
ดาราอันดามัน นิยายเรื่องแรกในชีวิตผมจบและรวมเล่มไปแล้ว
ขอฝากนิยายเรื่องยาวเรื่องใหม่ " ภาพภพ " กำลังลงในนิตยสารหญิงไทย ท่านที่ชอบเรื่องราวความรักบนเส้นทางศิลปะ เกี่ยวพันย้อนไปสมัยปลายรัชกาลที่ 5 ยุคที่ช่างฝีมือจากอิตาลีเข้ามามีบทบาท ดำเนินเรื่องท่ามกลางความรัก ริษยาจนกลายเป็นอาฆาตข้ามชาติภพ เป็นวิญญาณที่ตามล่าในห้วงภวังค์
ขอฝากตอนหนึ่งใน ภาพภพ ให้ลองอ่านดูนะครับ
"....อเดลลาวางทุกอย่างลงที่เดิมแล้วปิดกล่อง ไล่สายตาไปยังกรอบโลหะสี่เหลี่ยมสีทองหม่นจับคราบสนิมเขียวเป็นหย่อม ล้อมรูปถ่ายขมุกขมัวเพราะหน้ากระจกจับฝุ่นหนา อเดลลาเอื้อมมือหยิบขึ้นมาด้วยความสนใจ ใช้นิ้วไล้คราบฝุ่นบนผิวกระจกออก ภาพถ่ายบุคคลสองคนกลายเป็นสีน้ำตาลหม่นซีดปรากฏขึ้นมาให้เห็น แต่ยังพอมองออกว่า ชายหนุ่มซึ่งนั่งหลังตรงท่าทางภูมิฐานบนเก้าอี้ไม้ทรงโบราณคือปู่ทวดจิอานโนอย่างแน่นอน ใบหน้าท่านยิ้มละไม ดูใจดีและอบอุ่น แม้ว่าบนใบหน้าจะประดับด้วยคิ้วดกดำและเรียวหนวดเหนือริมฝีปากก็ตาม ท่านสวมเสื้อคอตั้งซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วน่าจะเป็นสีขาว คล้องสายนาฬิกาพกแบบที่เรียกว่า Pocket watch ยึดปลายกับกระดุมเสื้อโยงมาเก็บตัวเรือนไว้ในกระเป๋าบนอกซ้าย ท่อนล่างนุ่งผ้าสีเข้มรวบเก็บ ชายเลยเข่าลงมาเล็กน้อย สวมถุงเท้าสีขาวรับกับรองเท้าหนังสีดำ ถัดลงมาด้านล่างคือเด็กหนุ่มผิวคล้ำ ใบหน้าเรียบเฉย มองมาด้วยดวงตาดำขลับบอกถึงเชื้อชาติตะวันออกชัดเจน เขานั่งพับเพียบ ก้มหลังเล็กน้อยบนพื้นใกล้กับเก้าอี้ สวมเสื้อแบบเดียวกันกับปู่ทวด ต่างกันตรงสีเข้มกว่าและชายเสื้อรวบเก็บเรียบร้อยไว้ในผ้านุ่ง คาดเอวด้วยผ้า ขมวดขายพกไว้ด้านหน้า เขาไม่สวมถุงเท้า แต่สวมรองเท้าสานโปร่ง อเดลลาเพิ่งสังเกตว่าเด็กหนุ่มคนนี้ คือคนเดียวกันกับในภาพวาดบนผนังนั่นเอง เมื่อเลื่อนสายตาลงมามองมุมล่างขวาของภาพ มีตัวอักษรจารึกด้วยลายมืองดงามเป็นระเบียบว่า
......................................La bella memoria …Siam
ครั้งหนึ่งของความทรงจำอันงดงามเมื่อนานมากแล้ว ของปู่ทวดจิอานโน ณ ดินแดนไกลโพ้น...สยาม "
ฝากนิยายเรื่องที่สอง "ภาพภพ" ครับ
ดาราอันดามัน นิยายเรื่องแรกในชีวิตผมจบและรวมเล่มไปแล้ว
ขอฝากนิยายเรื่องยาวเรื่องใหม่ " ภาพภพ " กำลังลงในนิตยสารหญิงไทย ท่านที่ชอบเรื่องราวความรักบนเส้นทางศิลปะ เกี่ยวพันย้อนไปสมัยปลายรัชกาลที่ 5 ยุคที่ช่างฝีมือจากอิตาลีเข้ามามีบทบาท ดำเนินเรื่องท่ามกลางความรัก ริษยาจนกลายเป็นอาฆาตข้ามชาติภพ เป็นวิญญาณที่ตามล่าในห้วงภวังค์
ขอฝากตอนหนึ่งใน ภาพภพ ให้ลองอ่านดูนะครับ
"....อเดลลาวางทุกอย่างลงที่เดิมแล้วปิดกล่อง ไล่สายตาไปยังกรอบโลหะสี่เหลี่ยมสีทองหม่นจับคราบสนิมเขียวเป็นหย่อม ล้อมรูปถ่ายขมุกขมัวเพราะหน้ากระจกจับฝุ่นหนา อเดลลาเอื้อมมือหยิบขึ้นมาด้วยความสนใจ ใช้นิ้วไล้คราบฝุ่นบนผิวกระจกออก ภาพถ่ายบุคคลสองคนกลายเป็นสีน้ำตาลหม่นซีดปรากฏขึ้นมาให้เห็น แต่ยังพอมองออกว่า ชายหนุ่มซึ่งนั่งหลังตรงท่าทางภูมิฐานบนเก้าอี้ไม้ทรงโบราณคือปู่ทวดจิอานโนอย่างแน่นอน ใบหน้าท่านยิ้มละไม ดูใจดีและอบอุ่น แม้ว่าบนใบหน้าจะประดับด้วยคิ้วดกดำและเรียวหนวดเหนือริมฝีปากก็ตาม ท่านสวมเสื้อคอตั้งซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วน่าจะเป็นสีขาว คล้องสายนาฬิกาพกแบบที่เรียกว่า Pocket watch ยึดปลายกับกระดุมเสื้อโยงมาเก็บตัวเรือนไว้ในกระเป๋าบนอกซ้าย ท่อนล่างนุ่งผ้าสีเข้มรวบเก็บ ชายเลยเข่าลงมาเล็กน้อย สวมถุงเท้าสีขาวรับกับรองเท้าหนังสีดำ ถัดลงมาด้านล่างคือเด็กหนุ่มผิวคล้ำ ใบหน้าเรียบเฉย มองมาด้วยดวงตาดำขลับบอกถึงเชื้อชาติตะวันออกชัดเจน เขานั่งพับเพียบ ก้มหลังเล็กน้อยบนพื้นใกล้กับเก้าอี้ สวมเสื้อแบบเดียวกันกับปู่ทวด ต่างกันตรงสีเข้มกว่าและชายเสื้อรวบเก็บเรียบร้อยไว้ในผ้านุ่ง คาดเอวด้วยผ้า ขมวดขายพกไว้ด้านหน้า เขาไม่สวมถุงเท้า แต่สวมรองเท้าสานโปร่ง อเดลลาเพิ่งสังเกตว่าเด็กหนุ่มคนนี้ คือคนเดียวกันกับในภาพวาดบนผนังนั่นเอง เมื่อเลื่อนสายตาลงมามองมุมล่างขวาของภาพ มีตัวอักษรจารึกด้วยลายมืองดงามเป็นระเบียบว่า
......................................La bella memoria …Siam
ครั้งหนึ่งของความทรงจำอันงดงามเมื่อนานมากแล้ว ของปู่ทวดจิอานโน ณ ดินแดนไกลโพ้น...สยาม "