[CR] ตามไปเที่ยว >> ชมพลุเคาน์ดาวน์ไทเป และงานอาร์ตเก๋ๆ ที่ไต้หวัน


จากดินแดนที่นึกไม่ออกว่าจะไปทำอะไร จนถึงวันนี้ผมไปเยือนเป็นครั้งที่ 2 แล้ว และยังอยากจะกลับไปอีกครั้ง ซ้ำๆ ... มาติดเกาะไปด้วยกันครับ เกาะนี้ชื่อว่า “ไต้หวัน”

ก่อนที่จะเริ่มเดินทาง ผมอยากสรุปความเป็นไต้หวันสัก 7 ข้อ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น (ถูกผิดอย่างไรเซียนไต้หวันช่วยแจ้งด้วยนะครับ)
1. สาธารณะจีน หรือ ไต้หวัน (ROC : Republic of China, Taiwan) ดินแดนที่ยังไม่ได้รับรองเป็นประเทศในปัจจุบัน เนื่องจาก UN ให้การรับรองสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นจีนเดียวเท่านั้น ย้อนกลับไปในสมัยปฎิวัติจีน นายพลเจียงไคเช็คผู้นำคนสำคัญของพรรคก๊กมินตั๋งได้ถอยทัพพร้อมขนสมบัติล้ำค่าในพระราชวังต้องห้ามมาไว้ที่เกาะทางใต้แห่งนี้ ท่านจึงถือได้ว่าเป็นบิดาของไต้หวันเลยทีเดียว สนใจประวัติศาสตร์จีนลองค้นหาอ่านกันดูครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นบทความวิชาการไปเสียก่อน ยิ้ม

2. การเดินทางค่อนข้างสะดวก มีรถไฟฟ้าจากสนามบินเข้าเมืองไทเปแล้ว มีรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งระหว่างเมือง และในเมืองเองก็มีรถไฟฟ้าและรถเมล์วิ่งหลายสาย หรืออยากจะปั่นจักรยานก็ยังได้ เค้ามีเลนจักรยานชัดเจน ใครสนใจลองใช้บริการ U Bike ดู มีอยู่หลายจุดทั่วกรุงไทเป อีกอย่างที่ชอบคือบัตร EasyCard ที่ใช้จ่ายระบบขนส่งต่างๆ ได้เกือบทั้งหมด รวมถึงใช้ซื้อของได้ด้วยอย่าง 7-eleven, Family Mart, Starbucks และอีกหลายร้านค้า เรียกได้ว่าบัตรเดียวเอาอยู่ รายละเอียด >> https://www.easycard.com.tw/english/easycard/index.asp

3. ค่าครองชีพที่ถือได้ว่าพอๆ กับไทย แถมอัตราแลกเปลี่ยนก็ใกล้เคียงกัน 1 บาทไทย ประมาณ 1 ดอลล่าห์ไต้หวัน (NT$) อันนี้ชอบมาก เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยชอบตัวเลขอย่างผม ไม่ต้องบวกลบคูณหารให้ปวดหัว

4. เมืองที่แฝงความน่ารัก เรียกว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้องญี่ปุ่นก็ว่าได้  ไม่ว่าจะเป็นป้ายต่างๆ ที่มักออกแบบเป็นรูปตัวการ์ตูน ร้านขายของกระจุกกระจิกน่ารักๆ รวมถึงผู้คนก็อัธยาศรัยดี ให้ความรู้สึกว่าเป็นจีนสุภาพชน น่าจะถูกโฉลกกับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและคนไทยอย่างเรา

5. สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ถ้าชอบธรรมชาติก็มี ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) ที่มีน้ำสีเขียวและมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง หรือชอบไหว้พระทำบุญก็มีวัดเป่าอัน (Baoan Temple) ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก อยากชมเมืองโบราณก็ยังมีจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Street) อยู่ทางตอนเหนือของไทเป ใครชอบพิพิธภัณฑ์แนะนำให้ไปที่ กู้กง (National Palace Museum) สถานที่เก็บรักษาสมบัติจีนล้ำค่า แหล่งที่มาตามที่กล่าวไว้ในข้อแรก คนไหนรักในแนวทางของฮิปสเตอร์ก็มีถนนฝูจิ้น (Fujin St.) ให้เดินถ่ายรูปเล่น อยากเสพงานอาร์ต ชอบหาไอเดียก็ไปเลยที่ MoCA, Huasan 1914 Creative Park และ Songshan Cultural and Creative Park และอีกหลายที่ที่ยังไม่ได้กล่าวถึง

6. ครบแหล่งช้อปปิ้ง อยากได้บรรยกาศมันๆ กลางวันไปเลยที่ย่านวัยรุ่น ซีเหมินติง (Ximending) ตกดึกย้ายตัวไปตลาดกลางคืนอย่างใหญ่ที่ซือหลิน (She Lin Night Market) ถ้าอยากช้อปแบบตากแอร์ก็มีห้างญี่ปุ่นอย่าง Sogo, Shin-Kong Mitsukoshi ไหนจะมี Taipei 101 Mall, Breeze Center รวมถึง Outlet แบรนด์เนมด้วย ร้านฮอตฮิตของคนไทยคือ Onitsuka Tiger ที่ราคาถูกกว่าบ้านเรามาก

7. ผมขอยกให้เป็นไฮไลท์ของไต้หวันเลยครับ สำหรับอาหารการกิน มีทั้งแนว Street Food เห็นอะไรก็น่ากิน น่าลองไปเสียหมด ไม่เชื่อลองแวะเที่ยวตลาดกลางคืนดูครับ หรือแนวภัตตาคารก็มีทั้งอาหารจีนไต้หวัน เสี่ยวหลงเปา ร้านชาบูแบบไต้หวัน หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Spicy Hot Pot อร่อยมากจนอยากกินแล้วกินอีก อีกอย่างหนึ่งที่ต้องเสาะหามาดูดและเคี้ยวหนึบๆ นั่นก็คือ ชานมไข่มุก ที่มีขายกันเกลื่อน แต่ถ้าจะให้เจ๋งแบบฟินๆ ต้องไปที่ร้านต้นกำเนิดของมัน ชุนสุ่ยถัง (Chun Shui Tang) มีอยู่หลายสาขาให้ไปลองความอร่อย สำหรับร้านดังในไต้หวันที่คุ้นหูคนไทยอย่างไก่ทอด Hot Star และติ่นไทฟุง (Din Tai Fung) ก็หาทานกันได้ครับมีอยู่หลายสาขา


เกริ่นมาพอสมควร เริ่มเดินทางไปเคาน์ดาวน์เลยดีกว่า
วันที่ 1 : ตลาดปลา (AAD, Taipei Fish Market) - MoCA - Huashan 1914 Creative Park - Taipei 101

ทริปนี้ออกเดินทางด้วยสายการบิน NokScoot ไฟลท์ออกจากดอนเมือง 23:35 น. ไปถึงไทเป 4:05 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. เรียกได้ว่าบินไปก็เตรียมเคาน์ดาวน์กันเลย หลังจากต่อแถวคดเป็นงูตอนเช็คอิน ตอนนี้ผมมานั่งอยู่บนเครื่องเรียบร้อยแล้ว และก็เริ่มหาวไปพร้อมๆ ท้องที่ร้องโครกคราก “พลาดล่ะ ไม่ได้หาอะไรรองท้องมาซะด้วยสิ” งานนี้เลยยอมสั่งอาหารบนเครื่องมาทานดูเป็นข้าวหน้าไก่เทอริยากิ 180 บาท เทียบราคาก็พอๆ กับที่กินอาหารในสนามบิน รสชาติก็อร่อยใช้ได้ อิ่มเสร็จก็ถึงเวลาของการหลับ

... ตึ๊ง! “ท่านผู้โดยสารคะ ขณะนี้เรากำลังลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน…” จะลงแล้วหรือนี่เหมือนเพิ่งจะงีบไปเอง เครื่องลงจอดที่ Terminal 1 จากนั้นผ่าน ตม. ตามขั้นตอน




จากนั้นขึ้นรถไฟที่วิ่งไปยัง Terminal 2 ตั้งใจจะไปซื้อซิมที่ร้าน 7-eleven เพราะบูธมือถือต่างๆ ยังไม่เปิดผ้าคลุมยามเช้ามืดอย่างนี้ เดินไปเรื่อยๆ ก็ถ่ายรูปเล่นไปด้วย ถึงที่ร้าน น้องบอกไม่มี “เหม่โหย่ว” ซะอย่างนั้น เอาหล่ะ เข้าเมืองไปก่อนแล้วกัน

เดินมาถึงเคาน์เตอร์รถบัส สื่อสารกันไปมาจนได้ขึ้นรถของ Free Go Bus ซึ่งจะผ่านโรงแรมที่จองเอาไว้ ผมเดินออกมารอรถข้างนอก อากาศเย็นๆ ประมาณ 19 องศา จากที่นี่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าจะถึงเมืองไทเป


รถพาผมมาลงสักที่ จากนั้นก็ลากกระเป๋าเข้า 7-eleven ... “เหม่โย่ว” คำนี้ชีช้ำจริงๆ ไม่มีซิมอีกแล้ว ไหนๆ ก็เข้ามาแล้ว หาอะไรทานก่อนแล้วกัน อยากได้อะไรร้อนๆ เลยตักโอเด้งมาหม่ำแก้หิวไปก่อน

ดูจากแผนที่ต้องเดินไกลพอสมควรกว่าจะถึงที่พัก เลยนั่งรถไฟฟ้าไป 1 สถานีดีกว่า เดินไปจะขอซื้อบัตร EasyCard เจ้าหน้าที่ชี้ให้ไปซื้อกับเครื่องตรงโน้น ผมก็ไปมึนๆ งงๆ หน้าเครื่องสักพักจนได้บัตรออกมา มีเมนูภาษาอังกฤษครับไม่ต้องกังวล ถ้าใครอยากเติมมูลค่าในบัตรก็ไปเติมจากตู้ซึ่งตั้งอยู่ตามสถานีต่างๆ

ในที่สุดก็มาถึงโรงแรมจนได้ ฝากกระเป๋าสัมภาระไว้ พร้อมออกไปหาอะไรกิน (หาอะไรกินอีกแล้ว) ตั้งใจว่าจะไปกินซาชิมิสดๆ ที่ตลาดปลาไทเป การเดินทางให้นั่งรถบัสสะดวกสุด รถไฟฟ้าไปไม่ถึง ที่ป้ายรถเมล์จะมีป้ายบอกเส้นทางเดินรถของแต่ละสาย ส่วนใหญ่เป็นภาษาจีน (ยากละ) และมีป้ายไฟวิ่งคอยบอกหมายเลขรถที่กำลังจะเข้ามา อ้อลืมบอก ที่นี่เค้าขับรถชิดขวากันนะครับ


ขึ้นรถเมล์สามารถจ่ายด้วย EasyCard ที่นี่เค้ามีจ่าย 2 แบบ บางสายจ่ายตอนขาขึ้น บางสายจ่ายตอนขาลง ให้สังเกตุจากป้ายไฟที่แปะแถวๆ คนขับ วิธีจ่ายก็คือเอาบัตรไปแนบกับตัวเครื่อง แค่นี้ก็เรียบร้อย

ถ้าใครต่อเน็ตมีกูเกิ้ลนำทางก็ไม่น่ามีปัญหา สำหรับคนที่ไม่มีก็ให้จำตัวอักษรจีนสถานีที่เราจะลง เพราะรถเมล์บางสายไม่มีไฟวิ่งคอยบอกชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ผมใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีก็ถึงจุดหมาย จุดสังเกตุของป้ายตลาดปลาคือจะเห็นตลาดผัก ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นร้านที่มีชื่อ Yellow Hat


ตลาดปลาอยู่หลังตลาดผักเดินเข้าซอยไปหน่อยครับ จะเจอ AAD (Addiction Aquatic Development) ผมเรียกว่ามันเป็นตลาดปลาติดแอร์ที่ดูอัพสเกลกว่าตลาดสดที่อยู่ด้านนอกแล้วกัน พื้นที่ก็ใหญ่พอประมาณแบ่งออกเป็นโซนที่ขายสัตว์ทะเลเป็นๆ และโซนขายอาหารทะเล




“โอ้ว ปูอาลาสก้าตัวเป็นๆ ใหญ่ๆ ดุ๊กดิ๊กได้เป็นอย่างนี้นี่เอง” ถ้านึ่งแล้วตัวจะเป็นสีแดงๆ แม้ราคาจะถูกหลายพันบาท แต่ก็ยังแพงสำหรับผม ก้มหน้าเดินต่อไปยังตลาดปลาที่ไม่ได้อัพสเกลใกล้ๆ กัน มาร้านหัวมุมป้ายสีน้ำเงินชื่อ "ซั่งเฉิ่งไห่เซียน" ผมมาตามคนที่เคยรีวิวไว้ คนไทยไปกันเยอะครับ ที่รู้เพราะว่าอาเจ๊กับอาเฮียคนหั่นปลาบอกมา งานนี้สื่อสารทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาจิ้ม (ไปที่เนื้อปลา) กว่าจะได้ออกมาเป็นจานนี้


ผมถูกใจอาเจ๊คนนี้มาก เรียกว่าเป็นอาเจ๊โซเชียลจริงๆ นางขอถ่ายรูป (จริงๆ ก็ไม่ได้ขอนะ หยิบมือถือนางขึ้นมาถ่ายรูปเลย) และเอาไปโพสใน Facebook แถมขอแอดเป็นเฟรนด์เสร็จสรรพแบบงงๆ

ที่นั่งไม่มี ยืนกินหน้าร้านกันแบบนี้ไปเลยครับ เนื้อปลาแน่นสดดี มีจุกครับงานนี้ สงสัยสั่งมาเยอะเกิน สนนราคามิตรภาพไม่รู้ว่าเจ๊คิดถูก คิดผิด หรือคุยกันถูกคอจนลดให้ก็ไม่รู้ จ่ายไป 600 NT$ ดีงามจริงๆ

ออกจากตลาดปลา ไปกันต่ออีก 2 จุด เหมาะสำหรับคนที่ชอบงานศิลปะที่แรกคือ MoCA Taipei ก่อนที่ผมจะเข้าชมได้แวะซื้อซิมอินเตอร์เน็ตแบบ Unlimited 3 วัน และยังสามารถโทรออกได้ด้วย ราคา 300 NT$ มีการขอ Passport ถ่ายรูปลงทะเบียนกันด้วย รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันทีเมื่อต่อเน็ตได้ คราวนี้ไม่ต้องกลัวหลงทางแล้วให้ Google Map นำทางไปเลย

ชื่อสถานที่ : MoCA Taipei (Meseum of Contemporary, Taipei)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 10:00-18:00 น.
ค่าเข้าชม : 50 NT$
สถานีรถไฟฟ้า : Zhongshan แล้วเดินต่อประมาณ 400 เมตร
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.mocataipei.org.tw


อาคารอิฐแดง 2 ชั้น เดิมเคยเป็นโรงเรียนประถม และเป็นที่ทำการของรัฐบาลมาก่อน “ใครเอาถุงขยะดำมาทิ้งไว้หน้าทางเข้า ถ่ายรูปติดมาในกล้องด้วย เซ็งเลย” เดินเข้าไปใกล้ๆ “อ้าว งานศิลปะหรอกหรอ” ทำออกมาได้เหมือนมาก จากนั้นเดินเข้าประตูไปซื้อบัตร ช่วงนี้มีการแสดงของ 2 ศิลปิน Lu Zheng-yuan และ Zheng Lu ผมก็ไม่รู้จักหรอก เห็นมีชื่ออยู่บนตั๋ว ชั้นล่างถูกแบ่งออกเป็นห้องๆ แสดงศิลปะสื่อผสม บางผลงานดูแล้วก็ไม่ค่อยอิน ผมชอบงานลวดที่ขึ้นรูปเป็นหัวใจ และงานล้อเลียนป๊อปอาร์ตรูปมาริลีน มอนโร เหมือนมีน้องคนไหนมาวาดทิ้งเอาไว้  ยิ้ม






ที่ชั้น 2 ผมมาเจอเจ้าถุงดำอีกแล้ว คราวนี้อยู่กันเต็มห้องเลย ฆาตกรรมหั่นศพหรือเปล่าเนี่ย ถ้าอยู่ห้องนี้คนเดียวตอนดึกๆ คงจะสะพรึงเหมือนกัน ดูเสร็จลงมาชั้นล่างจะเจอช็อปขายของที่ระลึก และคาเฟ่เล็กๆ (มีต่อ)
ชื่อสินค้า:   ไต้หวัน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่