ตามหัวกระทู้นะครับ
สมัยนี้ชีวิตของแต่ละคนค่อนข้างจะถูกจับจ้องตลอด 24 ชม. เรียกว่าอย่าได้ไปทำอะไรที่สังคมไม่ชอบเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด และไม่ว่าสิ่งที่ทำมันจะผิดกฎหมายหรือไม่ก็ตาม
เพราะถ้าทำไปแล้ว สิ่งที่ตามมาคือการถูกประจาน คลิป ภาพ ประเดิมก่อน จากนั้นก็จะมีคนขุดประวัติ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ที่ทำงาน มาให้บรรดาชาวเน็ตตามไปกดดันต่อ เอาแบบไม่ให้มีที่ยืนกันเลย
สมัยก่อนเราอาจจะแยกได้ว่า "เวลางานกับเวลาส่วนตัว" ตราบใดที่คนแต่ละคนไม่เอาชื่อขององค์กรไปเบ่งไปอวด และไม่ได้ไปนอกลู่นอกทางในเวลางาน ก็จะไม่กระทบกับหน้าที่การงาน แต่สมัยนี้แต่ละคนจะต้องแบกความเป็นคนขององค์กรนั้นๆ ตลอด 24 ชม. ถ้าทำอะไรที่สังคมไม่ชอบ ก็ถูกแฉประวัติ องค์กรต้นสังกัดก็จะต้องเอาคนคนนั้นออก เพราะไม่มีองค์กรไหนกล้าเสี่ยงให้คนที่ "สังคมรู้สึกไม่ดี" อยู่ต่อไป
ประโยคคลาสสิกในนิยายกำลังภายในที่ว่า "ถอนตัวจากยุทธภพ เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่ ทิ้งอดีตหลบลี้เร้นกายใช้ชีวิตเงียบๆ" ไม่อาจใช้กับยุคนี้ได้อีกต่อไป ผู้มีอดีตไม่โสภา คนที่สังคมไม่ต้องการ หมดสิทธิ์ที่จะเริ่มต้นใหม่
ยุค Social Media อิสรภาพเดียวของคนประวัติไม่ดีคือ "ความตาย" เพราะคุณเปลี่ยนชื่อก็เปลี่ยนได้แค่ทะเบียนบ้าน แต่หลักฐานอื่นๆ เช่น วุฒิการศึกษา คุณเปลี่ยนไม่ได้ ก็ต้องใช้ด้วยกัน แน่นอนทุกๆ องค์กร ย่อมตามหาอดีตนั้นของคุณได้เสมอ
------------------------
นี่แหละครับ..ผมว่าคนยุคนี้อิสรภาพมีน้อยกว่าสมัยก่อนที่เป็นยุคศักดินาเสียด้วยซ้ำนะ สมัยศักดินา คุณไม่พอใจระบบ คุณหนีไปตั้งชุมชนปกป้องตัวเองก็ได้ ถึงเสี่ยงแต่ก็มีสิทธิ์เลือกทางใช้ชีวิต ( เช่นสมัยอยุธยา หลายคนก็หนีจากเมืองเข้าป่าไปตั้งชุมชนอยู่กันเองเพราะหนีการขึ้นทะเบียนไพร่ หรือในยุโรป หลายคนก็ล่องเรือออกทะเลไปเป็นโจรสลัดเพราะหนีความเข้มงวดของอาณาจักร ) แต่สมัยนี้ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะทุกมุมโลก-เขตประเทศเชื่อมกันหมดด้วยอินเตอร์เน็ต
คิดเหมือนกันไหมครับ?
รู้สึกกันไหมครับว่ายุค Social Media นี่คนเรามี "อิสรภาพ" น้อยกว่าอดีตเสียอีก?
สมัยนี้ชีวิตของแต่ละคนค่อนข้างจะถูกจับจ้องตลอด 24 ชม. เรียกว่าอย่าได้ไปทำอะไรที่สังคมไม่ชอบเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด และไม่ว่าสิ่งที่ทำมันจะผิดกฎหมายหรือไม่ก็ตาม
เพราะถ้าทำไปแล้ว สิ่งที่ตามมาคือการถูกประจาน คลิป ภาพ ประเดิมก่อน จากนั้นก็จะมีคนขุดประวัติ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ที่ทำงาน มาให้บรรดาชาวเน็ตตามไปกดดันต่อ เอาแบบไม่ให้มีที่ยืนกันเลย
สมัยก่อนเราอาจจะแยกได้ว่า "เวลางานกับเวลาส่วนตัว" ตราบใดที่คนแต่ละคนไม่เอาชื่อขององค์กรไปเบ่งไปอวด และไม่ได้ไปนอกลู่นอกทางในเวลางาน ก็จะไม่กระทบกับหน้าที่การงาน แต่สมัยนี้แต่ละคนจะต้องแบกความเป็นคนขององค์กรนั้นๆ ตลอด 24 ชม. ถ้าทำอะไรที่สังคมไม่ชอบ ก็ถูกแฉประวัติ องค์กรต้นสังกัดก็จะต้องเอาคนคนนั้นออก เพราะไม่มีองค์กรไหนกล้าเสี่ยงให้คนที่ "สังคมรู้สึกไม่ดี" อยู่ต่อไป
ประโยคคลาสสิกในนิยายกำลังภายในที่ว่า "ถอนตัวจากยุทธภพ เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่ ทิ้งอดีตหลบลี้เร้นกายใช้ชีวิตเงียบๆ" ไม่อาจใช้กับยุคนี้ได้อีกต่อไป ผู้มีอดีตไม่โสภา คนที่สังคมไม่ต้องการ หมดสิทธิ์ที่จะเริ่มต้นใหม่
ยุค Social Media อิสรภาพเดียวของคนประวัติไม่ดีคือ "ความตาย" เพราะคุณเปลี่ยนชื่อก็เปลี่ยนได้แค่ทะเบียนบ้าน แต่หลักฐานอื่นๆ เช่น วุฒิการศึกษา คุณเปลี่ยนไม่ได้ ก็ต้องใช้ด้วยกัน แน่นอนทุกๆ องค์กร ย่อมตามหาอดีตนั้นของคุณได้เสมอ
------------------------
นี่แหละครับ..ผมว่าคนยุคนี้อิสรภาพมีน้อยกว่าสมัยก่อนที่เป็นยุคศักดินาเสียด้วยซ้ำนะ สมัยศักดินา คุณไม่พอใจระบบ คุณหนีไปตั้งชุมชนปกป้องตัวเองก็ได้ ถึงเสี่ยงแต่ก็มีสิทธิ์เลือกทางใช้ชีวิต ( เช่นสมัยอยุธยา หลายคนก็หนีจากเมืองเข้าป่าไปตั้งชุมชนอยู่กันเองเพราะหนีการขึ้นทะเบียนไพร่ หรือในยุโรป หลายคนก็ล่องเรือออกทะเลไปเป็นโจรสลัดเพราะหนีความเข้มงวดของอาณาจักร ) แต่สมัยนี้ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะทุกมุมโลก-เขตประเทศเชื่อมกันหมดด้วยอินเตอร์เน็ต
คิดเหมือนกันไหมครับ?