“ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยจีน 21 วัน ผ่านกัมพูชา เวียดนาม สุดทางที่กำแพงเมืองจีน ขากลับล่องเรือผ่านลาว นั่งรถไฟเป็นส่วนใหญ่ ไม่นั่งเครื่องบินเลย
ตอนที่ 11 มหานครฉงชิ่ง จีน
เราลงรถไฟที่ฉงชิ่งเป่ย(ฉงชิ่งเหนือ) ไปถามจนท.ว่าจะไปซื้อตั๋วไปเฉิงตูได้ที่ไหน จนท.หันไปหันมาตอบไม่ได้ พอดีน้องนศ. ผ่านมาช่วย ไม่ผิดหวัง เธอช่วยจนกระทั่งตามไปสั่งคนขับรถเมล์สาย 663 ให้ไปส่งเราซื้อตั๋วอีกด้านหนึ่งของสถานี สถานีรถไฟกว้างใหญ่มากเดินอ้อมไปไม่ไหว
มหานครฉงชิ่งเป็นมหานครที่ 4 มีพื้นที 80,360.ตร.กม. ใหญ่เป็น 50 เท่าของกทม. ประชากร 30 ล้าน รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี 204,404 บาท มากกว่ากทม. 2.5 เท่า
ซื้อตั๋วไปเฉิงตูได้เวลา 17.08 น.
เรานั่งรถใต้ดิน ซึ่งบางขณะก็แล่นขึ้นลอยฟ้า ไปเที่ยวหลายที่
ศูนย์กลางทางธุรกิจของฉงชิ่ง เป็นถนนคนเดินเจี่ยฟ่างเป่ย นั่งรถสาย 665 จากหน้าสถานีฉงชิ่งเป่ยไปส่งที่สถานีLongtousi จากหลงเถาซื่อ นั่งใต้ดินสาย 3 ไปเปลี่ยนรถที่ Lianglukou จากเหลียงลู่โขว่ต่อสาย 1 ไป Sezikou ออกจากสถานีที่ทางออก 9 เดินข้ามถนนไปกินข้าวถาดหลุม ข้างๆโรงแรมอ่านชื่อไม่ออก
ข้าวราคา 15 หยวนแบ่งข้าวออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว กับข้าวค่อนไปทางเค็ม ผัดหอมหัวใหญ่กินไม่ได้เลย แต่ดีกว่าและถูกกว่าบนรถไฟเยอะ เป็นแกงเขียวหวานไก่ พะโล้เต้าหู้ผัดผักกาดขาวใส่เห็ดหอม และผัดหอมหัวใหญ่ไม่มีการตัดหวานเลย แกงเขียวหวานเป็นแกงเขียวเค็ม ใช้เมล็ดถั่วลันเตาแทนมะเขือพวง ใช้น้ำมันพืชแทนกะทิ คนขายน่ารักมากเขาได้ยินเราพูดภาษาไทย เขาใส่ช้อนให้ในถาดเลย
รถใต้ดินสาย 3 ที่ฉงชิ่ง ตกแต่งเหมือนรถในสวนสนุก
ย่านธุรกิจอยู่ถนนมินซวาน Min Quan แปลกมั้ย Q ออกเสียงก้ำกึ่ง
ออกจากเจี่ยฟางเป่ยกลับไปที่หลงเถาซื่อ เพื่อเดินไปขึ้นรถ 202 ไปฉีชี่โขว่ ถนนสายวัฒนธรรม แต่ไปเจอจนท.ชายก่อนออกสถานีบอกให้นั่งใต้ดินสาย 3 ไปเปลี่ยนรถสาย 1 ที่เหลียงลู่โขว่ ไปลงที่สถานีเส่อเหลียวโขว่ เมื่อออกจากสถานีออกไปที่ทางออก 1 เห็นถนนวัฒนธรรมหรือถนนโบราณ ฝั่งซ้ายมีร้านขายอาหารดั้งเดิม มีที่นั่งเรียงรายไปตามไหล่เขายาวประมาณ 300 เมตร ฝั่งขวาเป็นบ้านโบราณชั้นเดียวและ 2 ชั้น ขายสินค้าสารพัดประเภท ของกิน ของใช้ เครื่องประดับ ที่หัวถนนมีซุ้มประตู มีนักดนตรีเล่นกีต้าร์เพลงจีนเปิดหมวก ใกล้ๆสถานีตรอกเล็กๆขายอาหารสด และโชห่วย เราซื้อบะหมี่ที่นั่นราคา 4 หยวนสับปะรดชิ้นละ 2 หยวนครึ่ง เมืองนี้เขาคว้านตาสับปะรดโดยเจาะรูควักตาออก
มีเรื่องตื่นเต้น ทำตั๋วรถใต้ดินหาย ตอนถือแผนที่เดินทางไปถามข้อมูลจากจนท. หายที่สถานีเปลี่ยนผ่าน ที่มีทางเดินยาว เดินย้อนกลับไปหาก็ไม่เจอ ต้องซื้อตั๋วใหม่แทนตั๋วที่หายราคา 2 หยวน
รถไฟใต้ดินของฉงชิ่งมี 7 สายที่แปลกก็คือวิ่งอยู่ใต้ดินดีๆไปโผล่บนอากาศแล้วก็ผลุบลงไปใต้ดินอีก ค่าครองชีพที่ฉงชิ่ง ต่ำกว่าปักกิ่ง คนไม่ค่อยเร่งรีบและแย่งชิงเหมือนที่ปักกิ่ง
เวลานั้นรถใต้ดินแน่นและจอดนาน ต่อให้ติดปีกก็ไม่ทันเพราะต้องเปลี่ยนสายด้วย
แล้วเราก็ตกรถ ไปไม่ทันเวลา รถไฟออกไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ป้าเที่ยวฉงชิ่งแบบเบลอๆ พิษไข้หวัด จากการลุยฝนหาที่พักวันถึงปักกิ่ง โต้ลมหนาวที่กำแพงเมืองจีน และโต้ลมหนาวขณะรอเข้าสถานีรถไฟปักกิ่ง ป้าเบลอจนลืมเช็คเวลา ส่วนลุงไม่ได้พกนาฬิกา
ป้าคิดว่าต้องค้างคืนฉงชิ่งเป็นแน่ เงินค่าตั๋วก็คงเสียไปฟรีๆ แถมเสียค่าโรงแรมอีก แต่ลุงบอกว่าที่ยุโรป เมื่อไปไม่ทันรถไฟ ให้รีบไปพบจนท. บอกเขาตามตรง เขาจะหาทางช่วยเราได้
เมื่อถึงสถานี ป้ารีบไปเข้าแถว ตรงช่องจนท.หนุ่มหนึ่งเดียวที่พูดภาษาอังกฤษได้ และขายตั๋วให้เราตอนเช้า พอดีจนท.สาวคงเห็นเราท่าทางรุกลี้รุกลน จึงเดินมาถาม เราจึงยื่นตั๋วให้ดู เธอก็ทำท่าทางเข้าใจ เธอบอกให้ตามเธอไปช่องที่จนท.ชายอีกคนหนึ่ง แต่เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ คุยกันไม่รู้เรื่อง จนท.ช่องนี้ต้องลุกไปตามจนท.ที่พูดได้คนเดียว มาจัดการให้ เราคิดว่าต้องจ่ายอีกเท่าไรก็ต้องจำยอม เพราะเราผิดเองที่มาไม่ทันรถ
อัศจรรย์มาก !! จนท.ออกตั๋วให้เราใหม่ เป็นขบวน 19.19 น. จากเดิมรถธรรมดา เป็นรถไฟความเร็วสูง CRH โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม !!
สรุปค่าใช้จ่ายเมื่อสิ้นสุดการเยือนมหานครฉงชิ่ง ระยะทาง 10,480 กม. ค่าเดินทาง 21,850 บาท ค่าอื่นๆ 14,650 บาท.รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 36,400 บาท สรุปค่าใช้จ่ายเมื่อผ่านเฉิงตู ระยะทาง กม. ค่าเดินทาง 22,810 บาท ค่าอื่นๆ 15,430 บาท รวม 38,240 บาท
[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยจีน 21 วัน ไปกัมพูชา เวียดนาม จีน (รถไฟ) ล่องเรือกลับทางลาว ตอนที่ 11 มหานครฉงชิ่ง
ตอนที่ 11 มหานครฉงชิ่ง จีน
เราลงรถไฟที่ฉงชิ่งเป่ย(ฉงชิ่งเหนือ) ไปถามจนท.ว่าจะไปซื้อตั๋วไปเฉิงตูได้ที่ไหน จนท.หันไปหันมาตอบไม่ได้ พอดีน้องนศ. ผ่านมาช่วย ไม่ผิดหวัง เธอช่วยจนกระทั่งตามไปสั่งคนขับรถเมล์สาย 663 ให้ไปส่งเราซื้อตั๋วอีกด้านหนึ่งของสถานี สถานีรถไฟกว้างใหญ่มากเดินอ้อมไปไม่ไหว
มหานครฉงชิ่งเป็นมหานครที่ 4 มีพื้นที 80,360.ตร.กม. ใหญ่เป็น 50 เท่าของกทม. ประชากร 30 ล้าน รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี 204,404 บาท มากกว่ากทม. 2.5 เท่า
ซื้อตั๋วไปเฉิงตูได้เวลา 17.08 น.
เรานั่งรถใต้ดิน ซึ่งบางขณะก็แล่นขึ้นลอยฟ้า ไปเที่ยวหลายที่
ศูนย์กลางทางธุรกิจของฉงชิ่ง เป็นถนนคนเดินเจี่ยฟ่างเป่ย นั่งรถสาย 665 จากหน้าสถานีฉงชิ่งเป่ยไปส่งที่สถานีLongtousi จากหลงเถาซื่อ นั่งใต้ดินสาย 3 ไปเปลี่ยนรถที่ Lianglukou จากเหลียงลู่โขว่ต่อสาย 1 ไป Sezikou ออกจากสถานีที่ทางออก 9 เดินข้ามถนนไปกินข้าวถาดหลุม ข้างๆโรงแรมอ่านชื่อไม่ออก
ข้าวราคา 15 หยวนแบ่งข้าวออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว กับข้าวค่อนไปทางเค็ม ผัดหอมหัวใหญ่กินไม่ได้เลย แต่ดีกว่าและถูกกว่าบนรถไฟเยอะ เป็นแกงเขียวหวานไก่ พะโล้เต้าหู้ผัดผักกาดขาวใส่เห็ดหอม และผัดหอมหัวใหญ่ไม่มีการตัดหวานเลย แกงเขียวหวานเป็นแกงเขียวเค็ม ใช้เมล็ดถั่วลันเตาแทนมะเขือพวง ใช้น้ำมันพืชแทนกะทิ คนขายน่ารักมากเขาได้ยินเราพูดภาษาไทย เขาใส่ช้อนให้ในถาดเลย
รถใต้ดินสาย 3 ที่ฉงชิ่ง ตกแต่งเหมือนรถในสวนสนุก
ย่านธุรกิจอยู่ถนนมินซวาน Min Quan แปลกมั้ย Q ออกเสียงก้ำกึ่ง
ออกจากเจี่ยฟางเป่ยกลับไปที่หลงเถาซื่อ เพื่อเดินไปขึ้นรถ 202 ไปฉีชี่โขว่ ถนนสายวัฒนธรรม แต่ไปเจอจนท.ชายก่อนออกสถานีบอกให้นั่งใต้ดินสาย 3 ไปเปลี่ยนรถสาย 1 ที่เหลียงลู่โขว่ ไปลงที่สถานีเส่อเหลียวโขว่ เมื่อออกจากสถานีออกไปที่ทางออก 1 เห็นถนนวัฒนธรรมหรือถนนโบราณ ฝั่งซ้ายมีร้านขายอาหารดั้งเดิม มีที่นั่งเรียงรายไปตามไหล่เขายาวประมาณ 300 เมตร ฝั่งขวาเป็นบ้านโบราณชั้นเดียวและ 2 ชั้น ขายสินค้าสารพัดประเภท ของกิน ของใช้ เครื่องประดับ ที่หัวถนนมีซุ้มประตู มีนักดนตรีเล่นกีต้าร์เพลงจีนเปิดหมวก ใกล้ๆสถานีตรอกเล็กๆขายอาหารสด และโชห่วย เราซื้อบะหมี่ที่นั่นราคา 4 หยวนสับปะรดชิ้นละ 2 หยวนครึ่ง เมืองนี้เขาคว้านตาสับปะรดโดยเจาะรูควักตาออก
มีเรื่องตื่นเต้น ทำตั๋วรถใต้ดินหาย ตอนถือแผนที่เดินทางไปถามข้อมูลจากจนท. หายที่สถานีเปลี่ยนผ่าน ที่มีทางเดินยาว เดินย้อนกลับไปหาก็ไม่เจอ ต้องซื้อตั๋วใหม่แทนตั๋วที่หายราคา 2 หยวน
รถไฟใต้ดินของฉงชิ่งมี 7 สายที่แปลกก็คือวิ่งอยู่ใต้ดินดีๆไปโผล่บนอากาศแล้วก็ผลุบลงไปใต้ดินอีก ค่าครองชีพที่ฉงชิ่ง ต่ำกว่าปักกิ่ง คนไม่ค่อยเร่งรีบและแย่งชิงเหมือนที่ปักกิ่ง
เวลานั้นรถใต้ดินแน่นและจอดนาน ต่อให้ติดปีกก็ไม่ทันเพราะต้องเปลี่ยนสายด้วย
แล้วเราก็ตกรถ ไปไม่ทันเวลา รถไฟออกไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ป้าเที่ยวฉงชิ่งแบบเบลอๆ พิษไข้หวัด จากการลุยฝนหาที่พักวันถึงปักกิ่ง โต้ลมหนาวที่กำแพงเมืองจีน และโต้ลมหนาวขณะรอเข้าสถานีรถไฟปักกิ่ง ป้าเบลอจนลืมเช็คเวลา ส่วนลุงไม่ได้พกนาฬิกา
ป้าคิดว่าต้องค้างคืนฉงชิ่งเป็นแน่ เงินค่าตั๋วก็คงเสียไปฟรีๆ แถมเสียค่าโรงแรมอีก แต่ลุงบอกว่าที่ยุโรป เมื่อไปไม่ทันรถไฟ ให้รีบไปพบจนท. บอกเขาตามตรง เขาจะหาทางช่วยเราได้
เมื่อถึงสถานี ป้ารีบไปเข้าแถว ตรงช่องจนท.หนุ่มหนึ่งเดียวที่พูดภาษาอังกฤษได้ และขายตั๋วให้เราตอนเช้า พอดีจนท.สาวคงเห็นเราท่าทางรุกลี้รุกลน จึงเดินมาถาม เราจึงยื่นตั๋วให้ดู เธอก็ทำท่าทางเข้าใจ เธอบอกให้ตามเธอไปช่องที่จนท.ชายอีกคนหนึ่ง แต่เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ คุยกันไม่รู้เรื่อง จนท.ช่องนี้ต้องลุกไปตามจนท.ที่พูดได้คนเดียว มาจัดการให้ เราคิดว่าต้องจ่ายอีกเท่าไรก็ต้องจำยอม เพราะเราผิดเองที่มาไม่ทันรถ
อัศจรรย์มาก !! จนท.ออกตั๋วให้เราใหม่ เป็นขบวน 19.19 น. จากเดิมรถธรรมดา เป็นรถไฟความเร็วสูง CRH โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม !!
สรุปค่าใช้จ่ายเมื่อสิ้นสุดการเยือนมหานครฉงชิ่ง ระยะทาง 10,480 กม. ค่าเดินทาง 21,850 บาท ค่าอื่นๆ 14,650 บาท.รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 36,400 บาท สรุปค่าใช้จ่ายเมื่อผ่านเฉิงตู ระยะทาง กม. ค่าเดินทาง 22,810 บาท ค่าอื่นๆ 15,430 บาท รวม 38,240 บาท
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น