ก่อนอื่นผมต้องขอเริ่มด้วยการอธิบายความหมายของ Forward Curve แบบคราวๆ ก่อน ดังนี้
Forward Curve เป็นการแสดงราคาสัญญาล่วงหน้า (Future) ของสินค้าหนึ่งๆ ณ วันเวลาเดียวกันในรูปแบบกราฟเส้น เช่นรูปด้านล่างแสดงถึงราคาสัญญาล่วงหน้าของ WTI Crude oil ณ วันที่ 13 Jan 2016 เวลา 00.56 จะเห็นได้ว่าราคาของสัญญาเดือนใกล้ที่สุดจะมีราคาต่ำที่สุด สัญญาเดือนไกลจะมีราคาแพงที่สุด นั่นแปลว่าใน 1 เดือนข้างหน้า สินค้านี้จะราคาถูกกว่าราคาในอีก 1 ปีข้างหน้า หรือ อาจจะกล่าวโดยสรุปว่าสินค้านี้ระยะสั้นยังอยู่ในช่วงขาลงอยู่
จุดที่น่าสนใจของ Forward Curve ก็คือการแสดงให้เห็นระดับราคาที่คนตกลงซื้อขายในช่วงเวลาที่แตกต่างกันในอนาคต ซึ่งเราจะเห็นพฤติกรรมบางอย่างจากกราฟนี้ได้ดังเช่นรูปด้านล่าง
เส้นสีส้มแสดง Forward Curve ของ WTI Crude oil ณ วันที่ 19 Dec 2008 (จุดต่ำสุดรอบแรกของช่วงวิกฤติ 09)
เส้นสีแดงแสดง Forward Curve ของ WTI Crude oil ณ วันที่ 18 Nov 2008 ( 1 เดือนก่อนหน้า )
เส้นสีชมพูแสดง Forward Curve ของ WTI Crude oil ณ วันที่ 17 Oct 2008 ( 2 เดือนก่อนหน้า )
จากรูปจะเป็นได้ว่า Forward Curve ก่อนหน้าจุดต่ำสุดมีความโค้งที่ต่ำและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมา peak หรือเกือบๆ peak ณ จุดต่ำสุดของช่วงราคา
ปัญหาคือเราจะวันค่าความโค้งของ forward curve ออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างไร? ที่สำคัญต้องอ่านเข้าใจง่ายปราศจาก bias
วิธีที่ผมสังเกตเห็นก็คือ นั่นจุดต่ำสุดของราคาที่เป็นขาลงที่รุนแรง (> 50%) ราคาสัญญาใกล้ที่สุดและสัญญาถัดไปจะห่างกัน เพิ่มมากขึ้นแบบมีนัยยะสำคัญ กล่าวคือค่าอัตราส่วน (Ratio) ระหว่างสัญญาสองตัวนี้จะต่ำกว่าค่าปกติมาก ณ จุดวิกฤติ ดังรูปข้างล่าง
กราฟบนสุดแสดงราคา WTI Crude Oil รายวัน
กราฟ #2 แสดงค่าอัตราส่วนระหว่าง M+1/M+2 (เดือนใกล้สุด/เดือนถัดไป)
กราฟ #3 แสดงค่าอัตราส่วนระหว่าง M+2/M+3
กราฟ #3 แสดงค่าอัตราส่วนระหว่าง M+3/M+4
โดยกราฟอัตราส่วนทั้งหมดจะมีเส้น Regression Line ตีครอบอีกชั้นหนึ่งเพื่อดูช่วงที่มีการเคลื่อนไหวแบบปกติและผิดปกติ กราฟที่อยู่ใต้เส้นสีแดงจะหมายความว่า Ratio นั่นมีค่าต่ำกว่า –2SD จากค่าเฉลี่ยตั้งแต่ปี 1980 (มีค่าเข้าใกล้ 1) โดยทางสถิติทางโอกาสที่จะเกิดได้ นั่นต่ำกว่า 95% (หากข้อมูลเป็นมีการเคลื่อนไหวแบบปกติ)
จะเห็นได้ชัดว่า ช่วงที่เป็น bottom ของ downtrend ขนาดใหญ่ ค่าของ Ratio ทั้ง 3 จะหลุดจากกรอบการเคลื่อนไหวปกติไปค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถกำหนดได้ชัดเจนว่าราคาต่ำสุดมันคือเท่าไร บอกได้เพียงแค่ว่าบริเวณนี้มีการขายมากผิดปกติ(oversold)เท่านั้น เนื่องจากช่วงการแกว่งของตลาดที่ลงมาแรง ย่อมมีค่าความผันผวนที่สูงด้วยเป็นเงาตามตัว ทำให้ราคาในเขต oversold นี้อาจจะห่างกันเกิน 20+% ได้ ดังนั้นการสังเกตโดยใช้หลักการนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง และศึกษาข้อมูลอื่นๆ ประกอบด้วย
ตัวอย่างช่วงวิกฤติต่างๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวอย่าง วันที่ 20 Jun 1990

ตัวอย่าง วันที่ 17 Dec 1993

ตัวอย่าง วันที่ 15 Jun 1998

ตัวอย่าง วันที่ 1 Dec 1998

ตัวอย่าง วันที่ 19 Dec 2008

ตัวอย่าง วันที่ 16 Jan 2009

ตัวอย่าง วันที่ 12 Feb 2009

ตัวอย่าง วันที่ 21 April 2009

ตัวอย่าง วันที่ 14 Feb 2011

ตัวอย่าง วันที่ 18 Mar 2015

สถานะการณ์ล่าสุดของ WTI Crude Oil เวลา 02:37 วันที่ 13 Jan 2016
สังเกตจากกราฟจะเห็นว่าราคาแถว $30 นี้ใกล้จุด oversold แล้วแต่ยังลงได้อีกสักหน่อย เนื่องจากเส้นสีเขียวยังไม่หลุดเขตปกติ และเส้นสีม่วงก็ยังไม่แตะขอบของเขต oversold ตามรูป
หากต้องการให้สัญญาทั้งสามเข้าเขต oversold ต้องมีค่าดังนี้
สัญญาเดือนใกล้สุด (M+1) = 30.55
สัญญา M+2 (เส้นสีม่วง) = สัญญาเดือนใกล้ล่าสุด / 0.9452 = 32.32
สัญญา M+3 (เส้นสีเขียว) = สัญญา M+2 / 0.9621 = 32.87
สัญญา M+4 (เส้นสีฟ้า) = สัญญา M+3 / 0.9709 = 33.71
* การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณและการตัดสินใจของตัวเองก่อนการลงทุน
ปล. ถ้าต้องการดูรูปเต็มตามไปดูที่ blog ผมได้เลยครับ
https://abullishbear.wordpress.com/2016/01/12/forward-curve-how-to-identify-the-bottom-of-the-strong-downtrend/
[ฉลองน้ำมันหลุด $30 แล้วเด้ง] การสังเกตจุดต่ำสุดของขาลงใหญ่ด้วย Forward Curve พร้อมวิเคราะห์สถานะการน้ำมันดิบ
Forward Curve เป็นการแสดงราคาสัญญาล่วงหน้า (Future) ของสินค้าหนึ่งๆ ณ วันเวลาเดียวกันในรูปแบบกราฟเส้น เช่นรูปด้านล่างแสดงถึงราคาสัญญาล่วงหน้าของ WTI Crude oil ณ วันที่ 13 Jan 2016 เวลา 00.56 จะเห็นได้ว่าราคาของสัญญาเดือนใกล้ที่สุดจะมีราคาต่ำที่สุด สัญญาเดือนไกลจะมีราคาแพงที่สุด นั่นแปลว่าใน 1 เดือนข้างหน้า สินค้านี้จะราคาถูกกว่าราคาในอีก 1 ปีข้างหน้า หรือ อาจจะกล่าวโดยสรุปว่าสินค้านี้ระยะสั้นยังอยู่ในช่วงขาลงอยู่
จุดที่น่าสนใจของ Forward Curve ก็คือการแสดงให้เห็นระดับราคาที่คนตกลงซื้อขายในช่วงเวลาที่แตกต่างกันในอนาคต ซึ่งเราจะเห็นพฤติกรรมบางอย่างจากกราฟนี้ได้ดังเช่นรูปด้านล่าง
เส้นสีส้มแสดง Forward Curve ของ WTI Crude oil ณ วันที่ 19 Dec 2008 (จุดต่ำสุดรอบแรกของช่วงวิกฤติ 09)
เส้นสีแดงแสดง Forward Curve ของ WTI Crude oil ณ วันที่ 18 Nov 2008 ( 1 เดือนก่อนหน้า )
เส้นสีชมพูแสดง Forward Curve ของ WTI Crude oil ณ วันที่ 17 Oct 2008 ( 2 เดือนก่อนหน้า )
จากรูปจะเป็นได้ว่า Forward Curve ก่อนหน้าจุดต่ำสุดมีความโค้งที่ต่ำและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมา peak หรือเกือบๆ peak ณ จุดต่ำสุดของช่วงราคา
ปัญหาคือเราจะวันค่าความโค้งของ forward curve ออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างไร? ที่สำคัญต้องอ่านเข้าใจง่ายปราศจาก bias
วิธีที่ผมสังเกตเห็นก็คือ นั่นจุดต่ำสุดของราคาที่เป็นขาลงที่รุนแรง (> 50%) ราคาสัญญาใกล้ที่สุดและสัญญาถัดไปจะห่างกัน เพิ่มมากขึ้นแบบมีนัยยะสำคัญ กล่าวคือค่าอัตราส่วน (Ratio) ระหว่างสัญญาสองตัวนี้จะต่ำกว่าค่าปกติมาก ณ จุดวิกฤติ ดังรูปข้างล่าง
กราฟบนสุดแสดงราคา WTI Crude Oil รายวัน
กราฟ #2 แสดงค่าอัตราส่วนระหว่าง M+1/M+2 (เดือนใกล้สุด/เดือนถัดไป)
กราฟ #3 แสดงค่าอัตราส่วนระหว่าง M+2/M+3
กราฟ #3 แสดงค่าอัตราส่วนระหว่าง M+3/M+4
โดยกราฟอัตราส่วนทั้งหมดจะมีเส้น Regression Line ตีครอบอีกชั้นหนึ่งเพื่อดูช่วงที่มีการเคลื่อนไหวแบบปกติและผิดปกติ กราฟที่อยู่ใต้เส้นสีแดงจะหมายความว่า Ratio นั่นมีค่าต่ำกว่า –2SD จากค่าเฉลี่ยตั้งแต่ปี 1980 (มีค่าเข้าใกล้ 1) โดยทางสถิติทางโอกาสที่จะเกิดได้ นั่นต่ำกว่า 95% (หากข้อมูลเป็นมีการเคลื่อนไหวแบบปกติ)
จะเห็นได้ชัดว่า ช่วงที่เป็น bottom ของ downtrend ขนาดใหญ่ ค่าของ Ratio ทั้ง 3 จะหลุดจากกรอบการเคลื่อนไหวปกติไปค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถกำหนดได้ชัดเจนว่าราคาต่ำสุดมันคือเท่าไร บอกได้เพียงแค่ว่าบริเวณนี้มีการขายมากผิดปกติ(oversold)เท่านั้น เนื่องจากช่วงการแกว่งของตลาดที่ลงมาแรง ย่อมมีค่าความผันผวนที่สูงด้วยเป็นเงาตามตัว ทำให้ราคาในเขต oversold นี้อาจจะห่างกันเกิน 20+% ได้ ดังนั้นการสังเกตโดยใช้หลักการนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง และศึกษาข้อมูลอื่นๆ ประกอบด้วย
ตัวอย่างช่วงวิกฤติต่างๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สถานะการณ์ล่าสุดของ WTI Crude Oil เวลา 02:37 วันที่ 13 Jan 2016
สังเกตจากกราฟจะเห็นว่าราคาแถว $30 นี้ใกล้จุด oversold แล้วแต่ยังลงได้อีกสักหน่อย เนื่องจากเส้นสีเขียวยังไม่หลุดเขตปกติ และเส้นสีม่วงก็ยังไม่แตะขอบของเขต oversold ตามรูป
หากต้องการให้สัญญาทั้งสามเข้าเขต oversold ต้องมีค่าดังนี้
สัญญาเดือนใกล้สุด (M+1) = 30.55
สัญญา M+2 (เส้นสีม่วง) = สัญญาเดือนใกล้ล่าสุด / 0.9452 = 32.32
สัญญา M+3 (เส้นสีเขียว) = สัญญา M+2 / 0.9621 = 32.87
สัญญา M+4 (เส้นสีฟ้า) = สัญญา M+3 / 0.9709 = 33.71
* การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณและการตัดสินใจของตัวเองก่อนการลงทุน
ปล. ถ้าต้องการดูรูปเต็มตามไปดูที่ blog ผมได้เลยครับ
https://abullishbear.wordpress.com/2016/01/12/forward-curve-how-to-identify-the-bottom-of-the-strong-downtrend/