แบ่งปันประสบการณ์การบวชชีพราหมณ์ที่วัดชัยชนะสงคราม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ก่อนอื่นเลยทรายเป็นคนหาดใหญ่ ก็เลยหาที่ปฎิบัติธรรมแถวๆนี้ ที่คิดว่าไปมาสะดวก ทรายไปบวชมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ค่ะ
การเดินทางไปวัดชัยชนะสงครามของทรายเองมีรถยนต์ส่วนตัวค่ะ แต่หากใครไม่มี คิดว่าควรจะนั่งเท็กซี่ หรือรถตุ๊กตุ๊ก (ในหาดใหญ่เรียกตุ๊กตุ๊ก ขนาดจะเท่ารถสามล้อในกรุงเทพนะค่ะ แต่จะมีสี่ล้อ) วัดนี้อยู่ทางไปสนามบินหาดใหญ่ค่ะ
ตอนแรกก็โทรไปสอบถามแม่ชีที่วัด ว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง สำหรับสิ่งที่ต้องเตรียมไปก็ ดอกไม้ ธูปเทียน สำหรับรับศีลค่ะ แล้วก็ของใช้ส่วนตัวต่างๆ อ่อ แล้วก็บัตรประชาชนค่ะ ของจริงไม่ต้องถ่ายเอกสาร ส่วนชุดชี แม่ชีมีให้ทอน 350 บาทค่ะ หรือจะเตรียมไปเองสุดแล้วแต่ จะใส่ชุดชีที่เป็นแขนสามส่วน กระโปรง และมีสไบ
วันที่ 1
ช่วงเช้า
ทรายและเพื่อนไปถึงวัดประมาณ 10.00 น. ไปถึงแม่ชีก็ให้ข้อปฎิบัติขณะบวช และคำขอบวชให้อ่านให้คล่อง วัดนี้ไม่ต้องจำเป็นต้องจำคำขอบวชก็ได้ค่ะ แต่ใครจำไปก็คงดี แต่ต้องอ่านให้คล่อง เสียงดังฟังชัด ไม่งั้นหลวงพ่อจะดุเอา (อันนี้แม่ชี บอกมา) เวลาประมาณเกือบ 11 โมง เสียงระฆังก็ดังขึ้น ก็คือเวลาฉันเพล แม่ชีถามทรายกับเพื่อนว่า จะไปนั่งฟังพระสวดรึเปล่า เราก็เลือกไม่ไป บังเอิญว่า ช่วงนั้นที่วัด กำลังจะมีงานมุทิตาจิตหลวงพ่อ ในอีก 2 วันที่กำลังจะถึง ทรายเลยมีโอกาสได้ช่วยงานแม่ชีทำของสวยๆงามๆ พวกดอกไม้ตกแต่ง อะไรต่างๆ นาๆ ก็เลยเลือกไม่เข้าฟังพระสวดฉันเพล (ณ ตอนนั้นทรายยังไม่ได้บวชนะค่ะ เพราะจะบวชหรือรับศีลตอน 4 โมง) ทำงานไปเพลินๆ ก็ถึงเวลาทำวัตรเย็น วัดนี้จะรับศีลตอน 4 โมงเย็น ก็คือก่อนทำวัดเย็นค่ะของทุกวัน (แต่ต้องแจ้งแม่ชีเขาสักหน่อย เขาจะได้แจ้งหลวงพ่อให้ค่ะ)
ช่วงเย็น
ประมาณ 16.30 น. พระก็จะมาเคาะระฆังเป็นการเรียกทำวัตรเย็น ทั้งพระสงฆ์ ชี และชีพราหมณ์ ก็จะไปรวมตัวกันที่ศาลาการเปรียญเพื่อทำวัตรเย็นค่ะ เย็นวันนั้นมีชีพราหมณ์ที่จะบวชทั้งหมด 4 คนค่ะ ปกติก็จะรับศีลก่อน แล้วทำวัตรเย็น แต่วันนั้นหลวงพ่อติดภาระกิจด่วน เราจึงทำวัตรเย็นกันก่อน เมื่อทำวัตรเย็นเสร็จ ก็รับศีลค่ะหรือการท่องคำบวชชีนั้นเอง ก่อนจะท่องคำบวชเราก็จะเตรียมดอกไม้ ธูป เทียน พร้อมกับบัตรประชาชน ไว้ในพานค่ะ (บัตร ปปช เก็บไว้เป็นหลักฐาน ให้คืนวันลาศีลค่ะ) ประเคนให้หลวงพ่อ แล้วก็ท่องคำบวชชี ถือเป็นการเสร็จพิธี
ช่วงค่ำ
หลังจากเสร็จทำวัดเย็น เราก็ขึ้นไปที่พักเพื่อพักผ่อน เวลาประมาณ 19.30 น. ก็จะไปนั่งสมาธิกรรมฐานกับหลวงป๊า เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นั่งสมาธิเสร็จก็ขึ้นที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 2
เราตื่นกันตอนตี 4 ค่ะ ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วไปทำวัตรเช้า ตอนประมาณ 4.30 น. ทำวัตรเช้าเสร็จประมาณ 6.00 น. หลังจากทำวัตรเช้าเสร็จ เราก็กวาดลานวัดค่ะ ทำจนเสร็จ ก็ถึงเวลาฉันเช้า ฉันเช้าเสร็จ ก็ล้างจาน เก็บกวาดโรงฉัน หลังจากนั้นใครจะแยกย้ายทำอะไรก็ตามแต่ ส่วนทรายกับเพื่อนอีกคน ไปช่วยแม่ชีทำของสวยๆ งามๆ ต่อค่ะ เวลา 10.30 น. ก็ฉันเพล กิจกรรมหลังฉันเสร็จก็เหมือนเดิม ปัดกวาดเช็ดถู โรงฉัน พอเสร็จ ใครจะทำอะไรก็สุดแล้วแต่ 16.30 น. ก็ทำวัตรเย็น 19.30 น. ก็นั่งสมาธิ
วันที่ 3
วันนี้ทรายกับเพื่อนต้องลาศีลแล้วค่ะ มีภารกิจต้องทำต่อ ก็ตื่นตี 4 ทำวัตรเช้าเหมือนเดิม แล้วจะลาศีลหลังฉันเช้าเสร็จ โชคดีอีกที่บวชพร้อมกะชีพราหมณ์ที่เขาบวชมาแล้วหลายครั้ง เขาเลยแนะนำว่าวันนี้ลาศีล พอหลวงพ่อฉันเช้าเสร็จ ก็ไปขอถวายสังฆทานในระหว่างที่เป็นชีพราหมณ์เนี้ย ได้บุญเยอะ เราก็ทำกันค่ะ วัดนี้จะมีสังฆทานให้เลือกอยู่แล้ว เราเพียงใส่ปัจจัยในซอง แล้วก็เลือกว่าจะถวายสังฆทานอะไรบ้าง เขาเรียกว่า ”ทอน” เราก็หยิบครบเลยค่ะ บาตร ผ้าไตร พระประจำวันเกิด ถือว่าเป็นสังฆทานที่ชุดใหญ่มากตั้งแต่เคยถวายมา
พอเสร็จจากโรงฉัน ก็ถือเวลาลาศีลค่ะ สิ่งที่เตรียมก็เหมือนเดิม ดอกไม้ ธูปเทียน หลวงพ่อก็ให้กล่าวคำลาศีล กลับไปรักษาศีล 5 เหมือนเดิม แล้วเราก็ถอดสไบออก ถือเป็นการเสร็จพิธี
ทรายเคยฟังมาว่าบ้างวัดกิจกรรมเยอะมากกว่าวัดนี้อีก ฟังจากทรายเล่าก็ดูไม่คอยมีอะไรใช่ไมค่ะ แต่ทรายโชคดีอีกค่ะ ว่าทางวัดกำลังจะจัดงานมุทิตาจิต และฝั่งลูกนิมิตร เลยได้ทำเยอะมาก เอาจริงๆก็เหนื่อย กลางวันที่จะได้นอนพักก็ไม่ได้นอน แต่สนุกดีค่ะ และไม่รู้ว่าจะได้ทำแบบนี้อีกเมื่อไหร่ ถือว่าคุ้มมากๆ ที่เลือกไปช่วงนั้น ได้ตัดชีวิตด้านนอกออกไปเลย บวชแค่ไม่กี่วัน ทำให้ทรายเป็นคนใจเย็นขึ้นได้ อึ้งตัวเองมาก 555 เอาจริงๆ ก็อธิบายเป็นคำพูดไม่คอยจะถูก แต่ถ้าใครว่าง สะดวก ก็อยากให้ไปลองได้สัมผัสกันดู พยายามตัดโทรศัพท์ออกไปให้ได้นะค่ะ มันจะดีกว่ามากเลย บ้างคนไปบวชยังแล่นไม่หยุด ทรายว่าเล่นเมื่อไหร่ก็ได้นะ เวลาไม่ได้มาทำอะไรแบบนี้ แต่ชีวิตที่สงบจริงๆ ทั้งภายในภายนอกมันหายากจริงๆ ได้สัมผัสแล้วจะรู้สึกดีมากๆ ค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ทนอ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ เขียนครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ทักได้ค่ะ แต่อย่าด่าแรง จะเสียความรู้สึกค่ะ 555
แบ่งปันประสบการณ์การบวชชีพราหมณ์ที่วัดชัยชนะสงคราม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ก่อนอื่นเลยทรายเป็นคนหาดใหญ่ ก็เลยหาที่ปฎิบัติธรรมแถวๆนี้ ที่คิดว่าไปมาสะดวก ทรายไปบวชมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ค่ะ
การเดินทางไปวัดชัยชนะสงครามของทรายเองมีรถยนต์ส่วนตัวค่ะ แต่หากใครไม่มี คิดว่าควรจะนั่งเท็กซี่ หรือรถตุ๊กตุ๊ก (ในหาดใหญ่เรียกตุ๊กตุ๊ก ขนาดจะเท่ารถสามล้อในกรุงเทพนะค่ะ แต่จะมีสี่ล้อ) วัดนี้อยู่ทางไปสนามบินหาดใหญ่ค่ะ
ตอนแรกก็โทรไปสอบถามแม่ชีที่วัด ว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง สำหรับสิ่งที่ต้องเตรียมไปก็ ดอกไม้ ธูปเทียน สำหรับรับศีลค่ะ แล้วก็ของใช้ส่วนตัวต่างๆ อ่อ แล้วก็บัตรประชาชนค่ะ ของจริงไม่ต้องถ่ายเอกสาร ส่วนชุดชี แม่ชีมีให้ทอน 350 บาทค่ะ หรือจะเตรียมไปเองสุดแล้วแต่ จะใส่ชุดชีที่เป็นแขนสามส่วน กระโปรง และมีสไบ
วันที่ 1
ช่วงเช้า
ทรายและเพื่อนไปถึงวัดประมาณ 10.00 น. ไปถึงแม่ชีก็ให้ข้อปฎิบัติขณะบวช และคำขอบวชให้อ่านให้คล่อง วัดนี้ไม่ต้องจำเป็นต้องจำคำขอบวชก็ได้ค่ะ แต่ใครจำไปก็คงดี แต่ต้องอ่านให้คล่อง เสียงดังฟังชัด ไม่งั้นหลวงพ่อจะดุเอา (อันนี้แม่ชี บอกมา) เวลาประมาณเกือบ 11 โมง เสียงระฆังก็ดังขึ้น ก็คือเวลาฉันเพล แม่ชีถามทรายกับเพื่อนว่า จะไปนั่งฟังพระสวดรึเปล่า เราก็เลือกไม่ไป บังเอิญว่า ช่วงนั้นที่วัด กำลังจะมีงานมุทิตาจิตหลวงพ่อ ในอีก 2 วันที่กำลังจะถึง ทรายเลยมีโอกาสได้ช่วยงานแม่ชีทำของสวยๆงามๆ พวกดอกไม้ตกแต่ง อะไรต่างๆ นาๆ ก็เลยเลือกไม่เข้าฟังพระสวดฉันเพล (ณ ตอนนั้นทรายยังไม่ได้บวชนะค่ะ เพราะจะบวชหรือรับศีลตอน 4 โมง) ทำงานไปเพลินๆ ก็ถึงเวลาทำวัตรเย็น วัดนี้จะรับศีลตอน 4 โมงเย็น ก็คือก่อนทำวัดเย็นค่ะของทุกวัน (แต่ต้องแจ้งแม่ชีเขาสักหน่อย เขาจะได้แจ้งหลวงพ่อให้ค่ะ)
ช่วงเย็น
ประมาณ 16.30 น. พระก็จะมาเคาะระฆังเป็นการเรียกทำวัตรเย็น ทั้งพระสงฆ์ ชี และชีพราหมณ์ ก็จะไปรวมตัวกันที่ศาลาการเปรียญเพื่อทำวัตรเย็นค่ะ เย็นวันนั้นมีชีพราหมณ์ที่จะบวชทั้งหมด 4 คนค่ะ ปกติก็จะรับศีลก่อน แล้วทำวัตรเย็น แต่วันนั้นหลวงพ่อติดภาระกิจด่วน เราจึงทำวัตรเย็นกันก่อน เมื่อทำวัตรเย็นเสร็จ ก็รับศีลค่ะหรือการท่องคำบวชชีนั้นเอง ก่อนจะท่องคำบวชเราก็จะเตรียมดอกไม้ ธูป เทียน พร้อมกับบัตรประชาชน ไว้ในพานค่ะ (บัตร ปปช เก็บไว้เป็นหลักฐาน ให้คืนวันลาศีลค่ะ) ประเคนให้หลวงพ่อ แล้วก็ท่องคำบวชชี ถือเป็นการเสร็จพิธี
ช่วงค่ำ
หลังจากเสร็จทำวัดเย็น เราก็ขึ้นไปที่พักเพื่อพักผ่อน เวลาประมาณ 19.30 น. ก็จะไปนั่งสมาธิกรรมฐานกับหลวงป๊า เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นั่งสมาธิเสร็จก็ขึ้นที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 2
เราตื่นกันตอนตี 4 ค่ะ ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วไปทำวัตรเช้า ตอนประมาณ 4.30 น. ทำวัตรเช้าเสร็จประมาณ 6.00 น. หลังจากทำวัตรเช้าเสร็จ เราก็กวาดลานวัดค่ะ ทำจนเสร็จ ก็ถึงเวลาฉันเช้า ฉันเช้าเสร็จ ก็ล้างจาน เก็บกวาดโรงฉัน หลังจากนั้นใครจะแยกย้ายทำอะไรก็ตามแต่ ส่วนทรายกับเพื่อนอีกคน ไปช่วยแม่ชีทำของสวยๆ งามๆ ต่อค่ะ เวลา 10.30 น. ก็ฉันเพล กิจกรรมหลังฉันเสร็จก็เหมือนเดิม ปัดกวาดเช็ดถู โรงฉัน พอเสร็จ ใครจะทำอะไรก็สุดแล้วแต่ 16.30 น. ก็ทำวัตรเย็น 19.30 น. ก็นั่งสมาธิ
วันที่ 3
วันนี้ทรายกับเพื่อนต้องลาศีลแล้วค่ะ มีภารกิจต้องทำต่อ ก็ตื่นตี 4 ทำวัตรเช้าเหมือนเดิม แล้วจะลาศีลหลังฉันเช้าเสร็จ โชคดีอีกที่บวชพร้อมกะชีพราหมณ์ที่เขาบวชมาแล้วหลายครั้ง เขาเลยแนะนำว่าวันนี้ลาศีล พอหลวงพ่อฉันเช้าเสร็จ ก็ไปขอถวายสังฆทานในระหว่างที่เป็นชีพราหมณ์เนี้ย ได้บุญเยอะ เราก็ทำกันค่ะ วัดนี้จะมีสังฆทานให้เลือกอยู่แล้ว เราเพียงใส่ปัจจัยในซอง แล้วก็เลือกว่าจะถวายสังฆทานอะไรบ้าง เขาเรียกว่า ”ทอน” เราก็หยิบครบเลยค่ะ บาตร ผ้าไตร พระประจำวันเกิด ถือว่าเป็นสังฆทานที่ชุดใหญ่มากตั้งแต่เคยถวายมา
พอเสร็จจากโรงฉัน ก็ถือเวลาลาศีลค่ะ สิ่งที่เตรียมก็เหมือนเดิม ดอกไม้ ธูปเทียน หลวงพ่อก็ให้กล่าวคำลาศีล กลับไปรักษาศีล 5 เหมือนเดิม แล้วเราก็ถอดสไบออก ถือเป็นการเสร็จพิธี
ทรายเคยฟังมาว่าบ้างวัดกิจกรรมเยอะมากกว่าวัดนี้อีก ฟังจากทรายเล่าก็ดูไม่คอยมีอะไรใช่ไมค่ะ แต่ทรายโชคดีอีกค่ะ ว่าทางวัดกำลังจะจัดงานมุทิตาจิต และฝั่งลูกนิมิตร เลยได้ทำเยอะมาก เอาจริงๆก็เหนื่อย กลางวันที่จะได้นอนพักก็ไม่ได้นอน แต่สนุกดีค่ะ และไม่รู้ว่าจะได้ทำแบบนี้อีกเมื่อไหร่ ถือว่าคุ้มมากๆ ที่เลือกไปช่วงนั้น ได้ตัดชีวิตด้านนอกออกไปเลย บวชแค่ไม่กี่วัน ทำให้ทรายเป็นคนใจเย็นขึ้นได้ อึ้งตัวเองมาก 555 เอาจริงๆ ก็อธิบายเป็นคำพูดไม่คอยจะถูก แต่ถ้าใครว่าง สะดวก ก็อยากให้ไปลองได้สัมผัสกันดู พยายามตัดโทรศัพท์ออกไปให้ได้นะค่ะ มันจะดีกว่ามากเลย บ้างคนไปบวชยังแล่นไม่หยุด ทรายว่าเล่นเมื่อไหร่ก็ได้นะ เวลาไม่ได้มาทำอะไรแบบนี้ แต่ชีวิตที่สงบจริงๆ ทั้งภายในภายนอกมันหายากจริงๆ ได้สัมผัสแล้วจะรู้สึกดีมากๆ ค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ทนอ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ เขียนครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ทักได้ค่ะ แต่อย่าด่าแรง จะเสียความรู้สึกค่ะ 555