หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] เดินป่าข้ามปี :จากม่อนทูเล สู่ ม่อนคลุย
กระทู้รีวิว
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
เดินป่า
Backpack
ม่อนทูเล ชื่อนี้ผมได้ยินมานานแล้วแต่ยังไม่เคยได้ไปสัมผัสสักครั้ง ม่อนทูเลอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จังหวัดตาก การเดินทางต้องใช้การเดินเท้าเพื่อพิชิตยอดดอยทูเล กับระยะทาง 7.5 กิโลเมตร เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางชันสลับทางราบเล็กน้อย (หนักไปทางชัน 90%) มีคนจัดอันดับความถึก(Baffelo Degree)ของมันอยู่ที่ ระดับ 3.5 ซึ่งสูงกว่าภูกระดึง, ภูสอยดาว หรือแม้กระทั้ง ดอยหลวงเชียงดาว
ระดับ Buffalo Degree
ม่อนคลุย อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่เมยเช่นกัน ม่อนคลุยสามารถเดินทางไปได้ 2 วิธี คือเดินจากม่อนทูเล ตามสันเขากับระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร หรือสามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ ลักษณะม่อนคลุยจะคล้ายๆม่อนทูเล แต่จะเป็นพื้นที่โล่งกว่า มองเห็นวิวภูเขาและทะเลหมอกได้จากหน้าเต้นท์โดยไม่ต้องลุกออกมาจากเต้นท์ แต่คนค่อนข้างจะพลุพลาน ในเมื่อรถถึงทำไมต้องเดิน ? ไม่รู้จะเข้าข้างตัวเองเกินไปรึป่าว แต่ผมคิดว่าเสน่ห์ของทริปนี้อยู่ที่การเดินจากม่อนทูเลมาม่อนคลุย นอกจากเราจะได้เห็นวิวสองข้างทางที่สวยงาม มันยังได้มิตรภาพดีๆเกิดขึ้นระหว่างทางด้วย และที่สำคัญสุดมันเอาไว้โอ้อวดคนอื่นได้ว่า guไปมาแล้วววววว
เราออกเดินทางด้วยรถตู้ 2 คัน ช่วงเทศกาลปีใหม่ รถค่อนข้างเยอะ หลับๆตื่นๆในรถตู้ไปตลอดทาง รถตู้มาจอดที่อบต.ทางสองยางประมาณ 6 โมงเช้า พอมาถึงต่างคนต่างจัดแจงสัมภาระแยกเอาของที่ไม่จำเป็นทิ้งไว้ในรถตู้ แต่งองค์ทรงเครื่องในชุดพร้อมออกรบ ทริปนี้ผมแบกกระเป๋าหนัก 12 กิโล + กระเป๋ากล้องอีก 2 กิโล รวมเบ็ดเสร็จ 14 กิโล (ไม่รู้จะแบบอะไรไปนักหนา นี้จะไปเที่ยวต่างประเทศหรือไปเดินป่ากันแน่ กลับมายังไม่รู้เลยว่า 14 กิโลนี้มันหนักอะไร) หลังจากจัดแจงสัมภาระเสร็จ เราต้องย้ายตัวจากรถตู้มาขึ้นรถกระบะ มุ่งหน้าสู่จุดสตาร์ท
ด้านหลังอบต. ท่าสองยางจะติดแม่น้ำเมย น้ำใสน่าเล่นมาก
ช่วงแรกของการเดินทางจะเดินผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน ซึ่งจะมองเห็นจุดหมายปลายทางของเราอยู่ไกลๆ หลังจากผ่านทุ่งนาของชาวบ้านทางเดินเริ่มชันขึ้น 45 อาศา หลังจากผ่านทางชัน45 องศา ก็พอมีทางราบให้เห็นบ้างให้พอมีกำลังใจ เดินไปได้สักพักจะตัดลงหุบ ซึ่งภายในหุบจะมีแหล่งน้ำธรรมชาติเอาไว้ให้ดื่มดับกระหาย ใครน้ำหมดสามารถเติมได้จาก น้ำธรรมชาติสะอาดปราศจากสารเคมี เราพักกินข้าวกลางวันกันตรงนี้ หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารกลางวันเสร็จ ฝันร้ายของจริงก็เริ่มขึ้น ทางต่อจากนี้ไปถือเป็นของจริงที่ผ่านมาถือว่าซ้อมมือ จากนี้ไปจะเป็นทางชันแบบชันมาก จาก 45 องศาค่อยๆปรับเป็น 60 องศา จนถึงช่วงสุดท้ายเรียกว่าชันระดับ 80 องศาก็ว่าได้ มีเชือกเอาไว้ให้ปืนขึ้นเป็นระยะๆ
ช่วงแรกของการเดินจะเดินผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน
ทางเดินช่วงแรกชันประมาณ 45 องศายังสบายๆ
เราแวะพักกินข้าวกลางวันกันบริเวณแหล่งน้ำธรรมชาติระหว่างทาง
ช่วงท้ายทางชันมาก มีเชือกให้ใช้เกาะดึงตัวขึ้น
เรามาถึงจุดกางเต้นท์ประมาณ 14.00 น ใช้เวลาเดินเท้า 5 ชั่วโมงถือว่าเร็วพอสมควร ไม่รู้จะรีบเดินไปไหน มาถึงแดดก็ร้อนลูกหาบก็ยังมาไม่ถึง รอไม่นานสมาชิกที่เหลือพร้อมพวกลูกหาบก็มาถึง เราช่วยกันกางเต้นท์ ทำแคมป์กลาง หลังจากนั้นก็ฟรีสไตล์ตัวใครตัวมัน ใครใคร่นอน นอน ใครใคร่กิน กิน ใครมีแรงเหลือเชิญขึ้นจุดชมวิวห่างไปอีก 100 เมตร
กองหินบนม่อนทูเลถือเป็นภาพที่ทุกคนต้องถ่ายเก็บไว้
ข้างบนมีเก้าอี้ที่ อบต.ท่าสองยางทำเอาไว้ให้นั่งถ่ายรูป
ผมเอาของเล่นไปด้วย เลยถือโอกาสสักภาพ
มองเห็นทิวเขาเรียงตัวสลับกันย่างสวยงาม
จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นยอดดอยทูเล เสียด้ายที่ไม่ได้ขึ้นไปบนยอด
ยามเย็นเวลาแสงพระอาทิตย์ตกกระทบผิวหญ้า มองดูเหลืองอร่ามไปทั้งภูเขา เหมือนอยู่ในภูเขาทองคำ หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าความเย็นก็เข้ามาเยือน อากาศบนม่อนทูเลเย็นสบายไม่หนาวจนเกินไป แหล่งน้ำด้านบนยังพอมีแม้จะไม่มากนัก แต่ก็พอมีให้ใช้กันอย่างทั่วถึง วันที่เราไปกางเต้นท์มีประมาณ4-5 กลุ่มขึ้นมากางเต้นท์ ก็แยกย้ายกันไปกางเต้นท์ตามจุดต่าง ซึ่งก็ไม่แออัดมากนัก หลังจากชมพระอาทิตย์ตก ก็มาถึงมื้อเย็น มื้อนี้ถือเป็นการฉลองวันสิ้นปีต้อนรับเข้าสู้ปีใหม่ อาหารถูกกำจัดหมดไปอย่างรวดเร็ว
สมาชิกรอชมพระอาทิตย์ตก
ทองฟ้าเป็นใจเปิดให้เราได้เห็นวิวทิวเขา
พระอาทิตย์บนม่อนทูเล
พอฟ้าเริ่มมืดแสงดาวบนท้องฟ้าเริ่มปรากฎ ดาวบนท้องฟ้าละลานตา กลุ่มดาวน้อยใหญ่เต็มทองฟ้าไปหมด เลยจัดแจงหยิบกล้องตัวโปรด เดินขึ้นจุดชมวิวเล็งหาช้างบนท้องฟ้า แต่เป็นที่น่าเสียด้ายช่วงนี้ช้างขี้อายแอบหนีลงไปกินน้ำ ทำให้ถ่ายมาได้แค่หางช้าง บวกเฆมเจ้ากรรมบังซะเกือบไม่เห็นหางช้าง แต่ก็พอได้ภาพมาบ้าง หลังจากสนุกสนานกับการล่าช้างบนท้องฟ้า ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินตามควาย แสงไฟในแคมป์ถูกดับลงอยากรวดเร็วเหลือไว้เพียงสมาชิกไม่กี่คนที่รอเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่
ถ่ายมาได้แค่หางช้าง
ตีห้าครึ่ง เสียงเรียกดังออกมาจากนอกเต้นท์ "พี่ตื่นรึยังครับ ลุกไปถ่ายดาวกันไหม" ผมลุกขึ้นอย่างสะลึมสะลือ หยิบกล้องตัวที่ถ่ายช้างเมื่อคืน ลุกฝ่าความหนาวออกจากเต้นท์ แสงพระจันทร์สว่างจนแทบไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฉายส่องนำทางขึ้นไปยังจุดชมวิว แม้จะเป็นเวลาตี5 แต่ท้องฟ้าก็ยังคงเต็มไปด้วยแสงดาว ขณะกำลังเก็บภาพแสงดาวตอนเช้า มองไปยังเต้นท์ของคณะอื่น เริ่มมีคนลุกออกมาจากเต้นท์ หยิบไฟฉายเดินมุ่งตรงไปยังยอดดอย มองเห็นแสงไฟทอดยาวเป็นเส้นไปยังยอดทูเล
มีคนเดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดดอย ส่วนตัวผมเอาแค่จุดชมวิวก็พอเก็บแรงไว้เดินต่อวันนี้
ภาพดาวตอนเช้า
เสียด้ายเฆมเจ้ากรรมดันบังพระอาทิตย์ เลยไม่ได้เห็นพระอาทิตย์แรกของปี 59 เลย
หลังจากที่ชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอกกันอย่างจุใจแล้ว เราก็ลงมากำจัดอาหารเช้าให้ราบเรียบ จัดแจงเก็บเต้นท์เก็บของยัดใส่กระเป๋า มองนาฬิกาดูฤกษ์งามยามดี ออกเดินทางไปยังเป้าหมายต่อไปในวันนี้ ม่อนคลุย วันนี้เราต้องเดินไกลกว่าเมื่อวานเล็กน้อย แต่ทางเดินจากง่ายกว่าเดิม เดินตามสันเขาที่เรามองเห็นเมื่อวาน ช่วงแรกของการเดินเป็นทางขึ้นเขาระยะทางไม่ไกลมากนัก จากนั้นก็ตัดลงเขาอย่างเดียวเลย จนมาถึงจุดแวะพักเติมน้ำ เป็นลำธารน้ำใสๆไหลเย็นให้พอล้างหน้าให้ชื้นใจ จากจุดแวะพัก ทางข้างหน้าไปทางชันระดับ 80 องศาเหมือนช่วงสุดท้ายของเมื่อวาน แต่ระยะทางไม่ไกลมาก แต่เหนื่อยเอากาลเหมือนกัน แต่ขอบอกพอขึ้นมาถึงยอดแล้วถึงกับหายเหนื่อยกันเลยที่เดียว มองเห็นวิวภูเขาทอดยาวเรียงตัวสลับกัน ท้องฟ้าก็ดูเหมือนจะเป็นใจ เฆมแตกกระจายเป็นเส้นเล็กๆเรียงตัวกันอย่างสวยงาม ที่เขาเรียก"ฟ้าระเบิด" ได้เห็นจริงก็วันนี้แหละครับ นอกจากฟ้าระเบิด ไฮไลท์อีกอย่างจะเป็นสันเขาเส้นทางที่เราเดินไปยังม่อนคลุย ระหว่างสองข้างทางมองเห็นภูเขาเรียงตัวสลับกันยาวสุดสายตา ระหว่างทางเราจะมองเห็นสถูปเก่า ชาวบ้านเรียกบริเวณนี้ว่าม่อนปุยหลวง เป็นจุดกางเตนท์แวะพักและสามารถกางเต้นท์ได้
เก็บของเตรียมเดินทางสู่ม่อนคลุย
ลำธารธรรมชาติจุดแวะพักเติมน้ำ
แวะพักชมวิวหลังจากที่เดินขึ้นมาจากลำธาร
ฟ้าระเบิดงามมากๆ
สถูปเก่าบริเวณม่อนปุยหลวง
เราเดินตามสันเขาตัดลงมาเรื่อยจนมาบรรจบกับถนนลูกรังเส้นที่มาจากม่อนคลุย เราแวะพักกินอาหารกลางวันกันที่นี้ หลังจากสมาชิกที่เหลือมากันครบเราออกเดินทางกันต่อ ตามถนนลูกรังมุ่งหน้าสู่ม่อนคลุย ในที่สุดเราก็มาถึงม่อนคลุย ใช้เวลาไป 6 ชั่วโมง จบสิ้นกันที่กับภาระกิจการเดินป่าข้ามปี ตอนไปนี้รถถึงตลอดไม่ต้องเดินแล้ว
วิวสันเขามาให้ชมกันตลอดทาง
เดินตามสันเขามาเรื่อยๆ
ในที่สุดก็มาเจอกับถนนลูกรัง มุ่งสู่ม่อนคลุย
จากถนนลูกรังเดินอีกไม่ไกลก็มองเห็นจุดหมายของเรา
ในที่สุดก็มาถึงม่อนคลุย
หลังจากที่เดินกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อย โค๊กเย็นๆใส่น้ำแข็ง เป็นอะไรที่สุดยอดที่สุดแล้ว พอมาถึงกันครบก็จัดแจงกางเต้นท์ ทำแคมป์กลาง หลังจากกางเต้นท์เสร็จกิจกรรมต่อมาที่ทุกคนอยากทำ ไม่ใช่การนอนแต่เป็นการอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ สมาชิกรวมกลุ่มกันเม้าท์มอยเรื่องทริปต่างๆที่ต่างคนต่างเคยไปมา นั่งคุยเล่าเรื่องราวประสบการณ์การท่องเที่ยวกันอย่างสนุกสนานรอเวลาชมพระอาทิตย์ตก
วิวบริเวณม่อนคลุย
นั่งรอชมพระอาทิตย์ตกที่ม่อนคลุย
ตัดมาตอนเช้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้น มีIron Manบินผ่านด้วย
นั่งรถกระบะลงจากม่อนคลุย กลับสู่เมืองกรุง เข้าสู้ชีวิตการเริ่มต้นทำงานในปี 59
ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ หากมีขอผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ชื่อสินค้า:
ม่อนทูเล, ม่อนคลุย จ.ตาก
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ทริป ภูสอยดาว ๒ วัน ๑ คืน กับหนุ่มน้อยวัยเกษียณ
สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้ว จากทริปที่แล้ว โบลาเวน น้ำตกตาดขมึด ตาดฟาน ก็พบว่าการเดินป่ามันเป็นอะไรที่(โคตร)เหนื่อย แต่สนุก มีความสุข ได้เปิดโลก เจออะไรใหม่ๆ เจอ unpredictable situation ที่ไม่ว่าจะดีหรือ
Twinnie Rider
เดินดุ่ยๆ...จากม่อนคลุย สู่ ม่อนทูเล
ม่อนทูเล หรือ ภูเขาสีทอง เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเขตบ้านแม่จวาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก อยู่เหนือจากระดับน้ำทะเล 1,350 เมตร เส้นทางเดินนั้นจัดว่ายากระดับ 3.5 ซึ่งหนักกว่าดอยหลวงเชียงดาว โดยเฉพาะเส้นทางขึ้นเข
ต้นไพร
พาเที่ยว ม่อนทูเล คลุยหลวง จ.ตาก ด้วยมือถือ Mi Mix 3 x วิชาท่องเที่ยว 101
สวัสดีเพื่อนๆ Pantip ทุกคนครับ ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสไปเที่ยว ขึ้นเขาที่ ม่อนทูเล คลุยหลวง ม่อนคลุย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก มีวิวสันเขาเปิดโล่งถ่ายรูปสวย ลุ้นทะเลหมอกได้ทั้ง 2 วัน (แต่ต้องพกดวงไปเยอะๆ) แสงเช
วิชาท่องเที่ยว 101
40สถานที่...ชมวิวทะเลหมอกในไทย
ทะเลหมอกสีขาว ก้อนปุยฟูนุ่ม มันคงเป็นกฎของของธรรมชาติที่เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะมอบความพิเศษนี้ให้กับเราเมื่อไหร่ เราเรียกสิ่งนี้ว่ารางวัลจากธรรมชาติละกันค่ะ แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นให้เราได้เห็
Be Crazy About Travel
ปักหมุดเดินเขาพะเยา คุณแม่สายลุย พิชิตยอด "ภูลังกา" 1745 เมตร
คุณแม่สายลุย พิชิตยอด "ภูลังกา" ความสูง 1745 เมตร >> สวัสดีครับทุกคน เรามาเริ่มต้นทริปเที่ยว 5 วัน 4 คืน พะเยา-เชียงราย-ลำปาง กันกับ "หยุดแล้วเที่
หยุดแล้วเที่ยวได้
การเย็บผ้าเต้นท์(เต้นท์ที่กางแคมปิ้ง) ใช้จักรเย็บผ้าธรรมดาได้หรือไม่
การเย็บผ้าเต้นท์(เต้นท์ที่กางแคมปิ้ง) ใช้จักรเย็บผ้าธรรมดาได้หรือไม่
สมาชิกหมายเลข 4318645
ทริปเล็กๆ กางเต็นท์ริมน้ำ สวนผึ้งราชบุรี + ลุยออฟโรดเขาสวรรค์ สุดเขตแดนสยาม ช่วงหน้าฝน
https://www.youtube.com/watch?v=OX6zOtBPxFo สวัสดีเพื่อนๆครับ จากที่หายไปพักใหญ่รอบนี้กลับมาอีกครั้งกับทริปเล็กๆในช่วงหน้าฝนของเราครับ ทริปนี้เราเลือกไปเที่ยวที่สวนผึ้งราชบุรีครับ เป็นสถานที่ยอดฮิตข
สมาชิกหมายเลข 8619738
สรุปการเดินทางวันที่ 14 ของทริปที่ 139
สรุปการเดินทางวันที่ 14 ของทริปที่ 139🚌 ดอยช้างสมชายแคมป์ปิ้ง แม่สรวย เชียงราย ลานที่ 12 ของทริป🎯 เมื่อคืนที่ PipeHouse Resort อากาศในเต็นท์กำลังดี ไม่ร้อนไม่หนาวครับ ดึกมากๆ ห่มผ้าผืนเดียว ออ เหมาลา
สมาชิกหมายเลข 4116122
ชมวิวริมเขื่อนอุบลรัตน์ ที่อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ขอนแก่น
ภาพไม่เยอะนะครับเพราะว่าเข้าไปช่วงค่ำแล้ว ตอนนี้กำลังสะสมตราประทับลายเซ็นต์อุทยานเลยอยากเขียนบันทึกไว้สักหน่อย ทริปนี้ผมไปร่วมทริปถ่ายภาพทางช้างเผือกที่หินช้างสีกับกลุ่มดาราศาสตร์หอดูดาวเฉลิมพร
Kanupee
โคตรทริป “ทูเล” สวยสุดใจยังไงก็ต้องโดน
เริ่มปีใหม่ทั้งทีอยากมีทริปดีๆ สักหน่อย ว่าแต่จะไปไหนดีล่ะ เพื่อนฝูงคนนั้นคนนี้เสนอกันเข้ามา สุดท้ายใครสักคนโหวตความเห็นมาว่า “อยากไปม่อนทูเล” เป็นการยุติการชิตแชตสนทนาโดยทันที เพราะชื่อขอ
นายสองสามก้าว
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
เดินป่า
Backpack
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 1
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] เดินป่าข้ามปี :จากม่อนทูเล สู่ ม่อนคลุย
ระดับ Buffalo Degree
ม่อนคลุย อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่เมยเช่นกัน ม่อนคลุยสามารถเดินทางไปได้ 2 วิธี คือเดินจากม่อนทูเล ตามสันเขากับระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร หรือสามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ ลักษณะม่อนคลุยจะคล้ายๆม่อนทูเล แต่จะเป็นพื้นที่โล่งกว่า มองเห็นวิวภูเขาและทะเลหมอกได้จากหน้าเต้นท์โดยไม่ต้องลุกออกมาจากเต้นท์ แต่คนค่อนข้างจะพลุพลาน ในเมื่อรถถึงทำไมต้องเดิน ? ไม่รู้จะเข้าข้างตัวเองเกินไปรึป่าว แต่ผมคิดว่าเสน่ห์ของทริปนี้อยู่ที่การเดินจากม่อนทูเลมาม่อนคลุย นอกจากเราจะได้เห็นวิวสองข้างทางที่สวยงาม มันยังได้มิตรภาพดีๆเกิดขึ้นระหว่างทางด้วย และที่สำคัญสุดมันเอาไว้โอ้อวดคนอื่นได้ว่า guไปมาแล้วววววว
เราออกเดินทางด้วยรถตู้ 2 คัน ช่วงเทศกาลปีใหม่ รถค่อนข้างเยอะ หลับๆตื่นๆในรถตู้ไปตลอดทาง รถตู้มาจอดที่อบต.ทางสองยางประมาณ 6 โมงเช้า พอมาถึงต่างคนต่างจัดแจงสัมภาระแยกเอาของที่ไม่จำเป็นทิ้งไว้ในรถตู้ แต่งองค์ทรงเครื่องในชุดพร้อมออกรบ ทริปนี้ผมแบกกระเป๋าหนัก 12 กิโล + กระเป๋ากล้องอีก 2 กิโล รวมเบ็ดเสร็จ 14 กิโล (ไม่รู้จะแบบอะไรไปนักหนา นี้จะไปเที่ยวต่างประเทศหรือไปเดินป่ากันแน่ กลับมายังไม่รู้เลยว่า 14 กิโลนี้มันหนักอะไร) หลังจากจัดแจงสัมภาระเสร็จ เราต้องย้ายตัวจากรถตู้มาขึ้นรถกระบะ มุ่งหน้าสู่จุดสตาร์ท
ด้านหลังอบต. ท่าสองยางจะติดแม่น้ำเมย น้ำใสน่าเล่นมาก
ช่วงแรกของการเดินทางจะเดินผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน ซึ่งจะมองเห็นจุดหมายปลายทางของเราอยู่ไกลๆ หลังจากผ่านทุ่งนาของชาวบ้านทางเดินเริ่มชันขึ้น 45 อาศา หลังจากผ่านทางชัน45 องศา ก็พอมีทางราบให้เห็นบ้างให้พอมีกำลังใจ เดินไปได้สักพักจะตัดลงหุบ ซึ่งภายในหุบจะมีแหล่งน้ำธรรมชาติเอาไว้ให้ดื่มดับกระหาย ใครน้ำหมดสามารถเติมได้จาก น้ำธรรมชาติสะอาดปราศจากสารเคมี เราพักกินข้าวกลางวันกันตรงนี้ หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารกลางวันเสร็จ ฝันร้ายของจริงก็เริ่มขึ้น ทางต่อจากนี้ไปถือเป็นของจริงที่ผ่านมาถือว่าซ้อมมือ จากนี้ไปจะเป็นทางชันแบบชันมาก จาก 45 องศาค่อยๆปรับเป็น 60 องศา จนถึงช่วงสุดท้ายเรียกว่าชันระดับ 80 องศาก็ว่าได้ มีเชือกเอาไว้ให้ปืนขึ้นเป็นระยะๆ
ช่วงแรกของการเดินจะเดินผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน
ทางเดินช่วงแรกชันประมาณ 45 องศายังสบายๆ
เรามาถึงจุดกางเต้นท์ประมาณ 14.00 น ใช้เวลาเดินเท้า 5 ชั่วโมงถือว่าเร็วพอสมควร ไม่รู้จะรีบเดินไปไหน มาถึงแดดก็ร้อนลูกหาบก็ยังมาไม่ถึง รอไม่นานสมาชิกที่เหลือพร้อมพวกลูกหาบก็มาถึง เราช่วยกันกางเต้นท์ ทำแคมป์กลาง หลังจากนั้นก็ฟรีสไตล์ตัวใครตัวมัน ใครใคร่นอน นอน ใครใคร่กิน กิน ใครมีแรงเหลือเชิญขึ้นจุดชมวิวห่างไปอีก 100 เมตร
กองหินบนม่อนทูเลถือเป็นภาพที่ทุกคนต้องถ่ายเก็บไว้
ข้างบนมีเก้าอี้ที่ อบต.ท่าสองยางทำเอาไว้ให้นั่งถ่ายรูป
ผมเอาของเล่นไปด้วย เลยถือโอกาสสักภาพ
มองเห็นทิวเขาเรียงตัวสลับกันย่างสวยงาม
จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นยอดดอยทูเล เสียด้ายที่ไม่ได้ขึ้นไปบนยอด
ยามเย็นเวลาแสงพระอาทิตย์ตกกระทบผิวหญ้า มองดูเหลืองอร่ามไปทั้งภูเขา เหมือนอยู่ในภูเขาทองคำ หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าความเย็นก็เข้ามาเยือน อากาศบนม่อนทูเลเย็นสบายไม่หนาวจนเกินไป แหล่งน้ำด้านบนยังพอมีแม้จะไม่มากนัก แต่ก็พอมีให้ใช้กันอย่างทั่วถึง วันที่เราไปกางเต้นท์มีประมาณ4-5 กลุ่มขึ้นมากางเต้นท์ ก็แยกย้ายกันไปกางเต้นท์ตามจุดต่าง ซึ่งก็ไม่แออัดมากนัก หลังจากชมพระอาทิตย์ตก ก็มาถึงมื้อเย็น มื้อนี้ถือเป็นการฉลองวันสิ้นปีต้อนรับเข้าสู้ปีใหม่ อาหารถูกกำจัดหมดไปอย่างรวดเร็ว
สมาชิกรอชมพระอาทิตย์ตก
ทองฟ้าเป็นใจเปิดให้เราได้เห็นวิวทิวเขา
พระอาทิตย์บนม่อนทูเล
พอฟ้าเริ่มมืดแสงดาวบนท้องฟ้าเริ่มปรากฎ ดาวบนท้องฟ้าละลานตา กลุ่มดาวน้อยใหญ่เต็มทองฟ้าไปหมด เลยจัดแจงหยิบกล้องตัวโปรด เดินขึ้นจุดชมวิวเล็งหาช้างบนท้องฟ้า แต่เป็นที่น่าเสียด้ายช่วงนี้ช้างขี้อายแอบหนีลงไปกินน้ำ ทำให้ถ่ายมาได้แค่หางช้าง บวกเฆมเจ้ากรรมบังซะเกือบไม่เห็นหางช้าง แต่ก็พอได้ภาพมาบ้าง หลังจากสนุกสนานกับการล่าช้างบนท้องฟ้า ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินตามควาย แสงไฟในแคมป์ถูกดับลงอยากรวดเร็วเหลือไว้เพียงสมาชิกไม่กี่คนที่รอเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่
ถ่ายมาได้แค่หางช้าง
ตีห้าครึ่ง เสียงเรียกดังออกมาจากนอกเต้นท์ "พี่ตื่นรึยังครับ ลุกไปถ่ายดาวกันไหม" ผมลุกขึ้นอย่างสะลึมสะลือ หยิบกล้องตัวที่ถ่ายช้างเมื่อคืน ลุกฝ่าความหนาวออกจากเต้นท์ แสงพระจันทร์สว่างจนแทบไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฉายส่องนำทางขึ้นไปยังจุดชมวิว แม้จะเป็นเวลาตี5 แต่ท้องฟ้าก็ยังคงเต็มไปด้วยแสงดาว ขณะกำลังเก็บภาพแสงดาวตอนเช้า มองไปยังเต้นท์ของคณะอื่น เริ่มมีคนลุกออกมาจากเต้นท์ หยิบไฟฉายเดินมุ่งตรงไปยังยอดดอย มองเห็นแสงไฟทอดยาวเป็นเส้นไปยังยอดทูเล
มีคนเดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดดอย ส่วนตัวผมเอาแค่จุดชมวิวก็พอเก็บแรงไว้เดินต่อวันนี้
ภาพดาวตอนเช้า
เสียด้ายเฆมเจ้ากรรมดันบังพระอาทิตย์ เลยไม่ได้เห็นพระอาทิตย์แรกของปี 59 เลย
หลังจากที่ชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอกกันอย่างจุใจแล้ว เราก็ลงมากำจัดอาหารเช้าให้ราบเรียบ จัดแจงเก็บเต้นท์เก็บของยัดใส่กระเป๋า มองนาฬิกาดูฤกษ์งามยามดี ออกเดินทางไปยังเป้าหมายต่อไปในวันนี้ ม่อนคลุย วันนี้เราต้องเดินไกลกว่าเมื่อวานเล็กน้อย แต่ทางเดินจากง่ายกว่าเดิม เดินตามสันเขาที่เรามองเห็นเมื่อวาน ช่วงแรกของการเดินเป็นทางขึ้นเขาระยะทางไม่ไกลมากนัก จากนั้นก็ตัดลงเขาอย่างเดียวเลย จนมาถึงจุดแวะพักเติมน้ำ เป็นลำธารน้ำใสๆไหลเย็นให้พอล้างหน้าให้ชื้นใจ จากจุดแวะพัก ทางข้างหน้าไปทางชันระดับ 80 องศาเหมือนช่วงสุดท้ายของเมื่อวาน แต่ระยะทางไม่ไกลมาก แต่เหนื่อยเอากาลเหมือนกัน แต่ขอบอกพอขึ้นมาถึงยอดแล้วถึงกับหายเหนื่อยกันเลยที่เดียว มองเห็นวิวภูเขาทอดยาวเรียงตัวสลับกัน ท้องฟ้าก็ดูเหมือนจะเป็นใจ เฆมแตกกระจายเป็นเส้นเล็กๆเรียงตัวกันอย่างสวยงาม ที่เขาเรียก"ฟ้าระเบิด" ได้เห็นจริงก็วันนี้แหละครับ นอกจากฟ้าระเบิด ไฮไลท์อีกอย่างจะเป็นสันเขาเส้นทางที่เราเดินไปยังม่อนคลุย ระหว่างสองข้างทางมองเห็นภูเขาเรียงตัวสลับกันยาวสุดสายตา ระหว่างทางเราจะมองเห็นสถูปเก่า ชาวบ้านเรียกบริเวณนี้ว่าม่อนปุยหลวง เป็นจุดกางเตนท์แวะพักและสามารถกางเต้นท์ได้
เก็บของเตรียมเดินทางสู่ม่อนคลุย
ลำธารธรรมชาติจุดแวะพักเติมน้ำ
แวะพักชมวิวหลังจากที่เดินขึ้นมาจากลำธาร
ฟ้าระเบิดงามมากๆ
สถูปเก่าบริเวณม่อนปุยหลวง
เราเดินตามสันเขาตัดลงมาเรื่อยจนมาบรรจบกับถนนลูกรังเส้นที่มาจากม่อนคลุย เราแวะพักกินอาหารกลางวันกันที่นี้ หลังจากสมาชิกที่เหลือมากันครบเราออกเดินทางกันต่อ ตามถนนลูกรังมุ่งหน้าสู่ม่อนคลุย ในที่สุดเราก็มาถึงม่อนคลุย ใช้เวลาไป 6 ชั่วโมง จบสิ้นกันที่กับภาระกิจการเดินป่าข้ามปี ตอนไปนี้รถถึงตลอดไม่ต้องเดินแล้ว
วิวสันเขามาให้ชมกันตลอดทาง
เดินตามสันเขามาเรื่อยๆ
ในที่สุดก็มาเจอกับถนนลูกรัง มุ่งสู่ม่อนคลุย
จากถนนลูกรังเดินอีกไม่ไกลก็มองเห็นจุดหมายของเรา
ในที่สุดก็มาถึงม่อนคลุย
หลังจากที่เดินกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อย โค๊กเย็นๆใส่น้ำแข็ง เป็นอะไรที่สุดยอดที่สุดแล้ว พอมาถึงกันครบก็จัดแจงกางเต้นท์ ทำแคมป์กลาง หลังจากกางเต้นท์เสร็จกิจกรรมต่อมาที่ทุกคนอยากทำ ไม่ใช่การนอนแต่เป็นการอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ สมาชิกรวมกลุ่มกันเม้าท์มอยเรื่องทริปต่างๆที่ต่างคนต่างเคยไปมา นั่งคุยเล่าเรื่องราวประสบการณ์การท่องเที่ยวกันอย่างสนุกสนานรอเวลาชมพระอาทิตย์ตก
วิวบริเวณม่อนคลุย
นั่งรอชมพระอาทิตย์ตกที่ม่อนคลุย
ตัดมาตอนเช้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้น มีIron Manบินผ่านด้วย
ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ หากมีขอผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณครับ