เจ้าที่หอใน

กระทู้สนทนา
เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เราพบเจอมาเองค่ะ ประสบการณ์ตรงเลย
โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
ปล.ใครไม่เชื่อก็อย่าไปลบหลู่เนาะ ถือว่าอ่านเอาสนุกไปแล้วกันจ้า


เราเป็นคนกรุงเทพฯค่ะ แต่ว่าตอนนี้มาเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ ตอนนี้อยู่ปีสามแล้วค่ะ ไม่ได้อยู่หอในแล้ว
ตอนที่เข้าปีหนึ่งใหม่ๆเนี่ย ทางมหาวิทยาลัยเค้าก็จะพยายามให้เด็กที่มาจากต่างจังหวัดอยู่หอใน
(สมัยนั้นหอยังไม่ได้มีการปรับปรุงเลย สภาพเดิมคือเก่ามากกกก) โดยมีรูมเมทเป็นเพื่อนคณะเดียวกัน
สมมติว่าให้ชื่อ ‘เจ’ นะคะ
วันที่เปิดให้จองห้องพัก พอดีว่าวันนั้นเราต้องขึ้นเครื่องมาเชียงใหม่เพื่อรายงานตัวพอดี
ก็เลยฝากให้เจช่วยจองให้ เพราะหอจะเต็มเร็วมากๆ แล้วอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน
สรุปว่าสุดท้ายเราได้อยู่ห้องเดียวกันค่ะ อยู่ชั้นสอง และเป็นหอที่ค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่องผีของมอเลยทีเดียว (ห้องนึงพักได้สามคน)
เราก็เอาเลขห้องมาลองดูในแผนผังหอค่ะ
จากแผนผังเนี่ย คือห้องเราจะอยู่ใกล้บันไดขึ้น-ลงทางด้านหลังหอ ตอนนั้นดีใจมาก เพราะจะได้เดินขึ้น-ลงสะดวก



พอมาถึงวันที่ต้องย้ายของเข้าหอ มาเจอสภาพหอ บอกเลยว่าแอบกังวลนิดๆ เพราะเก่ามาก น่ากลัวด้วย
และห้องของเรานั้นนน อยู่ตรงทางสามแพร่งพอดี!!! และบันไดที่ว่าอยู่ใกล้ห้องก็ปิดตาย
ถ้ามองลงไปที่ชั้นล่างของบันไดก็จะพบว่าเขาเอาพวกเก้าอี้ ตู้ไม้เก่าไปเก็บไว้
เหมือนกลายเป็นที่เก็บของไป เพิ่มความน่ากลัวไปอีก
แล้วที่ระเบียงห้องเรามองลงไปจะเป็นศาลเจ้าที่พอดีเลยค่ะ คือบริเวณนั้นจะเป็นลานจอดรถที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่หลายต้น
พ่อเราพกฮู้กระดาษสีแดงมาด้วย แกก็สวดๆแล้วก็แปะไว้ให้ที่หน้าห้องเหนือประตู ป้องกันสิ่งไม่ดีตามความเชื่อ แล้วก็พาไปไหว้ศาลเจ้าที่ด้วย



ในห้องจะมีเตียงสองชั้นหนึ่งเตียง เตียงเดี่ยวอีกหนึ่งเตียง เจมาถึงก่อนเรา เลยจองเตียงเดี่ยวไปแล้ว
เราเลยได้นอนชั้นล่างของเตียงสองชั้น ช่วงใกล้เปิดเทอมพี่ๆก็นัดมาทำกิจกรรม เราเลยต้องอยู่หอกันแล้ว
แต่ก็อยู่กันแค่สองคน เพราะรูมเมทอีกคนซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครก็ยังไม่ย้ายเข้า ประตูห้องที่เป็นแบบลูกบิดปุ่มล็อคจะค้างตลอดเลย
คือเอากุญแจไขก็จะปลดล็อค เปิดประตูเข้าได้ แต่ปุ่มกดที่ลูกบิดจะค้าง เหมือนอยู่โรงแรมที่เป็นห้องล็อคอัตโนมัติ 5555
ปิดปุ๊บล็อคปั๊บ!



ถ้าอยู่ห้องคนเดียว แล้วออกมาเข้าห้องน้ำ โดยที่ไม่หยิบกุญแจห้องมาด้วย ก็เข้าห้องไม่ได้แล้ว
จนบางทีต้องใช้สกิลการใช้กิ๊บดำไขลูกบิดห้องเพราะไม่อยากไปรบกวนป้าหอ (แกดุอ้ะ)
เป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เรากับเจย้ายเข้ามา ไปแจ้งซ่อมไว้ก็ไม่เห็นมีใครมาทำอะไร

ผ่านไปสองอาทิตย์ รูมเมทคนที่สามก็ย้ายเข้ามา เราก็แนะนำตัวกัน เราก็บอกเพื่อนว่า
ประตูห้องเรามันไม่ดีนะ พกกุญแจด้วยล่ะ รูมเมทก็โอเคๆ พอนางเดินไปบิดประตูจะออกห้อง
แป๊กก!!! ปุ่มล็อคดีดขึ้นมาแล้ว
ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะ คิดว่า ‘เออ ดีว่ะ ไม่ต้องพกกุญแจไปเข้าห้องน้ำแล้ว’


ประตูห้องดีมาตลอดที่เราอยู่กันสามคน แต่เวลาแห่งความสุขอยู่ไม่นาน 5555
เปิดเทอมได้ไม่ถึงอาทิตย์ รูมเมทคนที่พึ่งย้ายเข้ามาก็บอกกับเราว่า ‘จะย้ายไปเรียนที่กรุงเทพ’ เราเลยต้องอยู่กับเจสองคนเหมือนเดิม
แล้วมันก็มาอีกแล้ววว ลูกบิดกลับมาล็อคค้างอีก
หนักสุดคือมีวันนึงเจไม่สบาย ขอกลับมานอนที่ห้องก่อน
พอเรากลับมา ไขกุญแจแล้วนะ แต่เปิดประตูไม่ได้ ก็ต้องเคาะให้เจมาเปิดให้ เพราะกลอนประตูที่เป็นแบบเลื่อนมันล็อคไว้อยู่
เจก็ยืนยันเลยว่า มันไม่ได้ล็อค เพราะห้องเราแค่ปิดประตูมันก็ล็อคอยู่แล้ว จะล็อคกลอนเลื่อนอีกทำไม
และปกติเราไม่ล็อคไอ้กลอนเลื่อนนี่กันอยู่แล้ว

หลังจากนั้นเดือนนึงได้ มีคนจะย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ ก็เป็นแบบเดิมอีกค่ะ คือเราบอกเค้าว่า ‘ประตูไม่ดีนะ’
พอนางจะออกห้อง แป๊กกก!!! ลูกบิดดีดเองอีกแล้วอ้ะ ประตูห้องกลับมาเป็นปกติไปเลย
ตอนนั้นเริ่มคิดแล้วว่าเจ้าที่ที่นี่อาจจะเป็นห่วงเราหรือเปล่า 55555



อยู่มาๆ ทำให้เรายิ่งเชื่อไปอีกว่าที่นี่มีเจ้าที่ที่ใจดีกับเรามากๆจริงๆ 55555
ต้องเกริ่นก่อนว่า เตียงที่เรานอนเป็นเตียงสองชั้น เรานอนชั้นล่าง เตียงจะวางติดผนังห้องซึ่งบางงงมากกกก
ห้องข้างๆเราก็เป็นเพื่อนคณะเดียวกัน สมมติว่าชื่อ ‘โอ’ นะคะ คือเหมือนเรานอนเตียงติดกันโดยมีผนังห้องกั้นไว้อ้ะค่ะ
ส่วนเจจะนอนเตียงเดี่ยวที่อยู่ทางด้านหัวเตียงของเรา นอนตั้งฉาก เอาหัวชนกันประมาณนั้น


วันนั้นเราทุกคนมีเรียนกันตอนแปดโมง เราเป็นตั้งนาฬิกาปลุกไว้หกโมง เผื่อเวลาสำหรับการแย่งชิงห้องอาบน้ำ
พอนาฬิกาปลุกเราก็กดปิด รอมันปลุกอีกทีตอนหกโมงครึ่ง เพราะง่วงๆ
แต่ก็หลับตาต่อได้พักเดียว เหมือนเป็นช่วงสะลึมสะลืออ้ะค่ะ
มีเสียงผู้หญิงมาพูดข้างหูเราว่า ‘ตื่น!!’ คือเป็นเสียงที่ชัดเจนมากๆ ไม่ได้ดังมากจนเป็นตะคอกนะคะ
แต่มีพลังมาก และรู้สึกถึงลมที่เป่าหูเย็นเยือกเลยค่ะ (พิมพ์อยู่นี่ขนยังลุกเลยค่ะ)

เราก็สะดุ้งขึ้นมานั่งเลย ตกใจมาก คิดว่าเพื่อนแกล้ง
หันไปดูเจ มันก็หลับอยู่ แถมหันหลังให้เราอยู่ด้วย
เราก็ตื่นจริงๆเลยค่ะ ไม่รอถึงหกโมงครึ่งแล้ว
เตรียมของไปอาบน้ำเลย พออาบเสร็จกลับมาที่ห้อง ปรากฏว่าโอมาที่ห้องคุยกับเจพึ่งเสร็จ
เราก็ถามว่ามีอะไรกัน โอก็เล่าว่า ก่อนที่มันจะตื่น มีเสียงผู้หญิงมาพูดข้างๆหูว่า 'โอ ตื่นได้แล้วลูก'
มันเลยสะดุ้งตื่นขึ้นมา เรานี่ก็ขนลุกเลย เจอเหมือนกันเลยว่ะแก เวลาก็ไล่เลี่ยกันด้วย




นี่แหละค่ะ เรื่องเกี่ยวกับหอในที่เรามีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นหนึ่งเทอม (ไม่อยู่สู้หน้าหนาว 5555)
สนุกสนานดีนะ ได้อะไรหลายอย่าง มีคนดูแลดีอีกต่างหาก



อ้อ ลืมเล่าว่าบริเวณลานจอดรถหลังหอนี้ เราเคยขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาตอนกลางคืนคนเดียว
แล้วมองที่เงารถที่พื้นอ้ะค่ะ แต่ที่เงาคือมีคนนั่งซ้อนท้ายเราอยู่ หลอนมากอ้ะ จ้ำสิคะรออะไร ตั้งขาตั้งแล้ววิ่งค่ะ 5555
ตรงนั้นกลางคืนน่ากลัวมากๆ ขนาดออกมาตากผ้าที่ระเบียงเรายังไม่กล้าจะมองลงมาเลย


ขอบคุณที่เข้ามาแวะอ่านกันนะคะ เท่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่