สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
จขกท. ตั้งประเด็นตรงกับเรามาก ๆ ค่ะ เราเองก็คบกับแฟนมา 8 ปีกว่าเข้าปีที่ 9
เมื่อก่อนเราก็คิดว่าเราทั้งคู่ไม่สะดวก แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น เราคิดว่ามันก็ได้เวลาแล้ว
อีกอย่างเขาอายุเยอะกว่าเรามาก เขาอาจจะไม่พร้อมเรื่องเงินทอง แต่คิดว่าของแบบนี้มันต้องช่วยกันสร้าง
ของเราบ้านเรามี รถเรามี คือเขาสามารถย้ายเข้ามาอยู่กับเราเลย เพราะที่บ้านเราเตรียมไว้ให้หมดแล้ว
แต่แฟนเราก็บอกว่าไม่อยากมาอยู่กับเราโดยที่เขาไม่มีอะไร เขาอยากจะสร้างด้วยตัวเอง
ปีแรกที่คุยกันเรื่องแต่งงาน เราก็โอเคค่ะ เข้าใจเขา ปีที่สองเราก็พูดอีก เขาก็ขอเลื่อนอีก
เราเริ่มสับสน และบวกพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างของเขาทำให้เราเริ่มไม่มั่นใจว่าเขาอยากจะแต่งงานกับเรามั้ย?
จนมาวันนี้เราเข้าใจคำตอบชัดเจนแล้วล่ะค่ะ เขาอาจจะรักเรานะคะแต่ไม่ได้มากพอที่อยากจะร่วมชีวิตด้วย
คือแต่งด้วยก็ได้นะ แต่รออีกหน่อย รอมีทุกอย่างก่อน เขามีเงื่นไขค่ะ ทั้งๆที่เงื่อนไขนั้นเราสามารถจับมือกันสร้างได้
ถ้าเรารักใครสักคน เราพร้อมที่จะหยุดและสร้างอนาคตด้วยกัน ยิ่งคนที่สภาวะพร้อมแล้วแต่ยังไม่แต่งยิ่งชัดเจนเลยนะคะ
เราถึงขั้นขอว่าแต่งงานเถอะ ไม่ใช่ว่าเราอยากจะแต่งใจจะขาดแต่เวลามันเหมาะแล้ว เขารออะไร รอมีทุกอย่างให้พร้อมทั้งชาติก็ไม่พอค่ะ
ขนาดพ่อแม่เราสร้างด้วยกันยังเหนื่อยเลย แล้วเขาจะทำคนเดียวมันยิ่งไม่เหนื่อยเหรอ? เราว่าเขาคิดแค่มุมเดียว จนลืมคิดถึงมุมของเรา
เราเองก็เคยคุยกันแล้วนะคะ ตกลงปีหน้านะ พอมาปีหน้าเลื่อนค่ะ เรานี่จบเลย ไม่พูดแล้ว
ตอนนี้เราถอนตัวออกมาแล้วล่ะค่ะ แต่ว่าสถานะไม่ได้ชัดเจน ทุกอย่างย่อมมีเวลาเสมอ เมื่อก่อนเราถอนไม่ได้
แต่ถ้าเขาไม่ใช่ของเราสักวันเราก็ต้องแยกจากกันอยู่ดี ที่ผ่านเราทำดีที่สุดแล้ว เราปล่อยค่ะ คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตกับเรา
รอทั้งชาติเขาก็ไม่แต่งหรอก แต่ถ้าคนที่เขาอยากอยู่กับเรา ต่อให้เขาจนขนาดไหนเขาก็อยากจะแต่งนะคะ
เมื่อก่อนเราก็คิดว่าเราทั้งคู่ไม่สะดวก แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น เราคิดว่ามันก็ได้เวลาแล้ว
อีกอย่างเขาอายุเยอะกว่าเรามาก เขาอาจจะไม่พร้อมเรื่องเงินทอง แต่คิดว่าของแบบนี้มันต้องช่วยกันสร้าง
ของเราบ้านเรามี รถเรามี คือเขาสามารถย้ายเข้ามาอยู่กับเราเลย เพราะที่บ้านเราเตรียมไว้ให้หมดแล้ว
แต่แฟนเราก็บอกว่าไม่อยากมาอยู่กับเราโดยที่เขาไม่มีอะไร เขาอยากจะสร้างด้วยตัวเอง
ปีแรกที่คุยกันเรื่องแต่งงาน เราก็โอเคค่ะ เข้าใจเขา ปีที่สองเราก็พูดอีก เขาก็ขอเลื่อนอีก
เราเริ่มสับสน และบวกพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างของเขาทำให้เราเริ่มไม่มั่นใจว่าเขาอยากจะแต่งงานกับเรามั้ย?
จนมาวันนี้เราเข้าใจคำตอบชัดเจนแล้วล่ะค่ะ เขาอาจจะรักเรานะคะแต่ไม่ได้มากพอที่อยากจะร่วมชีวิตด้วย
คือแต่งด้วยก็ได้นะ แต่รออีกหน่อย รอมีทุกอย่างก่อน เขามีเงื่นไขค่ะ ทั้งๆที่เงื่อนไขนั้นเราสามารถจับมือกันสร้างได้
ถ้าเรารักใครสักคน เราพร้อมที่จะหยุดและสร้างอนาคตด้วยกัน ยิ่งคนที่สภาวะพร้อมแล้วแต่ยังไม่แต่งยิ่งชัดเจนเลยนะคะ
เราถึงขั้นขอว่าแต่งงานเถอะ ไม่ใช่ว่าเราอยากจะแต่งใจจะขาดแต่เวลามันเหมาะแล้ว เขารออะไร รอมีทุกอย่างให้พร้อมทั้งชาติก็ไม่พอค่ะ
ขนาดพ่อแม่เราสร้างด้วยกันยังเหนื่อยเลย แล้วเขาจะทำคนเดียวมันยิ่งไม่เหนื่อยเหรอ? เราว่าเขาคิดแค่มุมเดียว จนลืมคิดถึงมุมของเรา
เราเองก็เคยคุยกันแล้วนะคะ ตกลงปีหน้านะ พอมาปีหน้าเลื่อนค่ะ เรานี่จบเลย ไม่พูดแล้ว
ตอนนี้เราถอนตัวออกมาแล้วล่ะค่ะ แต่ว่าสถานะไม่ได้ชัดเจน ทุกอย่างย่อมมีเวลาเสมอ เมื่อก่อนเราถอนไม่ได้
แต่ถ้าเขาไม่ใช่ของเราสักวันเราก็ต้องแยกจากกันอยู่ดี ที่ผ่านเราทำดีที่สุดแล้ว เราปล่อยค่ะ คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตกับเรา
รอทั้งชาติเขาก็ไม่แต่งหรอก แต่ถ้าคนที่เขาอยากอยู่กับเรา ต่อให้เขาจนขนาดไหนเขาก็อยากจะแต่งนะคะ
สมาชิกหมายเลข 3562978 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4800047 ถูกใจ, TinkElena ถูกใจ, ที่นั่นที่ไหนใช่ที่รักรึเปล่า ถูกใจ, ทำไมซันนี่ไม่ยอมอาบน้ำ หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 1700838 ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 855074 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2157506 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 854072 ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 2066440 ถูกใจรวมถึงอีก 103 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 8
เปลี่ยนความคิดเหอะครับ จะรอจากปากใครสักคนเพื่อขอแต่งงาน แต่ใช้ชีวิตทำตัวไปวันๆ คิดมั้ยว่าเมื่อไหร่
ออกปากเองก็ได้ว่าอยากแต่งงาน บอกไปให้เขารู้ แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายคิดมั้ยว่าจะยังไงต่อ ผู้ชายต้องหาเงินทองมาให้มั้ย ต้องไปซื้อแหวน ซื้อทองค่าสินสอดมั้ย
หรือมีความคิดมั่งมั้ยว่าจะช่วยกันอย่างไรบ้างมั้ยครับ รอคนมาขอ คือคนที่เอาแต่ได้ รับอย่างเดียวแต่ไม่เคยให้ มันเป็นเรื่องของสองคนที่ต้องปรึกษากัน พูดคุยกัน ทำเป็นอาย ทำเป็นคิดเยอะว่าดูไม่ดี อยากได้อะไรก็ต้องลงมือครับ อย่ารอโอกาส
หากคูหนังมากไปก็ชอบความโรแมนติก คนขอแต่งงงานสวมแหวน ผู้ชายพร้อมมีเงินมีฐานะ มันไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น อยากจะแต่งก็บอกเซอไพร์ได้เลย
หากสมัยนี้รอให้คนเอยปากขอแต่งงาน ต้องสวย ต้องมีคุณค่าพอที่ผู้ชาย อยากครอบครองจนอยากเป็นเจ้าของ จนกล่าวขอแต่งงานครับ
คิดเยอะไปก็โสด เลือกมากก็โสด ปากแข็ง หน้าบางก็โสด สรุปคือ อย่ากลัว อย่าอาย คุยได้ รู้ปัญหาจะได้รีบแก้ ไม่ใช่ผิดหวังไม่ได้แต่งต้องเลิก
อยากอยู่กับเขาหรืออยากจะอวดว่าได้แต่งงานครับ วัตถุประสงค์ที่จะแต่งงานคือ?
เพราะหนี้มันเยอะ เงินเดือนมันน้อยเลยทำให้โอกาสแต่งงานมันยาก อยู่ได้ก็อยู่กันไปก่อน
ชอบคิดง่ายว่าเรื่องมันง่ายก็มาขอสิ หรือเรื่องเงินไม่สำคัญ ถามตัวเองหน่อยเหอะ หากค่าอาหารแพง 10-20 บาทเรายังบ่น นับประสาอะไรกับงานแต่งที่ฝ่ายชายต้องเป็นคนรับผิดชอบ
เคยมีความคิดแทนผู้ชายมั้ย เขาจะต้องทำอะไรมั่ง ต้องเลี้ยงครอบครัวตัวเองมั้ย ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรมั่งป่าว เอาเงินไปขอสาว ถึงจะเรียกไม่สูงแต่ค่าจัดงาน ค่าโต๊ะจีน ค่าแหวน ค่าชุด ค่าดนตรี ค่าสถานที่ กี่แสน ควักออกมาสิครับ
สรุปคือเงินครับปัญหาใหญ่ ชัดเจนมั้ย ถ้าไม่แต่งแต่ไปจดทะเบียนอย่างเดียว แค่นี้พอใจรึป่าว? หรือยังไงก็ต้องหาคนแต่งงานให้ได้? คนที่ไม่ต้องกังวลอะไรพร้อมแต่งก็มีอยู่ คนใกล้ตาย คนแก่ อยากหาคนดูแล คนที่ไม่มีอะไรจะเสีย แต่อยากได้เมีย บอกแต่งๆแต่ให้เมียออกฝ่ายเดียว ก็มีเยอะครับ
เงินเอาไปฮันนีมูนต่างประเทศยังดีกว่าเอามาอวดใคร มีความสุขกัน 2 คน ทุกข์กัน 2 คน คนอื่นไม่เกี่ยว
เข้ามาให้กำลังใจ
ออกปากเองก็ได้ว่าอยากแต่งงาน บอกไปให้เขารู้ แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายคิดมั้ยว่าจะยังไงต่อ ผู้ชายต้องหาเงินทองมาให้มั้ย ต้องไปซื้อแหวน ซื้อทองค่าสินสอดมั้ย
หรือมีความคิดมั่งมั้ยว่าจะช่วยกันอย่างไรบ้างมั้ยครับ รอคนมาขอ คือคนที่เอาแต่ได้ รับอย่างเดียวแต่ไม่เคยให้ มันเป็นเรื่องของสองคนที่ต้องปรึกษากัน พูดคุยกัน ทำเป็นอาย ทำเป็นคิดเยอะว่าดูไม่ดี อยากได้อะไรก็ต้องลงมือครับ อย่ารอโอกาส
หากคูหนังมากไปก็ชอบความโรแมนติก คนขอแต่งงงานสวมแหวน ผู้ชายพร้อมมีเงินมีฐานะ มันไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น อยากจะแต่งก็บอกเซอไพร์ได้เลย
หากสมัยนี้รอให้คนเอยปากขอแต่งงาน ต้องสวย ต้องมีคุณค่าพอที่ผู้ชาย อยากครอบครองจนอยากเป็นเจ้าของ จนกล่าวขอแต่งงานครับ
คิดเยอะไปก็โสด เลือกมากก็โสด ปากแข็ง หน้าบางก็โสด สรุปคือ อย่ากลัว อย่าอาย คุยได้ รู้ปัญหาจะได้รีบแก้ ไม่ใช่ผิดหวังไม่ได้แต่งต้องเลิก
อยากอยู่กับเขาหรืออยากจะอวดว่าได้แต่งงานครับ วัตถุประสงค์ที่จะแต่งงานคือ?
เพราะหนี้มันเยอะ เงินเดือนมันน้อยเลยทำให้โอกาสแต่งงานมันยาก อยู่ได้ก็อยู่กันไปก่อน
ชอบคิดง่ายว่าเรื่องมันง่ายก็มาขอสิ หรือเรื่องเงินไม่สำคัญ ถามตัวเองหน่อยเหอะ หากค่าอาหารแพง 10-20 บาทเรายังบ่น นับประสาอะไรกับงานแต่งที่ฝ่ายชายต้องเป็นคนรับผิดชอบ
เคยมีความคิดแทนผู้ชายมั้ย เขาจะต้องทำอะไรมั่ง ต้องเลี้ยงครอบครัวตัวเองมั้ย ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรมั่งป่าว เอาเงินไปขอสาว ถึงจะเรียกไม่สูงแต่ค่าจัดงาน ค่าโต๊ะจีน ค่าแหวน ค่าชุด ค่าดนตรี ค่าสถานที่ กี่แสน ควักออกมาสิครับ
สรุปคือเงินครับปัญหาใหญ่ ชัดเจนมั้ย ถ้าไม่แต่งแต่ไปจดทะเบียนอย่างเดียว แค่นี้พอใจรึป่าว? หรือยังไงก็ต้องหาคนแต่งงานให้ได้? คนที่ไม่ต้องกังวลอะไรพร้อมแต่งก็มีอยู่ คนใกล้ตาย คนแก่ อยากหาคนดูแล คนที่ไม่มีอะไรจะเสีย แต่อยากได้เมีย บอกแต่งๆแต่ให้เมียออกฝ่ายเดียว ก็มีเยอะครับ
เงินเอาไปฮันนีมูนต่างประเทศยังดีกว่าเอามาอวดใคร มีความสุขกัน 2 คน ทุกข์กัน 2 คน คนอื่นไม่เกี่ยว
เข้ามาให้กำลังใจ
Gabonica ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2682846 ถูกใจ, nai_joe ถูกใจ, โอ ติ๊ง ต่อง ถูกใจ, rUNsIevez ถูกใจ, Synonym11 ถูกใจ, Louis n Prada ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2741548 ถูกใจ, ทุ่งนาแดนนี้ไม่มีความหมาย ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 1942929 ถูกใจรวมถึงอีก 26 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 21
คุณคิดน้อยไปครับ คุณลองคิดในฐานะผู้ชาย
ผู้ชายเป็นที่คาดหวังของที่บ้านตัวเอง ต้องส่งเสียเงินให้ที่บ้าน
เป็นคนออกค่าใช้จ่ายต่างๆ และต้องหาซื้อบ้านให้พ่อแม่อยู่
ออกค่ารักษาพยาบาลให้ ถ้ามีน้อง ก็ต้องช่วยจุนเจือ
ไหนจะต้องดูแล เลี้ยงดูแฟนอีก พาไปกิน เที่ยว ช๊อปปิ้ง
ไหนจะต้องเก็บเงินซื้อรถ รับส่งแฟน
ไหนจะต้องเก็บเงินซื้อบ้าน ให้แฟนอยู่
หาเงินแต่งงาน ซื้อแหวน มีเงินมีทองให้
พอแต่งงาน ก็เป็นที่คาดหวังของครอบครัวของผู้หญิง พ่อแม่ พี่น้อง
ครอบครัวผู้หญิงก็คาดหวังสินสอด ต้องเยอะเป็นหน้าเป็นตา ต้องจัดโรงแรม เลี้ยงญาติ พี่น้อง คนรู้จัก
พอแต่งงานเสร็จ เป็นที่คาดหวัง ต้องมีลูก
พอมีลูกก็ต้องคลอดที่โรงพยายาลเอกชน ไหนจะค่าใช้จ่ายที่ต้องเรียนดูภรรยาอีก
ไหนจะค่าเรียนอีก ค่าใช้จ่ายเด็กอีก
ถ้าจะไปอยู่บ้านผู้หญิง ก็จะโดนนิทรา
คุณแค่คิดว่า คุณอยากแต่งงาน ง่ายเนอะ
ผู้ชายเป็นที่คาดหวังของที่บ้านตัวเอง ต้องส่งเสียเงินให้ที่บ้าน
เป็นคนออกค่าใช้จ่ายต่างๆ และต้องหาซื้อบ้านให้พ่อแม่อยู่
ออกค่ารักษาพยาบาลให้ ถ้ามีน้อง ก็ต้องช่วยจุนเจือ
ไหนจะต้องดูแล เลี้ยงดูแฟนอีก พาไปกิน เที่ยว ช๊อปปิ้ง
ไหนจะต้องเก็บเงินซื้อรถ รับส่งแฟน
ไหนจะต้องเก็บเงินซื้อบ้าน ให้แฟนอยู่
หาเงินแต่งงาน ซื้อแหวน มีเงินมีทองให้
พอแต่งงาน ก็เป็นที่คาดหวังของครอบครัวของผู้หญิง พ่อแม่ พี่น้อง
ครอบครัวผู้หญิงก็คาดหวังสินสอด ต้องเยอะเป็นหน้าเป็นตา ต้องจัดโรงแรม เลี้ยงญาติ พี่น้อง คนรู้จัก
พอแต่งงานเสร็จ เป็นที่คาดหวัง ต้องมีลูก
พอมีลูกก็ต้องคลอดที่โรงพยายาลเอกชน ไหนจะค่าใช้จ่ายที่ต้องเรียนดูภรรยาอีก
ไหนจะค่าเรียนอีก ค่าใช้จ่ายเด็กอีก
ถ้าจะไปอยู่บ้านผู้หญิง ก็จะโดนนิทรา
คุณแค่คิดว่า คุณอยากแต่งงาน ง่ายเนอะ
nai_joe ถูกใจ, หมีผู้อยากเป็นแรพสตาร์ ถูกใจ, HunsaZas ถูกใจ, หมอนน้ำลาย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1942929 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2147781 ถูกใจ, อย่าดื้อพี่ไม่ชอบ ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 2792469 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 995896 ถูกใจ, darthcony ถูกใจรวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 10
เงินมันสำคัญก็จริง แต่ก็ช่วยกันหาก็ได้
แต่ครอบครัวพ่อแม่คนที่เลี้ยงเรามาก็สำคัญ
จัดงานก็เพื่อทำให้ถูกพิธีการ ประเพณี
ให้พ่อแม่ภูมิใจ หมดห่วง
หรือจะบอกว่าอยู่ด้วยกันเฉยๆพ่อแม่ก็ดีใจมีความสุข
ถ้าจะมีก็คงมีน้อย
อ่านมาหลายความเห็นแสดงว่าผู้ชายที่มีปัญหาด้าน
การเงิน ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการแต่งงานสินะคะ
มิน่าผู้หญิงหลายคนถึงชอบคนรวย เพราะเขามีความพร้อมที่จะสร้างครอบครัวมากกว่า
แต่ครอบครัวพ่อแม่คนที่เลี้ยงเรามาก็สำคัญ
จัดงานก็เพื่อทำให้ถูกพิธีการ ประเพณี
ให้พ่อแม่ภูมิใจ หมดห่วง
หรือจะบอกว่าอยู่ด้วยกันเฉยๆพ่อแม่ก็ดีใจมีความสุข
ถ้าจะมีก็คงมีน้อย
อ่านมาหลายความเห็นแสดงว่าผู้ชายที่มีปัญหาด้าน
การเงิน ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการแต่งงานสินะคะ
มิน่าผู้หญิงหลายคนถึงชอบคนรวย เพราะเขามีความพร้อมที่จะสร้างครอบครัวมากกว่า
ที่นั่นที่ไหนใช่ที่รักรึเปล่า ถูกใจ, ความสุขอยู่รอบตัว ถูกใจ, ฝนโปรยในความมืด ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 845053 ถูกใจ, Usess ถูกใจ, รักเก่าที่บ้านเกิด ถูกใจ, nai_joe ทึ่ง, accio_snuffles ถูกใจ, ฉันชอบกินผัก ไม่ชอบกินหมู สยอง, shalimar ถูกใจรวมถึงอีก 20 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 15
เราไม่รอค่ะ บอกก่อนว่าเราอายุ 26 แฟนเรา 30 ต่างคนต่างทำงาน
ตั้งแต่คบกันแรกๆ แฟนเราไม่ต้องจีบเรา ไม่ต้องเทคเราเยอะแยะ
คุยกันประมาณ 2 อาทิตย์ ตกลงเป็นแฟนกัน (ให้สถานะมันชัดเจน)
ด้วยความที่เราคุยกันแล้วว่า ที่จะคบกันนี่คือคบกันเพื่อศึกษากันว่าสุดท้ายแล้วจะใช้ชีวิตด้วยกันได้มั๊ย
เพราะฉะนั้นคู่เราจะไม่มีอะไรที่หวือหวา เซอร์ไพรส์อะไรกัน
ไม่มีการโพสลง social network เพราะไม่ต้องการให้ใครมาคอมเม้นต์ มารับรู้ชีวิตเรา
ปัจจุบันเรากับแฟนไม่เล่น Facebook (เราว่าเสพสื่อเยอะมีผลต่อการใช้ชีวิตเหมือนกันนะ)
พอถึงตอนที่จะแต่งงาน มานั่งคุยกันว่าที่ผ่านมามันเป็นยังไง เราไปกันได้
ก็โอเค.. จะแต่งงานแล้วนะ ไม่มีการขอ ไม่มีคุกเข่า ไม่มีเซอร์ไพรส์สวมแหวน
คือต่างคนต่างคุยกับผู้ใหญ่เลยค่ะ เริ่มเก็บเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่ง
ตอนนี้ก็หมั้นแล้ว ทุกๆ อย่างเราช่วยกันออกค่ะ แม้กระทั่งแหวนที่ใช้หมั้น เพราะเห็นใจแฟน
ตั้งแต่คบกันแรกๆ แฟนเราไม่ต้องจีบเรา ไม่ต้องเทคเราเยอะแยะ
คุยกันประมาณ 2 อาทิตย์ ตกลงเป็นแฟนกัน (ให้สถานะมันชัดเจน)
ด้วยความที่เราคุยกันแล้วว่า ที่จะคบกันนี่คือคบกันเพื่อศึกษากันว่าสุดท้ายแล้วจะใช้ชีวิตด้วยกันได้มั๊ย
เพราะฉะนั้นคู่เราจะไม่มีอะไรที่หวือหวา เซอร์ไพรส์อะไรกัน
ไม่มีการโพสลง social network เพราะไม่ต้องการให้ใครมาคอมเม้นต์ มารับรู้ชีวิตเรา
ปัจจุบันเรากับแฟนไม่เล่น Facebook (เราว่าเสพสื่อเยอะมีผลต่อการใช้ชีวิตเหมือนกันนะ)
พอถึงตอนที่จะแต่งงาน มานั่งคุยกันว่าที่ผ่านมามันเป็นยังไง เราไปกันได้
ก็โอเค.. จะแต่งงานแล้วนะ ไม่มีการขอ ไม่มีคุกเข่า ไม่มีเซอร์ไพรส์สวมแหวน
คือต่างคนต่างคุยกับผู้ใหญ่เลยค่ะ เริ่มเก็บเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่ง
ตอนนี้ก็หมั้นแล้ว ทุกๆ อย่างเราช่วยกันออกค่ะ แม้กระทั่งแหวนที่ใช้หมั้น เพราะเห็นใจแฟน
สมาชิกหมายเลข 3562978 ถูกใจ, แมวอ้วนตัวน้อยคอยรัก ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 4300126 ถูกใจ, nai_joe ถูกใจ, โอ ติ๊ง ต่อง ถูกใจ, Ter @ AFC ถูกใจ, shalimar ถูกใจ, ไม่เอาคอนแทคเลนส์ ถูกใจ, Similanblu ซึ้ง, love2loveU ถูกใจรวมถึงอีก 13 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยรอแฟนขอแต่งงานบ้างคะ