีๆให้ฟัง ผมจึงต้องมีสติในการขับขี่ตลอดเวลาขอบคุณประสบการณ์ขี่มอเตอร์ไซค์กว่าสองปีที่อาจจะดูน้อยแต่ก็พาผมมาถึงเชียงรายได้ด้วยความปลอดภัย เหมือนที่ไบเกอร์คนนึงได้กล่าวไว้ว่าจุดหมายไม่ได้สำคัญกว่าข้างทาง และเราไม่ได้ต้องการจะไปถึงจุดหมายไห้เร็วที่สุด เราต้องการจะเสพบรรยากาศข้างทางไห้มากที่สุดต่างหาก
สรุปการเดินทางวันนี้ ระยะทางจากเขาค้อถึงเชียงรายระยะทางประมาณ 530km. ขี่เที่ยวไปกลับแม่สลองอีกกว่า100km. เส้นทางช่วงอกจากเขาค้อผ่านแคมป์สนมีโค้งพอสมควร ต้องขับแบบระมัดระวัง ช่วงเช้าๆมีหมอก อากาศเย็นจนมือชา วิวสวยมาก มองเห็นเทือกเขาสลับซับซ้อน บ้างโค้งระยะมองจำกัดต้องขับระวัง แต่ถ้าหลุดเข้าถนนสายเอเชีย พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ เป็นเส้นตรงยาวๆ ขับๆอาจง่วงได้ ช่วงเข้าเชียงรายมีโค้งขึ้นลงเขาถนนสองเลนส์ผิวถนนมีชำรุดบ้าง แต่วิวข้างทางสวย อากาศเย็น
-รายละเอียดค่าใช้จ่าย วันที่4    
น้ำเปล่าX2 = 20 บาท,น้ำมะพร้าว = 25 บาท,ข้าวมันไก่พิเศษ = 45 บาท,ข้าวมันไก่ = 40 บาท,ช้าง+จิปาถะ = 90 บาท
ค่ำน้ำมัน 150 + 150+140+130+150 = 720 บาท
ที่พัก = 450 บาท
รวมค่าใช้จ่ายวันนี้ = 1390 บาท
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตีห้าหัวรุ่งได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก ลุกขึ้นแบบเงียบๆ เกรงใจเพื่อนร่วมห้อง รีบอาบน้ำแล้วควบเจ้าม้าศึกออกวิ่งตั้งแต่เช้ามืด


ผ่านบรรยากาศตัวเมืองแบบทางเหนือ เป็นบ้านเมืองเก่าๆบ้านไม้ ที่แถวบ้านผมไม่มี รู้สึกอิ่มใจที่ได้เห็นวิถีชีวิตสโลไลท์จริงๆ ขับๆช้าๆมองวิถีชีวิตข้างทางไปเรื่อยๆ เช้าๆมีชาวบ้านมาซื้อกับเข้า ตักบาตรทำบุญ การแต่งตัวที่นี่เห็นใส่เสื้อกันหนาวกันซึ่งไม่เคยเห็นนานมากแล้วที่ภูเก็ตเมืองร้อน



ตอนขี่ในหุบเขาช่วงเชียงรายไปเชียงใหม่ อากาศหนาวมาก พยายามทน จนสุดท้ายต้องงัดเสื้อกันฝนมาใส่กันหนาว พอกันหนาวได้บ้าง ทริปนี้เป็นครั้งเดียวที่ได้ใช้เสื้อกันหนาว ถึงว่าไม่เสียแรงที่พกมา



ขี่ผ่านวัดแบบทางเหนือ สวยงามไปอีกแบบ


ขับเส้นเลี่ยงเมืองเชียงใหม่ มีอยู่ช่วงหนึ่งผ่านตลาดสดเจอรถกระบะชาวบ้านเลี้ยวจากเลนนอกจะเข้าจอดหน้าตลาดสด ไอเราก็ขับช้าๆเลนใน เกือบชน ดีที่ผมขับช้า เบรคABSนี่ทำงานเลย ใจหายแว๊บ หันไปส่ายหัว พ่อลุงแกก็เปิดมายกไม้ยกมือขอโทษ ผมก็ไม่อยากมากเรื่องเลยขับออกมาไปต่อ มาช่วงชานเมืองเชียงใหม่ก็เจอด่านเรียกตรวจอีก ใจแป้วเพราะป้ายทะเบียนก็ใช้ป้ายแดง ท่อก็เสียงดัง โดนโบกจอดรถ พยายามยิ้มสู้เสือ คุณตำรวจถามว่าจะไปไหนมาจากไหน ผมก็บอกว่ามาจากภูเก็ตลงมาจากเชียงรายกำลังจะไปแม่สอด แกก็บอกว่าเป็นคนใต้หรอ แกเองก็เป็นคนพัทลุงมาทำงานที่นี่นานแร้วคิดถึงบ้าน เลยคุยกันถูกคอ ขอตรวจค้นเล็กน้อยๆพอเป็นพิธี แล้วก็ปล่อยพร้อมอวยพรให้เดินทางปลอดภัย ผมคิดว่าจริงๆแล้วเจ้าหน้าที่ดีดีก็มีนะครับ เพียงแต่คนที่ทำไม่ดีมันทำให้ตำรวจดีดีต้องคอยติดภาพลบแย่ๆไปด้วย ผมขี่ต่อจนก่อนเที่ยงแวะทานข้าวมันไก่ก่อนเข้าถนนเลียบแม่น้ำแม่แจ่มในเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวง ทางดี ป่าสวย ขับกันเพลิน



ผ่านอุทยาน


ผ่านสวนสน เป็นครั้งแรกที่ได้เจอสวนสนใหญ่ๆแบบนี้ ทางใต้ไม่มี เลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ ไม่รอช้าเลี้ยงเช้าไปดื่มด่ำและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่อยู่ได้ไม่นานเพราะระยะทางวันนี้ยังอีกยาวไกล น่าเสียดายอยากจะอยู่ให้นานกว่ามี แต่ไม่เป็นไรยังไงสวนสนนี้ก็ยังอยู่ในประเทศไทย มาเมื่อไหร่ก็เจอ


ไม่แน่ใจว่าชื่อสวนสนบ่อแก้วมั๊ย!!!แต่สวยมาก


เห็นป้ายนี้ในมือถือแล้วหลอนมากครับ อมก๋อย! เรื่องมันมีอยู่ว่า ช่วงทางแยกดอยกิ่วลม ขับมาเพลินๆกับบรรยากาศป่าสนข้างทาง ลมเย็นๆ เลยมองป้ายพลาดไป ดันเลี้ยวผิด แทนที่จะไปตรง แล้วดันเลี้ยวซ้ายไปทางอมก๋อย



ช่วงนี้ยังไม่รู้ตัวครับ ขนาดเปิดจีพีเอสดูก็ยังไม่รู้ตัวว่ามาผิดทาง ขับไปเรื่อยๆ รู้สึกเพลินกับเส้นทางมากกว่า แล้วก็ขับลึกไปอีก อมก๋อย ๆๆๆๆๆ



ดูวิวข้างทางซิครับไม่ให้เพลินได้ยังไง แวะดูจีพีเอสอีกครั้งก็ยังไม่รู้สึกตัว แต่เริ่มตะหงิดๆเพราะมองหลักกิโลแล้วไม่เจอคำว่าแม่สะเรียงเลย เพราะผมต้องวิ่งเข้าแม่สะเรียงไปก่อนไปแม่สอด แต่ก็ยังขับไปอีก


ผ่านทุ่งบัวตอง ซึ่งช่วงนี้โชคดีที่ยังพอมีดอกบัวตองให้เห็นบ้างข้างๆทาง เพราะเทศกาลทุ่งดอกบัวตองพึ่งจะผ่านไป ถือว่าโชดีครับ




ลิ้งต่อตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/34677149
ลิ้งต่อตอนที่ 5 http://pantip.com/topic/34700296
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่