ฟ้าหม่นระคนหมอง รติตรองสะท้านไหว
พรายพร่ำรึร่ำไร หทัยครวญจะป่วนคราง
ลมพัดระบัดโบก อุระโศกวิโยคขาม
กริ่งเกรง ณฟ้าคราม ขณะยามระรัวเริง
ไหลนองละอองชื้น ก็ดาษดื่นสิขื่นขม
ชุ่มฉ่ำ ยะเยือกชม พิรุพรมประโปรยปราย
หนาวไหม ฤทัย ถาม ณที่ยามและห่างหาย
คนไกลบ่ใกล้กาย มนหน่ายระคายทรวง
ฝนพรำกระหน่ำมา ดุจใจข้าก็ลาแรง
หนาวพรมประโลมแรง ดั่งเช่นแกล้งจนแรงรา
ใจคนก็หม่นเศร้า ห้วงแห่งคราวเศร้าโหยหา
ร้างไร้ใครเมตตา จินต์แห่งข้าฯก็ล้าลง...
คราวฝนหล่นสะท้านหวั่นหวิวไหว
สองปรางค์นัยย์ฉ่ำชื้นสะอื้นหนาว
รื้นรินไหลนองหน้าคราเรื่องราว
ครั้งก่อนเก่าย้อนรอย ให้คอยเตือน
ฟ้าพิโรธโกรธกริ้วเป็นริ้วสาย
ปล่อยโปรยปรายสายเส้นเป็นเสมือน
จะชะล้างเลือนไหลให้ไกลเลือน
ล้างปมเฉือนใจคนที่หม่นทรวง
ละรอยลบทางร้ายให้คลายหมด
จึงรินหยดรดพรมประโคมสรวง
พสุธาสดใสในแดดวง
ทิ้งวันห้วงคืนร้ายให้คลายเย็น...
...ฝนโปรย...
ฟ้าหม่นระคนหมอง รติตรองสะท้านไหว
พรายพร่ำรึร่ำไร หทัยครวญจะป่วนคราง
ลมพัดระบัดโบก อุระโศกวิโยคขาม
กริ่งเกรง ณฟ้าคราม ขณะยามระรัวเริง
ไหลนองละอองชื้น ก็ดาษดื่นสิขื่นขม
ชุ่มฉ่ำ ยะเยือกชม พิรุพรมประโปรยปราย
หนาวไหม ฤทัย ถาม ณที่ยามและห่างหาย
คนไกลบ่ใกล้กาย มนหน่ายระคายทรวง
ฝนพรำกระหน่ำมา ดุจใจข้าก็ลาแรง
หนาวพรมประโลมแรง ดั่งเช่นแกล้งจนแรงรา
ใจคนก็หม่นเศร้า ห้วงแห่งคราวเศร้าโหยหา
ร้างไร้ใครเมตตา จินต์แห่งข้าฯก็ล้าลง...
คราวฝนหล่นสะท้านหวั่นหวิวไหว
สองปรางค์นัยย์ฉ่ำชื้นสะอื้นหนาว
รื้นรินไหลนองหน้าคราเรื่องราว
ครั้งก่อนเก่าย้อนรอย ให้คอยเตือน
ฟ้าพิโรธโกรธกริ้วเป็นริ้วสาย
ปล่อยโปรยปรายสายเส้นเป็นเสมือน
จะชะล้างเลือนไหลให้ไกลเลือน
ล้างปมเฉือนใจคนที่หม่นทรวง
ละรอยลบทางร้ายให้คลายหมด
จึงรินหยดรดพรมประโคมสรวง
พสุธาสดใสในแดดวง
ทิ้งวันห้วงคืนร้ายให้คลายเย็น...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้