ฝากบอกเขาที ว่าฉันไม่ได้ "บีบแตร"

เมื่อ 17/12/2558 ที่ผ่านมา ฉันเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อพาแม่และน้องสาวของแม่ไปทำธุระ เวลาประมาณก่อน 11:56 น. สักเล็กน้อย ที่ช่องจอดรถ J13 สีฟ้า ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ฉันขับรถวนหาที่จอดรถ ราว 2-3 รอบ จนมาถึงที่เกิดเหตุ ฉันเห็นรถสีดำคันหนึ่ง ลักษณะเป็นรถยนต์ที่สามารถเอาของใส่ไว้ในรถได้ ประเภทเดียวกับ MPV หรือ SUV คันใหญ่ๆ สูงๆหน่อย เปิดไฟเหมือนจะเอารถออกจากที่จอดแบบขวางหัวรถที่จอดเข้าซอง ฉันก็ดีใจบอกกับแม่ว่าได้ที่จอดแล้ว ฉันก็เปิดสัญญาณไฟขวา เพื่อรอเข้าจอด รถคันที่ต่อหลังซึ่งฉันก็จำไม่ได้อีกว่า ยี่ห้อหรือรุ่นอะไร คือมองผ่านตาเฉยๆ จำได้แค่ว่ารถคันนั้นสีขาว บีบแตร 1 หรือ 2 ครั้ง ไม่แน่นใจ ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร แล้วรถคันสีดำก็ออกตัวไป แต่มีลักษณะออกตัวแบบลังเล พอฉันหักเข้าไปจอดเรียบร้อยแล้ว ก็เห็นว่า รถคันที่จอดอยู่ในซอง ขับออกไป จึงขยับจากตำแหน่งที่จอดขวาง ไปถอยเข้าซองแทนตามในรูป รถของฉันสีดำ (เวลาฉันจอดรถจะถ่ายรูป ตำแหน่งไว้กันลืม) ตอนนั้นฉันแวบความคิดหนึ่งขึ้นมาว่า รถคันสีดำอาจจะรอจอดช่องนี้หรือไม่ ฉันยังพูดกับแม่เลยว่า ถ้าเขารอจอดก็น่าเห็นใจ เพราะเขาต้องออกรถเพราะ มีคนบีบแตร ตอนลงรถฉันก็มองซ้ายมองขวา คิดว่ารถคันดำจะวนกลับมาหรือไม่ แต่ก็ไม่เห็น เลยเดินเข้าห้างไป จนทำธุระเสร็จ ฉันพบกระดาษติดที่มือจับเปิดประตู มีข้อความตามภาพ

ฉันหน้าชาทันทีที่อ่าน แม่และน้องสาวแม่โกรธมากที่อ่าน ขณะขับรถกลับบ้าน ฉันคิดตลอดทางว่า กลับถึงบ้านคงต้องทำอะไรสักอย่างให้คุณที่เขียนรู้ แต่ฉันก็ยุ่งกับลูกและงานอย่างมาจนลืมไปนาน จนวันนี้มีเหตุการณ์สะกิดใจเรื่องที่จอดรถ จึงเข้ามาตั้งกระทู้นี้ ฉันขอถามหน่อยนะคะ คุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน ฉันขอบอกเลยว่าฉันไม่ได้บีบแตร  ฉันไม่คิดแม้แต่จะบีบ คุณใจแคบมากคุณคงคิดว่าคนอื่นจะใจแคบแบบคุณสินะ ถ้ามีเสียงแตรดังมาจากข้างหลังมันหมายความว่ารถคันแรกต้องบีบเหรอคะ สำหรับฉันถ้าไม่มีที่จอดรถก็ขับวนต่อไป ชั้นนี้ไม่มีที่จอด ก็ขึ้นไปชั้นบนก็ได้ คุณนั่นแหละควรเปลี่ยนนิสัยนะคะ

เหตุการณ์ก็ผ่านมานานแล้ว แต่ก็แอบหวังเล็กน้อย ว่าถ้ากระทู้นี้ได้ผ่านตาคุณ หรือคนอื่นๆได้อ่านคงจะพอมีประโยชน์บ้าง ว่าการด่วนตัดสินใจอะไรโดยหลักฐานไม่แน่นชัด ไม่ใช่เรื่องดีเลย กระบวนการทางความคิดสำคัญมาก และการความคุมสติเอาชนะความโกรธก็สำคัญเช่นกัน ฉันยังทำได้ไม่ดี ยังคงมีอารมณ์โกรธหลงเหลืออยู่ แต่ฉันก็ได้หัวข้อในการสอนลูกเพิ่มจากเหตุการณ์นี้





แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่