สวัสดีค่ะ เราชื่อจอย ยืม ID เพื่อนมาตั้งกระทู้นะคะ
มันมีเรื่องกดดันมากมายเกิดขึ้นกับชีวิตเรามาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
วันนี้เราอยากจะระบาย และอยากฟังความคิดเห็นของทุกๆคนเหลือเกิน
หวังไว้ว่า มันคงจะพอช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่สะใภ้เราค่ะ
บ้านเราไม่ได้มีฐานะยากจนอะไร ก็พอมีกินมีใช้
แต่ว่า พี่สาวคนโตของเรา ค่อนข้างติดหวย และเลือกผัวผิดค่ะ ชิวิตเลยทุกข์ทน
พี่ชายเรานามสมมุติว่า โต้ง ล่ะกันนะคะ แกคบกับพี่สะใภ้คนนี้ นามสมมุติว่า ติว
สองคนคบกันมาตั้งแต่สมัยมหาลัยแล้วค่ะ ก็นะ ตามสังคมนิยมสมัยนี้
เราอาศัยอยู่หอพักเดียวกันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
จนเมื่อปี 56 พวกเขาสองคนตัดสินใจแต่งงานกัน
ซึ่งดูทรงว่า ทางผู้ใหญ่ฝ่ายพี่ติวอยากให้แต่งกับโต้ง เพราะก็ตามนั้นค่ะ
อยู่กันมานาน ก็ตบแต่งกันสักทีเถอะ เขาจะได้ไม่นินทาว่าร้ายกัน
ฝ่ายโต้งพี่ชายเรา จบมาตั้งแต่ปี 52 แล้วค่ะ ทำงานตำแหน่งดีเลยทีเดียว
เงินเดือนก็ 3 หมื่น แต่ไม่มีเงินเก็บ ยังไม่มีความรับผิดชอบใดๆเลย
บ้านเรายังเช่าอยู่ค่ะ แม่ขายอาหารตามสั่ง เรามีพี่น้อง 3 คนคือ พี่สาวคนโต โต้ง และเรา
พี่สาวก็ดูทรงว่าจะช่วยเหลือตัวเองยังไม่ได้ พี่ชายก็ดูทรงไม่เอาอ่าวอะไรเลย ทั้งๆที่จบสูง
การงานดี การเงินดีกว่าคนอื่น ส่วนเราก็ยังเรียนอยู่มหาลัยค่ะ เรียนเสร็จก็รีบกลับบ้านไปช่วยแม่ขายของต่อ
และก็ได้เงินเก็บจากที่แม่ให้วันละ 3 ร้อยเป็นค่าแรงนั่นแหละค่ะ ที่พอจุนเจือตัวเอง
และก็มีมากพอที่จะให้แม่ยืมไปต่อทุนในวันที่แม่ขายของไม่ดี รึหมุนเงินไม่ทัน
เรื่องเงินนี่ ถ้าตัดปัญหาพี่สาวไป แล้วจะไม่มีปัญหาอะไรกันเลย
พี่สาวเรามีผัวขี้เหล้า ไม่ทำงานอะไรเลย เมามาลากเมียเข้าห้อง ท้อง คลอด
และก็วนเวียนอยู่แบบนี้ พี่สาวเราเรียนจบแค่มันธยมปลายค่ะ เจอผัวก่อน เลยหนีตาม
ผลคือ ผัวติดเหล้า และติดพนันด้วย มีลูกอีก 4 ชีวิต ซึ่งพ่อมันก็ไม่ได้สนใจอะไรเล้ย!!!
พี่สาวเรามีรายได้จากการขายของหวานที่หน้าร้านกับร้านอาหารตามสั่งแม่นี่แหละค่ะ
ลูกสี่คนกับผัวปรสิตอีกหนึ่ง ทำให้เงินใช้ไม่พอ มันก็เลยมาขอเงินแม่ตลอด
แม่ก็นะ ลูกยังไงก็ต้องเลี้ยง เลี้ยงทั้งลูกทั้งหลานอีก 4 คน และปรสิตอีกหนึ่งตน
เรื่องมันมีอยู่ว่า พอฝ่ายพี่ติวอยากจะให้ทางโต้งไปขอแต่งงาน ฝ่ายพี่ติวก็เลยไปกู้เงินแม่แก
มาเป็นค่าสินสอดตัวเอง ทอง 3 บาท เงิน 1 แสน และจัดงานแต่งที่ไม่เล็กหรอก สำหรับคนบ้านๆอย่างเรา
บ้านเขาค่อนข้างมีหน้ามีตา เลยอยากหน้าใหญ่ มั่ง เลยจัดไปหมดไปเกือบ 3 แสน
ตะนี้ปัญหาเริ่มมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น คืออิโต้งเนี๊ย ไปมีกิ๊ก เที่ยวกลางคืน ได้กลับมา
ก็สานต่อ ฝ่ายเจ้ติวจับได้ก็ขอให้เลิก และมัดมือชกขอแต่งงานแหละ เราดูทรงแล้ว
อิโต้งก็ไม่อยากแต่งหรอก แต่ก็นะ กินลูกเขามาตั้งนมนาน ไม่แต่งก็จะเกิดปัญหา
แต่งกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความพินาศ
โต้งเปลี่ยนงานใหม่ ซึ่งเป็นงานที่ต้องออกต่างจังหวัดบ่อยๆ และด้วยความที่มันชอบเที่ยว
มันก็ยังคั่วผู้หญิงอยู่ตลอด ฝ่ายพี่ติว พอแต่งงานแล้วก็เริ่มเจ้ากี้เจ้าการ เริ่มวุ่นวาย เริ่มด่าบ้านเรา
ว่าเราไปเป็นปลิงเกาะเขากิน เขาด่าแบบนี้เพราะพี่สาวคนโตเราเนี๊ย โทรไปยืมเงินแกทุกเดือน
และก็ไม่ใช้คืนเลยสักบาท เรากับแม่ไม่รู้เรื่องค่ะ เรากับแม่ไม่รับรู้แม้กระทั้งเรื่องสินสอดงานแต่ง
ค่างานแต่ง ไม่รู้อะไรเลย คือเขามาบอกว่าจะแต่ง ก็โอเค แต่งก็แต่ง มีเงินเก็บล่ะหรอถึงอยากสร้างครอบครัว
ด้วยความที่แม่เห็นโต้งเงินเดือนเยอะ ทำงาน 5-6 ปีก็คงมีเงินเก็บ เลยไม่ติดใจถามอะไร
พี่ติวแกย้ายมาอยู่บ้านเราในช่วงแรกๆ แกบอกอยู่ไม่ได้คนเยอะ
ไม่อยากเข้าห้องน้ำร่วม ทางเราไม่เคยซื้อของใช้เข้าบ้านเลย
ก็เลยมีปัญหากันนิดหน่อย เราก็งง ว่าเราไม่ซื้ออะไรเข้าบ้านว่ะ
อยู่มาก็มีกินมีใช้ครบไม่ขาดเหลืออะไร พูดง่ายๆว่าเขาอยากออกไปอยู่กันเองอ่ะ
อ่ะ อ่ะ ไปก็ไป ทีนี้ โต้งมันไม่ค่อยได้กลับไปคอนโดว ฝ่ายพี่ติวก็เลยสงสัยว่ามันจะมีกิ๊ก
เลยสืบเสาะกันใหญ่โต สรุปว่า มันก็มีกิ๊กจริงๆนั่นแหละ และที่สำคัญ กิ๊กดันท้องด้วย!!
แม่ก็ถามโต้งว่าแกจะเอายังไง จะเลิกก็เลิก จะทำยังไงจัดการดีๆสิกับเรื่องติวน่ะ
มันก็บอกว่ามันจะเลิกกับติว มาดูแล (เรียกคนท้องว่า กิ๊กล่ะกันนะ ) กิ๊ก!
แต่ด้วยความแมนของมัน เหอะ!!! มันก็ไม่ไปบอกเลิกเขา มันก็หนีหายไปเฉย ไม่ติดต่อ ไม่อะไรเลยกับฝ่ายโน่น
ฝ่ายพี่ติวก็ประสาท-แล้วล่ะค่ะ เริ่มจะบ้าขึ้นทุกวันล่ะ นางตรงดิ่งมาหาเรากับแม่ที่บ้าน
ถามว่า โต้งหายไปไหน ติดต่อได้ไหม หนูโทรหาเป็นร้อยๆสายเลยทำไมไม่รับ
ไอ้เราก็คนซื่อ บอกเราไปว่าพี่กิ๊กท้อง น่าจะอยู่กับพี่กิ๊ก โต้งยังไม่ไปเคลียร์กับพี่ติวหรอ
นางก็ด่ากราดใหญ่เลยทีนี้ ขุดเอาเรื่องพี่สาวเราเป็นหนี้แกมาพูด ว่าช่วยเหลือทุกอย่างนะ
ทำให้ทุกทางทำไมบ้านเราทำแบบนี้ตอบแทนล่ะ สำนึกบุญคุณคนเป็นบ้างไหม
เลว!! เลวทั้งบ้าน เลวทั้งตระกูล มันทำให้ความรู้สึกเราตัดฉึบลงเลยตรงนั้น!!!!
เราก็ได้แต่บอกพี่ติวว่ามันเป็นเรื่องของพี่ 2 คนนะ มีอะไรก็ไปเคลียรกับโต้ง อย่ามาด่ากราดแบบนี้
เดี๋ยวเราจะตามโต้งให้มาคุยเอง เราไม่อยากยุ่ง และก็อย่าเอาแม่ไปยุ่ง ตอนเราก็ตามพี่โต้งกลับมาเจอพี่ติวได้ค่ะ
สรุปก็คือจะเลิก ตะนี้ฝ่ายพี่ติวฟูมฟายไม่ยอมเลิก!!! บอกว่า จะให้อยู่ในฐานะอะไรก็ได้ แต่อย่าเลิกกับติวเลย
อันนี้คิดเราก็นั่งฟังอยู่กับแม่ กับญาติทางพี่ติว ตะนี้ ผช. ก็ไปไม่เป็นไง มันก็จะให้ทำไงล่ะ
ในเมื่อพี่กิ๊กก็ท้อง มันก็ต้องรับผิดชอบ ฝ่ายพี่ติวก็ว่า เอ้า เเล้วถ้าไม่รับติวจะแต่งงานกับติวทำไม
โต้งมันก็สวนไปว่า เอ้าก็ไหนบอกอยู่กันมานานไม่อยากเป็นขี้ปากใคร นี่ไงก็เลยแต่ง ตอนแต่งติวก็บอกโต้งเองนะ
ว่าถ้าไม่รักแล้วให้บอกตรงๆ ติวจะปล่อยโต้งไป โต้งบอกติวไปสิบๆรอบแล้ว ตั้งแต่ยังไม่แต่งด้วย ว่าโต้งไม่ได้รู้สึกออะไรกับติวแล้ว
แต่ติวก็ยืนยันแบบนี้ ใช้คำนี้กับโต้ง ติวจะให้โต้งทำยังไง?
สรุปวันนั้นพี่ติวทรุดลงไปกอดขาโต้งไว้ อ้อนวอนขอให้อย่าไป และประสาท-ขึ้นทุกวัน!!
เพื่อนสนิทเราดั๊นนน ได้ไปฝึกงานที่อ๊อฟฟิตพี่ติว เรามาฟังอีกมุมนึงที่พี่ติวกล่าวถึงบ้านจอยดีกว่าค่ะ
พี่ติวพูดค่อนแคะเราเสมอ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ แม้กระทั่งเรื่องหน้าตา เรามีแฟนนะ เขาเจอแฟนเรา
เขาบอกเรารสนิยมต่ำมาก เรานี้ก็ได้แต่นึกในใจว่าโต้งมันเอาผู้หญิงปากหมาแบบนี้ทำเมียได้ไง
ตอนนั้นพี่ติวเขายังไม่รู้ว่า เด็กฝึกงงานคนนั้นมันคือเพื่อนสนิทเรา และพี่แก็มักหยิบยกเรื่องบ้ายเราไปพูดให้คนทั้งอ๊อฟฟิตฟังเสมอ
ไม่ว่าจะเป็น บ้านเราทำอาหารขายแต่ไม่สะอาด แม่เราได้ผัวขี้เหล้า (ผัวแม่นี้เหมือนผัวพี่สาวเราเป๊ะ!)
ติวช่วยโต้งทุกอย่าง ตั้งแต่มหาลัยติวไม่เคยให้โต้งจ่ายอะไรเลย ติวซื้อให้ทุกอย่าง
ค่าห้องติวก็เป็นคนจ่าย โต้งมันไม่สำนึก!! ครอบครัวโต้งไม่เคยสำนึกถึงความดีของติวเลย
ติวผิดตรงไหน ทำไมโต้งทำแบบนี้กับติว เมื่อคืนโต้งมาหา เกือบมีอะไรกันล่ะ
วันถัดมา มาโม้ว่า เมื่อคืนอ่ะจัดกับโต้งไปสองรอบ เสร็จพร้อมกันทั้งสองรอบเลย
ปกติติวจะเสร็จก่อน เนี๊ย!! คือเรื่องพวกเนี๊ย พี่แกเอาไปเล่าให้คนฟัง ไปเล่าให้ฟังหม๊ดดดด โอ๊ยยย
ถามว่านิสัยส่วนตัวพี่ติวเป็นยังไง ค่ะ พี่แกชอบบอกว่า บ้านแกมีทุกอย่าง
ไอ้เราก็ซื่อ ถามไปว่ามีกระสวยอวกาศไหม 55555555555555 หมั่นไส้คนขี้อวด
ทุกๆครั้ง ทุกๆงาน ไม่ว่าจะกลับใคร ที่ไหน เมื่อมีโอกาสได้อวดตัว พี่ติวแกจะบอกเสมอว่า
บ้านแกรวย บ้านแกมีทุกอย่าง เนี๊ย ครอบครัวเราไม่มีอะไรเลยนะ บ้านติวอ่ะช่วยครอบคัรวโต้งทุกอย่าง
น้องคนเล็ก ( นั่นคือเรา ) อยากได้อะไรติวก็ให้ ค่าเทอมติวก็ส่งเสีย ทำไมแม่โต้งไม่สำนึกเลย
ปล่อยให้ลูกชายมาทำแบบนี้ได้ยังไง
อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะ เราทำงานช่วยแม่ที่ร้านมาตั้งแต่เด็ก และเราเก็บเงินได้มากพอ
ที่จะดูแลตัวเอง เราไม่ใช่คนหลงวัตถุนิยม เราอยู่ได้สบายๆเลยแหละ ขอตังค์แม่ล่าสุด
ตอนเราอยู่ ป.4 เพราะอยากได้รองเท้ากีฬา แต่ตังค์เก็บไม่พอ ค่าเทอมเราส่งเสียตัวเอง
เรียกได้ว่า ไม่เคยทำตัวเป็นภาระใคร ตรงนี้เราโมโหมาก
ถามว่าเราเชื่อเพื่อนสนิทได้แค่ไหน เพื่อนคนนี้เขาไม่เคยเจอพี่ติวค่ะ
สนิทกับเรามาก แต่มักจะสวนกันกับพี่ติว ไม่เคยเจอกันเลย
มันเป็นคนพูดน้อย และพูดความจริงเสมอ มันมาเล่าให้เราฟัง
เพราะมันบอกมันรำคาญพี่ที่อ๊อฟฟิตคนนึงมาก วันๆเล่าแต่เรื่องตัวเอง
งานการไม่ทำ เข้างานสาย ไปถึงนั่งกินข้าวก่อน พอมีคนมานั่งเม้าท์จนเที่ยง
เที่ยงเสร็จลงไปกินข้าว กินข้าวขึ้นมา เล่นเฟส โทรตามแฟน โวยวายเด็ก เพราะแฟนไม่รับสาย
และเพื่อนเรานี่แหละโดนโวยวาย เราถึงได้ถามว่าใครว่ะ ชื่อจริงคุ้นๆ นามสกุลนี้ไหม
โป๊ะเชะ!!!!!!!!!!!!! หึ!!
นั่นแหละค่ะ นิสัยพี่แกข้างต้น บางวันแดดร้อนพี่แกก็ไม่ลงไปซื้อข้าวนะ
ฝากเด็กฝึกงานนั่นแหละลงไปซื้อให้ อยากกินไข่ตุ๋นเซเว่น ก็ซื้อมาแต่ไม่ยอมเวฟ
ลำบากใช้เด็กไปเวฟให้อีก โอ๊ยยย อิแค่เดินมาหยิบเอกสารที่เครื่องถ่ายเกสารยังขี้เกียจเลยค่ะคุณเอ๊ย
เรื่องเราสงสัยคือ ไปเล่าแบบนั้นไม่อายหรอ แล้วทำไมไม่ยอมเลิก
แล้วถ้าท้องขึ้นมาจะทำยังไง จะบอกว่าตัวเองเลี้ยงได้ ดูทรงแล้วก็ไม่ได้นะคะ
เพราะทุกอย่างในชีวิตพี่แกตอนนี้ มีแต่แม่คอยอุ้มชูตลอด อะไรก็แม่ ขี้ไม่ออกก็แม่ เยี่ยวไม่ออกก็แม่
พี่ติวเคยคิดไหมว่าถ้าแม่ตายไปแล้วพี่จะอยู่ยังไง พี่อยากให้ลูกออกมาเป็นเด็กไม่มีพ่อหรอ?
พี่คิดว่าพี่จะเลี้ยงลูกให้หลุดจากนิสัยแย่ๆของพี่ได้ไหม โตไปเขาจะไม่เป็นปัญหาสังคมใช่รึเปล่า?
บางทีคนเรามันอยากทำอะไรก็ได้เพื่อให้เอาชนะอีกฝ่าย
และส่วนใหญ่ของความคิดโง่ๆ ของผู้หญิงที่บูชาความรักมากๆจะเลือกมาใช้ก็คือ ปล่อยให้ท้อง
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ท้องก็เถอะ พี่อยากได้เชื้อสารเลวไม่มีจิตสำนึกแบบบ้านหนูไปทำพันธ์หรอคะ?
เด็กตาดำๆเขาทำผิดอะไรอ่ะ ทำไมถึงได้เลือกหยิบมาใช้เป็นเครื่องมือแย่งผัวกัน
คงไม่ต้องบอกว่าเวลาพี่ติวอยู่กับโต้งเป็นยังไง โต้งมันก็ทาสดีๆนี่เองล่ะค่ะ
ฝ่ายโต้งเองมันก็ผิดมหันต์ ผิดตั้งแต่อยู่ด้วยกันทั้งๆที่เรียนยังไม่จบแล้ว
ผิดที่มันไม่เด็ดขาด และเหตุผลของความไม่เด็ดขาดของมันก็คือ เพราะพี่สาวคนโต
มันไปยืมเงินพี่ติวมานี่แหละ เขาไม่มีใช้หนี้ อีกประเด็นคือ ฝ่ายนั่นเขาจะให้คืนค่างานแต่ง ค่าสินสอดด้วย
ปัญหาชีวิตคู่ที่โคตรจะก้าวข้ามลำบากแล้ว มาเจอปัญหาญาติของแต่ละฝ่ายอีก ยิ่งสาหัสเข้าไปใหญ่
สรุปว่า พี่ชายเรามันก็เลวจริงๆ!!!! และไร้จิตสำนึกจริงๆนี่แหละ แต่อีกฝ่ายก็ควรโทษตัวเองด้วยรึเปล่าเนี๊ย ห๊ะ?
และทุกวันนี้ ปัญหาก็ยังคาราคาซังอยู่ เราไม่รู้ว่าเรากับแม่ต้องเป็นขี้ปากชาวบ้านไปอีกนานแค่ไหน
และเราก็ไม่อยากรับรู้ปัญหาของเขาทั้งสองอีกแล้ว คืนมันเหนื่อยมากค่ะ รายละเอีกเยอะมาก เล่า 5 วันยังไม่หมดเลย ฮ่าๆๆ
ล่าสุดเมื่อวานพี่แก ก็ไปเล่าให้ที่อ๊อฟฟิตฟังอีกแล้วว่าเมื่อคืนเสียไป 3 น้ำ กิ๊กจะรู้ไหมน้อ
เอ้อนะ!!! เป็นเมียหลวงอยู่ดีๆ ลดระดับตัวเองมาเป็นเมียน้อยซะงั้น
ก็อยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์ทุกๆคนไว้นะคะ ทำอะไรก็คิดใคร่ครวญสักนิด
เราไม่อยากให้ใครเกิดมาเป็นลูกกำพร้าแบบเราแล้วค่ะ เราสงสารแม่
อันไหนไม่ดีก็ตัดทิ้งเถอะ อย่าเอามาทำให้เป็นเรื่องเป็นราว ทำให้ชีวิตยุ่งยากขึ้นเลย
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ
ก็ไม่ได้หวังจะมีใครอ่านหรอก เราแค่อยากระบายเฉยๆ
เราอึดอัดมาก จะเล่าให้ใครฟังก็ไม่ค่อยอยากเล่า สงสารแม่ TT_TT
ปัญหาผัวๆเมียๆ ปัญหามือที่สาม ที่คาราคาซังเกินจะเยียวยา!!
มันมีเรื่องกดดันมากมายเกิดขึ้นกับชีวิตเรามาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
วันนี้เราอยากจะระบาย และอยากฟังความคิดเห็นของทุกๆคนเหลือเกิน
หวังไว้ว่า มันคงจะพอช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่สะใภ้เราค่ะ
บ้านเราไม่ได้มีฐานะยากจนอะไร ก็พอมีกินมีใช้
แต่ว่า พี่สาวคนโตของเรา ค่อนข้างติดหวย และเลือกผัวผิดค่ะ ชิวิตเลยทุกข์ทน
พี่ชายเรานามสมมุติว่า โต้ง ล่ะกันนะคะ แกคบกับพี่สะใภ้คนนี้ นามสมมุติว่า ติว
สองคนคบกันมาตั้งแต่สมัยมหาลัยแล้วค่ะ ก็นะ ตามสังคมนิยมสมัยนี้
เราอาศัยอยู่หอพักเดียวกันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
จนเมื่อปี 56 พวกเขาสองคนตัดสินใจแต่งงานกัน
ซึ่งดูทรงว่า ทางผู้ใหญ่ฝ่ายพี่ติวอยากให้แต่งกับโต้ง เพราะก็ตามนั้นค่ะ
อยู่กันมานาน ก็ตบแต่งกันสักทีเถอะ เขาจะได้ไม่นินทาว่าร้ายกัน
ฝ่ายโต้งพี่ชายเรา จบมาตั้งแต่ปี 52 แล้วค่ะ ทำงานตำแหน่งดีเลยทีเดียว
เงินเดือนก็ 3 หมื่น แต่ไม่มีเงินเก็บ ยังไม่มีความรับผิดชอบใดๆเลย
บ้านเรายังเช่าอยู่ค่ะ แม่ขายอาหารตามสั่ง เรามีพี่น้อง 3 คนคือ พี่สาวคนโต โต้ง และเรา
พี่สาวก็ดูทรงว่าจะช่วยเหลือตัวเองยังไม่ได้ พี่ชายก็ดูทรงไม่เอาอ่าวอะไรเลย ทั้งๆที่จบสูง
การงานดี การเงินดีกว่าคนอื่น ส่วนเราก็ยังเรียนอยู่มหาลัยค่ะ เรียนเสร็จก็รีบกลับบ้านไปช่วยแม่ขายของต่อ
และก็ได้เงินเก็บจากที่แม่ให้วันละ 3 ร้อยเป็นค่าแรงนั่นแหละค่ะ ที่พอจุนเจือตัวเอง
และก็มีมากพอที่จะให้แม่ยืมไปต่อทุนในวันที่แม่ขายของไม่ดี รึหมุนเงินไม่ทัน
เรื่องเงินนี่ ถ้าตัดปัญหาพี่สาวไป แล้วจะไม่มีปัญหาอะไรกันเลย
พี่สาวเรามีผัวขี้เหล้า ไม่ทำงานอะไรเลย เมามาลากเมียเข้าห้อง ท้อง คลอด
และก็วนเวียนอยู่แบบนี้ พี่สาวเราเรียนจบแค่มันธยมปลายค่ะ เจอผัวก่อน เลยหนีตาม
ผลคือ ผัวติดเหล้า และติดพนันด้วย มีลูกอีก 4 ชีวิต ซึ่งพ่อมันก็ไม่ได้สนใจอะไรเล้ย!!!
พี่สาวเรามีรายได้จากการขายของหวานที่หน้าร้านกับร้านอาหารตามสั่งแม่นี่แหละค่ะ
ลูกสี่คนกับผัวปรสิตอีกหนึ่ง ทำให้เงินใช้ไม่พอ มันก็เลยมาขอเงินแม่ตลอด
แม่ก็นะ ลูกยังไงก็ต้องเลี้ยง เลี้ยงทั้งลูกทั้งหลานอีก 4 คน และปรสิตอีกหนึ่งตน
เรื่องมันมีอยู่ว่า พอฝ่ายพี่ติวอยากจะให้ทางโต้งไปขอแต่งงาน ฝ่ายพี่ติวก็เลยไปกู้เงินแม่แก
มาเป็นค่าสินสอดตัวเอง ทอง 3 บาท เงิน 1 แสน และจัดงานแต่งที่ไม่เล็กหรอก สำหรับคนบ้านๆอย่างเรา
บ้านเขาค่อนข้างมีหน้ามีตา เลยอยากหน้าใหญ่ มั่ง เลยจัดไปหมดไปเกือบ 3 แสน
ตะนี้ปัญหาเริ่มมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น คืออิโต้งเนี๊ย ไปมีกิ๊ก เที่ยวกลางคืน ได้กลับมา
ก็สานต่อ ฝ่ายเจ้ติวจับได้ก็ขอให้เลิก และมัดมือชกขอแต่งงานแหละ เราดูทรงแล้ว
อิโต้งก็ไม่อยากแต่งหรอก แต่ก็นะ กินลูกเขามาตั้งนมนาน ไม่แต่งก็จะเกิดปัญหา
แต่งกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความพินาศ
โต้งเปลี่ยนงานใหม่ ซึ่งเป็นงานที่ต้องออกต่างจังหวัดบ่อยๆ และด้วยความที่มันชอบเที่ยว
มันก็ยังคั่วผู้หญิงอยู่ตลอด ฝ่ายพี่ติว พอแต่งงานแล้วก็เริ่มเจ้ากี้เจ้าการ เริ่มวุ่นวาย เริ่มด่าบ้านเรา
ว่าเราไปเป็นปลิงเกาะเขากิน เขาด่าแบบนี้เพราะพี่สาวคนโตเราเนี๊ย โทรไปยืมเงินแกทุกเดือน
และก็ไม่ใช้คืนเลยสักบาท เรากับแม่ไม่รู้เรื่องค่ะ เรากับแม่ไม่รับรู้แม้กระทั้งเรื่องสินสอดงานแต่ง
ค่างานแต่ง ไม่รู้อะไรเลย คือเขามาบอกว่าจะแต่ง ก็โอเค แต่งก็แต่ง มีเงินเก็บล่ะหรอถึงอยากสร้างครอบครัว
ด้วยความที่แม่เห็นโต้งเงินเดือนเยอะ ทำงาน 5-6 ปีก็คงมีเงินเก็บ เลยไม่ติดใจถามอะไร
พี่ติวแกย้ายมาอยู่บ้านเราในช่วงแรกๆ แกบอกอยู่ไม่ได้คนเยอะ
ไม่อยากเข้าห้องน้ำร่วม ทางเราไม่เคยซื้อของใช้เข้าบ้านเลย
ก็เลยมีปัญหากันนิดหน่อย เราก็งง ว่าเราไม่ซื้ออะไรเข้าบ้านว่ะ
อยู่มาก็มีกินมีใช้ครบไม่ขาดเหลืออะไร พูดง่ายๆว่าเขาอยากออกไปอยู่กันเองอ่ะ
อ่ะ อ่ะ ไปก็ไป ทีนี้ โต้งมันไม่ค่อยได้กลับไปคอนโดว ฝ่ายพี่ติวก็เลยสงสัยว่ามันจะมีกิ๊ก
เลยสืบเสาะกันใหญ่โต สรุปว่า มันก็มีกิ๊กจริงๆนั่นแหละ และที่สำคัญ กิ๊กดันท้องด้วย!!
แม่ก็ถามโต้งว่าแกจะเอายังไง จะเลิกก็เลิก จะทำยังไงจัดการดีๆสิกับเรื่องติวน่ะ
มันก็บอกว่ามันจะเลิกกับติว มาดูแล (เรียกคนท้องว่า กิ๊กล่ะกันนะ ) กิ๊ก!
แต่ด้วยความแมนของมัน เหอะ!!! มันก็ไม่ไปบอกเลิกเขา มันก็หนีหายไปเฉย ไม่ติดต่อ ไม่อะไรเลยกับฝ่ายโน่น
ฝ่ายพี่ติวก็ประสาท-แล้วล่ะค่ะ เริ่มจะบ้าขึ้นทุกวันล่ะ นางตรงดิ่งมาหาเรากับแม่ที่บ้าน
ถามว่า โต้งหายไปไหน ติดต่อได้ไหม หนูโทรหาเป็นร้อยๆสายเลยทำไมไม่รับ
ไอ้เราก็คนซื่อ บอกเราไปว่าพี่กิ๊กท้อง น่าจะอยู่กับพี่กิ๊ก โต้งยังไม่ไปเคลียร์กับพี่ติวหรอ
นางก็ด่ากราดใหญ่เลยทีนี้ ขุดเอาเรื่องพี่สาวเราเป็นหนี้แกมาพูด ว่าช่วยเหลือทุกอย่างนะ
ทำให้ทุกทางทำไมบ้านเราทำแบบนี้ตอบแทนล่ะ สำนึกบุญคุณคนเป็นบ้างไหม
เลว!! เลวทั้งบ้าน เลวทั้งตระกูล มันทำให้ความรู้สึกเราตัดฉึบลงเลยตรงนั้น!!!!
เราก็ได้แต่บอกพี่ติวว่ามันเป็นเรื่องของพี่ 2 คนนะ มีอะไรก็ไปเคลียรกับโต้ง อย่ามาด่ากราดแบบนี้
เดี๋ยวเราจะตามโต้งให้มาคุยเอง เราไม่อยากยุ่ง และก็อย่าเอาแม่ไปยุ่ง ตอนเราก็ตามพี่โต้งกลับมาเจอพี่ติวได้ค่ะ
สรุปก็คือจะเลิก ตะนี้ฝ่ายพี่ติวฟูมฟายไม่ยอมเลิก!!! บอกว่า จะให้อยู่ในฐานะอะไรก็ได้ แต่อย่าเลิกกับติวเลย
อันนี้คิดเราก็นั่งฟังอยู่กับแม่ กับญาติทางพี่ติว ตะนี้ ผช. ก็ไปไม่เป็นไง มันก็จะให้ทำไงล่ะ
ในเมื่อพี่กิ๊กก็ท้อง มันก็ต้องรับผิดชอบ ฝ่ายพี่ติวก็ว่า เอ้า เเล้วถ้าไม่รับติวจะแต่งงานกับติวทำไม
โต้งมันก็สวนไปว่า เอ้าก็ไหนบอกอยู่กันมานานไม่อยากเป็นขี้ปากใคร นี่ไงก็เลยแต่ง ตอนแต่งติวก็บอกโต้งเองนะ
ว่าถ้าไม่รักแล้วให้บอกตรงๆ ติวจะปล่อยโต้งไป โต้งบอกติวไปสิบๆรอบแล้ว ตั้งแต่ยังไม่แต่งด้วย ว่าโต้งไม่ได้รู้สึกออะไรกับติวแล้ว
แต่ติวก็ยืนยันแบบนี้ ใช้คำนี้กับโต้ง ติวจะให้โต้งทำยังไง?
สรุปวันนั้นพี่ติวทรุดลงไปกอดขาโต้งไว้ อ้อนวอนขอให้อย่าไป และประสาท-ขึ้นทุกวัน!!
เพื่อนสนิทเราดั๊นนน ได้ไปฝึกงานที่อ๊อฟฟิตพี่ติว เรามาฟังอีกมุมนึงที่พี่ติวกล่าวถึงบ้านจอยดีกว่าค่ะ
พี่ติวพูดค่อนแคะเราเสมอ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ แม้กระทั่งเรื่องหน้าตา เรามีแฟนนะ เขาเจอแฟนเรา
เขาบอกเรารสนิยมต่ำมาก เรานี้ก็ได้แต่นึกในใจว่าโต้งมันเอาผู้หญิงปากหมาแบบนี้ทำเมียได้ไง
ตอนนั้นพี่ติวเขายังไม่รู้ว่า เด็กฝึกงงานคนนั้นมันคือเพื่อนสนิทเรา และพี่แก็มักหยิบยกเรื่องบ้ายเราไปพูดให้คนทั้งอ๊อฟฟิตฟังเสมอ
ไม่ว่าจะเป็น บ้านเราทำอาหารขายแต่ไม่สะอาด แม่เราได้ผัวขี้เหล้า (ผัวแม่นี้เหมือนผัวพี่สาวเราเป๊ะ!)
ติวช่วยโต้งทุกอย่าง ตั้งแต่มหาลัยติวไม่เคยให้โต้งจ่ายอะไรเลย ติวซื้อให้ทุกอย่าง
ค่าห้องติวก็เป็นคนจ่าย โต้งมันไม่สำนึก!! ครอบครัวโต้งไม่เคยสำนึกถึงความดีของติวเลย
ติวผิดตรงไหน ทำไมโต้งทำแบบนี้กับติว เมื่อคืนโต้งมาหา เกือบมีอะไรกันล่ะ
วันถัดมา มาโม้ว่า เมื่อคืนอ่ะจัดกับโต้งไปสองรอบ เสร็จพร้อมกันทั้งสองรอบเลย
ปกติติวจะเสร็จก่อน เนี๊ย!! คือเรื่องพวกเนี๊ย พี่แกเอาไปเล่าให้คนฟัง ไปเล่าให้ฟังหม๊ดดดด โอ๊ยยย
ถามว่านิสัยส่วนตัวพี่ติวเป็นยังไง ค่ะ พี่แกชอบบอกว่า บ้านแกมีทุกอย่าง
ไอ้เราก็ซื่อ ถามไปว่ามีกระสวยอวกาศไหม 55555555555555 หมั่นไส้คนขี้อวด
ทุกๆครั้ง ทุกๆงาน ไม่ว่าจะกลับใคร ที่ไหน เมื่อมีโอกาสได้อวดตัว พี่ติวแกจะบอกเสมอว่า
บ้านแกรวย บ้านแกมีทุกอย่าง เนี๊ย ครอบครัวเราไม่มีอะไรเลยนะ บ้านติวอ่ะช่วยครอบคัรวโต้งทุกอย่าง
น้องคนเล็ก ( นั่นคือเรา ) อยากได้อะไรติวก็ให้ ค่าเทอมติวก็ส่งเสีย ทำไมแม่โต้งไม่สำนึกเลย
ปล่อยให้ลูกชายมาทำแบบนี้ได้ยังไง
อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะ เราทำงานช่วยแม่ที่ร้านมาตั้งแต่เด็ก และเราเก็บเงินได้มากพอ
ที่จะดูแลตัวเอง เราไม่ใช่คนหลงวัตถุนิยม เราอยู่ได้สบายๆเลยแหละ ขอตังค์แม่ล่าสุด
ตอนเราอยู่ ป.4 เพราะอยากได้รองเท้ากีฬา แต่ตังค์เก็บไม่พอ ค่าเทอมเราส่งเสียตัวเอง
เรียกได้ว่า ไม่เคยทำตัวเป็นภาระใคร ตรงนี้เราโมโหมาก
ถามว่าเราเชื่อเพื่อนสนิทได้แค่ไหน เพื่อนคนนี้เขาไม่เคยเจอพี่ติวค่ะ
สนิทกับเรามาก แต่มักจะสวนกันกับพี่ติว ไม่เคยเจอกันเลย
มันเป็นคนพูดน้อย และพูดความจริงเสมอ มันมาเล่าให้เราฟัง
เพราะมันบอกมันรำคาญพี่ที่อ๊อฟฟิตคนนึงมาก วันๆเล่าแต่เรื่องตัวเอง
งานการไม่ทำ เข้างานสาย ไปถึงนั่งกินข้าวก่อน พอมีคนมานั่งเม้าท์จนเที่ยง
เที่ยงเสร็จลงไปกินข้าว กินข้าวขึ้นมา เล่นเฟส โทรตามแฟน โวยวายเด็ก เพราะแฟนไม่รับสาย
และเพื่อนเรานี่แหละโดนโวยวาย เราถึงได้ถามว่าใครว่ะ ชื่อจริงคุ้นๆ นามสกุลนี้ไหม
โป๊ะเชะ!!!!!!!!!!!!! หึ!!
นั่นแหละค่ะ นิสัยพี่แกข้างต้น บางวันแดดร้อนพี่แกก็ไม่ลงไปซื้อข้าวนะ
ฝากเด็กฝึกงานนั่นแหละลงไปซื้อให้ อยากกินไข่ตุ๋นเซเว่น ก็ซื้อมาแต่ไม่ยอมเวฟ
ลำบากใช้เด็กไปเวฟให้อีก โอ๊ยยย อิแค่เดินมาหยิบเอกสารที่เครื่องถ่ายเกสารยังขี้เกียจเลยค่ะคุณเอ๊ย
เรื่องเราสงสัยคือ ไปเล่าแบบนั้นไม่อายหรอ แล้วทำไมไม่ยอมเลิก
แล้วถ้าท้องขึ้นมาจะทำยังไง จะบอกว่าตัวเองเลี้ยงได้ ดูทรงแล้วก็ไม่ได้นะคะ
เพราะทุกอย่างในชีวิตพี่แกตอนนี้ มีแต่แม่คอยอุ้มชูตลอด อะไรก็แม่ ขี้ไม่ออกก็แม่ เยี่ยวไม่ออกก็แม่
พี่ติวเคยคิดไหมว่าถ้าแม่ตายไปแล้วพี่จะอยู่ยังไง พี่อยากให้ลูกออกมาเป็นเด็กไม่มีพ่อหรอ?
พี่คิดว่าพี่จะเลี้ยงลูกให้หลุดจากนิสัยแย่ๆของพี่ได้ไหม โตไปเขาจะไม่เป็นปัญหาสังคมใช่รึเปล่า?
บางทีคนเรามันอยากทำอะไรก็ได้เพื่อให้เอาชนะอีกฝ่าย
และส่วนใหญ่ของความคิดโง่ๆ ของผู้หญิงที่บูชาความรักมากๆจะเลือกมาใช้ก็คือ ปล่อยให้ท้อง
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ท้องก็เถอะ พี่อยากได้เชื้อสารเลวไม่มีจิตสำนึกแบบบ้านหนูไปทำพันธ์หรอคะ?
เด็กตาดำๆเขาทำผิดอะไรอ่ะ ทำไมถึงได้เลือกหยิบมาใช้เป็นเครื่องมือแย่งผัวกัน
คงไม่ต้องบอกว่าเวลาพี่ติวอยู่กับโต้งเป็นยังไง โต้งมันก็ทาสดีๆนี่เองล่ะค่ะ
ฝ่ายโต้งเองมันก็ผิดมหันต์ ผิดตั้งแต่อยู่ด้วยกันทั้งๆที่เรียนยังไม่จบแล้ว
ผิดที่มันไม่เด็ดขาด และเหตุผลของความไม่เด็ดขาดของมันก็คือ เพราะพี่สาวคนโต
มันไปยืมเงินพี่ติวมานี่แหละ เขาไม่มีใช้หนี้ อีกประเด็นคือ ฝ่ายนั่นเขาจะให้คืนค่างานแต่ง ค่าสินสอดด้วย
ปัญหาชีวิตคู่ที่โคตรจะก้าวข้ามลำบากแล้ว มาเจอปัญหาญาติของแต่ละฝ่ายอีก ยิ่งสาหัสเข้าไปใหญ่
สรุปว่า พี่ชายเรามันก็เลวจริงๆ!!!! และไร้จิตสำนึกจริงๆนี่แหละ แต่อีกฝ่ายก็ควรโทษตัวเองด้วยรึเปล่าเนี๊ย ห๊ะ?
และทุกวันนี้ ปัญหาก็ยังคาราคาซังอยู่ เราไม่รู้ว่าเรากับแม่ต้องเป็นขี้ปากชาวบ้านไปอีกนานแค่ไหน
และเราก็ไม่อยากรับรู้ปัญหาของเขาทั้งสองอีกแล้ว คืนมันเหนื่อยมากค่ะ รายละเอีกเยอะมาก เล่า 5 วันยังไม่หมดเลย ฮ่าๆๆ
ล่าสุดเมื่อวานพี่แก ก็ไปเล่าให้ที่อ๊อฟฟิตฟังอีกแล้วว่าเมื่อคืนเสียไป 3 น้ำ กิ๊กจะรู้ไหมน้อ
เอ้อนะ!!! เป็นเมียหลวงอยู่ดีๆ ลดระดับตัวเองมาเป็นเมียน้อยซะงั้น
ก็อยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์ทุกๆคนไว้นะคะ ทำอะไรก็คิดใคร่ครวญสักนิด
เราไม่อยากให้ใครเกิดมาเป็นลูกกำพร้าแบบเราแล้วค่ะ เราสงสารแม่
อันไหนไม่ดีก็ตัดทิ้งเถอะ อย่าเอามาทำให้เป็นเรื่องเป็นราว ทำให้ชีวิตยุ่งยากขึ้นเลย
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ
ก็ไม่ได้หวังจะมีใครอ่านหรอก เราแค่อยากระบายเฉยๆ
เราอึดอัดมาก จะเล่าให้ใครฟังก็ไม่ค่อยอยากเล่า สงสารแม่ TT_TT