
สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้เป็นการรีวิวการไปเที่ยวเมืองน่าน เมืองต้องห้ามพลาด บทเฉพาะกิจในครั้งนี้คือการออกเดินทางไปดอยเสมอดาวดูดาว-ทะเลหมอก ตามล่าหาสตอเบอรี่ที่ขุนสถาน และตามหาผาแห่งความรักที่ผาชู้ ทริปนี้สมาชิกเป็นสาวๆกัน 4 คน ตกลงวันออกเดินทางคือ 8 มกราคม 2559 ช่วงบ่ายๆ ไปนอนหนึ่งคืน เนื่องจากพวกเราอยู่ไม่ไกลจากสถานที่เป้าหมายเลยออกเดินทางบ่ายๆได้ ใช้เส้นทางอุตรดิตถ์-นาน้อย น่าน

บอกเลยว่าเส้นทางนี้ทางโค้งแล้วโค้งอีกพากันเมาโค้งแล้วเมาโค้งอีกก็ยังไม่ถึง ใช้เวลาในการไปถึงดอยเสมอดาว 1 ชั่วโมงครึ่ง ลัดเลาะไปตามป่าเขา ข้ามแม้น้ำไปเรื่อยๆ พาหมู่บ้านต่างๆซึ่งมีน้อยมาก บอกเลยทางนี้รถไม่เยอะแต่ว่าเปลี่ยว ปล.ไม่แนะนำในการใช้เส้นทางเวลากลางคืน สตรีก็ไม่ควรใช้ถ้ามาเพียงลำพัง สัญญาณโทรศัพท์บอกเลยไม่มีค่ะขาดหายตลอด ดีตรงที่ไม่ต้องกลัวเรื่องรถบรรทุก แต่ต้องกลัวทางค่ะเพราะโค้งแล้วโค้งอีก

ทางนี้สังเกตดีๆจะเห็นว่ามีใบไม้เปลี่ยนสีได้บรรยากาศประหนึ่งเราไปเที่ยวญี่ปุ่น(แบบมโนไปเอง)
การเดินทางมาดอยเสมอ มี 2 แบบ คือ
1. รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอนาน้อย 20 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1083 สายนาน้อย-ปางไฮ ระหว่างทางมี จุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นเทือกเขาที่อยู่ในเขตอุทยานฯ และแม่น้ำน่านที่ไหล คดเคี้ยว ได้อย่างชัดเจน
2.รถประจำทาง ใช้รถสายกรุงเทพฯ-น่าน ลงที่อำเภอเวียงสา แล้วต่อรถประจำทาง สายเวียงสา-นาน้อย-นาหมื่น ลงที่สามแยกบ้านใหม่แล้วเหมารถสองแถว เข้าอุทยานฯ

เราเดินทางมาถึงดอยเสมอดาวประมาณ 5 โมงครึ่ง พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ได้นั่งดูมันชั่งฟินมากเลยโรแมนติกสุดๆ คิดถึงแฟนเลยมโนว่าถ้าได้มานั่งดูด้วยกันคงจะดี คริคริ

ดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีพื้นที่ประมาณ 583,750 ไร่ หรือ 934 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเวียงสา นาน้อย และนาหมื่นของจังหวัดน่าน มีเทือกเขาสลับซับซ้อนที่วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ ขนานกันทั้งทางทิศตะวันตก และตะวันออกแบ่งพื้นที่ออกเป็น ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก สองฝั่งแม่น้ำเป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรังใน เขตเทือกเขาประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าสนเขา พบสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น นกยูงซึ่งมี อยู่หลายฝูง เสือดาว เสือดำ หมี กวาง หมาป่า และหมาในมีสัตว์ป่าหลายชนิดที่สำคัญ คือ ช้างป่า วัวแดง และกระทิง ซึ่งจะอพยพไปมาระหว่างเขตติดต่อประเทศไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

บรรยากาศกำลังดีเลยวันที่เราไปถึง อากาศเย็นถึงขั้นหนาว ลมแรงมากๆๆ ดีที่จัดเสื้อผ้าไปแบบหนาวเลย ทั้งเสื้อ หมวก ผ้าพันคอ ถุงเท้ามาพร้อมมากๆๆตอนแรกกะว่าจะเอาไว้ไปถ่ายรูปเล่นกันเฉยๆที่ไหนได้ใช้ทุกอย่างที่เตรียมไป

การจองเต้นท์ที่พักของเรา เราเลือกจองกับเอกชน เต้นท์นอนได้ 4 คน ราคา 600 บาท มีหมอน ที่รองนอน และถุงนอนให้ เจ้าของเต้นท์ชื่อพี่ต่าย ใจดีค่ะพูดคุยกันง่าย เรามาถึงมากางเต้นท์รอเราเรียบร้อยแล้ว ระหว่างทางค่อยโทรหาเราตลอด สงสัยพี่คิดว่าพวกเราเพิ่งเคยมา ที่ไหนพขร.ของเราเคยมาเลย มีสมาชิก 1 คนเคยมาแล้วเลยไม่ต้องห่วงเรื่องหลง ส่วนเรื่องการขับไว้ใจได้เพราะขับขึ้นลงเขามามากกว่า 8 ปี ประสบการณ์ล้วนๆๆ คริคริ

เราโทรจองจากเฟสนี้ค่ะ ที่จริงการจองเต้นท์ของอุทยานฯก็ได้นะค่ะ โดยอุทยานฯจะมีบ้านพักไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว 3 หลัง และเต็นท์ให้เช่า ราคาหลังละ 225 บาท นอนได้ 3 ท่าน แผ่นรองนอน 20 บาท ถุงนอน 30 บาท หมอน 10 บาท (ราคานี้ของปี 2555 อาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาสอบถามทางอุทยานอีกครั้ง) ติดต่อและสอบถามรายละเอียดได้ที่ 054 731 714
- อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตู้ปณ. 14 ตำบลศรีสะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150 โทร. 054 701106
หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร 02 579 7223 , 02 561 2919 ต่อ 724 ,725 ,, www.dnp.go.th

ปล.การจองเต้นท์ควรจองล่วงหน้านะค่ะ เราจองล่วงหน้า 2 วันเพราะไม่ใช่ช่วงวันหยุดยาว แล้วถ้าจองเต้นท์จะยกเลิกก็ควรแจ้งเจ้าของเต้นท์ด้วย วันที่เราไปมีคนจองเต้นท์ของพี่ต่าย แต่พอมาถึงไปเอาเต้นท์ของที่อื่นแทนแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะค่ะ ไม่ว่าจะติดอะไรอย่างไงก็ควรบอกกล่าวกันบ้างค่ะ
เมื่อวานถึงดอยเสมอดาว ทางเข้าก่อนจะขึ้นมายังลานกางเต้นท์มีด่านต้องเสียค่าธรรมเนียมค่าเข้านะค่ะ

จากนั้นก็นำรถขึ้นมายังลานกางเต้นท์ได้ ณ ลานกางเต้นท์เจ้าหน้าที่จะให้เราจอดรถนำสัมภาระข้าวของลงให้เรียบร้อย แต่ไม่อนุญาตให้เราจอดรถไว้ที่ลาน เหตุผลเพราะเพื่อให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆนำรถมาจอดเพื่อขนของรถ และตอนค่ำก็จะไม่ให้จอดเผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้นำคนป่วยส่งรพ.นาน้อยได้สะดวก โดยจะมีลานจอดรถอยู่ด้านล่าง ตามไหล่ทางก็อย่าไปจอดเลยวันที่ไปก็มีรถโดนเชี่ยวชน มันมืดไม่มีไฟตามลายทางนะ ไปเที่ยวทำตามกฎระเบียนก็จบ ***อย่ามักง่ายเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเลยนะ

เรื่องต่อมาก็ว่าด้วยอาหารการกิน พวกเราโชคดีไปเจอพี่สาวที่ใจแมนๆ แกใจดีมากเลยอำนวยความสะดวกให้เราทุกอย่าง เริ่มกันด้วยการสั่งอาหาร เมนูที่ต้องจัดไปคือ หมูกระทะ 2 ชุดๆละ 200 บาท ส้มตำปลาร้า&ปูไทย อย่างละหนึ่ง บวกค่ามัดจำอุปกรณ์การกินหมูกระทะ ประกอบด้วย กระทะปิ้งหมู ถ้วย 4 ใบ ส้อม 4 อัน ตะเกียบ 4 อัน 200 บาท (คืนของแล้วพี่ให้คืนพรุ่งนี้เช้า) ส่วนเตาไฟไปเช้าอุทยานฯในราคา 100 บาท มีตะแกรงและถ่าน 1 ถุง

ไม่ต้องแปลกใจนะ ถ้วยจานที่เห็นคือเตรียมไปเองค่ะ บอกเลยเนื่องจากมีพี่เคยไปมาแล้วเลยพอจะรู้ว่าเอาอะไรไปบ้าง สิ่งที่จะแนะนำก็คือ ถ้วยใช้หมูกระทะถ้าไม่คิดอะไรมาก็ใช้ของจากทางร้าน แต่จานไม่มีให้นะเป็นโฟมข้าวโพด(ที่มันย่อยสลายได้) ส้อมตะเกียบก็ใช้ของที่ร้าน แก้วน้ำไม่มีให้เอาไปเอง น้ำแข็งเตรียมลังโฟมหรือกระติกไปเองเลย ข้าวเหนียวถ้าชอบกินเตรียมไปเอง(เพราะหมดเร็ว) ขนมถุงเตรียมไปเอง เครื่องดื่มเราเตรียมกันไปเองเลือกตามใจชอบเลย ไฟฉายด้วยเตรียมไปเองด้วยก็จะดี ไปหาเทียนไม่มีอ่ะ มีแต่ตะเกียงไฟจากแบตเตอรี่(ไม่ก็งงว่าถ้าเช่าต้องเอาบัตรประชาชนไว้ทำไมคือพี่สาวใจแมนที่ส่งอาหารบอกอ่ะ) ของเราพี่สาวใจแมนให้เช่าในราคา 50 บาทคืนตอนเช้าตอนมาเอาเตาไปคืนอุทยานฯให้ อืม!!!!ลืมบอกไปพี่แกมากองไฟให้ด้วยอ่ะ คริคริ
******ปล.ที่สำคัญการกินดื่มคือไม่ควรเสียงดัง เต็มที่ไม่เกินเที่ยงคืนอ่ะ เนื่องจากเราไปป่าควรเคารพสถานที่ เกรงใจเต้นท์ข้างเคียงบ้าง ตอนเราไปเจอเต้นท์ข้างๆแบบห่างออกไปกินกันตีสองครึ่ง เสียงดังเรานอนไม่ได้เลย ปกติไปนอนที่อื่นก็หลับยากแล้วเจอแบบนี้ แม่เจ้า!!! เชื่อป่ะตีสองนี้เรานอนไม่หลับได้ออกมาดูดาวกันเลย ดีนะที่พี่ พขร. เราหลับได้ไม่งั้นความสามารถในการควบคุมรถคงแย่ๆ เฮอะๆๆๆ

ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยทะเลหมอกที่มาเป็นสายๆ เราตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่ง ไปแปรงฟันล้างหน้าขึ้นไปดูหมอกกันตอน 6 โมงคนเต็มลานดูทะเลหมอกเลยคราวหน้าก็ตื่นให้ไว้หรือไม่ก็ไม่ต้องแปรงฟันล้างหน้าล่ะ คริคริ วันนี้กว่าพระอาทิตย์จะมาเกือบ 7 โมงแล้ว

ระหว่างรอก็เลยมาภาพรูปกับผาหัวสิงห์เป็นหน้าผา โดยจะมีรูปร่างหมือนสิโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออกสามารถมองเห็นทิวทัศน์ ได้ 360 องศา ทิศเหนือมอง เห็นตัว อำเภอเวียงสา ทิศใต้มองเห็นทิวเขาเป็นแนวยาว ทิศตะวันออกมองเห็นผาชู้ แม่น้ำน่าน ทิศตะวันตกมองเห็นตัวอำเภอนาน้อย เกือบทั้งหมด และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง มีเส้นทาง เดินสำรวจธรรมชาติให้ผู้รักการปีนป่ายและการผจญภัยด้วย แต่พวกเรา No ค่ะไม่ขอปืนเขาอ่ะ 555

ดอยเสมอดาว เป็นพื้นที่ที่มีลานกว้างยนสันเขาเหมาะสำหรับการพักผ่อนชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในเวลาเดียวกัน และยังสามารถชม ทะเลหมอกในยามเช้า ชมดาวและแสงไฟจากตัวอำเภอนาน้อยในยามค้ำคืนได้อย่างสวยงาม บอกคำเดียวเลยว่าถึงหมอกจะได้มาแบบทะเลแต่ก็สวยงาม ต้องจัดทริปไปกันอีกแน่นอน
[CR] ทริป 24 ชั่วโมง ดอยเสมอดาว-ขุนสถาน-ผาชู้ ตามล่าหาสตอเบอรี่
สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้เป็นการรีวิวการไปเที่ยวเมืองน่าน เมืองต้องห้ามพลาด บทเฉพาะกิจในครั้งนี้คือการออกเดินทางไปดอยเสมอดาวดูดาว-ทะเลหมอก ตามล่าหาสตอเบอรี่ที่ขุนสถาน และตามหาผาแห่งความรักที่ผาชู้ ทริปนี้สมาชิกเป็นสาวๆกัน 4 คน ตกลงวันออกเดินทางคือ 8 มกราคม 2559 ช่วงบ่ายๆ ไปนอนหนึ่งคืน เนื่องจากพวกเราอยู่ไม่ไกลจากสถานที่เป้าหมายเลยออกเดินทางบ่ายๆได้ ใช้เส้นทางอุตรดิตถ์-นาน้อย น่าน
บอกเลยว่าเส้นทางนี้ทางโค้งแล้วโค้งอีกพากันเมาโค้งแล้วเมาโค้งอีกก็ยังไม่ถึง ใช้เวลาในการไปถึงดอยเสมอดาว 1 ชั่วโมงครึ่ง ลัดเลาะไปตามป่าเขา ข้ามแม้น้ำไปเรื่อยๆ พาหมู่บ้านต่างๆซึ่งมีน้อยมาก บอกเลยทางนี้รถไม่เยอะแต่ว่าเปลี่ยว ปล.ไม่แนะนำในการใช้เส้นทางเวลากลางคืน สตรีก็ไม่ควรใช้ถ้ามาเพียงลำพัง สัญญาณโทรศัพท์บอกเลยไม่มีค่ะขาดหายตลอด ดีตรงที่ไม่ต้องกลัวเรื่องรถบรรทุก แต่ต้องกลัวทางค่ะเพราะโค้งแล้วโค้งอีก
ทางนี้สังเกตดีๆจะเห็นว่ามีใบไม้เปลี่ยนสีได้บรรยากาศประหนึ่งเราไปเที่ยวญี่ปุ่น(แบบมโนไปเอง)
การเดินทางมาดอยเสมอ มี 2 แบบ คือ
1. รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอนาน้อย 20 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1083 สายนาน้อย-ปางไฮ ระหว่างทางมี จุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นเทือกเขาที่อยู่ในเขตอุทยานฯ และแม่น้ำน่านที่ไหล คดเคี้ยว ได้อย่างชัดเจน
2.รถประจำทาง ใช้รถสายกรุงเทพฯ-น่าน ลงที่อำเภอเวียงสา แล้วต่อรถประจำทาง สายเวียงสา-นาน้อย-นาหมื่น ลงที่สามแยกบ้านใหม่แล้วเหมารถสองแถว เข้าอุทยานฯ
เราเดินทางมาถึงดอยเสมอดาวประมาณ 5 โมงครึ่ง พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ได้นั่งดูมันชั่งฟินมากเลยโรแมนติกสุดๆ คิดถึงแฟนเลยมโนว่าถ้าได้มานั่งดูด้วยกันคงจะดี คริคริ
ดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีพื้นที่ประมาณ 583,750 ไร่ หรือ 934 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเวียงสา นาน้อย และนาหมื่นของจังหวัดน่าน มีเทือกเขาสลับซับซ้อนที่วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ ขนานกันทั้งทางทิศตะวันตก และตะวันออกแบ่งพื้นที่ออกเป็น ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก สองฝั่งแม่น้ำเป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรังใน เขตเทือกเขาประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าสนเขา พบสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น นกยูงซึ่งมี อยู่หลายฝูง เสือดาว เสือดำ หมี กวาง หมาป่า และหมาในมีสัตว์ป่าหลายชนิดที่สำคัญ คือ ช้างป่า วัวแดง และกระทิง ซึ่งจะอพยพไปมาระหว่างเขตติดต่อประเทศไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
บรรยากาศกำลังดีเลยวันที่เราไปถึง อากาศเย็นถึงขั้นหนาว ลมแรงมากๆๆ ดีที่จัดเสื้อผ้าไปแบบหนาวเลย ทั้งเสื้อ หมวก ผ้าพันคอ ถุงเท้ามาพร้อมมากๆๆตอนแรกกะว่าจะเอาไว้ไปถ่ายรูปเล่นกันเฉยๆที่ไหนได้ใช้ทุกอย่างที่เตรียมไป
การจองเต้นท์ที่พักของเรา เราเลือกจองกับเอกชน เต้นท์นอนได้ 4 คน ราคา 600 บาท มีหมอน ที่รองนอน และถุงนอนให้ เจ้าของเต้นท์ชื่อพี่ต่าย ใจดีค่ะพูดคุยกันง่าย เรามาถึงมากางเต้นท์รอเราเรียบร้อยแล้ว ระหว่างทางค่อยโทรหาเราตลอด สงสัยพี่คิดว่าพวกเราเพิ่งเคยมา ที่ไหนพขร.ของเราเคยมาเลย มีสมาชิก 1 คนเคยมาแล้วเลยไม่ต้องห่วงเรื่องหลง ส่วนเรื่องการขับไว้ใจได้เพราะขับขึ้นลงเขามามากกว่า 8 ปี ประสบการณ์ล้วนๆๆ คริคริ
เราโทรจองจากเฟสนี้ค่ะ ที่จริงการจองเต้นท์ของอุทยานฯก็ได้นะค่ะ โดยอุทยานฯจะมีบ้านพักไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว 3 หลัง และเต็นท์ให้เช่า ราคาหลังละ 225 บาท นอนได้ 3 ท่าน แผ่นรองนอน 20 บาท ถุงนอน 30 บาท หมอน 10 บาท (ราคานี้ของปี 2555 อาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาสอบถามทางอุทยานอีกครั้ง) ติดต่อและสอบถามรายละเอียดได้ที่ 054 731 714
- อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตู้ปณ. 14 ตำบลศรีสะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150 โทร. 054 701106
หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร 02 579 7223 , 02 561 2919 ต่อ 724 ,725 ,, www.dnp.go.th
ปล.การจองเต้นท์ควรจองล่วงหน้านะค่ะ เราจองล่วงหน้า 2 วันเพราะไม่ใช่ช่วงวันหยุดยาว แล้วถ้าจองเต้นท์จะยกเลิกก็ควรแจ้งเจ้าของเต้นท์ด้วย วันที่เราไปมีคนจองเต้นท์ของพี่ต่าย แต่พอมาถึงไปเอาเต้นท์ของที่อื่นแทนแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะค่ะ ไม่ว่าจะติดอะไรอย่างไงก็ควรบอกกล่าวกันบ้างค่ะ
เมื่อวานถึงดอยเสมอดาว ทางเข้าก่อนจะขึ้นมายังลานกางเต้นท์มีด่านต้องเสียค่าธรรมเนียมค่าเข้านะค่ะ
จากนั้นก็นำรถขึ้นมายังลานกางเต้นท์ได้ ณ ลานกางเต้นท์เจ้าหน้าที่จะให้เราจอดรถนำสัมภาระข้าวของลงให้เรียบร้อย แต่ไม่อนุญาตให้เราจอดรถไว้ที่ลาน เหตุผลเพราะเพื่อให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆนำรถมาจอดเพื่อขนของรถ และตอนค่ำก็จะไม่ให้จอดเผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้นำคนป่วยส่งรพ.นาน้อยได้สะดวก โดยจะมีลานจอดรถอยู่ด้านล่าง ตามไหล่ทางก็อย่าไปจอดเลยวันที่ไปก็มีรถโดนเชี่ยวชน มันมืดไม่มีไฟตามลายทางนะ ไปเที่ยวทำตามกฎระเบียนก็จบ ***อย่ามักง่ายเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเลยนะ
เรื่องต่อมาก็ว่าด้วยอาหารการกิน พวกเราโชคดีไปเจอพี่สาวที่ใจแมนๆ แกใจดีมากเลยอำนวยความสะดวกให้เราทุกอย่าง เริ่มกันด้วยการสั่งอาหาร เมนูที่ต้องจัดไปคือ หมูกระทะ 2 ชุดๆละ 200 บาท ส้มตำปลาร้า&ปูไทย อย่างละหนึ่ง บวกค่ามัดจำอุปกรณ์การกินหมูกระทะ ประกอบด้วย กระทะปิ้งหมู ถ้วย 4 ใบ ส้อม 4 อัน ตะเกียบ 4 อัน 200 บาท (คืนของแล้วพี่ให้คืนพรุ่งนี้เช้า) ส่วนเตาไฟไปเช้าอุทยานฯในราคา 100 บาท มีตะแกรงและถ่าน 1 ถุง
ไม่ต้องแปลกใจนะ ถ้วยจานที่เห็นคือเตรียมไปเองค่ะ บอกเลยเนื่องจากมีพี่เคยไปมาแล้วเลยพอจะรู้ว่าเอาอะไรไปบ้าง สิ่งที่จะแนะนำก็คือ ถ้วยใช้หมูกระทะถ้าไม่คิดอะไรมาก็ใช้ของจากทางร้าน แต่จานไม่มีให้นะเป็นโฟมข้าวโพด(ที่มันย่อยสลายได้) ส้อมตะเกียบก็ใช้ของที่ร้าน แก้วน้ำไม่มีให้เอาไปเอง น้ำแข็งเตรียมลังโฟมหรือกระติกไปเองเลย ข้าวเหนียวถ้าชอบกินเตรียมไปเอง(เพราะหมดเร็ว) ขนมถุงเตรียมไปเอง เครื่องดื่มเราเตรียมกันไปเองเลือกตามใจชอบเลย ไฟฉายด้วยเตรียมไปเองด้วยก็จะดี ไปหาเทียนไม่มีอ่ะ มีแต่ตะเกียงไฟจากแบตเตอรี่(ไม่ก็งงว่าถ้าเช่าต้องเอาบัตรประชาชนไว้ทำไมคือพี่สาวใจแมนที่ส่งอาหารบอกอ่ะ) ของเราพี่สาวใจแมนให้เช่าในราคา 50 บาทคืนตอนเช้าตอนมาเอาเตาไปคืนอุทยานฯให้ อืม!!!!ลืมบอกไปพี่แกมากองไฟให้ด้วยอ่ะ คริคริ
******ปล.ที่สำคัญการกินดื่มคือไม่ควรเสียงดัง เต็มที่ไม่เกินเที่ยงคืนอ่ะ เนื่องจากเราไปป่าควรเคารพสถานที่ เกรงใจเต้นท์ข้างเคียงบ้าง ตอนเราไปเจอเต้นท์ข้างๆแบบห่างออกไปกินกันตีสองครึ่ง เสียงดังเรานอนไม่ได้เลย ปกติไปนอนที่อื่นก็หลับยากแล้วเจอแบบนี้ แม่เจ้า!!! เชื่อป่ะตีสองนี้เรานอนไม่หลับได้ออกมาดูดาวกันเลย ดีนะที่พี่ พขร. เราหลับได้ไม่งั้นความสามารถในการควบคุมรถคงแย่ๆ เฮอะๆๆๆ
ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยทะเลหมอกที่มาเป็นสายๆ เราตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่ง ไปแปรงฟันล้างหน้าขึ้นไปดูหมอกกันตอน 6 โมงคนเต็มลานดูทะเลหมอกเลยคราวหน้าก็ตื่นให้ไว้หรือไม่ก็ไม่ต้องแปรงฟันล้างหน้าล่ะ คริคริ วันนี้กว่าพระอาทิตย์จะมาเกือบ 7 โมงแล้ว
ระหว่างรอก็เลยมาภาพรูปกับผาหัวสิงห์เป็นหน้าผา โดยจะมีรูปร่างหมือนสิโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออกสามารถมองเห็นทิวทัศน์ ได้ 360 องศา ทิศเหนือมอง เห็นตัว อำเภอเวียงสา ทิศใต้มองเห็นทิวเขาเป็นแนวยาว ทิศตะวันออกมองเห็นผาชู้ แม่น้ำน่าน ทิศตะวันตกมองเห็นตัวอำเภอนาน้อย เกือบทั้งหมด และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง มีเส้นทาง เดินสำรวจธรรมชาติให้ผู้รักการปีนป่ายและการผจญภัยด้วย แต่พวกเรา No ค่ะไม่ขอปืนเขาอ่ะ 555
ดอยเสมอดาว เป็นพื้นที่ที่มีลานกว้างยนสันเขาเหมาะสำหรับการพักผ่อนชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในเวลาเดียวกัน และยังสามารถชม ทะเลหมอกในยามเช้า ชมดาวและแสงไฟจากตัวอำเภอนาน้อยในยามค้ำคืนได้อย่างสวยงาม บอกคำเดียวเลยว่าถึงหมอกจะได้มาแบบทะเลแต่ก็สวยงาม ต้องจัดทริปไปกันอีกแน่นอน